ที่แท้ไม่ใช่จวินหวง หากว่าเป็จวินหวงจะพบหน้าแล้วจำกันไม่ได้ได้อย่างไร
ฉีอวิ๋นนิ่งอึ้งไป มือคลายออกโดยไม่รู้ตัว จวินหวงจึงถือโอกาสนี้ขืนตัวจนหลุดจากพันธนาการของฉีอวิ๋น
"เ้าเป็ใครกันแน่? แล้วเ้ารู้ได้อย่างไร?" ฉีอวิ๋นมองเฟิงไป๋อวี้สายตาเย็นะเื สีหน้าอึมครึมเคียดขึ้งราวกับจะคั้นน้ำออกมาได้ในชั่วพริบตา ไม่รู้ว่าเป็เพราะผิดหวังหรือโกรธเคืองเื่อื่นๆ
"ข้าพระองค์ยินดีช่วยเหลือฝ่าพระบาท่ชิงราชบัลลังก์ จะทำให้ผู้ที่เคยทำร้ายพระองค์พวกนั้นทุกข์ทรมานยิ่งกว่าการตาย!" จวินหวงคุกเข่ากับพื้น น้ำเสียงหนักแน่น
"อาศัยเ้าน่ะหรือ?" ฉีอวิ๋นหัวเราะเย้ยหยัน ดูิ่เหยียดหยามอย่างที่สุด
แก้แค้น? พูดง่าย เขาคิดแก้แค้นมาสิบกว่าปี แต่ตลอดมากลับไม่เคยหาโอกาสได้เลย บุรุษอ้อนแอ้นบอบบางที่อยู่ต่อหน้าผู้นี้ถึงกับกล้าเอ่ยวาจาสามหาวว่าจะแก้แค้นแทนเขาอย่างนั้นหรือ?
จวินหวงไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ฉีอวิ๋นเชื่อตนเองในบัดเดี๋ยวนี้ นางล้วงเข้าไปในอกเสื้อแล้วหยิบหยกพกติดกายออกมา "องค์ชายจำของชิ้นนี้ได้หรือไม่?"
ฉีอวิ๋นหน้าถอดสี ฉวยหยกพกมาทันที สายตาที่มองจวินหวงส่อเจตนาสังหารอย่างไม่อำพราง "เ้าเป็ใครกันแน่?"
จวินหวงทอดถอนใจออกมาคราหนึ่ง "ในอดีตองค์ชายเคยเสด็จไปเป็ทูตอยู่ที่ซีเชว่ มีสัมพันธ์อันดีกับองค์หญิงซีเชว่ ก่อนจากกันได้มอบหยกพกชิ้นนี้ไว้ให้ องค์หญิงทรงรำลึกถึงองค์ชาย ทรงกังวลถึงสถานการณ์ขององค์ชายในเป่ยฉีตลอดมา น่าเสียดาย จนองค์หญิงถึงคราสิ้นพระชนม์ ก็มิได้พบหน้าองค์ชายสักครั้ง"
"เ้าเป็ผู้ภักดีต่อราชวงศ์เก่าซีเชว่หรือ?" ฉีอวิ๋นตกตะลึง
"ข้าพระองค์เป็องครักษ์ข้างกายของอดีตองค์หญิงซีเชว่ ตอนนี้ซีเชว่ล่มสลายไปแล้ว ข้าพระองค์ยินดีช่วยพระองค์ขึ้นเป็จักรพรรดิ" ทุกคำทุกประโยคของจวินหวง กล่าวด้วยความปวดร้าว "ขอเพียงแค่วันใดที่องค์ชายได้ขึ้นครองราชบัลลังก์ ขอทรงเห็นแก่พระพักตร์องค์หญิง แก้แค้นให้กับซีเชว่ด้วย!"
