“พอใจรึยัง?” หลิงเซียวเอียงคอถามโหยวเสี่ยวโม่
โหยวเสี่ยวโม่ยิ้มพยักหน้า พอใจแน่นอน เขารู้ว่าถ้าหากเขาบอกว่าไม่พอใจ หลิงเซียวคงฆ่าเขาแน่ พลันเปลี่ยนหัวข้อ “ศิษย์พี่หลิง คิดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีสัตว์ปีศาจกึ่งขั้นแปดปรากฏตัวได้ ขุมหยกิญญานั่นร้ายกาจมากใช่มั้ย?”
โหยวเสี่ยวโม่ฉงน มีบางจุดที่เขารู้สึกแปลกใจมาตลอด
ผู้าุโเลือกเดินเส้นทางนี้ ไม่มีทางไม่รู้ว่าจะมีัหางพิษอยู่
แต่ดูจากท่าทางเขา ราวกับไม่รู้แม้แต่นิด
แม้ว่าโหยวเสี่ยวโม่จะเข้าแดน์วิมานเป็ครั้งแรก แต่เขาก็เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ สำนักเทียนซินยิ่งต้องเตรียมตัววางแผนล่วงหน้า ยิ่งไปกว่านั้นห้าสิบปีก่อนพวกเขาก็เคยมาที่นี่แล้ว น่าจะรวบรวมข่าวได้พอสมควร
“ัหางพิษไม่ได้หลบซ่อนอยู่ในทะเลสาบตลอดเวลา ผู้าุโก็ไม่น่าได้รับข้อมูลเื่นี้เป็ธรรมดา เมื่อห้าสิบปีก่อนัหางพิษคงไม่ได้อยู่ที่นี่” หลิงเซียวคาดคะเน ก่อนหน้านี้เขารู้ว่าัหางพิษอยู่ที่นี่ด้วย หากไม่เห็นแก่โหยวเสี่ยวโม่ เขาคงคร้านจะบอกให้พวกเขารีบหนีไป ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่รู้ซึ้งถึงความหวังดีนั้น
“แต่ว่า...” หลิงเซียวเอ่ยต่อ “ทะเลสาบนี่ไม่นับว่าเป็สถานที่ฝึกฝนชั้นดีหรอก ที่ัหางพิษเลือกที่จะอยู่ที่นี่ คงเพราะด้านล่างทะเลสาบมีหญ้าเซียน”
“จริงเหรอ?” น้ำเสียงของโหยวเสี่ยวโม่กระตือรือร้น สายตาเป็ประกายจ้องทะเลสาบที่นิ่งสงบแล้ว
พลังของัหางพิษตอนนี้เพียงแค่ขั้นเจ็ด ถ้าหญ้าเซียนในก้นทะเลสาบอย่างน้อยก็ต้องเป็ขั้นเจ็ด แต่เขาในตอนนี้ไม่มีหญ้าเซียนขั้นเจ็ดแม้แต่ต้นเดียว
“เ้าซ่อนตัวในห้วงมิติก่อน ข้าจะลงไปดู แล้วค่อยเรียกเ้า”
หลิงเซียวพูดจบก็ถูกโหยวเสี่ยวโม่ดึงแขนไว้
“ไม่ได้ ข้าจะไปกับท่าน ท่านไม่รู้จักหญ้าเซียนขั้นเจ็ด อีกอย่างไม่แน่ก้นทะเลสาบอาจมีหญ้าเซียนชนิดอื่นด้วย” โหยวเสี่ยวโม่ยืนกราน
หลิงเซียววิเคราะห์ชั่วครู่แล้วตกลง จะให้ขุดก้นทะเลสาบขึ้นมาทั้งบึงก็เห็นจะลำบาก อีกอย่างพวกเขายังต้องไปหาหญ้าเซียนอื่นๆ อีก ไม่จำเป็ต้องเสียเวลาอยู่ตรงนี้นานเกินไป กระนั้นจึงพาโหยวเสี่ยวโม่ดำลงใต้ทะเลสาบ…
ก้นทะเลสาบน้ำใสแจ๋ว ลึกราวร้อยเมตร ใต้ทะเลสาบมีก้อนหินสีขาวประปราย ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีหญ้าเซียนเติบโตได้ แต่ัหางพิษไม่น่ามาอยู่ในทะเลสาบที่ไม่มีอะไรโดยไร้สาเหตุ
ท้ายที่สุด พวกเขาก็หาหญ้าเซียนขั้นเจ็ดเจอในมุมหนึ่งใต้ทะเลสาบ แต่หญ้าเซียนต้นนี้ยังไม่โตเต็มที่ง่ายๆ ที่บังเอิญคือ โหยวเสี่ยวโม่เคยเห็นมันมาก่อน
่ที่โหยวเสี่ยวโม่เคยถูกขงเหวินเรียกไปพบหลายครั้ง
ตอนนั้นขงเหวินมีแปลงสมุนไพรเล็กๆ ที่ปลูกหญ้าเซียนขั้นสูงอยู่ หญ้าเซียนชนิดนี้ก็เป็หนึ่งในนั้น
