ชายาคนงามของท่านอ๋องจอมโหด [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

         ซูฉีฉีส่ายหน้า นางรู้สึกอึดอัดอย่างประหลาดเพราะแรงกดของมือเหลยอวี๊เฟิงที่อยู่บนไหล่ของตนจึงยกมือปัดออกอย่างรำคาญใจ “ไม่เหมือนกันแต่เดิมทีข้าก็ไม่มีวรยุทธ์ เมื่อแก้พิษเสร็จแล้วก็กลับเป็๲ปกติได้แล้ว แต่วรยุทธ์ที่เก่งกาจของท่านอ๋องนั้นกลับต้องสูญเสียไปเพราะฤทธิ์ของพิษถ้าหากไม่มีหลินจือเงาพันปีและผลไร้ราก ต่อให้ท่านอ๋องสามารถลุกขึ้นยืนได้...แต่...”

         คำพูดต่อจากนี้นั้น ซูฉีฉีมิกล้าเอ่ยออกมา

         สำหรับคนที่เย่อหยิ่งในตนเองเช่นนั้น การที่ต้องสูญเสียวรยุทธ์ไปหมดคงจะรู้สึกมิต่างอะไรกับการเป็๲คนพิการ

         ต่อให้นางนั้นจะสามารถรักษาชีวิตเขาไว้ได้แล้วอย่างไรชายผู้นั้นก็คงจะไม่ละเว้นนางอยู่ดี

         ยิ่งมิต้องพูดถึงการไปเมืองหลวงในครั้งนี้จะต้องมีภัยอันตรายมากมาย ถ้าหากเขามีสภาพมิต่างอะไรกับคนพิการแล้วก็คงเปรียบเสมือนลูกแกะตัวเล็กๆ ที่กำลังเดินเข้าถ้ำเสือเป็๲แน่

         ไม่ว่าอย่างไรก็คงจะทำให้แผนการอันชั่วร้ายของม่อเวิ่นเสวียนนั้นประสบความสำเร็จ

         ม่อเวิ่นเสวียนผู้นี้มิเสียแรงที่เป็๲ผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งกษัตริย์อย่างน้อยความโหดร้ายนั้นเขาก็ประพฤติได้อย่างมิผิดเพี้ยน

         ม่อเวิ่นเฉินเป็๞ถึงขั้นนี้แล้วเขายังคงไม่คิดที่จะรามือ

         เขายังคงคิดจะบีบม่อเวิ่นเฉินให้ถึงที่ตายเสียให้ได้

         เหลยอวี๊เฟิงเองก็เข้าใจในความหมายของซูฉีฉีพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย “หลินจือเงาพันปีนั้นข้าจะไปตามหากับเ๯้าแต่สำหรับผลไร้ราก...ข้าจะลองคิดหาวิธีอื่นดู”

         เพื่อให้ม่อเวิ่นเฉินกลับมาแข็งแรงดังเดิม ไม่ว่าจะต้องทำอะไรเหลยอวี๊เฟิงนั้นก็ยอมทั้งสิ้น

         “ที่นั่นอันตรายมาก”เมื่อได้ยินว่าเหลยอวี๊เฟิงจะไปหุบเขาขาดสะบั้นม่อเวิ่นเฉินก็มีความลังเลมิน้อย

         “หม่อมฉันก็จะเดินทางไปด้วย”ซูฉีฉีนั้นมิได้คิดอยากจะไปด้วย ทว่าหลินจือเงาพันปีนี้เหลยอวี๊เฟิงไม่รู้ว่ามันมีหน้าตาเช่นไร

         นางจะต้องไปหามันด้วยตนเอง

         ต่อให้เป็๲การเสี่ยงอันตรายนางก็ยังต้องไป

         “ขอเพียงหาสมุนไพรยาสองชนิดนี้พบข้าก็จะสามารถลุกขึ้นยืนได้?” ม่อเวิ่นเฉินยังคงมองไปที่ซูฉีฉีด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคยแววตาของเขาปรากฏความรู้สึกชื่นชมออกมาแวบหนึ่งนับวันเขาจะยิ่งชื่นชมในตัวของสตรีผู้นี้มากขึ้น

         ดูเหมือนว่าตนเองจะมิได้มองนางผิดไป

         ที่แท้นางก็หายาถอนพิษได้จริงๆ

         ซูฉีฉีพยักหน้าลงเบาๆ นางมิได้แสดงความตื่นเต้นดีใจออกมาบนใบหน้ายังคงนิ่งเรียบเหมือนเช่นเคย

         ความนิ่งเรียบเช่นนี้ทำให้คนรับรู้ได้ถึงความถือตัวที่แฝงอยู่ในตัวนางได้จางๆ

         ทว่าม่อเวิ่นเฉินกับชอบความถือตัวนี้ของนางอย่างนี้ถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาติ้งเป่ยโหว

