เนื้อตากแห้งที่เอามาด้วยครั้งนี้มีไม่มาก กุนเชียงเก้าชั่ง เนื้อตากแห้งห้าชั่งครึ่ง ทั้งหมดสี่ร้อยยี่สิบสี่เหวิน เหนียนเสียงหลินให้ตัวเลขกลมๆ สี่ร้อยห้าสิบเหวินอย่างใจกว้าง ยิ้มพลางกล่าวว่าคิดหนึ่งส่วนที่พวกเขาทานไปด้วย แล้วยังให้อาหารว่างที่สือหลี่เซียงทำขึ้นเป็พิเศษอีกสองห่อ ให้เด็กสองคนโดยตรงไว้เป็ขนมทานเล่น หวังซื่อค่อยๆ รู้สึกถูกใจเหนียนเสียงหลินผู้นี้หลายระดับ บนถนนระหว่างทางกลับไปก็เอาแต่ชมเหนียนเสียงหลินผู้นี้ว่าเป็คนที่ดีมากนัก
เที่ยงสิบนาที เหนียนเสียงหลินกับเ้าของร้านจางยุ่งอยู่กับงานทั้งหลาย หลังจากสกุลหูจัดการเงินตราค่ากระต่ายกับเห็ดแห้งเสร็จสิ้น นัดหมายกันดีแล้วว่าพรุ่งนี้ค่อยเอาอาหารหมักตากแห้งที่เหลืออยู่มาส่งอีกรอบ สกุลหูจึงจูงเกวียนวัวอำลาไป
หวังซื่อที่นั่งอยู่บนเกวียนควบคุมสีหน้าปีติยินดีไว้ไม่อยู่ การค้าขายเนื้อตากแห้งทำสำเร็จลุล่วง หมายความว่าภายในระยะยาว่หนึ่ง สกุลหูจะสามารถมีรายได้ที่มั่นคงแล้ว
สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ย่อมเป็การซื้อเนื้อเพื่อเตรียมทำอาหารหมักจำนวนมาก หลังเหนียนเสียงหลินทราบว่าเนื้อตากแห้งสามารถวางไว้ในหน้าหนาวได้นาน จึงสั่งใบสินค้าจำนวนมาก เพราะอาหารตากแห้งในคลังสินค้าไม่พอสำหรับเปิดตัว เขาจึงเอาอาหารหมักสกุลหูปิดคลุมไว้ก่อนสองสามวัน แนะนำให้แก่ลูกค้าเก่าจำนวนหนึ่งก่อนเป็การชั่วคราว รอให้อาหารหมักชุดถัดไปใกล้ทำเสร็จ ค่อยเปิดตัวอาหารหมักแบบใหม่อย่างเป็ทางการ
“เจินจู เ้าของร้านเหนียนสั่งกุนเชียงสองร้อยชั่ง เนื้อตากแห้งหนึ่งร้อยชั่ง ครั้งก่อนพวกเราทำไว้ห้าสิบชั่ง เช่นนั้นยังต้องซื้อเนื้อเพิ่มอีกสองร้อยห้าสิบชั่ง นั่นคงหนักมากเลย ไม่รู้ว่าลูกวัวตัวนี้จะลากไหวไหม?” ในใจหวังซื่อทั้งยินดีทั้งกังวล สั่งอาหารหมักรวดเดียวมากมายเช่นนี้ คนทั้งบ้านคงต้องยุ่งกันแย่แน่ๆ