หญ้าพลิกชีวา หญ้าเซียนขั้นเจ็ด เป็ส่วนผสมหลักในการหลอมยาคืนชีพ ยาเซียนตันขั้นเจ็ด ขาดมันไปก็ไม่อาจหลอมยานี้ออกมาได้ และยาคืนชีพเป็ยาที่มีล้ำค่าอย่างยิ่ง ขอเพียงดวงิญญายังอยู่ ไม่ว่าจะได้รับาเ็เพียงไหนก็สามารถฟื้นคืนตามเดิม ทว่ามีผลข้างเคียงอยู่อย่างหนึ่ง
นั่นก็คือหลังจากการใช้ยาคืนชีพช่วยต่อชีวิตแล้ว พลังจะลดลงหนึ่งขั้น แต่ถึงเป็เช่นนี้ ก็ยังมีคนมากมายแก่งแย่งอยากได้ เพราะหากมียาคืนชีพแล้วก็เท่ากับว่ามีสองชีวิต ใช้พลังหนึ่งขั้นแลกกับการต่อชีวิต มีแต่คุ้มกับคุ้ม!
โหยวเสี่ยวโม่ดวงดี หญ้าพลิกชีวาต้นนี้คุณภาพระดับกลาง มีพื้นฐานเช่นนี้ ขอเพียงวันหลังเขาขยันหล่อเลี้ยงด้วยน้ำปราณหน่อย ก็ต้องเป็หญ้าเซียนคุณภาพสูงได้แน่
เมื่อจัดการย้ายหญ้าพลิกชีวาไปยังห้วงมิติแล้ว โหยวเสี่ยวโม่กับหลิงเซียวก็รีบไปยังขุมหยกิญญา
หนทางที่เข้าสู้ขุมหยกิญญาไม่ได้มีเพียงทางเดียว อีกทั้งพวกเขาเสียเวลาระหว่างทางพอสมควร เพราะเหตุนี้ตอนที่พวกเขาไปถึง ก็มีคนหลายกลุ่มเข้าไปขุมหยกิญญาก่อนแล้ว
ขุมหยกิญญาเป็แหล่งอาศัยรวมของสัตว์ปีศาจและหญ้าเซียนชั้นกลาง ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ได้ยินเสียงคำรามของเหล่าสัตว์ปีศาจด้านใน ถ้ำที่กว้างขวางมีพืชเลื้อยอยู่มากมายที่ไม่รู้จักมาก่อน ต้นไม้เก่าแก่แผ่กิ่งก้านบดบังแสงแดดเหนือหัว อีกทั้งทุก่ระยะห่าง พวกเขาก็จะเห็นร่องรอยของสัตว์ปีศาจตัวหนึ่ง
เสียดายเพียงหญ้าเซียนที่พวกมันเฝ้าอยู่ โหยวเสี่ยวโม่มีหมดแล้ว นอกจากนี้ ยังมีบางจุดที่หลงเหลือรังสัตว์ปีศาจที่ถูกขโมยจนว่างเปล่า บนพื้นที่มีเพียงรอยเืเป็ปื้น ยังไม่แห้งดี แสดงให้เห็นว่าพึ่งมีการปะทะการก่อนหน้านี้ไม่นาน
สิ่งที่โหยวเสี่ยวโม่กำลังตามหาคือหญ้าเจ็ดดาว หญ้าเจ็ดดาวคือหญ้าเซียนขั้นหก จากจุดที่แผนที่ระบุ หญ้าเจ็ดดาวอยู่ตรงทิศใต้ของขุมหยกิญญา แต่ตำแหน่งที่ชัดเจนนั้นไม่ได้ระบุไว้ ทิศใต้กว้างขนาดนั้น หากค้นหาคงราวกับงมเข็มในมหาสมุทร
“ศิษย์น้องเล็ก ปล่อยแมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นสองตัวนั้นออกมา”
หลิงเซียวที่ยืนอยู่บนพืชไม้เลื้อย ก็จะถอนสายตาที่กวาดตามองรอบทิศ แล้วหันมาพูดกับโหยวเสี่ยวโม่
แมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นนั้นกินหญ้าเจ็ดดาวเป็อาหารหลัก จึงอ่อนไหวต่อหญ้าเจ็ดดาวมาก ใช้พวกมันเป็ตัวนำทางนั้นถือเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุด
โหยวเสี่ยวโม่เองก็คิดถึงจุดนี้เช่นกัน หลิงเซียวพึ่งพูดจบเขาก็หายตัวไป สักพักก็ออกมาพร้อมกับถือกล่องใบหนึ่งในมือ ในนั้นมีแมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นสองตัวที่หลิงเซียวให้เขาไว้นอนอยู่
