วันที่เจ็ดเดือนเจ็ดวันแต่งงานของทั้งสองตระกูล ในตอนแรกเสิ่นฮูหยินคิดว่าบุตรสาวของนางจะต้องต่อต้านจนถึงที่สุดนางไม่นึกว่าเสิ่นเยว่ จะยินยอมเข้าพิธีแต่งงานแต่โดยดีโดยไม่ก่อเื่ เสิ่นฮูหยินถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเพราะนางกลัวว่าบุตรสาวคนเดียวของนางที่ถูกตามใจมาั้แ่เล็กจะก่อเื่ให้ปวดหัวและทำให้ตระกูลเสิ่นต้องเสียหน้าต่อแขกที่มางานทั้งหลาย
หลังจากกราบไหว้ฟ้าดิน ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อย เสิ่นเยว่ถูกพามาที่ห้องหอรอให้หลี่เซวียนมาเปิดผ้าคลุมหน้า เสิ่นเยว่นั่งรอหลี่ เซวียนอยู่ในห้องนิ่งๆ เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้วนางรีบเปิดผ้าคลุมหน้าออก ั้แ่เช้าจนถึงตอนนี้นางยังไม่มีอะไรตกถึงท้องแม้แต่นิดเดียวนางหิวมาก เสิ่นเยว่กินอาหารอยู่บนโต๊ะโดยไม่รอให้เ้าบ่าวกลับเข้ามา
เพราะต้องตื่นแต่เช้ามาแต่งตัวทำให้นางนอนไม่พอและเหนื่อยมากตอนนี้นางไม่มีแรงที่จะทำอะไรแล้วเสิ่นเยว่ทิ้งตัวลงบนที่นอนทั้งอย่างนั้นชุดแต่งงานนางก็ไม่ได้ถอดออก หลี่เซวียนกลับเข้ามาในห้องเห็นเสิ่นเยว่นอนหลับอยู่บนเตียงแม้แต่ชุดแต่งงานนางก็ยังใส่อยู่ อาหารบนโต๊ะได้ถูกกินไปเรียบร้อย เขาได้แต่ส่ายหัวไปมาแต่ก็ไม่ได้นึกตำหนินาง เพราะเขาและนางได้ตกลงกันไว้แล้วว่าสองคนจะเล่นละครด้วยกันเมื่อยู่ต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น
และจะให้อิสระต่อกันและกันไม่ก็าวก่ายเื่ส่วนตัว ตอนนี้ไม่มีคนอื่นแล้วเขาและนางจึงทำตัวตามสบายได้ หลี่เซวียนคิดจะปลุกเสิ่นเยว่ ให้ขึ้นมาเปลี่ยนชุดแต่งงานออก แต่เห็นท่าทางของนางเหมือนจะเหนื่อยมากหลี่เซวียนนึกสงสารนางอยู่บ้างที่นางต้องเหนื่อยเช่นนี้ก็เพราะต้องมาเล่นละครกับเขา
หลี่เซวียนไม่อยากปลุกนางเขาถอดชุดแต่งงานของนางออกแล้วตัวเขาก็ล้มตัวลงนอนบนตั่งยาวที่อยู่ริมหน้าต่างห้องที่เขาเอาไว้นั่งเอนกายเวลาเบื่อ ตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็ที่นอนของเขานับแต่นี้ไป
วันต่อมาเสิ่นเยว่ตื่นขึ้นมาแต่เช้านางพบว่าตัวเองใส่ชุดนอนอยู่ก็ใ นางรีบเดินไปเขย่าปลุกหลี่เซวียนขึ้นมาถามว่าเหตุใดตนเองถึงได้อยู่ในชุดนี้
“ เกิดอะไรขึ้นกับข้าใครเป็คนเปลี่ยนชุดของข้าเหตุใดข้าถึงอยู่ในชุดนอนเมื่อคืนเ้าทำอะไรข้า”
ตื่นขึ้นมาเสิ่นเยว่ก็รัวถามเขาเป็ชุดหลี่เซวียนที่เพิ่งตื่นขึ้นมายังมีท่าทางงัวเงียอยู่ แต่ก็ถูกนางเขย่าปลุกอย่างแรง หลี่เซวียนรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ไม่ได้แสดงออกมา
