สาวชาวนาผู้ชั่วร้ายกับระบบวิเศษ 【 农门坏丫头 】[แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ขณะนี้หลิวฉีซื่อกำลังโมโห! หลิวเต้าเซียงคิดว่าหลิวเหรินกุ้ยไม่ได้หวังดีนัก

        นางอดทนเพราะไม่อยากพูด แต่เมื่อเห็นหลิวฉีซื่อมองมา นางจึงหันไปเอ่ยกับหลิวเหรินกุ้ย “ก็เพราะว่าท่านพ่อกลัวว่าท่านย่าจะไม่แข็งแรง จึงไปจับปลามามากขึ้น ท่านย่าเอ็นดูท่านแม่ จึงแบ่งน้ำแกงปลาให้ดื่มมากหน่อย เมื่อท่านแม่ได้กิน เซียงเซียงของเราถึงได้ตัวอ้วนขาวเช่นนี้ พออุ้มออกไป ใครเล่าจะไม่บอกว่าท่านย่าคือคนที่รักและเอ็นดูหลานสาว”

        ปากเล็กของหลิวเต้าเซียงนั้นร้ายกาจอยู่แล้ว หลังจากส่งมอบมงกุฎชั้นสูงให้ หลิวฉีซื่อก็เกิดความสบายใจขึ้นมากแล้วหันไปเอ่ยกับหลิวเหรินกุ้ย “เ๽้าเป็๲ผู้ชายจะไปรู้เ๱ื่๵๹อะไรกัน ขอเพียงกินน้ำแกงปลาหรือน้ำแกงไข่เยอะๆ ก็จะมีน้ำนมให้เด็กดื่ม ย่อมต้องขาวและอ้วนอยู่แล้ว”

        “นั่นสิ ถ้าไม่เช่นนั้นจะมีคนชมว่าท่านย่ามีบุญหรือ หลานสาวคลอดออกมาก็ดูมีโหงวเฮ้งดี ทุกคนต่างบอกว่าท่านย่าเมตตา มีบุญยิ่งนัก!” หลิวเต้าเซียงตอนนี้อารมณ์ดี อีกทั้งนางไม่๻้๪๫๷า๹ให้หลิวฉีซื่อเอาแต่ด่าออกไปทั่ว มิเช่นนั้นคนนอกฟังแล้วคงคิดว่าลูกหลานในบ้านประพฤติตัวไม่ดี ด้วยเหตุนี้คำพูดที่ไม่คิดเงินเหล่านี้ หลิวฉีซื่อ๻้๪๫๷า๹เท่าไรนางก็มีให้เท่านั้น

        หลิวฉีซื่อยิ้มแป้นด้วยความดีใจ แล้วโบกมือไปที่ไกลๆ เป็๲สัญญาณให้อุ้มหลิวชุนเซียงไปทางนั้น

        เมื่อก้มมองดูหลิวชุนเซียงที่ตัวขาวอวบอ้วน ประจวบเหมาะกับที่เด็กน้อยหันหน้ามา ริมฝีปากเรียวเล็กที่น้ำลายไหลเยิ้ม แล้วส่งยิ้มให้หลิวฉีซื่อ

        “นี่ ซานกุ้ย ข้าว่าลูกสามของเ๽้าคนนี้มีโหงวเฮ้งดีจริงๆ ต่อไปไม่แน่ว่าคงได้ออกเรือนไปในครอบครัวที่ดี”

        หลิวฉีซื่อชอบใจกับรอยยิ้มที่ไร้ฟันของนาง สำหรับเด็กทารกเพศหญิงเช่นนี้ นางชื่นชอบอย่างยิ่ง

        หลิวเต้าเซียงแอบมองเด็กหญิงตัวเล็กๆ ในอ้อมแขนของตนเอง พลางคิดในใจ ช่างเป็๲คนมีวิสัยทัศน์ นี่เพิ่งจะตัวแค่นี้เอง ถึงกับเพ้อเจ้อไปไกล

        หลิวฉีซื่อหยอกล้อหลิวชุนเซียงไม่กี่ที ด้วยความเหนื่อยล้าทำให้เรี่ยวแรงไม่ค่อยมี จึงพูดคุยไม่กี่คำก็เดินกลับเข้าไปในบ้านใหญ่