“ท่านย่า ไม่อาจคำนวณเช่นนั้นได้นะเ้าคะ หลังตากแห้งเนื้อสดหนึ่งร้อยชั่งไปแล้วจะเหลือประมาณเจ็ดสิบชั่งได้ ดังนั้นต้องทำเนื้อที่ตากแห้งแล้วให้ได้มากกว่าแปดสิบชั่งจึงจะพอ กุนเชียงครั้งก่อนกรอกเพียงสี่สิบชั่ง หลังตากแห้งกุนเชียงแล้วจะเหลือแค่ยี่สิบแปดชั่ง จำนวนนี้ยังขาดอีกมากเลย นี่เป็เพียงปริมาณกุนเชียงเอง เนื้อตากแห้งยังต้องคำนวณแยกอีกนะเ้าคะ” เจินจูคำนวณทีละอย่างออกมา เนื้อสามร้อยชั่งล้วนไม่พอแน่นอน แต่ไม่ต้องซื้อเนื้อหมดในครั้งเดียว “วันนี้พวกเราซื้อไปก่อนสองร้อยชั่ง พรุ่งนี้ท่านลุงเข้ามาส่งอาหารหมัก ตอนขากลับค่อยซื้ออีกสองร้อยชั่ง รวมกับที่หมักไว้แต่เดิมก็พอประมาณแล้ว”
หวังซื่อฟังไปด้วยพยักหน้าไปด้วย ยอมซื้อมากหน่อยเพื่อไปตระเตรียมไว้ และไม่ควรกรอกในปริมาณที่น้อย หากถึงเวลาส่งแล้วจำนวนน้ำหนักไม่พอ เช่นนั้นก็คงจะว้าวุ่นใจ
น้ำหนักเนื้อมากเกินไป ไม่รู้ว่าลูกวัวจะลากไหวหรือไม่ แบ่งซื้อสองครั้ง น้ำหนักเบาลงไปได้บ้าง
เนื้อทั้งหมดนั้นก็สี่ร้อยชั่งแล้ว หูฉางหลินฟังจนอ้าปากค้าง นั่นเป็ปริมาณหมูสองตัวเลยเชียวนะ หูฉางหลินตื่นเต้นจนมือสั่นไปหมด
“ท่านพี่ เช่นนั้นเรารีบซื้อกลับไปเร็วหน่อยเถิด ข้ารับผิดชอบขูดลอกไส้เล็กเอง จะชำระให้สะอาดอย่างแน่นอน” ผิงอันตบหน้าอกเล็กเบาๆ วันนี้เขาตามเข้าเมืองมาด้วยรู้สึกว่าได้เปิดหูเปิดตาเกินคาด เ้าหนุ่มน้อยกำลังตื่นเต้นดีใจที่อาหารหมักของบ้านตนขายได้ราคาดี เจินจูกล่าวว่ารอจนเงินที่บ้านเก็บพอแล้ว ตอนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิจะส่งเขากับผิงซุ่นสองคนไปเล่าเรียนโรงเรียนส่วนตัวในหมู่บ้านต้าวัน
คำพูดของผิงอันทำให้พวกหวังซื่อสามคนหัวเราะขึ้นมา ใช่แล้ว ตราบใดที่ทั้งบ้านพร้อมใจทำงานร่วมกัน เนื้อสี่ร้อยชั่งจะเท่าไรกันเชียว
ตลาดถนนคับแคบเกวียนวัวไม่เหมาะที่จะเข้าไป หูฉางหลินจึงรออยู่ข้างทาง มีแผงร้านขายของอยู่ด้านหนึ่งพอดี หวังซื่อให้เขาพาผิงอันไปหาอะไรทานระหว่างรอ ส่วนนางกับเจินจูก็กินซาลาเปาเนื้อแล้วไปซื้อของ
พวกนางวิ่งไปร้านขายของจิปาถะก่อนหนึ่งรอบ เนื้อสี่ร้อยชั่งแค่เกลือก็เกือบจะสิบหกชั่งแล้ว คิดเช่นนี้เจินจูก็ปวดหัวเล็กน้อย ยังต้องคำนวณปริมาณเครื่องเทศแต่ละอย่างอีก ได้เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้ว ซื้อเครื่องชั่งก่อนค่อยว่ากัน