“ข้าเป็คนเปลี่ยนชุดให้เ้าเอง ข้าเห็นว่าเ้าเหนื่อยมาทั้งวันเลยคิดว่าไม่ปลุกเ้าจะดีกว่า ข้าก็เลยถอดชุดเ้าสาวของเ้าออกแต่ข้าไม่ได้แตะต้องเ้าเลยนะเราสองคนทำสัญญากันไว้แล้วมิใช่หรือข้าเป็ลูกผู้ชายพอดังนั้นเ้าไม่ต้องเป็ห่วง”
เสิ่นเยว่พยักกหน้าเข้าใจ
“เมื่อคืนเ้านอนตรงนี้หรือ คงจะนอนไม่ค่อยสบายสินะเ้านอนต่ออีกหน่อยเถอะ วันนี้เป็วันแรกที่เราแต่งงานกันท่านแม่ของเ้าคงจะไม่เข้มงวดถึงเพียงนั้นหรอกใช่หรือไม่”
หลี่เซวียนพยักหน้าจากนั้นเขาก็ย้ายไปนอนที่เตียง เมื่อวานเขาดื่มไปเยอะเหมือนกันวันนี้เลยยังรู้สึกมึนๆ หัว
หลังจากหลี่เซวียนหลับไปเสินเยว่ก็สั่งให้สาวใช้นำน้ำเข้ามาให้นางอาบชำระกาย เมื่อแต่งตัวเสร็จนางก็ปลุกหลี่เซวียนให้ตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเพราะทั้งสองคนจะต้องไปยกน้ำชาให้ท่านพ่อท่านแม่ของเขา
หลังจากหลี่เซวียนจัดการเื่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็เดินไปที่ห้องโถงหลักที่นั่น แม่ทัพใหญ่หลี่เหอกับหลี่ฮูหยินนั่งรอพวกเขาทั้งสองอยู่ หลี่เซวียนก็ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังเขาเดินเข้ามาในห้องโถงโดยการประคองเสิ่นเยว่เอาไว้ ทั้งสองคนยิ้มให้กันเล็กน้อยเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามัน แต่นั่นป็นสิ่งที่คนนอกมองเห็น
ความจริงคือพวกเขาได้ตกลงกันก่อนเข้ามาในห้องโถงแล้วว่าจำเป็จะต้องแสดงออกว่ารักใคร่กันเพื่อตบตาพ่อแม่ของหลี่เซวียน
หลี่เซวียนยังมีน้องสาวที่เป็ลูกพี่ลูกน้องอีกสามคนเป็ลูกของท่านอาของหลี่เซวียน ตอนนี้พวกนางก็อยู่ที่นี่ด้วยเสินเยว่รู้ข้อมูลจากหลี่เซวียนอยู่ก่อนแล้ว และนางได้เตรียมของขวัญมาให้พวกนางในฐานะพี่สะใภ้
การคารวะน้ำชาผ่านไปอย่างราบรื่น หลี่ฮูหยินไม่ได้ทำให้เสิ่นเยว่ลำบากใจ นางเป็คนที่ไม่เคร่งครัดเื่กฎเท่าใดนัก
ตอนนี้ที่ตระกูลหลี่มีนางดูแลแค่คนเดียว ฮูหยินผู้เฒ่าหลีก็ไปถือศีลที่วัดได้สิบปีแล้วั้แ่ที่แม่ทัพผู้เฒ่าหลี่จาก
เสินเยว่กลับมาที่เรือนของหลี่เซวียนอีกครั้งนางล้มตัวลงอย่างหมดแรงเมื่อนึกถึงเมื่อวาน งานแต่งผ่านไปแล้วแต่นางก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ดี
เสิ่นเยว่รู้สึกคิดถึงเ้านกน้อยเพราะว่ามันไม่ได้มาหานางเลยั้แ่วันที่นางรู้เื่การแต่งงาน นางคิดว่าถ้านางย้ายมาอยู่ที่ตระกูลหลี่แล้วเ้านกน้อยคงจะหานางไม่เจอเป็แน่ นางคงต้องบอกชิงจู๋ให้ไปดูสักหน่อย
