ทั้งสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย หลังจากที่ไปรับซือจวิ้นเรียบร้อยแล้ว รถก็ขับออกไปประมาณสิบกว่านาทีได้ และในที่สุดก็ถึงสถานที่นัดหมาย
ในตอนที่ยังไม่ได้ลงจากรถ ชวีเสี่ยวปอก็เห็นเจียงอี้หยางกำลังคุยกับผู้หญิงสองคนนั้นอยู่ คนหนึ่งผมสั่น ส่วนอีกคนผมยาว
“มาแล้ว” เจียงอี้หยางโบกมือให้พวกเขาทั้งสามคน
“นี่เซวียอวี่นะ” เจียงอี้หยางชี้ไปยังสาวผมสั้น
“หวัดดี” เซวียอวี่ดวงตากลมโต ตัวไม่สูง ทั้งยังผอมมาก ดูท่าทางสุภาพเรียบร้อยมากเลยทีเดียว
“หวัดดี หวัดดี” ทั้งสามคนทักทายออกไป จากนั้นจึงหันไปมองท่าทีตอบสนองของเจียงอี้หยางโดยอัตโนมัติ ใบหน้าของเจียงอี้หยางก็แสดงออกมาให้เห็นว่า “พวกเพื่อนรักอย่าก่อเื่เด็ดขาด” พวกเขาทั้งสามคนจึงเข้าใจขึ้นมาคร่าวๆ แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้น
“ฉันชื่อหวังหลินหลินนะ” สาวผมยาวเอ่ยแนะนำตัว เมื่อเธอเริ่มพูดขึ้นมาก็เห็นได้ชัดว่าเธอดูสดใสร่าเริงกว่าเซวียอวี่เป็อย่างมาก “ฉันแค่มาให้ครบจำนวน ใช่ไหมเจียงอี้หยาง”
“ใช่ที่ไหนล่ะ มาเที่ยวด้วยกันๆ ” เจียงอี้หยางเกาศีรษะอยู่ครู่หนึ่ง
“พวกเธอเป็นักเรียนของโรงเรียนเราด้วยหรือเปล่าอะ? ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเลย? ” ซือจวิ้นถาม
“ไม่ใช่ พวกเธออยู่โรงเรียนมัธยมที่สอง” เจียงอี้หยางอธิบาย “แต่พวกเราเป็เพื่อนกันตอนอยู่มอต้น”
“เจียงอี้หยาง นึกไม่ถึงว่าโรงเรียนนายจะมีหนุ่มหล่อเยอะเหมือนกันนะเนี่ย” หวังหลินหลินใช้คางชี้ออกไป สายตาของเธอมองไปยังชวีเสี่ยวปอและเซี่ยเจิงอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิด “น่าจะออกมาเที่ยวเล่นด้วยกันเร็วกว่านี้สักหน่อย”
ชวีเสี่ยวปอหัวเราะขึ้นมา เขารู้สึกว่าหวังหลินหลินผู้หญิงคนนี้น่าสนใจมากเลยทีเดียว พูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด “ฉันก็มาให้ครบคนเหมือนกัน มีแค่เซี่ยเจิงแหละที่หล่อจริง”
หลายคนตรงนั้นพูดคุยหัวเราะกันอยู่สักพัก เวลาผ่านไปเพียงไม่นานก็สนิทกันแล้ว หลังจากนั้นเจียงอี้หยางจึงให้พ่อของเขาหารถที่มีเจ็ดที่นั่ง พร้อมทั้งมีคนขับรถพาพวกเขาไปส่งยังรีสอร์ตน้ำพุร้อน
ไม่มีใครยอมนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ พวกเขาจึงมานั่งมาเบียดกันอยู่ด้านหลังเพื่อให้คุยกันได้สะดวก ส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันไปตลอดทั้งทาง ในตอนที่ลงจากรถชวีเสี่ยวปอเหลือบไปเห็นคนขับรถยกมือขึ้นมาปาดหน้าผากอย่างเห็นได้ชัด คงจะเป็เพราะถูกคนกลุ่มนี้ทำให้รำคาญอยู่ไม่น้อย
“มากับฉันนะ” เจียงอี้หยางส่งสายตาอย่างรู้เป็นัยๆ แล้วจึงหยิบกระเป๋าที่เซวียอวี่สะพายอยู่มาถือเอาไว้ให้ “จะแช่น้ำพุร้อนก่อนหรือจะย่างบาร์บีคิวก่อนดี? ”
ชวีเสี่ยวปอและเซี่ยเจิงเดินอยู่ด้านหลัง ในขณะนั้นเขากระทุ้งแขนของเซี่ยเจิงพลางถามออกไปว่า : “นายหิวไหม? ”
“ยังไม่หิว” เซี่ยเจิงเดินเข้าไปด้านใน ทำเสียงจิ๊ปากแล้วอุทานออกมาว่า : “การตกแต่งนี่นะ จิ๊ๆ จิ๊ๆ ”