"จวินหวงนาง... ได้อย่างไร?" เสียงของฉีอวิ๋นสั่นเล็กน้อย
"องค์หญิง... ถูกทัพตงอู๋บีบบังคับจนตกหน้าผาสิ้นพระชนม์" ในระหว่างที่สติล่องลอย จวินหวงรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปวันที่ซีเชว่สิ้นแผ่นดิน
วันนั้นดวงตาของนางเห็นความตายอันน่าอเนจอนาถของพระบิดา เห็นพระมารดากระทำอัตนิวิบาตหน้าบัลลังก์ ตนเองถูกพระเชษฐาแท้ๆ บีบบังคับให้ะโหน้าผา
ตอนนี้์ยังให้นางมีชีวิตอยู่ หนี้แค้นที่นางแบกรับหากมิได้สะสาง จะมีหน้ากลับสู่ซีเชว่อันเป็มาตุภูมิได้อย่างไร
ชั่วเวลาหนึ่ง ภายในกระโจมเงียบลงโดยฉับพลัน
ในที่สุดก็ยังคงเป็ฉีอวิ๋นที่ทำลายความเงียบลงก่อน "ที่เ้ามาหาข้า หมายความว่าเ้ามีแผนดีๆ แล้ว?"
เขามองเห็นแววตาของเฟิงไป๋อวี้ซับซ้อนอย่างมาก จวินหวงเป็สหายเพียงคนเดียวของเขาใน่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ชั่วพริบตาที่ได้ยินว่าซีเชว่ล่มสลายแล้ว เขาก็กังวลถึงจวินหวงอยู่ตลอด รู้ทั้งรู้ว่าจวินหวงมีโอกาสตายถึงเก้าส่วน แต่ก็ยังหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
แต่ตอนนี้... ในที่สุดเขาก็ได้ยินข่าวการตายของจวินหวงเองกับหู ในใจรู้สึกอัดอั้นหมดอาลัยตายอยาก
จวินหวงกำจัดอารมณ์ฟุ้งซ่านในหัวทิ้งออกไปก่อน ตั้งสติให้มั่นแล้วอธิบายแผนการของตนเองอย่างละเอียด
ก่อนออกเดินทาง นางได้เสนอแผนการให้เฉินอ๋อง ให้คนของเฉินอ๋องปล่อยงูพิษไปกัดองค์จักรพรรดิในระหว่างการเดินทาง ถึงเวลานั้นเฉินอ๋องเอาตัวเข้าไปขวางไว้ ยอมอุทิศชีวิตเพื่อปกป้องจักรพรรดิ เมื่อเป็เช่นนี้องค์จักรพรรดิจะต้องเห็นคุณค่าของฉีเฉินแน่นอน
แต่สิ่งที่ฉีอวิ๋นต้องทำก็คือในระหว่างที่ฉีเฉินต้องพิษ หลังจากที่จักรพรรดิพาเขากลับมาที่วังหลวงแล้ว ให้เขาเอายาเม็ดไปช่วยฉีเฉินไว้ รอจนกระทั่งฉีเฉินฟื้นแล้ว ค่อยจากไปอย่างเงียบๆ
"แม้ว่าเฉินอ๋องจะช่วยชีวิตฝ่าาไว้ แต่ฝ่าาไม่ใช่คนโง่ จะต้องเกิดความระแวงสงสัยแน่นอน แต่องค์ชายเสวยพระโอสถมานานปี ย่อมมียาถอนพิษพกติดกายเป็เื่ปกติ หลังจากพระองค์ช่วยเฉินอ๋องให้ฟื้นขึ้นแล้วถอนตัวออกมาเงียบๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้ฝ่าาทรงประทับใจที่ทรงช่วยเหลือพี่น้อง"
"หลังจากนี้ เ้ายังมีแผนอะไรอีก?" เฉินอ๋องหรี่ตาลง ในใจอดที่จะประเมินจวินหวงสูงขึ้นเล็กน้อยไม่ได้
เดิมทีเขาคิดว่าคนผู้นี้อ้อนแอ้นบอบบาง แต่ไม่คิดว่าจะเป็คนเ้าแผนการเช่นนี้ เขาประกาศศักดาว่าจะช่วยเหลือตนเอง หลังจากมาถึงเมืองหลวงเป่ยฉี กลับไปฝากตัวกับจวนเฉินอ๋องก่อน หากบอกว่าไม่มีแผน ฉีอวิ๋นย่อมไม่เชื่อเด็ดขาด
จวินหวงริมฝีปากคลี่ยิ้ม แต่ก็ไม่ปิดบัง "ตอนนี้ในบรรดาองค์ชายแคว้นเป่ยฉี มีแค่รัชทายาทกับเฉินอ๋องฉีเฉินที่มีอำนาจมาก ก็เพียงแค่ให้พวกเขาสู้กันจนสูญเสียทั้งสองฝ่าย ถึงจะเป็โอกาสให้กับองค์ชาย"
"เร็วเข้า! เร็วเข้า! ในเขตล่าสัตว์เกิดเื่แล้ว!"
