Chapter 10
ทั้งคู่เดินทางกลับมาจากบ้านบัตเลอร์ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาระหว่างทาง หลังจากขึ้นรถครึ่งทางตัวน้อยก็ได้กลายร่างเป็มนุษย์ เพื่อไม่ให้อีกคนอาการหนักมากไปกว่านี้
กรีนเองก็ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ว่าอะไรทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้ เขาเพียงแค่ทำตามความรู้สึก ณ ่เวลานั้น กรีนรู้แค่ว่าการจากลาโดยที่รู้ว่าหลังจากเจอกันครั้งสุดท้ายเราจะไม่ได้รับรู้เื่ราวของอีกคน การเห็นปลอกคอที่เคยมีเ้าของถูกวางทิ้งไว้ สำหรับเขามันแย่เกินไป
"เอายาทามาเลยพี่กรีน จะทาให้" คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากทั้งคู่เข้ามานั่งที่โซฟาในบ้านกรีนเรียบร้อยแล้ว
"คุยกันก่อนได้ไหมครับ?"
"ไม่ได้ พี่กรีนต้องทายาก่อน" กรีนยิ้มบาง ๆ พร้อมกับส่งมือไปลูบหัวคนข้าง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบยาทาของเขามาส่งให้อีกคน
"ผื่นแดงเต็มไปหมดเลย" แร็กดอลล์ตัวน้อยทาไปก็บ่นไป
"พี่ไม่เป็ไร"
"ไม่เป็ไรได้ยังไง ผื่นเต็มแขนขนาดนี้พี่ยังบอกว่าไม่เป็ไรอีก"
"จริง ๆ ครับ"
ถึงแม้จะได้รับคำยืนยันจากปากกรีนว่าเขาไม่เป็อะไร แต่ในใจของคนตัวเล็กก็ยังเป็ห่วงอยู่ดี
"แล้วอันนี้ถือไว้ทำไมครับ?" กรีนถามออกมา หลังจากที่เห็นหน้าคนข้าง ๆ เขากำปลอกคอเอาไว้แน่น
"ก็ของเรา" คนพี่ระบายยิ้มออกมาหลังจากได้ยินคำตอบ ปลอกคอเส้นนี้เขาทำเอาไว้นานมากแล้ว อดดีใจไม่ได้ที่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะมีเ้าของแล้วล่ะ
"ทายาเสร็จแล้วคุยกันได้หรือยังครับ?"
"ก็ได้" แร็กดอลล์ตอบกลับไปในขณะที่มือยังปิดกระปุกยาทาของกรีนอยู่
"ขอโทษนะครับที่ไม่ตามใจ ไม่ได้ทำตามสิ่งที่เธอวางแผนไว้"
"ไม่เห็นเป็ไรเลยนะ"
"พี่แค่ใจหายตอนที่เห็นเธอหันหลังเดินไป" คนตัวเล็กยิ้มออกมาทันทีหลังจากที่ได้ยิน
"แหนะ หวงเราอะดิ ทนไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ที่เรากำลังจะไปให้คนอื่นเลี้ยง" เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าภูมิใจ
"ไม่รู้สิ"
กรีนตอบออกไปแบบนั้น เพราะเขาไม่รู้ถึงเหตุผลของตัวเองจริง ๆ ระยะเวลาผ่านมาถึงไม่มากแต่มันก็ไม่น้อย เขาเองก็ยังไม่เข้าใจถึงความรู้สึกผูกพันที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าปริมาณของมันจะเกินระยะเวลาที่เราเจอกัน เขายังยืนยันคำเดิมว่าเขานึกไม่ออกว่าเคยเจอครึ่งทางตัวนี้ที่ไหนหรือเปล่า รู้เพียงแค่ว่าั้แ่เจอกันครั้งแรก ความรู้สึกผูกพันมันก็ตีตื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"พี่กรีนจะเลี้ยงเราใช่ไหม?" กรีนระบายยิ้มออกมาหลังจากที่เห็นสีหน้าที่ดูอ้อนปนกังวลของคนข้าง ๆ
"รับกลับมาขนาดนี้ก็คงต้องเป็อย่างนั้น"
"เราว่าเราเจอเื่ที่ดีใจที่สุดในชีวิตแล้ว"
"เวอร์หน่าตัวเล็ก"
"เราพูดจริง ๆ น้าพี่กรีน หัวใจมันเต้นเร็วมากเลยเมื่อกี้ เราจะไม่เรียกพี่ว่าว่าที่เ้านายอีกต่อไป!"
