ภายในคุกน้ำที่เย็นเยือกเหลือแค่ผมเพียงคนเดียวเท่านั้น มือและเท้าขยับไม่ได้ ปากก็ไม่สามารถพูดได้ มีเพียงสมองที่ยังสามารถคิดเื่วุ่นวายนี้ได้อยู่
ผมแน่ใจว่าตัวเองได้ข้ามมิติมาแล้ว อย่างไรเสียความเป็จริงได้ปรากฏอยู่ตรงหน้า แม้จะเสียใจสักแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ตามโครงเื่ที่ได้วางไว้ก็คือ ผม หรืออวี๋เคอ จอมปีศาจที่ทรงพลังและน่าเกรงขามของโลก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วชีวิตของเขาจะตกอยู่ในเงื้อมมือของซ่งฉียวน เซียนแห่งความเที่ยงธรรม เ้าสำนักกระบี่ฉิงชาง
ผมทำได้แค่หัวเราะแห้งๆ
เดิมทีคิดว่าเป็นักเขียนเขียนนิยายแล้วจะเขียนอะไรก็ได้ตามใจชอบ ตอนนี้ก็ถือว่ากรรมตามสนองแล้ว ความบ้าคลั่งในนิยายข้ามมิติซึ่งมักจะถูกสาปแช่งจากเพื่อนของผู้เขียนนั้น ในที่สุดก็ได้เวียนมาถึงคราวของตัวเองบ้างแล้ว
แต่ว่านิยายของผมยังไม่จบนี่? ผมเพิ่งมาถึงที่นี่ก่อนจะหมดสติ ถ้าอย่างนั้นการดำเนินเื่เมื่อสักครู่นี้เป็ไปเองตามธรรมชาติอย่างนั้นหรือ?
เมื่อนึกถึงสีหน้าท่าทางของซ่งฉียวนที่แสดงออกมาเมื่อครู่นี้ที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนแทบจะจับผมถลกหนังแล้วกลืนกิน ภายในใจของผมก็เกิดความกลัวจนตัวสั่นไปชั่วขณะ
“จ๊อก”
คุกน้ำที่เงียบสงบถูกทำลายด้วยเสียงท้องร้อง ผมกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่านอกจากความเ็ปแล้ว ตัวเองยังต้องอดทนกับความหิวโหยอย่างต่อเนื่อง
พูดตามตรง หลังจากที่ข้ามมิติมาแล้วผมถึงรู้ว่าตัวเองโหดร้ายมากแค่ไหน
รู้สึกอย่างไรเมื่อปอดที่ใช้หายใจถูกโซ่เหล็กแทงทะลุ?
รู้สึกอย่างไรเมื่อมือและเท้าถูกตะปูเหล็กตอกติดเอาไว้?
มีเพียงแค่คนที่เจอกับตัวเท่านั้นจึงจะรู้คำตอบ
ตอนแรกคิดเพียงแค่้าทารุณตัวร้าย พยายามเขียนให้ตายอย่างทรมานเต็มที่ ดังนั้นตอนนั้นทำอะไรไว้ก็ควรได้รับผลแบบนั้นตอบแทน ทุกครั้งที่สูดลมหายใจเข้าออกก็จะรู้สึกเ็ป มีเืไหลออกจากาแและตรงมุมปากอย่างไม่หยุดหย่อน เยื่อบริเวณพื้นผิวกระเพาะอาหารเสียดสีบีบตัวจนทำให้เกิดเสียงประท้วงดัง ส่งผลให้ผมเกิดอาการคลื่นไส้
คุกน้ำไม่มีหน้าต่าง จึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตกตอนไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ผมรู้เพียงแค่ว่าทุกนาทีทุกวินาทีของตัวเองล้วนผ่านไปอย่างไร้ความหมาย สติที่มีอยู่ในตอนแรกเริ่มลดลงไปตามกาลเวลาจนแทบไม่เหลือแล้ว
