จูฟ่างเป็คนรับมือได้ง่ายดายขนาดนั้นที่ไหนกันแผลงฤทธิ์ในบ้านตั้งนานสองนาน ติงอ้ายเจินห้ามไม่ได้แม้แต่น้อย
จนกระทั่งบิดาของจูฟ่างเลิกงานกลับมา สองสามีภรรยาถึงสามารถยับยั้งจูฟ่างอยู่จูฟ่างยังคงดึงดัน นั่งยองหายใจหอบบนโซฟาติงอ้ายเจินโดนลูกชายก่อกวนจนหมดสิ้นเรี่ยวแรง คร่ำครวญกับสามีของตน
“ฉันต้องทำอย่างไรกับลูก ครอบครัวเราไม่ด้อยนะลูกหลงเด็กบ้านนอกจนไม่สนแม้แต่แม่แท้ๆ แล้ว!”
บิดาจูฟ่างไม่ได้ถูกภรรยาเบี่ยงเบนความคิดได้โดยง่าย จึงให้จูฟ่างเล่าเื่ราวั้แ่แรกเริ่มโดยละเอียดจึงเริ่มเล่าจากการรู้จักกับเซี่ยเสี่ยวหลาน ไปจนถึงโจวเฉิงและคังเหว่ยมาโอ้อวดความร่ำรวยในภัตตาคารหลังฟังจบแล้วบิดาของจูฟ่างก็แสดงความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว
“เกิดเื่แบบนี้ แล้วยังจะหาคนรักได้อย่างไร? ลูกคุณกับเด็กคนนั้นลงเอยกันไม่ได้คุณก็อย่าทำคนอื่นเขาลำบาก คุณจุกจิกกับปูมหลังของฝ่ายหญิงฝ่ายหญิงก็จะจุกจิกกับคุณสมบัติของฝ่ายชายได้เหมือนกัน”
ติงอ้ายเจินรังเกียจพื้นเพของเซี่ยเสี่ยวหลาน ทว่าบิดาจูฟ่างกลับชมเชยอีกฝ่ายมากทีเดียว
หญิงสาวชนบทคนหนึ่ง จะอาศัยความสาวความสวยแต่งงานกับใครสักคนก็ได้นี่เป็ทางลัดของการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับ้ายืนหยัดด้วยตนเองพื้นเพย่ำแย่แล้วอย่างไร ครอบครัวพวกเขาก็มิใช่จะช่วยเหลือเื่การงานไม่ไหวรับปลาไหลจากชนบทเข้ามาขายในเมือง ไม่มีทั้งเงินทองและความรู้ ได้รู้จักกับคนจัดซื้อของบ้านพักรับรองประจำเมืองก่อนชั่วพริบตาต่อมาก็สานสัมพันธ์กับภัตตาคารอื่นๆ ไม่เพียงแค่หน้าตาสะสวย ทว่ายังมีความสามารถ
ความสามารถของจูฟ่างนั้นปกติธรรมดา มิเช่นนั้นจะถูกกำหนดอาชีพเป็แค่ผู้จัดซื้อได้อย่างไรหาภรรยาที่เก่งกาจสักคนก็ไม่เลว
สิ่งที่บิดาของจูฟ่างชมเชยมากที่สุดยังคงเป็การตัดสินใจที่ทันท่วงทีของเซี่ยเสี่ยวหลานติงอ้ายเจินแสดงออกว่ารังเกียจเดียดฉันท์ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงตัดสินใจยุติธุรกิจส่งปลาไหลโดยพลันหันมาอีกทีก็ไปขายเสื้อผ้าอาภรณ์เสียแล้ว ที่สำคัญยิ่งกว่าคือคนรักคนนั้นของเซี่ยเสี่ยวหลาน
นายจูรู้ดีว่าคนเก่งกาจบนโลกใบนี้มีอยู่มากมายนักเขาเป็ผู้บริหารระดับรองแล้วอย่างไร เบื้องบนมิใช่ยังมีผู้บริหารระดับสูงอีกหรือ?