“จริงด้วย” ชวีเสี่ยวปอมองไปรอบๆ ห้อง การตกแต่งทั้งหมดคงจะสามารถอธิบายเน้นๆ ออกมาได้คำเดียวว่า “แพง” ให้ความรู้สึกราวกับว่าอะไรที่ใส่เข้าไปได้ก็ใส่เข้าไปหมดอย่างจัดเต็ม
“เอาตามพวกผู้หญิงไหม” ซือจวิ้นไม่เห็นเขาสองคนพูดอะไรออกมาจึงตอบออกไป “ถ้าพวกผู้หญิงหิวพวกเราก็ย่างบาร์บีคิวกันก่อน”
“ถ้างั้นแช่น้ำพุร้อนก่อนก็ได้” หวังหลินหลินและเซวียอวี่พูดออกมาเป็เสียงเดียว
เมื่อมาถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชายหญิงก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเอง พวกเขาจึงใช้โอกาสนี้พูดหลอกล้อเจียงอี้หยาง
“นายนี่เ้าเล่ห์ใช่ย่อยเลยนะเนี่ย” ซือจวิ้นพูดพร้อมทั้งหัวเราะไปด้วยในขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า : “พาสาวมาเดตด้วยการแช่น้ำพุร้อน”
“ฉันมีเจตนาแบบนั้นที่ไหนกันเล่า !” เจียงอี้หยางแก้มแดงขึ้นมาจนเป็ลูกตำลึง “ฉันไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้น”
“นี่ ฉันว่านะ” ชวีเสี่ยวปอเปลี่ยนเป็กางเกงว่ายน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว “ทำไมฉันรู้สึกว่านอกจากพวกเราแล้วไม่เห็นจะมีคนอื่นเลยอะ”
“่ทดลองเปิดน่ะ” เจียงอี้หยางอธิบาย “แล้วอีกอย่างพวกเราก็มากันเร็วเกิน น้ำพุร้อน่หน้าหนาวโน่นคนถึงจะเยอะ เวลาแบบนี้ใครเขาจะมากัน”
“เมื่อกี้ฉันยังนึกอยู่เลยว่า นายให้คนออกไปหมดเลยหรือเปล่า” ซือจวิ้นหัวเราะแหยๆ ขึ้นมา แต่เมื่อมองไปทางเซี่ยเจิง เสียงหัวเราะก็หยุดลงทันที : “ให้ตายเถอะ”
“เป็อะไร? ” เจียงอี้หยางและชวีเสี่ยวปอมองตามสายตาเขาไปเป็ตาเดียว
“ให้ตายเถอะ ฉันนึกว่าหุ่นของปอเอ๋อร์ก็ดีมากแล้วนะ” ซือจวิ้นบ่นพึมพำออกมาอย่างไม่ยอม “เซี่ยเจิง นายยังหุ่นดีกว่าปอเอ๋อร์อีกเหรอเนี่ย”
“พอไหวอยู่ พอๆ กันนั่นแหละ” เซี่ยเจิงมองไปยังชวีเสี่ยวปอ ไม่ได้จริงจังอะไร
“อีกห่างไกลน่ะสิ” ชวีเสี่ยวปอจ้องไปที่หน้าท้องของเซี่ยเจิง พร้อมทั้งลูบไปมาที่หน้าท้องตัวเอง แล้วพูดประชดออกไป “มีกล้ามเนื้อมากกว่าฉันสองก้อน แล้วก็ยังมีร่องกล้ามเนื้อตรงท้องน้อยอีก”
“พอแล้ว ไม่ต้องเปรียบเทียบกันแล้ว แข็งแรงกว่าก้อนเดียวของฉันทั้งหมดนั่นแหละ” เจียงอี้หยางหายใจแขม่วหน้าท้องเข้าไป “เดี๋ยวพวกผู้หญิงจะรอนานนะ”
“อ๋อ” ซือจวิ้นลากเสียงยาว จากนั้นจึงพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่แฝงความหมายบางอย่างไว้ : “เจียงอี้หยางจะไปมีกะจิตกะใจดูหุ่นของพวกนายได้ยังไง ยังมีคนอื่นที่รอดูอยู่ข้างนอกไหมล่ะ? ”
พวกเขาเดินออกมาพลางพูดคุยกันไปด้วย รีสอร์ตบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มีบ่อน้ำพุร้อนทั้งแบบเป็ห้อง ทั้งแบบกลางแจ้ง เจียงอี้หยางบอกว่าตอนนี้ไม่หนาวเท่าไหร่ อีกทั้งแบบกลางแจ้งก็น่าสนุกกว่า เพราะมันเป็แบบเปิดโล่งทั้งหมด ในตอนที่พวกเขาเดินออกมาก็เห็นเซวียอวี่กับหวังหลินหลินลงไปแช่น้ำอยู่ในสระเล็กๆ ที่อยู่ห่างออกไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังกำลังโบกมือทักทายพวกเขา
