ใน่ค่ำมิกาเอลได้มารอรับนาเซียที่คฤหาสน์ดาร์เรล แต่กลับถูกอารอนขัดขวางไว้เสียก่อน เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าใกล้นาเซียแม้ดูเหมือนจะเป็เื่ที่ไม่อาจขัดขวางมิกาเอลได้ แต่นาเซียที่เอ่ยขอร้องเพราะ้าให้เวลาแก่อารอน มิกาเอลจึงจำยอม
ร่างสูงนั่งไขว้ขากอดอกพร้อมด้วยสีหน้าและแววตาดูเ็ากว่าทุกครั้ง เมื่อเด็กชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขากำลังโอบเอวพี่สาวแน่น แม้อารอนจะอายุได้สิบห้าแล้วก็ตามแต่สำหรับนาเซียเขาก็ยังดูเด็กชายเท่านั้น แต่สำหรับมิกาเอลเขามองว่าอารอนนั้นโตพอที่จะห่างพี่สาวได้แล้ว
“หากคุณชายยังยึดติดพี่สาวเช่นนี้ คุณชายจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้เลย” มิกาเอลเอ่ยขึ้นตัดกับความเงียบที่ผ่านมาได้สักพัก
“เราดูแลตัวเองได้ แต่เราไม่พอใจที่ท่านพี่แต่งงานกับท่านดยุก” อารอนเผยออกมาอย่างตรง ๆ เขาคุ้นชินที่นาเซียอยู่ข้าง ๆ ลาฟาซเสียมากกว่าที่จะอยู่กับมิกาเอล แน่นอนว่าทั่วทั้งจักรวรรดิแคลบอร์นไม่มีผู้ใดที่ไม่รู้จัก ดยุกผู้เหี้ยมโหดเช่นเขาได้
“อารอน พี่ว่าเื่นี้มันก็ผ่านไปแล้ว และพี่ก็กำลังจะมาอยู่เป็เพื่อน อารอนระหว่างที่หยุดพักร้อน เช่นนั้นเื่นี้พี่ว่าเราไม่ควรกล่าวอีกนะ” นาเซียปรามขึ้น
“อะไรนะ!!” น้ำเสียงดูใไม่น้อย มิกาเอลโพรงขึ้น
“คือ...ฉันคิดว่า่ที่อารอนพักร้อน ฉันจะมาอยู่ที่คฤหาสน์ดาร์เรลค่ะ” นาเซียเอ่ยขออนุญาตไปในตัว แต่คนตรงหน้าเธอดูกระฟัดกระเฟียดอย่างไม่พอใจ
โถงทางเดินดูโล่งกว่าปกติ งานเลี้ยงที่ไม่มีเหล่าขุนนางและบรรดาบุตรีขุนนาง มีเพียงตระกูลสำคัญที่ถูกรับเชิญ แน่นอนว่าเป็การเลี้ยงอำลาที่ไม่เน้นรื่นเริงนัก นาเซียมองไปยังที่นั่งขององค์ชายอาเคอร์ และองค์หญิงวอเร็ท ซึ่งอยู่เยื้องกับที่นั่งของเธอออกไปไม่ไกล แต่สตรีที่นั่งตรงข้ามกับเธอนั้นแน่นอนว่าเธอไม่รู้จักอย่างแน่นอน
“มิกาเอลนั่งลงก่อนซิ” จักรพรรดิพุชคาเรนกล่าวเชิญ มิกาเอลที่ดูแปลกใจไม่น้อยไปกว่าเธอ ตรงหน้าคือชายหญิงอีกคู่น่าจะเป็ผู้มีความสำคัญกับราชวงศ์ไม่น้อย นาเซียหันมองมิกาเอลเล็กน้อยเผื่อเขาจะให้สัญญาณใด ๆ กับเธอบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่เลย มิกาเอลนั่งลงทันทีจนสาวใช้ที่อยู่ใกล้ ๆ ต้องรีบวิ่งมาเลื่อนเก้าอี้ให้กับเธอ