อีกฝ่ายท่าทางสูงส่ง นายจูไม่รู้เบื้องหน้าเื้ั จึงไม่ก่อเื่ยุ่งยากให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลาน
ชื่นชมส่วนชื่นชม ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็สาเหตุทำให้จูฟ่างกับมารดาแตกคอนั้นเป็เื่จริงมนุษย์มีการเลือกที่รักมักที่ชัง นายจูจึงเกิดความขุ่นข้องต่อเซี่ยเสี่ยวหลานเช่นกันแต่เขามีกึ๋นกว่าติงอ้ายเจินและอดทนได้มากกว่า หากสถานะของคนรักที่เซี่ยเสี่ยวหลานคบหาคนนั้นยังไม่ชัดเจนนายจูจะไม่ผลีผลามลงมือเป็อันขาด
จูฟ่างยังคงไม่ยอมแพ้ ลูกชายไม่ได้เื่ขนาดไหน อย่างไรเขาก็ให้กำเนิดด้วยตนเองอยู่ดีนายจูจึงมีสีหน้าเคร่งขรึม
“เื่เล็กน้อยแค่นี้ยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ อีกหน่อยแกจะทำงานที่ดีกว่ากว่านี้ได้หรือ? ไม่ไปทำงาน แกพูดออกมาง่ายจริง ให้แกย้ายออกจากบ้านสักสองเดือนสิเงินเก็บแค่นั้นในมือแกประคองชีวิตไม่อยู่แน่นอน! หากไม่พึ่งพาครอบครัวแล้วตัวแกเองจะสามารถหาการงานดีๆอะไรได้ งานคนจัดซื้อไม่ลำบาก ทั้งยังมีอิสระเสรี แม้เงินเดือนเพียง 70 หยวน แต่ภัตตาคารของพวกแกกินอะไร โรงอาหารของหน่วยงานทั่วไปกินอะไร?”
จูฟ่างอาศัยอยู่บ้านไม่ต้องจ่ายค่าครองชีพเงินเดือนจึงเป็เงินส่วนตัวของเขาทั้งหมด
อีกทั้งติงอ้ายเจินมักจะมอบเงินให้เขาเพิ่มเติมด้วยจูฟ่างจึงไม่เคยมี่เวลาที่ขัดสนโดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็เสื้อแจ็กเก็ตหนังราคาเป็ร้อยหยวนในศูนย์การค้าหรือรองเท้าหนังหลายสิบหยวนต่อหนึ่งคู่ หากเขา้าซื้อก็ซื้ออย่างไม่ลังเล
แม้ก้นบึ้งของจิตใจไม่อยากยอมแพ้ แต่รู้ดีว่าสิ่งที่บิดาของเขากล่าวนั้นเป็ความจริง
“ถ้าแม่ไปก่อกวนเธออีก และมีคนอื่นมาหาเื่ผมที่ภัตตาคาร งานการผมไม่เอาแล้วบ้านผมก็จะไม่กลับด้วย ออกไปขอทานเสียเลยดีกว่า!”
ติงอ้ายเจินด่าทอเซี่ยเสี่ยวหลานได้ แต่กล้าฉุนเฉียวกับลูกชายเธอหรือเปล่า?
ในใจเกลียดชังเซี่ยเสี่ยวหลานแทบตาย ทว่าถูกคำข่มขู่ของจูฟ่างหักห้ามอุบายเล่นงานไว้ชั่วคราวตกกลางคืนขณะนอนหลับฟันกรามที่ขบเคี้ยวก็ไม่ผ่อนคลาย
“เหล่าจู ฉันไม่มีทางยอมรับเื่แบบนี้หรอกนะ!”
นายจูพลิกกายท่ามกลางความมืด “ทนอีกหน่อยดูสถานการณ์ก่อน”
โง่เง่าหรือเปล่านี่ จะทำอะไรก็ต้องรอให้กระแสของเื่ราวผ่านพ้นไปก่อนสิเมื่อจูฟ่างไม่ได้หลงใหลในเด็กสาวนั่นขนาดนั้นแล้ว ถึงจะลงมือจัดการได้
หากผู้ชายที่มาหาจูฟ่างถึงภัตตาคารไม่มีน้ำยาใดๆ การจัดการหญิงสาวชนบทแค่คนเดียวต้องรีบร้อนเพียงนี้หรือ ลงมือเมื่อไรล้วนไม่ต่างกัน ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงจะสามารถตะเกียกตะกายไปได้สูงกว่าตระกูลจูสักเท่าไรเชียว?
