“ท่านแม่ทัพเล่าบ่ายนี้มีข่าวของท่านแม่ทัพบ้างหรือไม่?” หลิ่วจิ้งวางเื่ของอาหนูลงก่อน ภายหลังค่อยหาเหตุผลไปดูที่เรือนอาหนูว่ามีข่าวใดที่เป็ประโยชน์กับนางบ้างหรือไม่
อวี้จิ่นและอิ๋งเหอสองคนส่ายหน้าพร้อมกัน หลังท่านแม่ทัพออกไปจากหอหั่วเยี่ยนก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยทั้งไม่ส่งคนมาบอกว่าจะกลับเมื่อใดด้วย
หลิ่วจิ้งรู้สึกผิดหวังเอาการ เื่นี้ก็จะผ่านไปเช่นนี้หรือ? นางประเมินฐานะของตนในใจของหั่วอี้สูงเกินไปเสียแล้ว
บนโต๊ะมีอาหารรสเลิศหน้าตาน่ากินจัดวางอยู่เต็มไปหมดแต่เพราะหลิ่วจิ้งมีเื่ในใจ จึงกินอย่างไม่มีรสชาติได้แต่เอาอาหารใส่ปากไปเรื่อยเท่านั้น
ถ้ามิใช่เพราะมีอวี้จิ่นปรนนิบัติอยู่ข้างๆ คอยแกะก้างปลาออกให้นางก้างปลาก็คงจะถูกนางกลืนลงคอไปแล้ว
ณ เรือนเฉินจื่อ นางจ้าวก็กำลังทานอาหารวันนี้นางเสียหน้าหนักหนานัก หลังกลับจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่า นางก็อุดอู้อยู่ในห้องนอนเพียงลำพังจนถึงยามนี้พอเหนื่อยแล้วก็ไปเอนหลังบนเตียง นอนไม่สบายก็ลุกขึ้นมานั่งบนตั่งยาวในห้องไม่ออกจากห้องนอนของนางแม้แต่ก้าวเดียว
นางจ้าวทานอาหารพลางคิดถึงความผิดที่นางก่อในวันนี้ยิ่งคิดในใจยิ่งว่างเปล่า ไม่รู้ว่าภายหน้าฮูหยินผู้เฒ่าจะปฏิบัติกับนางเช่นใด
นางกินอาหารถ้วยแล้วถ้วยเล่าราวกับเครื่องจักรกลจนกินต่อไปไม่ไหวแล้วจึงหยุดกิน
“ล้วนเป็เพราะนังตัวแสบนั่นไม่รู้ใช้เล่ห์กลใดทำให้ท่านแม่ทัพหลงใหล หากไม่ใช่เพราะนางข้าก็คงไม่อัดอั้นตันใจเมื่อไม่อัดอั้นตันใจก็จะไม่ควบคุมตนเองไม่ได้จนอาเจียนรดตัวฮูหยินผู้เฒ่า”นางจ้าวทั้งแค้นทั้งโกรธอยู่ในใจนางโยนความผิดพลาดทั้งหมดในวันนี้ไปที่ตัวหลิ่วจิ้ง
เหมยเซียงระวังตัวพลางพยายามเค้นความกล้า บอกว่า “ฮูหยินใหญ่อย่าเป็ทุกข์ไปเลยเ้าค่ะขอท่านโปรดระวัง หากกระทบถึงครรภ์ก็จะไม่คุ้มกันนะเ้าคะ รอให้ฮูหยินใหญ่คลอดคุณชายน้อยเสียก่อนถึงยามนั้นอย่าว่าแต่ฮูหยินเลย ต่อให้เป็สตรีในเรือนอื่นๆคนใดบ้างที่ไม่ต้องทำตามคำท่าน ถึงยามนั้นท่านจะบีบอย่างไรก็บีบได้ยังกลัวจะไม่ได้ระบายความแค้นในวันนี้อีกหรือเ้าคะ?”