หลังซื้อรายการหนึ่งฉบับใหญ่ในมือ เงินที่เพิ่งได้มาก็จ่ายออกไปแล้วหนึ่งในสามส่วน หวังซื่อนับเงินที่จ่ายออกอย่างปวดใจ อดบ่นในใจไม่ได้ว่าเงินนี่จ่ายมากไปแล้วจริงๆ
ออกจากร้านขายของจิปาถะ หวังซื่อมองสีท้องฟ้าก็บ่ายแล้ว ดังนั้นทั้งสองคนจึงแยกย้ายกันไป หวังซื่อหยิบใบรายการเครื่องเทศที่เขียนมาดีแล้วจากบ้านไปร้านสมุนไพรเฉินจี้ เพื่อเป็การป้องกันการขาดเหลือที่ไม่คาดคิดในภายหลัง เจินจูจึงเพิ่มเครื่องปรุงยาจีนที่ไม่จำเป็ต้องใช้สองสามอย่างลงไปด้วย เช่น เก๋ากี้ สายน้ำผึ้ง [1] ดีบัว ลำไย เป็ต้น สิ่งเหล่านี้สามารถใช้ชงชาและตุ๋นน้ำแกงได้ไม่สิ้นเปลือง ล้วนเป็วิธีที่ตัวละครในนิยายและละครแต่ก่อนใช้กัน ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งตนเองจะได้ใช้ด้วย เจินจูคิดเยาะหยันตัวเองเล็กน้อย
ทางด้านเจินจูนั้นไปเลือกซื้อเนื้อที่ร้านขายเนื้อด้วยตนเอง ระหว่างทางนางเดินๆ หยุดๆ เลยเที่ยงตรงไปแล้วกลุ่มคนในตลาดก็ค่อยๆ กระจัดกระจายกัน ตลาดที่คึกคักจึงเงียบสงบลงไม่น้อย
เจินจูมองเนื้อบนเขียงของร้านขายเนื้ออย่างเป็กังวลนิดหน่อย ทุกแผงล้วนเหลืออยู่มาก แต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยเช่นนี้ต่อราคาไม่ได้เลย นางมองไปรอบๆ หนึ่งรอบ ทันทีหลังจากนั้นจึงเดินไปหน้าร้านขายเนื้อที่รู้จักเป็อย่างดี เ้าของแผงเห็นเด็กสาวตรงหน้าค่อนข้างคุ้นตา นี่ไม่ใช่แม่นางตัวน้อยที่เหมาแผงขายเนื้อหมูทั้งหมดของเขาครั้งก่อนหรือ ไม่กี่วันก่อนย่าของนางก็มาซื้อเนื้อที่ร้านของเขาทั้งหมดจนเกลี้ยง ครอบครัวพวกเขาล้วนเป็ลูกค้ารายใหญ่เลย
“นี่ แม่นางน้อย เหตุใดวันนี้เ้ามาคนเดียวเล่า?” เ้าของแผงร่างกายแข็งแรงบึกบึน เอวโก่งเล็กน้อย ถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีท่านอา ท่านย่าข้าซื้อของอยู่ข้างหลัง อีกเดี๋ยวก็มา” เจินจูยิ้มแล้วกล่าวตอบ
“โอ้” สายตาเขาสว่างขึ้น วันนี้บนแผงยังเหลือเนื้อไม่น้อย ที่ยังเหลืออยู่เป็เนื้อแดงมากเนื้อมันน้อย อีกอย่างพวกเขาล้วนเหมาเนื้อทั้งหมดทุกครั้งด้วยความยินดี แต่ไม่กี่วันก่อนเพิ่งซื้อเนื้อไปมากเช่นนั้น ขณะนี้น่าจะยังทานไม่หมดกระมัง “เช่นนั้นวันนี้พวกเ้ายัง้าซื้อเนื้อหรือไม่?”