กรีนและแร็กดอลล์ตัวน้อยหัวเราะออกมาอัตโนมัติ เหมือนเป็ความรู้สึกปลดล็อคอะไรบางอย่างในใจของเขาทั้งคู่ แต่มันก็คงยังถือว่าไม่ใช่ทั้งหมด เพราะต่างคนต่างก็รู้ดี ว่าการอยู่ด้วยกันแบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเท่าไหร่ แต่ ณ เวลานี้ พวกเขาทั้งคู่ก็ขอเลือกที่จะเซฟความรู้สึกของตัวเองไปก่อน
"ตอนนี้พี่ยังไม่มีแผนอะไรนะ แต่สัญญาว่าสักวันพี่จะพาเธอออกมาจากบ้านหลังนั้นแบบถูกต้องแน่ ๆ"
"ไหนว่าไม่อยากสัญญาไง?" คนตัวเล็กทวนคำถามออกไปจากสิ่งที่จำได้ว่ากรีนเคยพูดอยู่บ่อย ๆ
"เื่ที่พี่ไม่สัญญาคือเื่ที่จะรับเธอมาเลี้ยงหลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่เื่ที่พี่สัญญาคือยังไงก็จะพาเธอออกมาจากบัตเลอร์" แร็กดอลล์ตัวน้อยเอียงคอฟังอย่างตั้งใจ
"พี่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่รู้ว่าเธอจะไปเป็แมวของบ้านไหน แล้วก็ไม่รู้ว่าแมวตัวไหนจะมาเป็แมวของพี่ พี่เลยไม่สัญญา เพราะพี่ไม่มั่นใจว่ามันจะเป็ยังไง แต่สิ่งที่พี่มั่นใจคือพี่จะพาเธอไปอยู่กับเ้านายที่เขาดีกับเธอ ไม่ว่าเ้านายคนนั้นจะใช่หรือไม่ใช่พี่ก็ตาม โอเคไหมครับ?"
"เ้านายที่ดีที่สุดคือเ้านายพี่กรีน!"
"เข้าใจพูด"
"เราขอมือพี่กรีนหน่อย ๆ"
กรีนแบมือไปตรงหน้าของคนที่เอ่ยคำขอ หลังจากนั้นแทบจะทันทีคนที่เอ่ยคำขอก็วางคางของตัวเองลงที่มือของกรีนทันทีพร้อมกับหลับตาพริ้มและระบายยิ้มบาง ๆ กรีนมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูอยู่นาน ก่อนจะออกแรงเกาไปที่คางของอีกคน
"อื้ม" เ้าแมวเด็กส่งเสียงออกมาด้วยความเคลิ้ม
"สบายไปแล้วครับ"
คนถูกเกาคางก็ยังคงหลับตาพริ้มด้วยความสบาย กรีนเกาคางให้อีกคนไปได้สักพักก็รู้สึกคัดจมูกขึ้นมา เพราะว่าหางของอีกคนโผล่ออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว กรีนที่เห็นมันมาได้สักพักแล้วไม่ได้พูดอะไรั้แ่ต้น เพราะเขารับรู้ได้ถึงความสบายใจและสบายกายของอีกคนในตอนนี้ จึงไม่อยากจะไปขัดความสุข
"หื้ม? ทำไมพี่กรีนฟุดฟิด ๆ !" จมูกสวยฟึดฟัด ๆ ขึ้นหลังจากได้ยินเสียงคนตรงหน้าสูดน้ำมูกเล็ก ๆ แล้วสุดท้ายก็ไปเจอสาเหตุที่มันอยู่บนร่างกายของเขาเอง
"โอ๊ะ! แมวซวยแล้ว! เก็บ ๆ ๆ" คนตัวเล็กออกแรงตีหางของตัวเองที่โผล่ออกมาย้ำ ๆ
"พอแล้ว ๆ ๆ ใจเย็น ๆ สิ ถ้าเธอยิ่งใจร้อนมันจะยิ่งควบคุมไม่ได้นะ ไม่เป็ไรนะครับ พี่ไม่เป็ไร" เมื่อเห็นอีกคนร้อนรน กรีนก็พยายามปลอบประโลมให้เขาใจเย็นลง มือหนาเลื่อนขึ้นไปลูบหัวเบา ๆ
"นั่นไง เห็นไหมครับคนเก่ง? ไม่ต้องรีบ แค่นี้ก็ทำได้แล้ว" กรีนชมขึ้นหลังจากที่อีกคนใจเย็นลงแล้วก็สามารถควบคุมให้หางไม่โผล่ออกมาได้
"เราขอโทษน้าเ้านายพี่กรีน"
"พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย"
"เราทำผิดขั้นรุนแรง อาจจะต้องเข้ามุมสำนึกผิด"
"เข้ามุมสำนึกผิด?"