“ไม่ได้ ยามนี้ข้าทนกล้ำกลืนโทสะนี้ไม่ไหว”นางจ้าวปฏิเสธคำเสนอแนะของเหมยเซียงในคำเดียว
“เช่นนั้น ฮูหยินใหญ่คิดอย่างไรเ้าคะ?” เหมยเซียงถามอย่างระวังตัว
“ไป ไปดูแต่ละเรือนกับข้า เื่งานวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าแม่งานเช่นข้าก็ควรใช้อำนาจในการเป็แม่งานได้แล้ว”
นางจ้าวไม่เป็สุข นางย่อมทนเห็นเรือนอื่นๆ เยาะนางลับหลังไม่ได้ต้องมอบหมายงานให้พวกนางทำ ให้สตรีพวกนี้ไม่มีเวลามาหัวเราะเยาะนาง
“อาหนูอยู่หรือไม่? เรียกนางออกมาคุยกับข้าซิ ลานเรือนนี้ไม่เลวเลยหันหน้ารับลมเย็นทั้งยังชมดาวได้อีกด้วย”
นางจ้าวในชุดกระโปรงยาวสีชมพูปักลายดอกไม้แดงปักปิ่นหลากสีรูปัห้าตัวเล่นน้ำบนมวยผม ท้องนางโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำให้นางดูอวบขึ้น
นางจ้าวมาถึงลานในเรือนอาหนูโดยมีเหมยเซียงมาด้วยไม่รู้ว่าเกิดไปต้องตาเก้าอี้เอนหลังที่ตั้งอยู่กลางเรือนของอาหนูหรือเพราะเจตนาจะข่มขวัญอาหนูจึงไม่เข้าไปในเรือน
นางเอนตัวลงบนเก้าอี้เอนหลังอย่างยากลำบากโดยมีเหมยเซียงคอยช่วย จากนั้นรอให้บ่าวในเรือนของอาหนูไปเรียกอาหนูออกมา
นางจ้าวนอนเอนหลังอยู่บนเก้าอี้อย่างได้ใจอาหนูเป็ที่รักมาหลายปีแล้วอย่างไรก็มิใช่ว่าต้องตกอยู่ในสภาพนับถอยหลังรอวันให้นางเป็คนกำหนดชะตาให้หรอกหรือ?
อาหนูกำลังโมโหอยู่ในห้อง นับั้แ่ถูกท่านแม่ทัพสั่งกักบริเวณจนกลับมาที่เรือนนางก็ยังโกรธอยู่ถึงยามนี้และยังไม่ได้ทานอาหารเลย
แต่เพราะเมื่อครู่หิวจนตัวสั่น แม้แต่กระเพาะก็ยังเจ็บขึ้นมานางจึงฝืนใจเรียกจื่อเซียวไปยกของว่างดีๆ เข้ามาให้
เรือนของอาหนูไม่ใหญ่ หนำซ้ำนางจ้าวยังจงใจร้องเสียงดังอาหนูที่กำลังทานอาหารอยู่ในห้องจะไม่ได้ยินก็เป็ไปได้ยาก
นางเอาถ้วยนมวัวที่ถืออยู่ในมือกระแทกลงบนโต๊ะ โมโหโกรธาอยู่ในใจ
ก่อนนี้นางจ้าวก็ใช่ว่าเคยมาที่เรือนน้อยครั้งแต่ทุกครั้งที่มาก็จะเกรงอกเกรงใจ อย่างน้อยฉากหน้าก็ยังมีท่าทีเกรงใจจะเคยมาวางอำนาจเช่นครานี้ที่ใดกัน
นางเพิ่งถูกท่านแม่ทัพกักบริเวณ นางจ้าวก็มาข่มเหงถึงที่แล้วเพราะคิดว่านางไม่เป็ที่รักแล้วสินะหาไม่ท่านแม่ทัพจะตัดใจกักบริเวณนางได้อย่างไร
กำลังคิดอยู่เช่นนี้ เสียงแหลมๆของเหมยเซียงก็ดังจากนอกประตูเข้ามาอีกหน “ฮูหยินรองอยู่ในห้องกระมังเ้าคะฮูหยินใหญ่บอกให้ท่านออกมาสนทนาด้วยเ้าค่ะ”
“ออกไปบอกกับฮูหยินใหญ่ว่าข้าถูกท่านแม่ทัพกักบริเวณไม่อาจออกไปรับการสอนสั่งจากฮูหยินใหญ่ข้างนอกได้ ต้องขอให้ฮูหยินใหญ่เข้ามาพูดในห้อง”หลังจากสั่งความจื่อเซียวเสร็จแล้ว อาหนูก็ดื่มนมวัวต่อไปด้วยท่าทีเนิบนาบ
คิดจะประมือกับนางก็ต้องดูว่าฮูหยินใหญ่มีปัญญาหรือไม่นางตัดสินใจว่าวันนี้จะไม่ออกจากห้องแม้ครึ่งก้าว
จื่อเซียวมองอาหนูด้วยความลำบากใจท่านแม่ทัพสั่งกักบริเวณนั้นไม่ผิด แต่ก็เพียงบอกว่าไม่ให้ออกไปนอกเรือน แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ออกจากห้องนอนเสียหน่อยหากฮูหยินใหญ่รู้เข้า คนที่ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยก็คือนางที่เป็คนไปบอก