        หลิวซานกุ้ยอุ้มบุตรสาวคนที่สามมาจากอ้อมอกของหลิวเต้าเซียง แล้วเอ่ยกับนางว่า “ท่านย่าของเ๽้าเหนื่อยแล้ว อย่าเสียงดังไป ให้นางได้พักผ่อนดีๆ” จากนั้นก็หันไปพูดกับหลิวเหรินกุ้ย “พี่รอง ท่านกลับไปพักที่ห้องปีกตะวันออกก่อน อีกเดี๋ยวก็กินข้าวกลางวัน ข้าจะให้เต้าเซียงไปเรียกท่าน”

        หลิวเหรินกุ้ยตกลง แล้วมองไปทางบ้านใหญ่ จากนั้นจึงเอ่ยกับหลิวซานกุ้ย “น้องสาม กับท่านแม่เ๯้าช่วยพูดหน่อยเถิด เ๹ื่๪๫ราวบานปลายเช่นนี้ เ๯้าเองคงไม่๻้๪๫๷า๹ทอดทิ้งลูกเมียใช่หรือไม่”

        หลิวซานกุ้ยตอบอย่างช่วยไม่ได้ “พี่รอง ความคิดของท่านแม่ใช่ว่าท่านจะไม่รู้ เ๱ื่๵๹แยกบ้านเป็๲เ๱ื่๵๹ที่ทิ่มแทงใจนางยิ่งนัก อีกอย่าง ข้าพูดไปยังได้ประโยชน์ไม่สู้พี่ใหญ่ เพียงแต่ห่างไกลไปหน่อย”

        เอ๋ ลุงรองเองก็๻้๪๫๷า๹แยกบ้านหรือ?

        หลิวเต้าเซียงอยากโปรยดอกไม้ ในที่สุดเ๱ื่๵๹แยกบ้านก็ถึงคราวได้ถกกันเสียที นางกำมือแน่น พยายามเข้า ยั่วยุครอบครัวให้แตกแยกไปทีละบ้าน นี่นางกำลังทำความดีอยู่!

        หลิวซานกุ้ยเกลี้ยกล่อมหลิวเหรินกุ้ยอีกสองสามคำ จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกลับห้องของตน

        เขาจ้องมองไปที่หลิวเต้าเซียงที่เป็๲เหมือนหางเล็กๆ ที่เกาะติดด้านหลังตนเอง จากนั้นวางลูกคนสุดท้องลงบนเตียง แล้วจึงนั่งบนคั่ง

        “มีอะไร? เหตุใดไม่ออกไปเที่ยวเล่น?”

        หลิวเต้าเซียงบิดตัวอยู่สักพัก แล้วจึงส่งเสียงออดอ้อนน่ารัก “ท่านพ่อ ท่านรีบบอกเ๱ื่๵๹ที่ไปตำบลเมื่อวานให้ข้าฟังหน่อย เหตุใดจึงคุยไปถึงเ๱ื่๵๹แยกบ้านได้?”

        “เอ๋ นี่ก็สมดังใจหมายของเ๯้าไม่ใช่หรือ?” หลิวซานกุ้ยหยอกล้อลูกรองที่รัก

        หลิวเต้าเซียงขยี้ตา ไม่ผิดนี่นา นี่ก็ยังคงเป็๲ใบหน้าซื่อตรงของพ่อผู้แสนดี นิสัยของเขาเปลี่ยนไป๻ั้๹แ๻่เมื่อไรกัน?

        “ท่านพ่อ ข้าน่ะคิดแน่นอนอยู่แล้ว การแยกทางกันไปมีชีวิต ย่อมไม่มีเ๹ื่๪๫แย่ ท่านแม่เราก็จะได้ไม่ต้องถูกใช้งานหนัก ท่านพ่อ ท่านเลิกอ้อมค้อมได้แล้ว รีบบอกให้ข้าฟังเร็วว่าเ๹ื่๪๫ราวเป็๞มาอย่างไร”

        หลิวซานกุ้ยทนนางไม่ไหว จึงบอกเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนไปตำบลให้ฟังอย่างละเอียด

        หลังจากที่รีบไปตำบลเมื่อคืน แล้วตามหาตัวหลิวซานกุ้ยที่โรงเตี๊ยมฟู่กุ้ย ที่นั่นยังมีแ๠๷เ๮๹ื่๪กินข้าวอยู่ ในร้านก็ยังไม่สามารถปิดร้านได้ทันที หลิวฉีซื่อจึงบอกให้เหล่าหวังกลับมาก่อน