"หมอหลวงล่ะ! รีบไปตามหมอหลวงมาเร็วๆ!"
ในขณะนั้นจู่ๆ นอกกระโจมก็มีเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ จวินหวงกับฉีอวิ๋นสบตากันครั้งหนึ่ง จวินหวงมอบยาเม็ดให้หนึ่งเม็ด "องค์ชาย ข้าคาดว่าองค์ชายรองต้องทำงานสำเร็จแล้วแน่นอน พระองค์เพียงแค่เข้าวังตอนเที่ยงไปมอบยาให้ก็พอ
ฉีอวิ๋นหรี่ตาลงรับยามา สีหน้ายากจะคาดเดา องค์ชายถูกพิษ เื่ใหญ่ขนาดนี้ การล่าสัตว์ของราชวงศ์ย่อมไม่อาจดำเนินต่อไปได้อีก
จักรพรรดิพาองค์ชายรองกลับเข้าวังหลวงทันที สถานการณ์ที่จวินหวงสร้างขึ้นลุล่วงไปด้วยดี เหลือเพียงแค่กลับจวนเฉินอ๋องไปรอฟังข่าวอยู่เงียบๆ ก็พอ
ณ วังหลวง เวลาเที่ยงวัน
"เ้าพวกไร้ประโยชน์ สามชั่วยามเข้าไปแล้ว เฉินเอ๋อร์ยังไม่ฟื้นอีก" เสียงฉีเชียงทุบโต๊ะดังปัง ถ้วยชาบนโต๊ะตกลงพื้นแตกกระจาย
"ใต้ฝ่าพระบาททรงระงับโทสะด้วย พิษที่เฉินอ๋องทรงได้รับเป็พิษประหลาดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต กระหม่อมกำลังพยายามคิดหาวิธีอยู่พ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงคุกเข่าตัวสั่นงันงก ร้องขอให้ละเว้นชีวิต
"แม้แต่โอรสของเรายังช่วยไม่ได้ แล้วเราจะเลี้ยงพวกเ้าไว้เพื่อประโยชน์อันใด?" ฉีเชียงกริ้วจัด ร้อนใจเหมือนถูกไฟเผา
ตอนที่เขาล่าสัตว์อยู่ในเขตปิด จู่ๆ ก็มีงูพิษโผล่ออกมาตัวหนึ่ง หากไม่ใช่ว่าฉีเฉินยอมเอาชีวิตเข้าแลกปกป้องเขาไว้ เกรงว่าคนที่ต้องอยู่บนเตียงไร้ยารักษาชีวิตในตอนนี้ก็คือเขาแล้ว
"ใต้ฝ่าพระบาท องค์ชายสี่อยู่นอกตำหนักขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ" ขันทีผู้หนึ่งวิ่งโกยเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วทูลรายงานอย่างระมัดระวัง ด้วยเกรงว่าจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
"เฉินเอ๋อร์สลบยังไม่ฟื้น เขามาทำอะไร? ไม่พบ!" จักรพรรดิกำลังทรงหงุดหงิดรำคาญพระทัย จึงออกโอษฐ์ปฏิเสธไป