“กึก”
เสียงประตูหินที่ถูกเปิดออกแม้จะเบาสักเพียงใด แต่ก็เพียงพอที่ผมจะได้ยิน เพราะรู้สึกปวดศีรษะและครั่นเนื้อครั่นตัว แม้ผมจะรู้สึกตัวทว่าลืมตาไม่ขึ้นจริงๆ
ผู้มากลับไม่ใช่ซ่งฉียวน อย่างไรเสียผู้ที่มีพลังธรรมดาๆ ก็คงจะไม่โง่เปลืองพลังปราณเพื่อทำให้สายน้ำแหวกออกเป็ทางเดิน เขาเดินเหยียบลงไปในน้ำจนเกิดเสียงดังซ่าๆ จนกระทั่งมายืนอยู่ข้างกายผม น้ำเสียงเขาไม่ค่อยดีนัก ดูอ่อนแอไม่น่าเกรงขาม “ทำตัวดีๆ แล้วตามข้ามา! ”
ผมรู้สึกได้ถึงความเกรงกลัวที่มีต่อผมในน้ำเสียงของเขา ซึ่งเขาคิดว่าตัวเองนั้นปกปิดได้ดีมาก ภายในใจคิดว่าคงเป็เพราะความน่ากลัวของตัวร้ายอย่างอวี๋เคอ ที่ทำให้ผู้ฝึกตนทั่วทั้งพื้นแผ่นดินใหญ่ต่างก็จดจำฝังลึกถึงความสยดสยองเข้าไปในสมอง
แต่ว่าท่านพี่ครับ ท่านกลัวก็ส่วนกลัวสิ ท่านช่วยเบามือลงสักหน่อยเถอะครับ!!!
คนคนนี้จะต้องมีปัญหาทางสมองอย่างแน่นอน ไอ้เลวเอ้ย! ยิ่งกลัวก็ยิ่งมือหนัก!
เดิมทีแล้วเขาแก้โซ่เหล็กออกให้ผม แต่กลับดึงไม่ออก เนื่องจากาแถูกแทงมาเป็เวลานานมากแล้ว มีเนื้อบางส่วนคล้ายว่าจะเชื่อมติดอยู่กับโซ่ ดึงมาครึ่งค่อนวัน เขากังวล ผมก็กังวลเช่นกัน สุดท้ายเขาถึงกับล้วงเอากริชที่อยู่ตรงเอวจ่อไปยังมือของผมที่มีโซ่
…แล้วแทงลงไป!!!
ไอ้คนชั่ว!
เขาลงมืออย่างไม่ลังเล คว้านเนื้อตรงมือของผมออกเป็วงกลม คว้านมือเสร็จแล้วก็หันไปคว้านตรงเท้าต่อ
ผมทำได้เพียงแค่ส่งเสียงร้องไห้ ทว่าเห็นแก่หน้าจอมปีศาจจึงไม่ร้องเสียงดังมากเกินไป ทำได้แค่แอบตัวสั่นอย่างเงียบๆ
เขาจ้องผมอยู่ครู่หนึ่ง ภายในดวงตาคู่นั้นมองผมด้วยความเคารพนับถือและเห็นอกเห็นใจอยู่บางเบา ผมรีบตีหน้าขรึมแล้วแสร้งทำเป็อดกลั้นด้วยความเ็า
ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้นเขาจะดึงตะปูเหล็กทั้งสี่ออกอย่างรุนแรง ไร้ความปรานี!!!
โซ่เหล็กถูกปลดออกแล้ว ผมทรงตัวยืนด้วยความยากลำบาก ภาพตรงหน้าพร่าเบลอเสียจนผมล้มลงไปด้านหน้า ศิษย์ผู้ภักดีและมีความโเี้อำมหิตท่านนี้ก็รีบเข้ามาประคองตัวผมไปอยู่ข้างกาย จับเข้าใต้รักแร้ทั้งสองข้างแล้วพยุงเดินออกไปด้านนอก
ผมเจ็บเสียจนพูดอะไรไม่ออก
พูดตามตรง หากมือของคุณท่านไม่ลากโซ่ทั้งสองเส้นที่เชื่อมอยู่กับปอดของผมก็คงจะดียิ่งกว่านี้...