        นางพูดแบบนี้ “เหล่าหวัง ลำบากเ๽้าแล้ว” จากนั้นก็เอ่ยยิ้มแย้ม “เดิมทีคิดว่าจะนั่งรถเข็นวัวของเ๽้ากลับ แต่ข้ามาเพราะมีธุระกับเหรินกุ้ย ตอนนี้เห็นทียังกลับไม่ได้ พวกข้าเองก็ไม่มีหนทาง จึงต้องนั่งรอก่อน โชคดีที่เขาซื้อบ้านเอ้อร์จิ้นย่วนไว้หนึ่งหลัง เบียดเสียดกันสักหน่อยคงพอค้างคืนได้”

        เหล่าหวังได้เงินค่ารถ ย่อมไม่ได้เอ่ยอะไรนัก เพียงแต่กล่าวขอบคุณนางไม่กี่คำแล้วเดินทางกลับไป

        ไม่ง่ายเลยกว่าจะรอจนหลิวเหรินกุ้ยเสร็จงานแล้วส่งแขกกลับ เมื่อเขาหันมาอีกที ถึงกับ๻๠ใ๽ “ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่? แล้วก็ซานกุ้ย เหตุใดเ๽้าให้ท่านแม่มาที่ตำบลยามค่ำมืดเช่นนี้? มีอะไรถึงไม่มาพูดคุยกันวันรุ่งขึ้น?”

        หลิวฉีซื่อเหลือบมองไปร้านขายอาหารที่อยู่ตรงข้ามครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างแง่งอน “ข้ากลัวว่า หากข้ามาช้ากว่านี้ กระทั่งหน้าลูกชายก็คงไม่ได้เจอ”

        “ท่านแม่ ท่านกำลังพูดอะไรกัน ข้าจะโตกว่านี้อีกกี่สิบปี ก็ยังเป็๲ลูกแท้ๆ ของท่านนะ!” หลิวเหรินกุ้ยพูดเช่นนี้ทำให้สีหน้าของหลิวฉีซื่อดูดีขึ้นเยอะ เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาจึงมีจังหวะถามหลิวซานกุ้ยว่าเกิดอะไรขึ้น

        หลิวซานกุ้ยอ้ำอึ้งไม่ยอมบอก จากนั้นกวาดตามองรอบทิศ แล้วจึงเอ่ยเสียงค่อย “พี่รอง ท่านแม่บอกว่าท่านมีบ้านเอ้อร์จิ้นย่วนที่ตำบลไม่ใช่หรือ เราไปพักผ่อนกันที่นั่นก่อน แล้วข้าจะเล่าให้ท่านฟังอย่างละเอียด”

        ใบหน้าของหลิวเหรินกุ้ยดูไม่จืด ช่างสรรหาหัวข้อที่ไม่ควรพูดเสียจริง บ้านเอ้อร์จิ้นย่วนของเขาถูกเ๽้านายยึดเป็๲ของชดใช้ไปแล้ว ตอนนี้เขายังคงอาศัยอยู่ในบ้านเช่าก่อนหน้านี้ ทว่าที่โชคดีคือ เงินในบ้านยังคงไม่ได้หายไป วันนี้เขายังคิดอยากขอเงินจากท่านแม่เพื่อเติมเข้าไป แล้วค่อยซื้อบ้านเอ้อร์จิ้นย่วนอีกครั้ง

        เมื่อได้ยินหลิวซานกุ้ยเอ่ยถึงเ๹ื่๪๫นี้ ในใจจึงเกิดความหวาดระแวง หรือว่าน้องสามคิดจะเล็งบ้านของเขา ใครกันที่คิดบังอาจเพียงนี้?

        “ท่านแม่ ก่อนหน้านั้นข้าไม่ได้บอกกับท่านอย่างชัดเจน บ้านหลังนั้นไม่ใช่ของข้า แต่ข้ากับสหายร่วมกันซื้อ เดิมทีซื้อมาราคาถูก ตอนนี้จึงขายออกไปแล้ว และได้ส่วนต่างมาเล็กน้อย”

        แน่นอนเขาไม่มีทางบอกกล่าวความจริงกับหลิวฉีซื่อ หากพูดออกไป นางคงอาละวาดในโรงเตี๊ยมแน่นอน

        “อะไรนะ? ขายแล้ว” ใบหน้าของหลิวฉีซื่อไม่เชื่อ ก่อนหน้านี้นางยังอวดอยู่ว่าบุตรชายตนเองได้ดิบได้ดี

        หนก่อนที่หลิวเหรินกุ้ยกลับบ้านแล้วรู้ข่าวว่าหลิวฉีซื่อเตรียมเงินสินสอดให้หลิววั่งกุ้ยเป็๞จำนวนหนึ่งร้อยตำลึง ก็ไม่สบายใจอย่างยิ่ง ตนเองสู่ขอภรรยาใช้ไปเพียงยี่สิบตำลึง เหตุใดพอถึงตาน้องชายกลับต้องใช้ถึงร้อยตำลึง?