เพราะว่าไม่ได้กินอาหารเป็เวลานาน แมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นทั้งสองตัวจึงดูอ่อนแรง ดีที่ไม่ได้ร้ายแรงมาก เมื่อถูกโหยวเสี่ยวโม่ปล่อยออกมา ทั้งตัวผู้ตัวเมียก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด ทันใดก็บินขึ้น บินกะเผลกไปอีกทิศ
หนนี้โหยวเสี่ยวโม่ไม่ได้ให้หลิงเซียวอุ้มเขาไป เพราะเขาปล่อยเ้าลูกบอลใหญ่ออกมา ตอนนี้มันมีพลังขั้นห้า พลังตอนนี้อาจยังไม่สูง แต่คุ้มกันโหยวเสี่ยวโม่ก็พอไหวอยู่
แม้หลิงเซียวจะไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ถึงคราวที่เ้าลูกบอลใหญ่ควรได้รับการฝึกแล้ว
หมาป่าเืสีขาวเป็สัตว์ปีศาจที่ต้องอาศัยการต่อสู้เพื่อเติบโต หากอยู่แต่ในห้วงมิตินานเกินไป แม้จะไม่ถึงกับทำให้มันสูญเสียสัญชาตญาณที่แท้จริงของหมาป่าเืสีขาวไป แต่พลังเข่นฆ่านั้นคงอ่อนแอแน่นอน นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากเห็น
หากว่าหมาป่าเืสีขาวไม่อาจปกป้องโหยวเสี่ยวโม่ได้ แล้วจะเก็บไว้ทำไม?
เ้าลูกบอลใหญ่ที่ถูกปล่อยออกมาหอนอย่างดีใจ โชคดีที่ในขุมหยกิญญานั้นมีเสียงคำรามเป็เื่ปกติ ดังนั้นคนคงไม่แตกตื่นกับเสียงคำรามนี้นัก ถัดจากนั้น เ้าลูกบอลก็ะโพุ่งตัววิ่งอย่างรวดเร็วไปด้านหน้า
แม้ตอนนี้มันจะเป็เพียงขั้นห้า ยังไม่สามารถกระโจนกลางอากาศได้ แต่ความเร็วในการวิ่งบนพื้นนั้นไม่ช้า เวลาไม่กี่วินาทีก็พุ่งไปราวหลายพันเมตร ตามหลังแมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นไปติดๆ
หลิงเซียวไม่ได้วิ่งไปด้านหน้าพวกมัน แต่เดินอยู่ด้านหลังพร้อมโหยวเสี่ยวโม่ พร้อมกับสังเกตรอบทิศตลอดเวลา
ครึ่งชั่วยามผ่านไป แมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นก็ค่อยๆ บินช้าลง
เบื้องหน้าเห็นเป็เทือกเขาเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ มีพลังชีวิตอยู่ทั่วสารทิศ พลังปราณก็หนาแน่นมาก
โหยวเสี่ยวโม่ลงมาจากหลังเ้าลูกบอลใหญ่ พอดีกับได้ยินเสียงคำรามดังก้องของสัตว์ปีศาจ ด้านหน้าไม่ไกลออกไป เห็นเงาสั่นไหวไปมา
แมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นคู่นั้นไม่ได้บินเข้าไป แต่บินอ้อมวนโหยวเสี่ยวโม่ ราวกับเร่งเขาอยู่ การแสดงอุปนิสัยเช่นนี้เพราะว่าโหยวเสี่ยวโม่ทำสัญญากับพวกมันแล้ว แมลงเจ็ดดาวซ่อนกลิ่นที่ยกโหยวเสี่ยวโม่เป็นายแล้ว ย่อมต้องให้นายเป็คนตัดสินใจ อีกทั้งพวกมันรับรู้ถึงอันตรายเบื้องหน้าได้
“ศิษย์พี่หลิง เหมือนว่ามีคนมาถึงก่อนพวกเรานะ” โหยวเสี่ยวโม่เอ่ย
หลิงเซียวโอบเอวเขาไว้แล้วเอ่ย “พวกเราลองไปดูก่อน เ้าลูกบอลใหญ่ไม่ต้องตามมา ให้มันไปวิ่งเล่นเองสักรอบ เกิดเป็หมาป่าเืสีขาวทั้งทีจะไม่ต่อสู้เลยได้ไงกัน อีกสองชั่วยามให้มันกลับมาเจอที่นี่”