“ซื้อสิเ้าคะ!” เจินจูหัวเราะ “แถมยังต้องซื้อจำนวนมากด้วย ท่านอา เนื้อเหล่านี้ของท่านอาจจะไม่พอ”
“อ่า…” เมื่อเ้าของแผงได้ฟังตกตะลึงทันที เขากวาดตามองเนื้อที่กองอยู่บนแผง กล่าวได้ว่ามีอย่างน้อยห้าสิบหกสิบชั่ง เนื้อเหล่านี้ไม่พอ? หากไม่ใช่ว่าเคยทำการค้าขายด้วยกันมาสองครั้ง เขาคงคิดว่าเด็กสาวผู้นี้กล่าวล้อเล่นกับเขาแล้ว
“เช่นนั้น… วันนี้พวกเ้า้าเนื้อทั้งหมดกี่ชั่งหรือ?” มองดูเสื้อผ้าของครอบครัวพวกนางที่เรียบง่ายไม่เหมือนคนตระกูลร่ำรวย เหตุใดทุกครั้งจึงซื้อเนื้อเยอะเพียงนี้?
“อื้ม วันนี้้าสองร้อยชั่ง ท่านอา ท่านช่วยรวบรวมให้พอได้หรือไม่เ้าคะ?” บนเขียงของร้านขายเนื้อที่อยู่ด้านข้างยังเหลือเนื้ออยู่ไม่น้อย รวบรวมเข้าด้วยกันน่าจะเพียงพอ
“สองร้อยชั่ง?” เ้าของแผงเนื้อตกตะลึง อดกล่าวถามไม่ได้ “นี่บ้านพวกเ้าจัดฉลองเื่มงคลหรืออย่างไร? เหตุใดซื้อเนื้อมากมายเพียงนั้น?”
“ฮิๆ ย่อมเอาไปใช้ประโยชน์ พรุ่งนี้ท่านลุงข้ายังต้องซื้อเพิ่มอีกสองร้อยชั่งด้วย ล้วนแล้วแต่้าเนื้อแดงมากเนื้อมันน้อย ท่านอา ว่าอย่างไร เนื้อนี่ยังจะขายราคาเดิมให้พวกข้าหรือไม่เ้าคะ?” เจินจูกล่าวยิ้มแย้ม
“พรุ่งนี้ยังซื้ออีกสองร้อยชั่ง?” ในใจเ้าของร้านคำนวณอย่างรวดเร็ว แม้ราคาพวกนางจะกดต่ำมาก แต่เดิมทีราคาของเนื้อแดงมากเนื้อมันน้อยก็ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว คำนวณขึ้นมาเช่นนี้ยังได้กำไรไม่น้อยเลย
“เ้าค่ะ ท่านอา วันนี้ท่านช่วยพวกข้ารวบรวมเนื้อให้เพียงพอก่อน พรุ่งนี้พวกข้ายังจะมาซื้อเนื้อของร้านท่านอีก” ทำการซื้อขายกับเขาเรียบร้อย ให้เขาช่วยรวมเนื้อทั้งหมดของไม่กี่ร้านให้ครบจะได้ไม่ต้องต่อราคาเองทีละร้าน
“ได้สองร้อยชั่ง ใช่หรือไม่? ข้าจะชั่งเนื้อพวกนี้ของข้าให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปรวบรวมเป็เลขกลมๆ อย่างเพียงพอมาให้เ้า” เ้าของแผงเนื้อยิ้มแล้วรีบจัดการขึ้นทันที ชั่งเนื้อของร้านตนเองว่าได้จำนวนกี่ชั่งแล้วก็วางกองไว้ด้านข้าง
“ท่านอา บ้านข้า้าเพียงเนื้อแดงมากเนื้อมันน้อยเล่า พวกเนื้อมันมากๆ พวกนั้นไม่เอานะเ้าคะ” เจินจูเตือนอีกรอบ
“วางใจได้ อาทราบแล้ว” เ้าของร้านตอบกลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เดิมทีที่เหลืออยู่ก็เป็เนื้อแดงมาก หากบ้านนาง้าซื้อเนื้อแดงมากเนื้อมันน้อยสองร้อยชั่ง ตามราคานี้เขาคงต้องพิจารณาลดให้มากหน่อยแล้ว