“ครั้งนี้ดยุกนิโกลาให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยง ข้าถือว่าเป็เื่ดี” จักรพรรดิกล่าวต่อก่อนที่จะเริ่มรับประทานอาหาร หากผู้ที่อยู่ตรงหน้าเธอคือดยุกแห่งนิโกลา งั้นสตรีที่อยู่ข้าง ๆ นั่นก็คงเป็ดัชเชสนิโกลา นาเซียอดคิดถึงคำที่ลาฟาซบอกเธอไม่ได้ ดูจากแววตานิ่งเฉยของมิกาเอลแล้วดูท่าเขาคงกำลังอดกลั้นอารมณ์ตนเองไม่น้อย แต่เธอไม่ใส่ใจหรอกว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็มีความสัมพันธ์ใดมาก่อนเพราะอีกไม่นานเธอก็จะไปจากที่แห่งนี้ นาเซียจับซ้อมจิ้มไปที่ชิ้นเนื้อ ก่อนจะถูกเอ่ยทักขึ้น
“ดิฉันได้ยินเื่ของดัชเชสมาไม่น้อย ยินดีที่ได้พบนะคะ” ดัชเชสนิโกลาเอ่ยทักขึ้น เธอมองริมฝีปากอิ่มสีแดงนั่นมันดูเหมือนเหยียดยิ้มเสียมากกว่าการยิ้มออกมาอย่างจริงใจ และแน่นอนว่านางคงได้ยินชื่อเสียงที่ไม่ดีเกี่ยวกับนาเซียมาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน
“แต่น่าเสียดายที่ฉันเพิ่งจะได้รู้จักดัชเชสนะคะ” นาเซียตอบเธอไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร แต่นางควรที่จะรู้ว่าตอนนี้เธอเองก็เป็ดัชเชสกาบริเอลเช่นกัน
“ดัชเชสยังติดค้างข้าเื่พาเที่ยวชมแคลบอร์นอยู่เลยนะ” องค์ชาย อาเคอร์แทรกตัดบรรยากาศที่ตึงเครียดขึ้นมา แม้จะขัดใจใครบ้างแต่เธอก็คิดว่าเป็สิ่งที่ดี นาเซียไม่อยากที่จะต้องเอ่ยคุยกับสตรีตรงหน้ามากนัก ตลอด่มื้ออาหารเธอสังเกตเห็นว่ามิกาเอลเอาแต่ดื่มไวท์เขาแทบไม่แตะอาหารตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ
นาเซียเดินออกมาด้านหน้าลานน้ำพุ ก่อนที่อารอนจะปลีกตัวออกไปที่ลานฝึกซ้อมอัศวิน ส่วนมิกาเอลคงมีเื่ที่ต้องคุยกับดัชเชส นิโกลา เพราะเธอเห็นตอนที่กำลังจะเดินออกมาจากห้องอาหารนางได้คว้าแขนเขาไว้เสียก่อน ตอนที่เขาออกจากห้องอาหารนั่น นาเซียทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ในสวนน้ำพุ อากาศเมืองหลวงช่างเย็นสบายผิดกับกาบริเอลที่หนาวเย็นอยู่ตลอดปี แต่ถึงกระนั้นเธอก็รู้สึกคุ้นชินกาบริเอลมากกว่า และยิ่งตอนที่อยู่เมืองหลวงโดยไม่มีอันมาด้วยมันช่างทำให้เธอรู้สึกเหงามากกว่าเดิม
“ดัชเชสกำลังคิดอะไรอยู่ครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง นาเซียลุกหันมอง วิลเลี่ยมยืนยิ้มให้กับท่าทางใของเธอ มันคงดูตลกสำหรับเขา
“วิลเลี่ยม ท่านไม่ได้ฝึกซ้อมหรือคะ” นาเซียมองวิลเลี่ยมที่สวมชุดแบบอัศวิน แต่ไม่เต็มยศเท่าไหร่นัก ทั้งข้างตัวเขายังไม่มีดาบเหน็บที่เอวอีก