“ไปสิ ยังไม่ไปอีก วันนี้ถูกสั่งสอนไม่พอหรือไรต้องให้ข้าสั่งสอนวิธีทำตัวเป็บ่าวอีกใช่หรือไม่?” อาหนูช้อนตาขึ้น เห็นจื่อเซียวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ก็ร้อนใจขึ้นมาทันใดคนนอกมาเหยียบหัวนางถึงที่ก็ยังแล้วไป แม้แต่สาวใช้เล็กๆคนหนึ่งก็ยังไม่ยอมฟังคำนางอีกหรือ
“เ้าค่ะฮูหยินรอง บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เ้าค่ะ”จื่อเซียวตัดสินใจว่าอย่างไรก็ทำตามคำสั่งของอาหนูไปก่อนจึงเดินออกไปบอกฮูหยินใหญ่
เมื่อจื่อเซียวออกมาก็เห็นว่านางจ้าวกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้เอนหลังอย่างผ่อนคลายมีเหมยเซียงนั่งยองๆ อยู่ข้างกายคอยทุบขาให้นาง
“ฮูหยินใหญ่เ้าคะ วันนี้ท่านแม่ทัพให้ฮูหยินรองอยู่ในห้องสักระยะไม่มีเื่ใดก็ไม่ต้องออกไปไหนเ้าค่ะ” จื่อเซียวมองนางจ้าวอย่างลำบากใจหนหนึ่ง
นางพยายามตอบไปอย่างอ้อมค้อมเพื่อรักษาหน้าตาของอาหนู
“โอ้ มีเื่เช่นนี้ด้วย” ความสะใจสาดซัดอยู่ในใจนางจ้าวอาหนูก็มีวันนี้ด้วยเช่นกัน
ครั้งอาหนูกำลังเป็ที่รักนางจ้าวก็ยังไม่เคยกลัวเมื่อต้องชิงดีชิงเด่นกับนาง เวลานี้อาหนูไม่เป็ที่รักแล้วนางจ้าวย่อมไม่กลัวนางยิ่งกว่าเดิม
“ท่านแม่ทัพบอกให้นางอย่าออกไปข้างนอกส่งเดชแต่คงไม่ได้ห้ามนางออกมาที่ลานเรือนกระมัง จื่อเซียวเ้าไปบอกอาหนูซิว่าข้าท้องโตๆอุตส่าห์ละวางเกียรติเดินมาหาแล้ว นางยังมีเหตุผลจะไม่ออกมาพบข้าหรือ?”
ไม่ต้องให้จื่อเซียวเข้าไปรายงาน อาหนูก็ได้ยินชัดเจนหมดแล้วดวงตานางฉายประกายริษยาและอาฆาตแค้น
หากเป็หลายเดือนก่อนนางจ้าวจะกล้าพูดกับนางเช่นนี้หรือ
อาหนูเดินไปข้างหน้าต่างในห้องมองไปทางนางจ้าวที่กำลังนอนเอนหลังอยู่กลางลานบ้าน
พอได้ยินเสียง นางจ้าวจึงหันไปทางหน้าต่าง
เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้นของอาหนู นางจ้าวยิ่งทำท่ายั่วเป็ทีว่ามีความสุขบนความทุกข์ของอาหนูทั้งสองคนต่างถลึงตาใส่กันด้วยแววตาไม่ประสงค์ดี
แม้อาหนูชิงชังอยู่ในใจเหลือทนแต่ไม่นานใบหน้าก็เปลี่ยนเป็รอยยิ้ม “ฮูหยินใหญ่มาหรือเ้าคะ ต้องขอให้ฮูหยินใหญ่โปรดอภัยด้วยท่านแม่ทัพบอกไม่ให้ข้าออกไปไหน ข้าไม่อยากเชื่อฟังก็คงมิได้ หาไม่แล้วยามท่านแม่ทัพกลับมาก็ไม่รู้ว่าจะลงโทษข้าเช่นใด
แม้จะบอกว่ายามท่านแม่ทัพลงโทษอาหนู หากไม่ให้อาหนูร้องเพลงให้ฟังก็จะให้อาหนูใช้ปากป้อนสุราให้ท่านแม่ทัพดื่ม ล้วนเป็การลงโทษที่ไม่รุนแรง แต่ก็ทำให้อาหนูเขินอายเสียยิ่งนัก
ต้องขอให้ฮูหยินใหญ่โปรดอภัย อาหนูไม่กล้าขัดคำสั่งท่านแม่ทัพจริงๆท่านแม่ทัพไม่ให้อาหนูออกไป อาหนูก็จะไม่ออกไปเ้าค่ะ”
อาหนูพูดจบก็จ้องนางจ้าวด้วยสายตาท้าทายท่านแม่ทัพเคยบอกกับนางว่าเขาทนความแข็งทื่อของนางจ้าวไม่ไหวเป็ที่สุดนางจ้าวจะต้องไม่เคยทำแบบนี้กับท่านแม่ทัพมาก่อนเมื่อเอาเื่เหล่านี้มายั่วโมโหนางจ้าวจะต้องสำเร็จเป็แน่
“เ้า…” อาหนูยั่วให้นางจ้าวโกรธได้สมใจนางจ้าวจินตนาการถึงภาพความเร่าร้อนระหว่างอาหนูและท่านแม่ทัพอยู่ในหัว นางโมโหหนักหนาจนอยากเอาเข็มไปเย็บปากอาหนูเสียดูซิว่าวันหน้ายังจะใช้ปากนี่ไปเย้ายวนท่านแม่ทัพได้อีกหรือไม่
นางอยากบอกว่าอาหนูหน้าไม่อาย แต่คิดไปคิดมาก็ยังอดกลั้นเอาไว้เพราะหากต่อว่าอาหนู ก็เท่ากับไปต่อว่าถึงท่านแม่ทัพด้วย
_____________________________