เื่ราวดำเนินไปอย่างราบรื่น แผงขายหมูบริเวณนั้นล้วนเป็คนคุ้นเคย เ้าของร้านเพียงกล่าวมาสองสามประโยค ก็รวบรวมเนื้อได้ครบอย่างรวดเร็ว
ตามความเห็นของเจินจู เนื้อทั้งหมดเยอะเกินไปควรแบ่งเนื้อเป็ห้าส่วน วางกองส่วนละสี่สิบชั่ง ตอนนำมาใช้จะได้วางแยกกันเพื่อง่ายต่อการทำ และตอนหมักก็แบ่งเครื่องเทศสะดวก เนื้อหนึ่งกองในนั้นก็เป็เนื้อที่คัดออกมาทำเนื้อตากแห้งโดยเฉพาะด้วย
หลังชั่งเนื้อเสร็จแล้ว เจินจูยังให้ท่านอาร้านเนื้อช่วยซื้อไส้เล็กทั้งหมดติดมือกลับมา ราคาถูกมากนัก มีแม้กระทั่งให้มาฟรี แล้วยังมีบางร้านเหลือมาจากเมื่อวานก็ให้มาด้วย แต่เมื่อรวบรวมแล้วได้เพียงหนึ่งห่อ ยังห่างจากจำนวนที่้าอีกมากนัก
ผ่านไปสักครู่ หวังซื่อแบกตะกร้าไผ่สานเปล่ามาหาที่แผงขายหมู นางเอาของที่ซื้อมากลับไปวางบนเกวียนวัวก่อนแล้ว มองเจินจูที่จัดการเื่ราวเรียบร้อย อดปลื้มใจไม่ได้ หลานสาวผู้นี้ของนางเฉลียวฉลาดว่องไว แม้อายุยังน้อยกลับจัดการเื่ราวได้สุขุมพึ่งพาได้ ทำให้คนหมดห่วงนัก
เนื้อสองร้อยชั่ง ชั่งละสิบสามเหวิน เป็เงินสองพันหกร้อยเหวิน หวังซื่อหยิบถุงเงินจากในอกออกมาด้วยความระมัดระวัง ควักเงินออกมาสองเหลียง แล้วค่อยนับเงินหกร้อยเหวินอีกครั้ง ส่งให้กับเถ้าแก่ร้านขายเนื้อ
“พี่สะใภ้ เงินนี่พอดี ไส้เล็กไม่กี่ห่อนั่นข้าไม่คิดเงินพวกท่านแล้ว แล้วก็กระดูกไม่กี่ชิ้นนี้ล้วนเพิ่มให้พวกท่าน” เ้าของแผงใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วเอากระดูกไม่กี่ชิ้นที่วางบนแผงใส่เข้าไปในตะกร้าไผ่สานของพวกนาง “พี่สะใภ้ ข้าแซ่หลี่ ผู้อื่นล้วนเรียกข้าว่าหลี่ซานเตา พรุ่งนี้พวกท่าน้าเนื้อสองร้อยชั่ง ข้าจะเตรียมเก็บไว้ให้พวกท่าน”
“เยี่ยม เช่นนั้นก็ขอบคุณมากแล้ว บ้านข้าแซ่หูเป็คนหมู่บ้านละแวกนี้ พรุ่งนี้เที่ยงตรงพวกข้าจะเข้ามา เถ้าแก่หลี่อย่าลืมเก็บไว้ให้พวกข้าเล่า” บ่ายวันนี้กลับไปหั่นเนื้อทำการหมักให้เรียบร้อย พอเช้าพรุ่งนี้มาซื้อเนื้อกลับไปตอนบ่ายก็ทั้งกรอกไส้ทั้งหั่นเนื้อ เกรงว่าสองสามวันนี้บ้านสกุลหูทุกคนล้วนต้องยุ่งไม่หยุดแน่
“อื้ม พี่สะใภ้หู เก็บไว้ให้พวกท่านอย่างแน่นอน” หลี่ซานเตาร่าเริงอยู่ในใจ อาศัยเพียงสกุลหูรายใหญ่รายเดียวนี้ เขาก็หาเงินได้ไม่น้อยแล้ว