“ผมเห็นคุณชายอารอนแวะมาบอกว่าดัชเชสมาร่วมงานเลี้ยงด้วย” วิลเลี่ยมตอบ ความจริงเขาเห็นั้แ่ที่เธอนั่งรถม้าจากปราสาทกาบริเอลมาอยู่แล้ว แต่เพราะเกรงจะเป็การเสียมารยาท และดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่นักเขาจึงยืนรออยู่ด้านนอก ไม่คิดว่าจะเห็นนาเซียเดินออกมาเพียงผู้เดียว
“ฉันแค่มานั่งเล่นฆ่าเวลารอท่านดยุกค่ะ”
“ท่านดยุกคงอยู่กับองค์จักรพรรดิอยู่สินะครับ”
“เปล่าค่ะ กำลังคุยอยู่กับดัชเชสนิโกลาค่ะ” นาเซียตอบ วิลเลี่ยมหลุบตาลงต่ำเหมือนรู้เื่นี้ดีอยู่แล้ว ก่อนที่เขาจะหัวเราะขึ้นมา
“ฮ่า ฮา คงเพราะเคยสนิทกันเลยมีเื่ให้ต้องคุยสินะครับ” ท่าทาง วิลเลี่ยมเหมือนกำลังจะบอกเธอว่าไม่มีเื่ให้น่ากังวล แต่แววตาเขากับดูกังวลชัดเจนเสียกว่าเธอมากกว่า
“เซอร์เองก็คงรู้สินะคะ” นาเซียเอ่ยถามเบา ๆ
“เื่ดัชเชสนิโกลา ดูเหมือนจะนานมากแล้วครับ ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักนางมากนัก ตอนนั้นนางยังเป็เพียงเลดี้อีเนส เห็นว่าเคยเรียนที่อคาเดมี่เดียวกันกับท่านดยุก และทั้งสองก็มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ แต่หลังจากที่ท่านดยุกไปอยู่เขตกาบริเอล เลดี้อีเนสก็ได้แต่งงานกับท่านดยุก นิโกลาทันที” วิลเลี่ยมบอกคร่าว ๆ ตามที่ได้ยินไม่ต่างจากคนใกล้ตัวของ มิกาเอล นาเซียพยักหน้าเล็กน้อยราวกับเข้าใจชัดเจน คงเป็คนรักเก่าอย่างนั้นสินะ ไม่แปลกที่เขาจะออกอาการเสียขนาดนั้น แต่ก็น่าเสียใจอยู่ไม่น้อยในขณะที่เขาต้องออกไปลำบากสู้รบสัตว์ปีศาจ แต่นางเลือกที่จะแต่งงานไป นาเซียเดินกลับมาที่พระราชวังหลักอีกครั้งเมื่ออารอนวิ่งโบกมือมาให้เธอ ก่อนที่อารอนจะไปเปลี่ยนชุดที่ห้องสำหรับแขกอีกฝั่งของปราสาท แม้ไม่อยากที่จะรับรู้แต่โถงทางเดินมันค่อนข้างจะเป็ที่ส่วนรวมเสียมากกว่า มิกาเอลกำลังโอบกอดดัชเชสนิโกลาราวกับกำลังปลอบโยน เธอเดินเลี่ยงไปยังอีกฝั่งทางเดินทำให้ได้พบกับลาฟาซที่กำลังยืนพิงเสากลมต้นใหญ่ของทางเดิน
“เสด็จพ่อมอบหมายสัญญาการแต่งงานได้ ท่านก็มอบหนังสือหย่าได้เช่นกัน” ลาฟาซกล่าวลอย ๆ ราวกับว่าไม่ได้พูดกับเธอ ท่าทางที่ยืนกอดอกพิงเสาทางเดินมองไปอีกฝั่งโดยหันข้างให้แก่เธอ นาเซียมองแล้วก็รู้ดีว่าเขากำลังเอ่ยถึงใครกัน
“ต่อให้มีหนังสือหย่าอยู่ในมือ หม่อมฉันก็ไม่คิดที่จะทำเพื่อพระองค์แล้ว เพคะ” นาเซียตอบกลับอย่างเร็ว