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รับรู้ความวุ่นวายของบ้านจูแม้แต่น้อยทว่าท่าทางของติงอ้ายเจินเ้าคิดเ้าแค้นทีเดียว เธอต้องระแวดระวังการโต้กลับของอีกฝ่ายไว้ก่อนอยู่ดี
เซี่ยเสี่ยวหลานแบ่งเนื้อมาสองชั่งอีกทั้งซื้อน้ำตาลทรายสองถุงติดไม้ติดมือไปเยือนบ้านของหูหย่งไฉเพื่อขอบคุณหูหย่งไฉและภรรยาที่ช่วยหาบ้านเธอพึงพอใจในบ้านที่เช่าอาศัยตอนนี้มากเหลือเกิน บ้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองซางตู จะเดินทางไปทิศทางใดล้วนสะดวกเป็อย่างยิ่งห้องหับดูภูมิฐาน ลานบ้านกว้างขวาง เซี่ยเสี่ยวหลานจอดจักรยานได้ง่ายดายนัก
ย่าอวี๋ภาวะอารมณ์แปรปรวน แต่ไม่เริ่มหาเื่ก่อน รับค่าเช่าห้องจำนวน 20 หยวนต่อเดือน ขอเพียงไม่พาคนนอกกลับบ้านค้างแรม ย่าอวี๋ก็จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเื่ของเซี่ยเสี่ยวหลานและมารดา
เซี่ยเสี่ยวหลานมักส่งของกินให้ย่าอวี๋อยู่บ่อยครั้ง ทว่าย่าอวี๋ก็ไม่รับไว้ฝ่ายนั้นเคารพเส้นเขตแดนระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่าอย่างเคร่งครัดไม่มีความคิดจะสนิทสนมกับเซี่ยเสี่ยวหลานและมารดา ความรักใคร่กลมเกลียวที่ชีวิตของเซี่ยเสี่ยวหลานขาดหายไปก็ได้หลิวเฟินหลิวหย่ง และหลี่เฟิ่งเหมยเติมเต็มแล้ว ย่าอวี๋จะโปรดปรานเธอหรือไม่เธอไม่เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย
บ้านเช่าหลังนี้ดูดีมาก เธอ้าขอบคุณหูหย่งไฉกับภรรยาเสียหน่อย
และหอบความคิดที่จะถามไถ่ข่าวคราวไปด้วยเช่นกัน
หูหย่งไฉรู้จักกับจูฟ่าง ต้องหยั่งรู้ความเป็ไปของตระกูลจูอย่างแน่นอน
ระยะทางของบ้านหูและบ้านอวี๋ไม่ไกลกัน หนึ่งคือตึกสูงสำหรับอาศัยอีกหนึ่งคือบ้านชั้นเดียวพอเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานหอบหิ้วของมาเยี่ยมเยียนรอยยิ้มบนใบหน้าภรรยาหูหย่งไฉก็ไม่หุบ ของฝากพิเศษหรือไม่ ย่อมพิเศษอยู่แล้ว! อย่างไรเสียเธอก็ชมชอบหญิงสาวอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้นัก ใจกว้างต่อผู้อื่นและกระทำทุกสิ่งอย่างเปิดเผยใครจะไม่ยินดีคบค้าสมาคมกับเซี่ยเสี่ยวหลานเล่า?
มาจากครอบครัวชนบทแล้วอย่างไร สามารถจ่ายเงินเช่าห้องของบ้านอวี๋ 20 หยวนต่อหนึ่งเดือนได้ ผู้ที่ไร้เงินทองในมือคนไหนจะกล้าทำเช่นนี้
“เธอมาเยือนบ้านเช่นนี้พี่สะใภ้ยินดีต้อนรับเป็อย่างมาก คราวหน้าจะเห็นเป็คนนอกอีกไม่ได้นะ!”