ชิงจู๋เป็สาวใช้ส่วนตัวที่ติดตามมาอยู่ที่ตระกูลหลี่และยังมีสาวใช้อีกสี่คนที่ติดตามมาด้วยเสินฮูหยินเป็คนจัดเตรียมเื่ทั้งหมดให้นาง เสิ่นเยว่ไม่ได้สนใจนักกับเื่พวกนี้ ที่นางสนใจคือทำยังไงนางจะสามารถติดต่อสหายในความลับของนางคนนั้นได้
ชิงจู๋ออกไปไม่นานก็กลับมาและรายงานนางว่าได้ให้เงินกับบ่าวที่ทำหน้าที่ดูแลเรือนของเสิ่นเยว่ ถ้าเขาพบนกบินมาที่หน้าต่างของนางให้จับนกตัวนั้นเอาไว้และให้พามาหาเสิ่นเยว่ที่ตระกูลหลี่
หลังจากสั่งการชิงจู๋ลงไปเสิ่นเยว่ไม่นึกว่าเ้านกตัวนั้นที่นางกำลังคิดถึงจะมาโผล่ที่หน้าต่างห้องของหลี่เซวียน นางใรีบคว้ามันไปซ่อนไว้กลัวว่าหลี่เซวียนจะกลับมาเห็นเข้า นางให้ชิงจู๋ดูต้นทางเอาไว้แล้วแกะเอากระดาษที่ผูกไว้ที่ขาของมันออกมาอ่าน
ขออภัยที่หายไปนานเพราะมีเื่จำเป็หวังว่าเ้าจะสบายดี
เสิ่นเยว่อ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ เขาเป็ห่วงนาง เสิ่นเยว่กลิ้งไปมาบนเตียงนอนอย่างมีความสุข หลายวันมานี้หลังจากที่รู้เื่การแต่งงานนางก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย
เสินเยว่ให้ชิงจู๋เอาขนมที่ทำเตรียมเอาไว้เผื่อว่าบ่าวที่เรือนสกุลเสิ่นจะพาเ้านกน้อยมาส่งให้นาง แต่ตอนนี้เหมือนมันจะไม่ต้องแล้วเพราะเ้านกน้อยฉลาดมากตอนนี้มันรู้แล้วว่านางอยู่ที่ไหน สมกับเป็เป็เ้านกน้อยที่แสนฉลาดของนาง ไม่รู้ว่าเ้าของของมันจะฉลาดมากเพียงไหนที่สามารถสอนให้สัตว์เลี้ยงฉลาดได้แบบนี้
หลังจากให้ขนมกับลู่ลู่กินจนอิ่มหนำเสิ่นเยว่ก็แอบปล่อยมันไปทางหน้าต่างชิงจู๋วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง
“คุณหนูอ๊ะ! ฮูหยินน้อยนายท่านกลับมาแล้วเ้าค่ะ”
เสิ่นเยว่พยักหน้าให้นางแล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็ปกติไม่ให้ดูตื่นเต้นมากเกินไป หลี่เซวียนเดินเข้ามาในห้อง เข้าเห็นเสิ่นเยว่นั่งอยู่บนตั่งริมหน้าต่างในจานมีขนมดอกกุ้ยฮวาอยู่ เสินเยว่มองตามสายตาของหลี่เซวียนมาที่จานขนม นางสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็ปกติ
“คือว่าข้าหิวนิดหน่อยน่ะ เลยให้ชิงจู๋เอาขนมมาให้กินเ้าอยากลองชิมดูไหม”
หลี่เซวียนส่ายหัว เขาไม่ชอบกินของหวาน ที่มาที่นี่ก็แค่แวะมาบอกนางว่าเขาจะออกไปที่ค่ายทหารสักหน่อย นางพึ่งจะแต่งเข้ามาอยู่ที่นี่เขากลัวว่านางจะคิดว่าเขาทิ้งนาง
“ข้าจะแวะที่ค่ายทหารสักหน่อยเกรงว่าอาหารเย็นจะกลับมาไม่ทัน ยังถ้าถึงเวลาแล้วข้ายังไม่กลับมาเ้าก็ทานไปก่อนได้เลยไม่ต้องรอข้า”