"แบบนี้"
คนตัวเล็กสาธิตให้อีกคนดูด้วยการเดินไปที่มุมของบ้าน หันหน้าเข้าหากำแพง จากนั้นก็โน้มหัวไปชิดกับเสา แล้วก็ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น คนที่เป็ผู้ชมการสาธิตอย่างกรีนก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้
ไม่รู้ว่าเขาคนนี้เติบโตมายังไง
ไม่รู้ว่าใครเป็คนดูแลเขา
ไม่รู้ว่าใครสอนอะไรแบบนี้ให้
แต่ขอบคุณนะครับ
อะไรพวกนี้มันน่ารักมาก
การกระทำหลาย ๆ อย่างั้แ่พบกันมาของเ้าครึ่งทางแสนน่ารักตัวนี้ช่วยทำให้กรีนยิ้มได้บ่อยขึ้น หัวเราะได้มากขึ้น ได้ทำให้หัวของเขาโล่งขึ้นหลังจากคิดเื่งาน ซึ่งมันเป็เื่ดี ๆ ที่เกิดขึ้นใน่นี้แน่นอน
"ไม่ต้องเข้ามุมสำนึกผิดแล้ว พี่ไม่ได้ว่าอะไรเลย" กรีนเดินไปหาคนตัวเล็กที่เอาหัวชนกำแพงอยู่ไม่ยอมละออกมา มือหนาจับไหล่ทั้งสองข้างของอีกคนแล้วดึงออกมาจากกำแพงเบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้
"ถ้าวันไหนพี่กรีนโกรธอะไรเราต้องรีบบอกเราเลยนะ"
"ทำไม? จะมาเข้ามุมสำนึกผิดเหรอ?" กรีนถามออกไปยิ้ม ๆ
"เราเข้าให้ 3 ชั่วโมงเลย!"
"ไม่เอาดีกว่า ถ้าวันไหนที่ดื้อจะงดขนมแมว"
"ร้ายแรงที่สุด ไม่ ๆ เราจะไม่ดื้อ จะฟังพี่กรีนทุกอย่าง ก็ต้องให้ขนมเราทุกวันน้า" คนตัวเล็กพูดออกมาตาแป๋ว
ชิบหาย
อ้อนขนาดนี้จะปฏิเสธยังไงวะ
"ได้ไหมพี่กรีน?" เป็อีกครั้งที่กรีนโดนความน่ารักของเ้าแมวเด็กจู่โจม
"ได้ครับ ๆ พี่ไม่งดขนม" เขายังไม่ทันได้คิดอะไรในหัวด้วยซ้ำ แต่ปากเขามันตอบรับไปแล้ว
นั่นแหละ
ถึงแม้จะดื้อแค่ไหน
แต่ถ้าอ้อนทีไร
ใครจะไม่ใจอ่อน
กรีนขึ้นมาจัดห้องให้อีกคน ห้องที่เขาจัดให้ก็คือห้องนอนแขกที่อีกคนเคยมานอนนั่นแหละ เขาจัดวางของอำนวยความสะดวกเท่าที่เขาจะหาได้ในตอนนี้ ถ้วยข้าว น้ำ แล้วก็ขนม รวมไปถึงของใช้ของแมวทุกอย่างถูกรวบรวมมาวางไว้ในห้องนี้เรียบร้อยแล้ว
เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ชีวิตในบ้านกับอีกคนได้อย่างราบรื่นหรือเปล่า แต่ก็ตกลงกันไว้ว่าในตอนที่กรีนไปทำงาน แร็กดอลล์ตัวน้อยจะอยู่ในร่างแมวและใช้ชีวิตแค่ในห้อง ส่วนเวลาไหนที่กรีนกลับบ้านมาแล้ว เขาก็จะต้องกลายร่างเป็มนุษย์ เพื่อไม่ให้กรีนมีอาการอะไร ของใช้ในฉบับมนุษย์ทุกอย่างถูกแยกออกมาไว้คนละโซน ทั้งคู่ไม่สามารถใช้อะไรร่วมกันได้เลย เพราะสาเหตุของอาการแพ้ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากน้ำลายของแมว แล้วถ้าใช้ของร่วมกันก็อาจจะทำให้กรีนมีอาการอะไรออกมา ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจ แต่เขาก็กันไว้ก่อน
