ตัวประหลาดหัวม้าร่างมนุษย์ปรากฏขึ้น ทำให้ทุกคนในที่นี้หยุดนิ่งอยู่กับที่
สำหรับคนที่นี่แล้ว หม่าเมี่ยนคือเทพของโลกนี้ เป็เทพที่มิอาจเทียบเคียงได้
“เ้าช่างหาเื่ให้ข้าจริงๆ”
เสิ่นเสวียนมองหม่าเมี่ยนด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ กว่าจะเรียกได้ครั้งหนึ่งไม่ใช่เื่ง่ายเลย
บนท้องฟ้าในอาณาเขตทะเลไร้ชื่อแห่งหนึ่งในทวีปหลิงโซ่ว มีคนสวมชุดคลุมสีทองยืนอยู่กลางอากาศ
ผ้าคลุมขนาดใหญ่ปกคลุมใบหน้าไปกว่าครึ่ง มองเห็นแค่ปากของเขาเท่านั้น
เขาไว้หนวดเป็ทรงจั่ว มีไฝเหนือมุมปากซ้าย ไฝเม็ดนี้ไม่ได้ลดความน่าเกรงขามลง ในทางกลับกันยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์มากกว่าเดิม
บนร่างของเขาเปล่งประกายแสงทองออกมาอยู่ตลอดเวลา
เขากำลังสังเกตลงไปใต้น้ำทะเล เบื้องล่างมีปลาเขี้ยวแหลมสามตัวกำลังไล่ล่าปลาอีกตัวหนึ่งอยู่ ผ่านไปไม่นานทั้งสองฝ่ายได้รับาเ็หนักและตายไปแล้วสองตัว
นั่นคือปลาเขี้ยวแหลมตัวหนึ่งและปลาที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามตัวนั้น
กล่าวได้ว่าเป็การต่อสู้แบบสามต่อหนึ่ง และยังสังหารได้สำเร็จอีกด้วย
หรือกล่าวได้ว่าตัวหนึ่งเข้าท้าทายสามตัว จึงโดนสังหารไป
แต่ตอนที่กำลังแย่งชิงร่างของปลาตัวนั้น ปลาเขี้ยวแหลมสองตัวที่ยังมีชีวิตอยู่เกิดขัดแย้งกัน จึงเข่นฆ่ากันเอง
“ปลาสามตัวมีเนื้อกิน ปลาสองตัวไม่มีเนื้อกิน สัจธรรมง่ายๆ แค่นี้ ทำไมข้าถึงไม่เข้าใจนะ!”
คนสวมชุดคลุมสีทองมองปลาสองตัวที่กำลังาเ็พลางกล่าวพึมพำ
เสียงของเขาไพเราะและน่าดึงดูดมาก หากในโลกนี้มีการประชันเสียงกัน เขาต้องได้อันดับแรกอย่างแน่นอน
ในขณะที่เขากำลังมองดูปลาสองตัวนั้น พลันมีคลื่นพลังรุนแรงปะทุมาจากทางทิศตะวันออกของทวีป ดึงดูดความสนใจของเขาไปทันที
“เอ๋? คนจากยมโลก พวกเ้ามากฝีมือยิ่งนัก”
เขามองไปยังทิศตะวันออกอันไกลโพ้น มุมปากที่มีไฝกระตุกยิ้มน้อยๆ จากนั้นเขาก็หันกลับมามองปลาสองตัวในน้ำต่อไป
สุดท้ายแล้วปลาเขี้ยวแหลมสองตัวนั้นาเ็หนักทั้งคู่ แล้วก็โดนปลาใหญ่อีกตัวหนึ่งกินไป
ณ เขตกู่ซวีแห่งหุบเขาสุขาวดี
หม่าเมี่ยนปรากฏตัวขึ้นด้วยสีหน้าดุร้ายโเี้ ทำให้ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงที่อวดดีมาตลอดไร้เรี่ยวแรงไปทันที
เขามองหม่าเมี่ยนด้วยร่างกายที่สั่นเทิ้ม
“หึๆ ขอเพียงท่านเซียนเรียกข้าคำเดียวข้าก็ออกมาแล้ว เพียงแต่ท่านไม่ได้ใช้มันเสียนานจึงติดขัดเล็กน้อย ครั้งหน้าจะดีกว่านี้อย่างแน่นอน”
หม่าเมี่ยนแสดงท่าทีเคารพต่อเสิ่นเสวียนอยู่ตลอด
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตะลึงงัน และตื่นใยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้มีเพียงาามารทิศเหนือที่ไม่ได้ตื่นกลัวต่อไอพลังของหม่าเมี่ยนเลย เขายังคงเก็บรวบรวมเศษกระบี่อยู่
นี่คือสิ่งของเพียงอย่างเดียวที่ลูกชายของเขาทิ้งไว้ให้
“ท่านเซียนเรียกข้าน้อยมาเพราะเหตุอันใดหรือ”
อย่าเห็นว่าเขามีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเก้าฉื่อ ตอนที่เขายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเสวียนยังเหมือนเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
ภายในมิติของเสิ่นเสวียน คลื่นพลังจิติญญาพลันสั่นไหวขึ้นเหนือโลงศพสีแดง จากนั้นเสวียนหลิงเอ่อร์ก็เดินออกมา
ดวงตากลมโตของนางกำลังมองด้วยความสงสัย
“แม้แต่หม่าเมี่ยนจากยมโลกยังเรียกออกมาได้ ดูเหมือนข้าต้องพิจารณาเ้าใหม่อีกครั้งแล้ว”
เสวียนหลิงเอ่อร์ยืนกอดอก ใบหน้างามประดับรอยยิ้มน้อยๆ
“ไม่ได้เจอกันนาน อยากเห็นว่าเ้าฝึกฝนเป็อย่างไรแล้วบ้าง ช่วยข้าสังหารคนสักหน่อย”
เสิ่นเสวียนกล่าวเสียงเรียบ เขาไม่มีทางบอกหม่าเมี่ยนหรอกว่าตนเองสังหารอีกฝ่ายไม่ได้ ให้เขาเป็ผู้ช่วยเลยแล้วกัน!