“เอ่อ...” โหยวเสี่ยวโม่ไม่ทันได้คัดค้าน ก็ถูกหลิงเซียวพาตัวไป
เ้าลูกบอลใหญ่อยู่ที่เดิม หางสีเงินของมันส่ายไปมาเร็วขึ้นกว่าเดิม ดวงตาคู่แดงทับทิมส่องประกายดุร้าย โดยเฉพาะตอนที่หลิงเซียวพูดประโยคท้าย แววตายิ่งอยู่ยิ่งเป็ประกาย นั่นคือความดีใจและตื่นเต้น มันยืนมองทิศทางที่พวกเขาจากไปอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันตัวเข้าไปในป่าทึบ
โหยวเสี่ยวโม่ไม่มีทางคิดได้ว่าเ้าลูกบอลใหญ่ของเขา อีกสองชั่วยามให้หลังเมื่อมันกลับมาที่นี่อีกครั้ง ขนสีเงินทั่วร่างกลับถูกย้อมด้วยเืสีแดงฉาน กลิ่นคาวเืคละคลุ้ง หยดเืสดๆ ไหลย้อยลงมาตามแพขน ไม่เพียงเท่านี้ พลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่...สิ่งที่ตามหลังมันมาก็เป็ปัญหาใหญ่ทีเดียว
ผ่านไปชั่วครู่ คนกลุ่มนั้นก็ปรากฏอยู่ในวิสัยทัศน์ของหลิงเซียวกับโหยวเสี่ยวโม่
ชุดนักพรตสีเทา มีหลายคนที่สวมผ้าคลุมสีเทา ชัดว่าเป็คนของพรรคซิงหลัว
และฝ่ายตรงข้ามกับพรรคซิงหลัว นั่นก็คือพรรคเซียวเหยวกับหอจี๋เล่อ ทั้งสองฝ่ายรวมกันแล้วราวสิบสองคน พลังอยู่ชั้นตะวันกับจันทรา ที่แกร่งสุดก็มีเพียงผู้าุโบางท่านที่มีพลังชั้นดวงดาวสามดาวสี่ดาว แต่ไม่ใช่คนที่หลิงเซียวกับโหยวเสี่ยวโม่รู้จัก
ขณะนั้น ทั้งสิบสองคนนั้นถูกคนของพรรคซิงหลัวล้อมอยู่ตรงกลาง ท่าทางกระเสือกกระสน
คนของพรรคซิงหลัวมีพลังเหนือกว่าพรรคเซียวเหยากับหอจี๋เล่ออย่างเห็นได้ชัด ในนั้นมีเพียงผู้าุโชั้นดวงดาวเจ็ดดาวเพียงคนเดียว เขาดึงผ้าคลุมสีเทาของตัวเองออก เผยให้เห็นใบหน้าแข็งกร้าว ท่าทีดุร้ายจ้องมองคนทั้งสิบสองคน
“ซิงสืออี นี่เ้าทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? หญ้าเซียนและสัตว์ปีศาจขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนในการได้มา หรือเ้าจะฆ่าพวกข้าเสียให้ได้งั้นรึ?” มู่เซิงแห่งพรรคเซียวเหยากล่าว สายตาเคลือบแคลงอย่างหนัก
“ฆ่าพวกเ้าแล้วจะทำไม จะโทษก็ต้องโทษพวกเ้าที่ดวงไม่ดีเองที่มาเจอกับพวกข้า แถมยังทำพวกเราเสียเื่อีก” ชายกลางคนหัวเราะดังลั่น ดาบใหญ่ในมือมีเืเปื้อนอยู่มากมาย สั่นแล้วหยดลงพื้นตามจังหวะที่เขาหัวเราะ ผ่านไปชั่วครู่ เสียงหัวเราะของเขาก็หยุดลง ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยจิตสังหาร เอ่ยอย่างเหี้ยมโหด “ฆ่าพวกมันซะ ห้ามปล่อยไปแม้แต่คนเดียว”
มู่เซิงเอ่ยอย่างหวาดกลัวสิ้นหวัง “ซิงสืออี หากสำนักเทียนซินกับสำนักชิงเฉิงรู้ว่าพวกแกสมคบคิดกับเผ่าปีศะ...”
ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็ถูกคนลอบฟันหัวจากด้านหลัง และคนที่ลอบโจมตีเขาก็คือศิษย์คนหนึ่งของหอจี๋เล่อ…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้