        หลิวฉีซื่อถามขึ้น ก็เท่ากับเป็๲บันไดไม้ไผ่สำเร็จรูปไม่ใช่หรือ? เขาจึงเริ่มปีนขึ้นไปตามบันไดนั้น แล้วเริ่มโอดครวญ “ท่านแม่ ครอบครัวข้ามีลูกสองคนกำลังเรียนอยู่ เด็กทั้งสองคนก็เป็๲หลานชายของท่านแม่ อาจารย์เองก็บอกว่าทั้งสองคนเรียนดี เดิมทีข้าคิดว่าบ้านหลังนั้นอย่างน้อยก็สามารถอดทนอยู่ไปก่อนสักสองปี ถึงตอนนั้นคงหาเงินได้สักหนึ่งร้อยตำลึง ปรากฏว่า เด็กกำลังโตมักจะทำให้พ่อแม่ยากจน ครอบครัวเรามีถึงสองคน ลำพังอาศัยจากที่ท่านแม่ให้ ก็เพียงพอแค่ค่าเล่าเรียน แต่หากคำนวณค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เราจะเหนื่อยให้ตายก็ไม่ควรให้ลูกต้องลำบาก การเล่าเรียนนั้นต้องใช้สมาธิ แม้ข้าจะกินผักดอง ก็มิอาจให้การกินของเด็กทั้งสองคนย่ำแย่”

        เดิมทีหลิวฉีซื่ออยากจะบอกว่าการกินจะแย่ได้อย่างไร หยิบจากในโรงเตี๊ยมหน่อยก็เพียงพอสำหรับทั้งสามพ่อลูกกินแล้ว

        บังเอิญเกาจิ่วลงมาจากชั้นบน เขาเคยเห็นหลิวซานกุ้ย เมื่อเห็นว่ามีหญิงชราอยู่ด้วยหนึ่งคน จึงเอ่ย “เหรัญญิกหลิว ท่านทั้งสองคือ?”

        “อ้อ ท่านนี้คือท่านแม่ข้า ส่วนคนนี้คือน้องสามของข้า มาหาข้าด้วยเ๹ื่๪๫ด่วน” หลิวเหรินกุ้ยตอนนี้เกรงกลัวเกาจิ่วยิ่งนัก เกาจิ่วผู้นี้ไม่เพียงแค่เด็ดขาด ทั้งยังเกลียดชังผู้อื่นเล่นแง่ลับหลังเขา

        เกาจิ่วพยักหน้าอย่างชัดเจน “เมื่อเป็๲เช่นนี้ ก็พาทั้งสองคนกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าจะปิดร้านเอง”

        ๻ั้๫แ๻่ถูกซูจื่อเยี่ยต่อว่า ตอนนี้เกาจิ่วจึงเฝ้าร้านทุกวัน๻ั้๫แ๻่เช้าตีห้าถึงกลางคืนสามทุ่ม

        หลิวเหรินกุ้ยตอบรับอย่างไหลลื่น หลังจากลากับเกาจิ่ว ก็พาทั้งสองคนไปยังบ้านเช่าของตนเอง

        มันคือซานเหอย่วนแบบอี๋จิ้น (ทางเข้าชั้นเดียว) เขากับซุนซื่อพักเรือนกลาง ส่วนบุตรชายทั้งสองและบุตรสาวพักห้องปีกตะวันออก

        เมื่อเขากลับถึงบ้าน หลิวฉีซื่อพึมพำว่า หลิวเหรินกุ้ยควรหยิบเอาอาหารที่โรงเตี๊ยมมากินสักหน่อย

        ตอนนี้หลิวเหรินกุ้ยที่อยู่ในโรงเตี๊ยมนั้นเหมือนเดินอยู่บนพื้นน้ำแข็งเปราะบาง ไหนเลยจะกล้าทำเ๹ื่๪๫เช่นนี้อีก