ถือเป็เื่โชคดี ที่ร่างกายของครึ่งทางเวลาที่เป็มนุษย์กับแมวแตกต่างกันไปตามสถานะในขณะนั้น เพราะฉะนั้นเวลาที่ครึ่งทางกลายร่างเป็มนุษย์ ร่างกายของเขาก็ถือว่าเป็มนุษย์คนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้มีปัจจัยอะไรมากมายที่ทำให้คนที่แพ้ขนสัตว์นั้นแพ้ แต่ก็ว่าด้วยเื่ข้อจำกัดคือที่ว่าการเป็มนุษย์ของครึ่งทางแต่ใช้พลังงานเยอะกว่าปกติอยู่มาก เ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยจึงไม่สามารถอยู่ในร่างมนุษย์ได้ตลอดเวลา
"วันนี้เป็คนมากี่ชั่วโมงแล้วตัวเล็ก เริ่มเหนื่อยหรือยังครับ?" กรีนถามขึ้นตอนที่เห็นอีกคนเดินมาจากห้องน้ำ หลังจากที่ไปอาบน้ำ
"เราง่วง ๆ นะพี่กรีน ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะเหนื่อยมากแค่ไหน เพราะตอนที่อยู่ในศูนย์ เคธให้เราเป็แมวเกือบจะตลอดเวลาเลย"
"แต่ตอนนี้ง่วงแล้วใช่ไหม?"
"ใช่นะ หรือเพราะเราอิ่มพุงกางเลยง่วง"
คนตัวเล็กพูดออกมาติดตลก พร้อมกับลูบหน้าท้องของตัวเองไปด้วย เพราะในระหว่างที่กรีนจัดห้องให้นั้น เขาให้อีกคนไปกินข้าวให้อิ่ม แล้วก็ให้ไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวนอน
"งั้นแมวนอนเลยครับ เดี๋ยวพี่ก็จะไปนอนแล้ว"
"พี่กรีนเปิดเครื่องกรอง ๆ นั่นด้วยน้า"
"ครับเหมียว พี่รับทราบ จะนอนแบบแมวใช่ไหม?"
"ใช่ ๆ ๆ แบบนั้นเราจะนอนได้นานมาก ตื่นมาสดชื่นที่สุดในโลก" กรีนฟังแล้วก็ยิ้มออกมา
"โอเคครับ งั้นคนจะสดชื่นที่สุดในโลกขึ้นเตียงเลย พี่จะปิดไฟให้แล้วออกไป ห้ามแอบกินขนมตอนกลางคืนนะ"
"ไม่แอบ ๆ เมื่อกี้กินไป 3 ซองแล้ว"
"พี่ว่าพี่ให้กินแค่ 2 นะ"
"อุ่ย เหมียวหลุดพูดอะไรไปนะ หาว~ ง่วงจังเลย" เ้าแมวน้อยเนียนแกล้งหาวและเดินไปล้มตัวลงบนเตียงทันที ทางคนที่เห็นการกระทำ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ พอเห็นอีกคนเตรียมตัวจะกลายร่างเป็แมว ก็ปิดไฟแล้วเดินออกมา
เห้อ
ทำถูกแล้วใช่ไหมวะ?
แม้ว่าจะรู้สึกพอใจกับการตัดสินใจของตัวเอง แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็ยังคิดอยู่ตลอด ว่าสิ่งที่เขาทำมันดีแล้วใช่ไหม?