"ฝ่าา องค์ชายสี่กล่าวว่าทรงมีโอสถที่สามารถช่วยชีวิตเฉินอ๋องได้" ในใจของขันทีรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ยังพูดออกมาจนได้
"เขาจะมียาอะไรได้?" แม้คำพูดจะกล่าวออกมาเช่นนี้ แต่จักรพรรดิก็ยังให้ฉีอวิ๋นเข้ามา
"ถวายบังคมเสด็จพ่อ" ฉีอวิ๋นไม่รอช้า นำยาเม็ดขึ้นมาถวายโดยตรง "เสด็จพ่อ ลูกเจ็บป่วยมานาน ข้างกายมักจะมีหยูกยาเตรียมไว้ทุกชนิด บังเอิญว่าได้โอสถที่สามารถแก้พิษได้นับร้อยชนิดมาเม็ดหนึ่ง ได้ยินว่าเสด็จพี่รองถูกพิษ จึงรีบนำยามามอบให้เป็การเฉพาะ
"เ้าช่างมีน้ำใจ" ฉีเชียงผงกศีรษะให้ขันทีไปรับยาเม็ดมาจากมือของฉีอวิ๋น
ขันทีก็ไปหาน้ำมาแล้วป้อนยาเม็ดให้เฉินอ๋อง ผู้คนภายในห้องต่างสังเกตอาการของฉีเฉินอย่างใกล้ชิด
แต่เพียงแค่หนึ่งเค่อ ใบหน้าของฉีเฉินที่แทบจะไร้สีเืก็ค่อยๆ กลับมามีเืฝาด เห็นได้ชัดว่ายาเม็ดได้ผลจริงๆ
ทุกคนขณะนี้เหมือนเห็นทางสว่าง จักรพรรดิรับสั่งเสียงดุดัน "หมอหลวง!"
หมอหลวงรีบเข้าไปตรวจชีพจรฉีเฉินทันที ความรู้สึกยินดีค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้า "ฝ่าา พิษที่อยู่ภายในร่างกายของเฉินอ๋องถูกกำจัดจนหมดสิ้นแล้ว ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เฉินอ๋องต้องฟื้นขึ้นมาแน่นอน!"
"ประเสริฐ!" จักรพรรดิทรงยินดีเป็อย่างยิ่ง "อวิ๋นเอ๋อร์ช่วยเหลือพระเชษฐามีความชอบ เราจะปูนบำเหน็จรางวัลให้เ้าอย่างงาม เ้าอยากได้อะไรบอกมาได้เลย!"
ฉีอวิ๋นส่ายหน้า "เสด็จพ่อ ลูกช่วยเสด็จพี่รอง เป็เื่ที่สมควรอยู่แล้ว ลูกไม่ขอรับรางวัลใดๆ ในเมื่อเสด็จพี่รองไม่เป็อะไรแล้ว เช่นนั้นลูกขอทูลลาไปก่อนพ่ะค่ะย่ะ"
"นับว่าเ้ารู้จักคิด!" พอจักรพรรดิได้ยินฉีอวิ๋นกล่าวเช่นนี้ สายพระเนตรที่มองฉีอวิ๋นพึงพอใจอย่างยิ่ง "รางวัลอย่างไรก็ต้องให้ เด็กๆ ให้รางวัลองค์ชายสี่หนึ่งพันตำลึงทอง แพรไหมหนึ่งร้อยพับ"
ฉีอวิ๋นไม่ปฏิเสธอีก คุกเข่าลงกล่าวขอบคุณในพระกรุณา "ขอบพระทัยเสด็จพ่อ"