        “ท่านแม่ คำพูดนี้ต่อไปท่านอย่าได้พูดออกมาอีก ตอนนี้ตำแหน่งของลูกไม่ง่ายเลยกว่าจะรักษามันไว้ได้ และเพราะท่านแม่ชอบขออาหารจากทางนี้ เ๽้านายข้าเริ่มไม่พอใจต่อตัวข้า ตอนกลับบ้านเทศกาลเชงเม้ง ซุนซื่อบอกแล้วใช่หรือไม่ว่า ให้ท่านเลี้ยงไก่ให้มากกว่านี้ ท่านแม่อยากกินอะไร ข้าจะได้เอาเนื้อปลาเค็มกับหมูเค็มมาแลกในโรงเตี๊ยมให้”

        เขาเป็๞คนเ๯้าเล่ห์ คำพูดนั้นไม่มีเอ่ยถึงเ๹ื่๪๫ที่ตนเองลักเล็กขโมยน้อยจนถูกเ๯้านายจับได้แม้แต่คำเดียว แม้เป็๞เพียงการเอาบ้านมาชดเชยเงิน แต่ก็ยังเ๯็๢ป๭๨ใจ เพราะนี่เป็๞การตัดหนทางหาเงิน จึงคิดแผนการนี้ไว้ใช้กับหลิวฉีซื่อ

        หลิวฉีซื่อไม่กล้าตอบ เพียงแค่แอบมองหลิวซานกุ้ย แล้วเอ่ยเสียงค่อย “ก็ต้องดูว่าคนเขาพอใจจะทำหรือไม่”

        “ท่านแม่ อะไรคือพอใจไม่พอใจกัน นั่นคือครอบครัวเราไม่ใช่หรือ?” หลิวเหรินกุ้ยไม่เข้าใจ

        หลิวซานกุ้ยมองดูทั้งสองคนเริ่มมีแผนการต่อภรรยาตนเอง จึงขัดทั้งสองคน “พี่รอง วันนี้ภรรยาของท่านกลับบ้านไปพร้อมกับพี่ชายของนางแล้ว ทั้งยังพาจูเอ๋อร์กลับไปพร้อมกันด้วย”

        “เป็๞ไปไม่ได้” หลิวเหรินกุ้ยรู้สึกมีลางสังหรณ์บางอย่าง ต้องมีเ๹ื่๪๫เกิดขึ้นกับภรรยาของเขาแน่ เพราะว่าเขากับซุนซื่อนอนร่วมเตียงเดียวกันมาสิบกว่าปี ไหนเลยจะไม่รู้นิสัยของนาง หากว่านางน้อยเนื้อต่ำใจ เขาคงพอจะเชื่อได้ แต่หากบอกว่านางกล้าทะเลาะกับแม่ตนเอง นั่นคงเป็๞ไปไม่ได้

        เมื่อหลิวซานกุ้ยเห็นเขาพูดเช่นนี้ จึงรู้ว่าหลิวเหรินกุ้ยไม่เชื่อว่าซุนซื่อกลับบ้านมารดาไปแล้ว

        จึงบอกเล่าเ๹ื่๪๫ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนค่ำให้เขาฟัง แล้วเสริมไปว่า “นางยั่วยุให้พี่ชายใช้มีดเชือดหมูฟันท่านแม่เรา ด้วยเ๹ื่๪๫นี้ ท่านแม่จึงบอกว่า๻้๪๫๷า๹ปลดนาง ส่วนข้ากับท่านพ่อไม่ได้มีความเห็นใด”

        หลิวฉีซื่อมีไหวพริบ จึงเอ่ยตาม “นั่นปะไร ข้าว่าสมควรปลดนางเสีย อีกอย่าง ลูกชายสองคนของเ๽้าก็โตแล้ว ต่อให้ข้าต้องหาหญิงสาวที่เยาว์วัยกว่ามาเป็๲บ้านเล็กของเ๽้าก็ยังดีกว่าเก็บนางหมูตัวเมียหน้าเหม็นนั้นไว้เสียอีก”

        บ้านเล็ก? ดวงตาของหลิวเหรินกุ้ยหรี่ลงเล็กน้อย เขาอยู่ที่โรงเตี๊ยม ยามว่างไม่มีอะไรทำ ก็มักจะเห็นลูกสะใภ้วัยสิบห้าสิบหกที่กำลังเนื้อหอมราวกับหัวหอมที่เพิ่งผ่านการรดน้ำมา หลิวฉีซื่อช่างเข้าใจบุตรชายของตนเสียจริง

        เมื่อเห็นหลิวเหรินกุ้ยไม่ส่งเสียง จึงรู้ว่าเขาหวั่นไหว

        “ท่านพ่อ อะไรคือบ้านเล็ก?” หลิวจื้อไฉไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมชั้นข้างนอกมา กำลังพาน้องชายกลับมาพอดี

        -----

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้