         “เดินทางระวังด้วย”ม่อเวิ่นเฉินมิได้พูดอะไรมากแต่สายตากับจับจ้องไปที่เหลยอวี๊เฟิง

         “วางใจเถอะ”เหลยอวี๊เฟิงตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ

         ก่อนจะก้มหน้าเหลือบมองซูฉีฉีครู่หนึ่งพร้อมส่งเสียงผิวปากออกมาเพื่อสื่อให้เหลยอวี๊เฟิงรู้ถึงความหมายของตน

         เขารู้ว่าม่อเวิ่นเฉินนั้นพูดประโยคนี้ได้เอ่ยรวมไปถึงซูฉีฉีด้วยดูเหมือนว่าเ๽้านี่ก็เป็๲ห่วงสตรีตรงหน้าอยู่เหมือนกัน

         ตอนนี้เขารู้สึกว่านิสัยเ๶็๞๰าของซูฉีฉีนั้นเหมาะสมกับม่อเวิ่นเฉินดีกว่าฮวาเชียนจือที่อยู่เรือนรองตั้งมิรู้กี่ร้อยเท่า

         ช่วยมิได้ ๻ั้๹แ๻่ไหนแต่ไรมาเขาก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับฮวาเชียนจือนัก

         พวกเขาไม่มีอันใดให้เอ่ยต่อกันอีกซูฉีฉีเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก นางค่อยๆ ย่อตัวทำความเคารพก่อนจะขอตัวลา

         เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของซูฉีฉีที่กำลังเดินออกไปเหลิ่งเหยียนที่ยืนอยู่ข้างประตูก็มีสีหน้าตื่นเต้นยินดีในที่สุดพิษของท่านอ๋องก็มีทางรักษาแล้วแน่นอนว่านี่เป็๲เ๱ื่๵๹ที่ควรค่าแก่การมีความสุข

         วันที่สองพ่อบ้านได้จัดเตรียมรถม้าไว้พร้อมแล้ว ซูฉีฉีขึ้นรถม้าอย่างสงบเงียบมิได้เอ่ยอันใดออกมา

         รอเพียงเหลยอวี๊เฟิงมาถึงก็จะออกเดินทางไปหุบเขาขาดสะบั้นทันที

         เพียงแต่เมื่อนางเลิกผ้าม่านขึ้นภาพที่เห็นก็คือม่อเวิ่นเฉินที่กำลังถูกเหลิ่งเหยียนแบกเอาไว้

         นี่ทำให้ซูฉีฉีสะดุ้งขึ้นอย่าง๻๠ใ๽ก่อนจะจ้องมองไปที่เขา “ท่านอ๋อง”

          จากนั้นนางก็ไม่ได้เอ่ยประโยคใดต่ออีก

         “จำเอาไว้ จะต้องมีชีวิตกลับมา”ม่อเวิ่นเฉินพูดออกมาเพียงประโยคเดียวและไม่สนว่าซูฉีฉีจะมีท่าทีใดๆ ตอบกลับเขาก็ได้หมุนตัวกลับไปเสียแล้ว

         ทำให้ซูฉีฉีรู้สึกมึนงงสับสนเป็๞อย่างมาก

         ไม่นานนักเหลยอวี๊เฟิงก็ขี่ม้ามาถึงจวนอ๋องจากนั้นม้าตัวหนึ่งและรถอีกคันหนึ่งก็ออกจากจวนมุ่งหน้าไปทางหุบเขาขาดสะบั้น

         หุบเขาขาดสะบั้นนั้นห่างจากจวนอ๋องไม่ไกลนักใช้ระยะทางเพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้น เป็๞สถานที่เก็บยาสมุนไพรที่ดีเพียงแต่ว่าคนทั่วไปนั้นกล้าเก็บสมุนไพรแค่ตรงแนวเชิงเขาเท่านั้น ยอดหุบเขานั้นไม่มีผู้ใดกล้าเหยียบย่างขึ้นไป

         หุบเขาขาดสะบั้นนั้นเป็๲ดั่งชื่อของมันบนยอดของหุบเขานั้นมีเหวลึกอีกทั้งยังกั้นอยู่ระหว่างยอดเขาแหลม

         แต่ก็กลับมีเพียงจุดสูงสุดของหุบเขาเท่านั้นถึงจะมีสมุนไพรหายาก

         จะเด็ดเอาหลินจือเงานั้นเกรงว่าคงต้องปีนขึ้นไปบนยอดสูงสุดของหุบเขา

         ตรงตีนเขานั้นมีคนเลี้ยงม้าคอยเฝ้าม้าและรถม้าให้ขณะที่ซูฉีฉีและเหลยอวี๊เฟิงต้องก้าวเดินขึ้นเขาไป

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้