“การสังหารคือสิ่งที่ข้าเชี่ยวชาญที่สุดแล้ว ใช่เขาไหม”
หม่าเมี่ยนหันกลับไปมองผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงที่กำลังตื่นใ พลางกล่าวถามเสิ่นเสวียน
“อืม”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า
“เข้าใจแล้ว ท่านเซียนไม่อยากลงมือเองให้มือของท่านเปรอะเปื้อน ให้ข้าจัดการเอง ข้าเหมาะสมยิ่งกว่า”
หม่าเมี่ยนเข้าใจความคิดของเสิ่นเสวียนในทันที และยังรักษาเกียรติให้เสิ่นเสวียนอีกด้วย กระทั่งคนเบื้องล่างต่างยังคิดว่าเสิ่นเสวียนคือยอดฝีมือคนหนึ่งที่ไม่อยากสังหารใครเพราะความเกียจคร้าน ไม่ใช่ว่าสังหารเองไม่ได้
“เ้าหนุ่ม เ้าจะลงมือเองหรือจะให้ข้าช่วยเ้า”
หม่าเมี่ยนหันไปกล่าวกับผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง
ดูคล้ายสหายเก่าที่รู้จักกันมานานกำลังถามความคิดเห็นของอีกฝ่ายอยู่
“เ้า! เ้าเป็ใคร มาจากไหนกันแน่”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงรวบรวมความกล้าถามหม่าเมี่ยนออกไปทันที
ก่อนหน้านี้พลังของเขาสามารถควบคุมพวกเสิ่นเสวียนได้ แต่ตอนนี้พลังของหม่าเมี่ยนกลับควบคุมเขาได้
ผลกรรมตามสนองได้สำเร็จทุกครั้ง
“ผู้รวบรวมิญญาและกุมชะตาชีวิต พอใจหรือยัง เร็วเข้า อย่าทำให้ข้าลำบากใจนัก ข้าเองก็ไม่อยากทำให้เ้าลำบากใจเช่นกัน”
ในสายตาของหม่าเมี่ยน ความเป็ความตายสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ แต่เมื่อตายไปแล้วจะไม่เหลืออะไรเลย
“เ้ารู้ไหมว่าข้าเป็ใคร ข้าคือผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง เ้าอย่าอวดดีกับข้าจะดีที่สุด”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงกล่าวชื่อของตนเองออกมาเพื่อข่มขู่หม่าเมี่ยน
“บอกใครอย่างนั้นหรือ”
เพียะ!
หม่าเมี่ยนสะบัดฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขา ตบเข้าที่ใบหน้าของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงเสียงดังก้อง
พลังรุนแรงทำให้ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงกลิ้งไปหลายตลบกว่าจะตั้งหลักได้
กระบวนท่าเดียวสามารถตัดสินแพ้ชนะได้ทันที
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงไม่มีพลังตอบโต้กลับไปแม้แต่น้อย
“เ้าหรือคือผู้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ร่างของเ้า”
หม่าเมี่ยนสังเกตเห็นได้ทันที ร่างนี้เป็ร่างปลอม อย่างมากก็ไม่ใช่ร่างของอีกฝ่าย
ร่างปลอมร่างหนึ่งสามารถฝึกฝนจนถึงขั้นเกียรติยศระดับสูงสุดได้ หากว่าเป็เื่จริงจะไปถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ได้คงไม่ใช่เื่ยากนัก
“หากร่างจริงของข้ามาที่นี่ เ้าคงต้องวิ่งหนีไปแล้ว”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงโดนตบหน้ากลับไม่ได้โกรธแค้น เขาไม่อยากทิ้งร่างนี้ไปเลยจริงๆ จะดีกว่านี้หากได้ครองร่างนี้ไปก่อนอีกระยะหนึ่ง นี่ยังเป็ร่างของผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งด้วย พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก เขาไม่มีทางปล่อยให้ร่างนี้ถูกทำลายอย่างเด็ดขาด!