ครืด ครืด~
กรีนเดินเข้าห้องนอนของตัวเองมา พร้อมกับโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานที่สั่นขึ้น
"ครับพี่บลู"
[ดีน่าให้โทรมาถามว่าเป็ยังไงบ้าง?]
"กรีนลืมบอกพี่ไปเลย ว่ากรีนจะเอาเขามาเลี้ยงนะ"
[ยังไงนะ?]
บลูถามขึ้นด้วยความใ กรีนก็อธิบายให้บลูฟังว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาเล่าั้แ่ที่เ้าแมวตัวน้อยมาที่ร้าน บอกถึงการตัดสินใจที่จะกลับไปเก็บหลักฐานที่บ้านบัตเลอร์ จนมาถึงตอนที่ตัดสินใจจะไปส่ง และการเปลี่ยนการตัดสินใจ จากนั้นก็พาเ้าแมวน้อยกลับมาที่บ้าน
[จะอยู่ได้จริง ๆ ใช่ไหมกรีน? พี่เป็ห่วง]
"กรีนว่าอยู่ได้"
[แกเองก็ยังไม่แน่ใจหรอกใช่ไหม? ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการแพ้แบบรุนแรงมันเป็ยังไง ั้แ่ที่รู้ว่าแกแพ้ขนสัตว์ แกเคยได้เข้าใกล้แมวที่ไหน แล้วนี่เอามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเลย มันจะโอเคเหรอวะ?]
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเขาก็ตั้งคำถามนี้กับตัวเองเช่นกันว่ามันจะโอเคหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าให้เขาได้มีโอกาสตัดสินใจใหม่ เขาก็คงจะตัดสินใจแบบนี้ แบบที่พาอีกคนกลับมา
"ไม่รู้ว่ะพี่บลู"
[พี่แล้วแต่กรีนนะ ถ้าตัดสินใจดีแล้วพี่ก็จะไม่ขัดอะไร มีอะไรก็มาบอก หรือถ้าจะไปไหนก็มาฝากตัวเล็กไว้ที่พี่ได้ ของของตัวเล็กในบ้านพี่พี่ก็จะเอาไว้แบบนี้แหละ]
"ขอบคุณครับพี่บลู"
[จะไปซื้อของเข้าบ้านบ้างไหม?]
"พรุ่งนี้ว่าจะไม่เข้าร้านแล้วก็พาตัวเล็กไปซื้อของ"
[โอเค ดีแล้ว ซื้อเครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองอากาศเพิ่มด้วยนะ]
"กรีนมีอะไรจะถามพี่ดีน่าหลายอย่างเลย ไว้ถ้าคิดออกจะไปรบกวนนะครับพี่บลู"
[ได้ดิ มาถามได้ตลอด เอาเื่ตัวเล็กมาเล่าให้ดีน่าฟังก็ได้ น่าจะสนิทกันไปแล้ว]
"ไว้ถ้าว่าง ๆ กรีนจะพาตัวเล็กไปเล่นกับพี่ดีน่านะ"
[อยากมาก็มาได้เลย ดีน่าอยู่บ้านตลอด]
"โอเคครับ เอ้อพี่บลู กรีนว่าจะถามว่าปกติพี่ดีน่าเขานอนแบบคนหรือแบบแมวมากกว่ากัน"
[แล้วแต่เขาแหละอันนี้ มีทั้งสองแบบปนกันไปนะ ถ้าวันไหนอยากให้พี่นอนกอดก็จะเป็คนมานอนด้วย ส่วนถ้าวันไหนอยากจะเป็สัตว์สันโดษขึ้นมาก็จะหนีไปนอนคนเดียวแบบแมว]
"เห็นตัวเล็กบอกว่าถ้านอนแบบแมวจะตื่นมาแล้วสดชื่น"
[ถ้าตามที่พี่เคยถามดีน่า ที่จริงมันก็เต็มอิ่มทั้งสองแบบนั่นแหละ แต่ว่าแมวชั่วโมงนอนเขาจะมากกว่า ก็เลยจะนอนได้นานกว่า] กรีนพยักหน้าตามที่พี่ชายพูดผ่านสายโทรศัพท์มา
เขาคุยกับบลูอยู่เป็ชั่วโมง ถามเื่ต่าง ๆ เกี่ยวกับครึ่งทาง รวมไปถึงความรู้สึกที่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันแบบนี้ แบบที่กรีนกำลังจะเป็ บลูก็อธิบายให้ฟังว่านิสัยของแมวไม่ได้เหมือนกันทุกตัว กรีนต้องค่อย ๆ พยายามทำความเข้าใจไป