ชาติก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานปีนป่ายจากการเป็พนักงานขายระดับล่างขึ้นไปมีความเคยชินบางอย่างที่ฝังลึกเข้ากระดูกเสียแล้วเป็แเื่เยี่ยมเยียนอย่าสนว่าของฝากจะมากน้อยเท่าไร แต่ต้องมี ‘ของขวัญติดมือ’ จึงจะดูมารยาทงามมารยาทงามเกินไปดูห่างเหินหรือ? มารยาทงามไร้คนถือโทษแต่ไหนแต่ไรเธอและบ้านหูก็ไม่เกี่ยวข้องกัน ปฏิบัติดีต่อกันและกันทุกคนถึงจะมีมิตรภาพได้
มีคนเชิญหูหย่งไฉรับประทานอาหาร บ้านหูจึงเหลือเพียงภรรยาหูหย่งไฉและลูกแม้บอกว่าเป็เด็ก แต่ตึ่นโตก็อายุ 15 ปีแล้วอ่อนวัยกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเพียงไม่กี่ปี ทว่ายังคงเต็มไปด้วยความไม่ประสาเซี่ยเสี่ยวหลานค่อยๆ ดึงหัวข้อสนทนาเข้าเื่บ้านจู ภรรยาหูหย่งไฉตกตะลึงไปนึกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานชอบจูฟ่างเข้าแล้ว
แต่เมื่อเช้าเธอออกไปซื้ออาหารยังได้ยินคนพูดกันว่าแม่สาวเซี่ยผู้มาใหม่หน้าตาสะสวย คบหากับคนงดงามเช่นกัน เป็คู่หมายที่ขับรถบรรทุก
ข่าวคราวแพร่สะพัดออกไปเร็วเหลือเกินโจวเฉิงยังไม่ได้ขยับความสัมพันธ์อีกขั้นด้วยซ้ำ ก็ถูกผู้คนพบเห็นเสียแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรต้องปกปิดบอกอย่างซื่อตรงว่าเหมือนตนจะทำให้มารดาของจูฟ่างขุ่นเคือง เกรงกลัวว่าตระกูลจูจะแก้แค้น
“พี่สะใภ้ พี่ดูสิว่าเื่นี้บานปลาย...”
ภรรยาหูหย่งไฉรู้สึกไม่ธรรมดาเหมือนกัน “เธอไม่เคยคบกับจูฟ่างจริงๆ หรือ?”
หูหย่งไฉเคยบอกเล่าเกี่ยวกับฐานะของครอบครัวจูฟ่างอยู่บ้างเมื่อได้ยินว่าเซี่ยเสี่ยวหลานทำคนเขาขุ่นเคืองแล้ว ภรรยาหูหย่งไฉจึงเกิดความรู้สึกกังวลแทนเธอเล็กน้อย
“ฐานะครอบครัวจูฟ่างดีพอสมควร แม่ของเขาเป็ผู้อำนวยการกองในหน่วยงานพ่อเขาทำงานที่หน่วยงานรัฐ”
ภรรยาหูหย่งไฉกดสุ้มเสียงให้เบาลง
ไม่เพียงแต่บิดาจูฟ่างที่ทำงานในหน่วยงานรัฐคนตระกูลจูล้วนกระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ช่างเป็งูประจำถิ่นโดยแท้มิเช่นนั้นรสนิยมจูฟ่างจะสูงลิ่วหรือ นั่นเพราะเขามีความมั่นใจในชาติตระกูลของตนเองมาก!
แววตาของภรรยาหูหย่งไฉเต็มไปด้วยความกังวลเกลี้ยมกล่อมเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างเสียไม่ได้
“สิ่งที่พี่สาวจะพูดกับเธอมาจากใจจริง คนรักที่หน้าตาหล่อเหลาใครจะไม่ชอบกัน? แต่บางครั้งความหล่อเหลาก็กินแทนข้าวไม่ได้ รู้มาว่าคนรักของเธอนั่นเป็คนต่างถิ่นถ้าตระกูลจูทำเื่วุ่นวายต่อเธอ ห่างกันไกลลิบขนาดนั้นเขาจะช่วยเหลืออะไรได้”
คบหากับจูฟ่างย่อมแตกต่างกัน ชายหนุ่มผู้มีสถานะทางสังคม การงานก็ไม่เลวสิ่งสำคัญคือตระกูลจูฐานะดี
หูหย่งไฉเคยกล่าวขณะอยู่บ้านว่าจูฟ่างนั้นชอบเซี่ยเสี่ยวหลาน ถึงด้านสถานะจะย่ำแย่ไปหน่อยก็ไม่กลัวแม้ว่ามารดาจูฟ่างจะคัดค้านเพียงใด แต่ใต้หล้านี้มีคนเป็พ่อแม่ที่ไหนจะขัดใจลูกชายได้?
เซี่ยเสี่ยวหลานขมวดคิ้ว ปีศาจรับใช้ช่างต่อกรด้วยได้ยากเย็นนัก คิดไม่ถึงว่าตระกูลจูยังเป็งูเ้าถิ่นตัวน้อยเสียด้วย
“ขอบคุณพี่สะใภ้มาก คนรักฉันไม่อยากเปลี่ยน อย่างไรก็ตามเดี๋ยวฉันกลับไปครุ่นคิดอีกทีว่าควรทำอย่างไรกับเื่นี้ดี”