“ท่านอาหลี่ บ่ายวันนี้ท่านช่วยพวกข้าเก็บไส้เล็กของร้านขายเนื้อทั้งหมดไว้หน่อยนะเ้าคะ พรุ่งนี้พวกข้ามาจะได้คำนวณเงินทั้งหมดให้ท่านเลย ไส้เล็กของพรุ่งนี้เช้าก็เหมือนกันล้วนเก็บไว้ด้วย พวกข้า้าทั้งหมด ขอบคุณนะเ้าคะ” เห็นได้ชัดว่าไส้เล็กมีปริมาณไม่พอ กุนเชียงหลายร้อยชั่ง อย่างไรก็ล้วนต้องตระเตรียมไว้มากหน่อย
“ได้ อาจะเก็บทั้งหมดไว้ให้พวกเ้า” หลี่ซานเตาตอบอย่างสบายๆ ของเหล่านี้เดิมทีไม่มีผู้ใดซื้อ ช่วยพวกนางเก็บไว้เพื่อแสดงน้ำใจมากหน่อย ซื้อเนื้อครั้งหน้าเป็ธรรมดาที่จะต้องมาหาเขา
เนื้อหมูสองร้อยชั่งย่อมหนักมากเป็เื่ปกติ หวังซื่อฝืนแบกตะกร้าไผ่สานหนึ่งใบขึ้นมาแล้วสั่งเจินจูให้รออยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวให้หูฉางหลินมาเอา หลี่ซานเตาเห็นสภาพนั้นจึงให้คนรู้จักที่อยู่ข้างๆ ช่วยเฝ้าร้านให้ แล้วช่วยขนไปส่งให้พวกนางด้วยความกระตือรือร้น
เกวียนวัวอยู่นอกตลาดใกล้มากนักไม่นานก็มาถึงแล้ว ยกเนื้อที่หนักหน่วงขึ้นไว้บนเกวียนด้วยความระมัดระวัง หลังขอบคุณหลี่ซานเตา คนหนึ่งกลุ่มจึงขับเคลื่อนเกวียนวัวเหยียบไปบนทางกลับบ้านด้วยความเชื่องช้า
เนื่องจากลากสินค้าหนัก หูฉางหลินไม่กล้าเร่งวัวเร็วเกินไปนัก กลัวว่าจะทำให้ลูกวัวอ่อนล้า จึงะโลงจากเกวียนวัวเดินเท้าอยู่บนถนนเป็ระยะๆ
แม้หวังซื่อจะกระวนกระวายใจอยากกลับไปให้เร็ว แต่ก็กลัวว่าจะทำให้วัวเหนื่อย ลูกวัวเลี้ยงอยู่ที่บ้านเก่ามาระยะหนึ่งแล้ว ถึงรูปร่างจะแข็งแรงบึกบึนไม่น้อย แต่อย่างไรเสียก็ยังเล็กไม่กล้าให้มันทำงานหนักเกินไป
สีของท้องฟ้าปลอดโปร่ง ผิงอันกับเจินจูเกิดสนใจลงจากเกวียนมาเดินเท้าตามหูฉางหลินอยู่บ่อยๆ วิ่งเต้นเก็บดอกไม้ เล่นพันหญ้าต่อกันให้ยาวหยอกล้อกันพักหนึ่ง จนกระทั่งพวกนางกลับถึงบ้านพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ลาลับลง
เชิงอรรถ
[1] สายน้ำผึ้ง เป็ไม้เลื้อยออกดอกตลอดปี อีกทั้งเป็สมุนไพรที่สามารถช่วยดูแลสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจได้ ตัวอย่างตำรับพื้นบ้าน แก้ร้อนใน ช่วยขับพิษร้อนในร่างกาย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเื ขับปัสสาวะ เป็ต้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้