“เ้าช่างปากเก่งเหลือเกิน รีบเรียกร่างจริงของเ้าออกมา ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาอีก”
หม่าเมี่ยนเบื่อหน่ายที่สุดเวลามีคนอื่นมาข่มขู่ คนที่ข่มขู่เขาทุกคน ถ้าไม่ใช่คนที่สู้เขาไม่ได้ ก็กลายเป็ิญญาภายใต้สามง่ามของเขา
อย่าว่าแต่บุคคลในขั้นเดียวกับผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงเลย ต่อให้แข็งแกร่งกว่านี้ก็แหลกสลายไปได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
“ร่างแยกของเ้ามากมายเสียจริง”
เสิ่นเสวียนได้ยินดังนั้นจึงถอนหายใจออกมา เ้านี่เหมือนกระต่ายเ้าเล่ห์ที่ชอบซ่อนตัว คิดดูแล้วเขามีถึงสามชีวิตเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ในสุสาน เขาทำลายไปแล้วหนึ่งชีวิต ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ร่างจริงอีก
ขั้นศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ชื่อเรียกที่เกินจริงเลย เขาเป็ผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งจริงๆ
“สหาย ปล่อยข้าไปสักครั้ง ข้ารับรองว่าจากนี้ไปจะไม่กล้ายั่วยุเ้าอีกแล้ว”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงดูออกว่าเสิ่นเสวียนคือผู้เป็นาย จึงหันไปอ้อนวอนต่อเสิ่นเสวียน
ความสูงส่งและเ็าของผู้ศักดิ์สิทธิ์ จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าอยู่ต่อหน้าใคร
สำหรับคนที่แข็งแกร่งกว่าตนเองแล้ว เขาไม่ได้ต่างอะไรกับหลานชายเลย
“ครั้งหน้า? ยังมีครั้งหน้าอีกหรือ”
เสิ่นเสวียนยิ้มอย่างร่าเริง
“ทำลายจิติญญาของเขา ข้า้าร่างนี้”
เสิ่นเสวียนออกคำสั่งหม่าเมี่ยนในทันที
“ขอรับ”
หม่าเมี่ยนรับคำเสิ่นเสวียนอย่างนอบน้อม จากนั้นร่างของเขาพลันปรากฏขึ้นด้านหลังของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงอย่างน่าประหลาด
ฝ่ามือใหญ่ของหม่าเมี่ยนจับหัวของอีกฝ่ายไว้ราวกับเป็ลูกไก่ในกำมือ
“ไม่! อย่า!”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงดิ้นรนสุดแรง พลางกล่าวไม่เป็ภาษา
ทว่าบนฝ่ามือของหม่าเมี่ยนกลับมีแรงดึงดูดมหาศาลปรากฏขึ้น ค่อยๆ กระชากร่างจิติญญาของอีกฝ่ายออกมาทีละน้อย
เขาตอบสนองรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างิญญาโดนกระชากออกอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ หยุดต่อต้าน ทั่วทั้งร่างอ่อนแรงลงไปทีละน้อย
จากนั้นหม่าเมี่ยนดึงฝ่ามือกลับมา กลุ่มจิติญญาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของหม่าเมี่ยน
นี่ก็คือร่างจิติญญาของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง
“นายท่าน ให้จัดการอย่างไร”
“ทำลายจิตสำนึกให้ข้าที”
“ขอรับ”
หม่าเมี่ยนแสดงพลังเซียนิญญาออกมา เสียงร้องโหยหวนของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงดังออกมาเป็ระยะ กระทั่งเงียบลงไปในตอนสุดท้าย
จากนั้นหม่าเมี่ยนก็มอบกลุ่มจิติญญาที่บริสุทธิ์ให้กับเสิ่นเสวียน
เสิ่นเสวียนมองกลุ่มจิติญญาพลางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่กำลังจะกลืนกินมันเข้าไปกลับมีเสียงของเสวียนหลิงเอ่อร์ดังออกมาจากในมิติ
“มอบเขาให้ข้าได้หรือไม่”
เสียงของนางแฝงนัยขอเจรจาเอาไว้ด้วย