แต่จากการที่บลูอยู่กับเ้าตัวเล็กมา เขารับรู้ได้ว่าอีกคนเป็แมวที่น่ารัก ขี้อ้อนมาก ๆ รวมไปถึงอาการขี้หวงอย่างออกนอกหน้านอกตาของเ้าแมวเด็ก เป็คนที่เก็บหรือซ่อนอาการพวกนี้ไว้ไม่ได้เลย เขาจะแสดงมันออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งบลูเองมองว่ามันน่ารักมาก ๆ และน้องชายของเขาแพ้ทางพฤติกรรมนี้ของเ้าตัวเล็กแน่นอน
[ลองได้อยู่ด้วยกันไปสักพักก่อนเถอะกรีน แกถวายหัวให้เขาแน่]
“เวอร์หน่าพี่บลู”
[จำคำพี่ไว้แล้วกัน พูดจริง ๆ ตัวเล็กอะ แมวแบบที่แกชอบ 100%]
“กรีนยังไม่เห็นว่าเขาจะอ้อนขนาดนั้นเลย”
[รู้ได้ไง ยังไม่เคยอยู่ด้วยกันจริง ๆ จัง ๆ เลย]
“โอเค ๆ”
[จำที่พี่พูดไว้แล้วกัน แกแพ้เขาแน่กรีน]
กรีนยิ้มหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่พี่ชายพูดออกมา ดูพี่ชายของเขาจะมั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่าเขาจะกลายเป็ทาสแมวแบบเต็มตัวในไม่ช้า ก็จริงอยู่ที่ว่าคนอย่างกรีนก็ถือว่าเรียกทาสแมวได้แล้ว เพราะเขารักและเอ็นดูแมวทุกตัวบนโลก แต่มันจะมีแมวกี่ประเภทกันที่ทำให้เขาคลั่งกับการกระทำของมันตลอดเวลา ซึ่งพี่ชายที่อยู่ด้วยกันมาแทบจะตลอดชีวิตอย่างบลูถึงกับออกปากเองว่านี่คือไทป์แบบที่กรีนชอบแน่นอน
คืนนี้เป็คืนที่กรีนรู้สึกตื่นเต้นแทบจะที่สุดในชีวิต เขาเอาแต่คิดว่าตอนนี้มีแมวมาอยู่ใกล้เขาขนาดนี้แล้วจริง ๆ ใช่ไหม นี่เขาโดนเรียกว่าเ้านายแล้วจริง ๆ ใช่ไหม คงจะเป็หนึ่งคืนที่เขานอนหลับสบายเลยล่ะ
วันถัดไป
วันนี้เป็วันที่กรีนวางแผนว่าจะไปซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติมหลังจากที่มีสมาชิกใหม่เข้ามาอยู่ด้วย เขาแอบเปิดไปดูที่ห้องนอนของอีกคนแล้วว่าตื่นหรือยัง แต่ก็เห็นเพียงแค่เ้าสี่ขาตัวน้อยที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม กับเสียงเครื่องฟอกอากาศที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง ร่างสูงระบายยิ้มออกมาก่อนจะค่อย ๆ ปิดประตูห้องให้เบาที่สุดและเดินออกมา
อีกอย่างที่เปิดเข้าไปแบบนั้นก็เพื่อเช็คตัวเองด้วยว่าจะมีอาการอะไรแสดงออกมาหรือเปล่า กับละอองอากาศในห้องที่มีแมวมานอนอยู่ทั้งคืน แต่กรีนก็ไม่ได้มีอาการอะไร แต่ถ้าได้เข้าไปอยู่ในห้องนั้นก็คงไม่แน่
กรีนลงมาที่ชั้นล่างเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้เ้าตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างบน เขานัดแนะกับอีกคนเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้เขาจะไม่เข้าร้านและบอกอีกคนว่าถ้าจะลงมาด้านล่างให้กลายร่างก่อน