“ให้ตายสิ” ซือจวิ้นจิ้มเข้าไปที่ข้างเอวของเจียงอี้หยาง พร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ : “ไม่เป็ไปตามแผนเลย”
“แผนบ้านนายสิ” เจียงอี้หยางกระแทกไหล่ของซือจวิ้นพลางพูดตอบโต้กลับไป
ในขณะที่มองดูพวกเขาสองคนเดินไปหาสองสาวอย่างกระดี๊กระด๊า ชวีเสี่ยวปอก็ดึงเซี่ยเจิงเอาไว้ : “พวกเราไม่ต้องเข้าไปร่วมสนุกกับพวกเขาหรอก”
เซี่ยเจิงยิ้ม : “ได้หมดเลย”
ทั้งสองคู่จึงหาสระน้ำเล็กๆ ที่อยู่ตรงบริเวณแถวนั้น ทันทีที่ะโลงไปชวีเสี่ยวปอก็รู้สึกว่ารูขุมขนทั้งร่างกายของเขาคลายเปิดออกมาทุกอณู จนทำให้เขาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างรู้สึกผ่อนคลาย
ส่วนเซี่ยเจิงก็ค่อยๆ นั่งลงที่ด้านข้างเขาอย่างช้าๆ ทั้งยังใช้มือวักน้ำขึ้นมาตบๆ ตรงบริเวณไหล่ที่แช่ลงไปไม่ถึง
ชวีเสี่ยวปอมองเขาพร้อมทั้งหัวเราะพลางพูดออกไปว่า : “ท่าทางแบบนี้ของนายเหมือนปู่ฉันตอนแช่ในอ่างอาบน้ำไม่มีผิด ตลกสุดๆ ”
“ทำให้ร่างกายชินกับอุณหภูมิสักหน่อยไง” เพิ่งจะลงมาได้ไม่กี่นาที ใบหน้าของเซี่ยเจิงก็แดงขึ้นมาแล้ว เขาหย่อนก้นลงไปจนทำให้ทั้งตัวของเขาจมลงไปในน้ำ “อ่า สบายสุดๆ ”
“้าอาบน้ำด้วยไหม คุณปู่ท่านนี้” ชวีเสี่ยวปอยื่นมือไปตีลงบนผิวน้ำ มองดูหยดน้ำที่กระเซ็นขึ้นมาบนหน้าของเซี่ยเจิง เซี่ยเจิงจึงลูบผมทั้งหมดไปด้านหลังเผยให้เห็นหนาผากอันขาวผ่องและเรียบเนียน แม้แต่ขนคิ้วของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ จึงทำให้รอยแผลเป็บนคิ้วของเขาชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งตัวของเขากลับดูสะอาดสะอ้านเป็อย่างมาก
ขาวสะอาด
ทันใดนั้นชวีเสี่ยวปอก็คิดถึงคำนี้ขึ้นมา รู้สึกว่ามันช่างเข้ากับเขามากเลยทีเดียว
“ตอนนี้ไม่้า” เซี่ยเจิงหรี่ตามอง เขาไม่รู้เลยว่าชวีเสี่ยวปอกำลังจ้องมองมาที่ตัวเอง
“เซี่ย...” ชวีเสี่ยวปอกำลังจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่จู่ๆ ก็ถูกใครบางคนพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“นายสองคนไม่ไปตรงนั้นเหรอ !” หวังหลินหลินเดินข้ามายืนอยู่ด้านข้างสระแล้วพูดออกมา ชวีเสี่ยวปอจึงรีบหันไปมองทันที แต่ในตอนที่มองไปยังหวังหลินหลินเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะมีมารยาทสักเท่าไหร่ที่มองตรงขึ้นไปยังสองขายาวของหญิงสาวจากมุมนี้ เขาเลยรีบก้มหน้าลงทันที
“คนเยอะไปหน่อยน่ะ” เซี่ยเจิงมองชวีเสี่ยวปอครั้งหนึ่ง แล้วจึงตอบออกไป
“ฮ่าๆ ฉันนึกว่าพวกนายเขินซะอีก” หวังหลินหลินเอียงศีรษะพร้อมทั้งหัวเราะออกมา แต่ที่เห็นได้ชัดก็คือเธอหัวเราะให้กับชวีเสี่ยวปอ “ไม่ไปจริงๆ เหรอ? คนเยอะๆ สนุกนะ”
“ได้ อีกสักพักนะ” ชวีเสี่ยวปอพูด
“งั้นฉันจะรอนาย...พวกนายนะ” หวังหลินหลินดูเหมือนว่าจะตั้งใจเว้นวรรคไปชั่วครู่ จากนั้นก็โบกมือให้ชวีเสี่ยวปอแล้วเดินออกไป
ชวีเสี่ยวปอมองไปยังด้านหลังของเธอ แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไป
จนกระทั่งเขาหันศีรษะกลับมามองเซี่ยเจิง ถึงได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น