เสิ่นเยว่พยักหน้าให้เขา หลี่เซวียนเห็นว่านางมิได้โวยวายอะไรเขาก็โล่งใจ ดูเหมือนว่านางจะปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้อยางรวดเร็ว ถึงแม้นี่จะเป็การแต่งงานที่ทั้งสองคนร่วมมือกันแสดงละคร แต่ในฐานะเ้าบ้านเขาจำเป็จะต้องดูแลนางให้ดีเพราะเมื่อถึงเวาลาที่ทั้งสองหย่ากันจะได้จากกันด้วยดีไม่มีเื่ให้ติดค้างในใจ
หลังจากหลี่เซวียนเดินออกจากห้องไปเสิ่นเยว่ก็พรู่ลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกโชคดีที่นางปล่ยลู่ลู่ออกไปก่อนไม่อย่างนั้นต้องถูกจับได้เื่ที่แอบเขียนจดหมายหาชายอื่น
ถึงทั้งสองจะแสดงละครอยู่แต่การแต่งงานคือเื่จริง หากเขารู้ว่านางแอบติดต่อชายอื่นใน่ที่นางยังอยู่ในฐานะฮูหยินของเขา คงเป็เื่ไม่ดีนัก อีกหนึ่งปีทั้งสองก็จะหย่ากันนางไม่อยากให้เื่จบลงด้วยการที่เขาคิดว่านางสวมหมวกเขียวให้เขาในระหว่างที่มีสัญญาร่วมกัน มันจะเป็การค้างคากันทั้งสองฝ่าย นางไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็สตรีที่แอบคบชู้ลับหลังสามีถึงแม้จะเป็สามีแค่ในนามก็ตาม
ก่อนออกจากจวนไปหลี่เซวียนแวะมาที่ห้องหนังสือของเขาดูว่าลู่ลู่กลับมาหรือยัง เมื่อเขาเปิดประตูก็เห็นลู่ลู่ยืนเกาะขอบหน้าต่างอยู่ หลี่เซวียนรีบตรงเข้าไปแกะม้วนกระดาษอันเล็กที่ผูกติดไว้ที่ขาของมัน เขาคลี่กระดาษออกอย่างเบามือ ท่าทางดูทะนุถนอมเป็อย่างมาก ข้อความในกระดาษเขียนว่า
ข้าสบายดีขอบคุณที่เป็ห่วง หวังว่าท่านก็คงสบายดีเช่นกัน
หลี่เซวียนอ่านข้อความในกระดาษซ้ำไปซ้ำมาท่าทางดูเหม่อลอย เขายิ้มกับตนเองในรอบหลายวัน หลี่เซวียนรู้สึกโล่งใจที่นางไม่โกรธเขาเื่ที่เขาหายเงียบไป ดูหมือนว่าหญิงสาวในความลับของเขาคนนี้จะเป็คนที่นิสัยดีเป็อย่างมาก
หลี่เซวียนขี่ม้าไปที่ค่ายทหารอย่างอารมณ์ดี ทหารในค่ายที่เห็นท่านแม่ทัพของพวกเขามีสีหน้าเช่นนั้นต่างก็คิดว่าเป็เพราะเขาได้แต่งงานกับสาวงาม พวกที่ได้ไปร่วมงานแต่งต่างพูดเป็เสียงเดียวกันว่าฮูหยินของท่านแม่ทัพนั้นงดงามราวกับนางเซียนมาจุติ
ความงามของนางบอกได้เลยว่าเป็หนึ่งในเมืองหลวง ท่านแม่ทัพของพวกเขาช่างโชคดีจริงๆ เห็นตอนแรกทำหน้าเครียดเหมือนไม่อยากแต่ง ตอนนี้กลับยิ้มอารมณ์ดีเดินเข้ามาในค่ายเช่นนี้ช่างทำให้คนรู้สึกหมั่นไส้ ทหารหลายคนที่ยังโสดอยู่ต่างก็นึกอิจฉา พวกเขาก็อยากแต่งงานเหมือนกันนะ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้