ร่างสูงจัดการล้างมือเพื่อเตรียมอาหารรอเ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยตื่น ในส่วนของอาหารก็คงไม่มีอะไรมากสำหรับแมว เพราะมันก็คืออาหารเม็ดสำหรับสัตว์หูตั้งขนปุยบนห้องนั่นแหละ เพราะอีกคนไม่คุ้นกับรสชาติอาหารของคน เรียกได้ว่ารสชาติอาหารที่กรีนและอีกคนชอบมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สำหรับวิธีการกินอาหารแมวในร่างมนุษย์ของเ้าแมวน้อยก็คือเทใส่ชามของคน และใช้ช้อนตักกินเหมือนที่เคยทำ ซึ่งคนตัวเล็กเขาก็คุ้นเคยดีกับการกินแบบนี้ เพราะครึ่งทางทุกตัวจะถูกฝึกให้กินอาหารทั้งในร่างของแมวและร่างของมนุษย์ หลังจากเตรียมเสร็จเรียบร้อย กรีนก็ทำได้แค่รออีกคนตื่น แน่สิ เขาเข้าไปปลุกไม่ได้
ผ่านไปเกือบ ๆ 2 ชั่วโมง เ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยเดินขยี้ตาลงมาจากชั้นบนของบ้าน ซึ่งก็เรียกความสนใจจากกรีนที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ได้เป็อย่างดี กรีนพับหนังสือพิมพ์เก็บเข้าที่ก่อนจะเดินไปหาอีกคน
“หิวหรือยังครับ?”
คนน้องไม่ได้ตอบอะไรออกมา ทำเพียงแต่พยักหน้าช้า ๆ ในขณะที่มือก็ยังขยี้ตาอยู่ กรีนเห็นแบบนั้นก็เดินเข้าไปจับที่ข้อมือของอีกคนเบา ๆ
“ไม่ขยี้ตาแบบนั้นครับ กะพริบตาถี่ ๆ ก็พอนะ แล้วก็ไปล้างหน้าครับ”
เ้าแมวน้อยทำตามคำบอกของกรีนอย่างดี เขากะพริบตาถี่ ๆ หลังจากสามารถโฟกัสได้ก็เข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำห้องที่กรีนไม่ได้ใช้เป็ประจำ เพราะพวกเขาได้แบ่งสัดส่วนของบ้านในการทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว
“เสร็จแล้วก็เดินมาหาพี่” กรีนหันไปพูดกับเ้าตัวน้อยที่ยืนงงอยู่หน้าห้องน้ำ
แมวตอนเพิ่งตื่นนี่มันน่าแกล้งจริง ๆ
เชื่องมาก ไม่เหมือนตอนตื่นดี ๆ แล้วเลย
คนตัวเล็กเดินมาหากรีนที่โต๊ะอาหารที่กรีนนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“กินข้าวกินน้ำแล้วไปขึ้นอาบน้ำนะ ่บ่าย ๆ พี่จะพาไปซื้อของเข้าบ้าน”
ใน่สายของวันเหมือนกับว่ากรีนคุยอยู่คนเดียว เพราะอีกคนไม่ได้ส่งเสียงอะไรอออกมาเลย ทำเพียงแค่พยักหน้ารับคำเขาเท่านั้น กรีนไม่ได้ติดใจอะไร แถมยังคิดว่ามันน่ารักเอามาก ๆ เป็อีกมุมหนึ่งที่เขาเพิ่งเคยเห็น เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาเจอคนตัวเล็กหลังจากตื่น
เขานั่งมองอีกคนตักอาหารเม็ดเข้าปากแล้วเคี้ยวมันอยู่แบบนั้นไม่ขยับไปไหน
ใช่แล้ว
เขามีความสุขมาก ๆ
จากคนที่บ้างาน ต้องเข้าร้านทุกวัน ในตอนนี้กลับอยากจะจ้างพนักงานเพิ่มเพราะเขาอยากจะอยู่บ้านทั้งวันเพื่อมองดูพฤติกรรมแสนน่ารักนี่ตลอดเวลา
กินเยอะ ๆ นะครับเ้าเหมียว
เดี๋ยวพี่กรีนจะดูแลอย่างดีเลย