บทที่ 4: หนทางที่ถูกเลือกและเสียงสะท้อนในความมืด
ในชั่วเสี้ยววินาทีที่เย่เฟิงััได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของศัตรูที่กำลังมุ่งหน้ามา สมองของเขาทำงานด้วยความเร็วสูงสุด
สู้? เป็ไปไม่ได้! กลิ่นอายหนึ่งในสองสายนั้นแข็งแกร่งและหนาแน่นกว่าประมุขมารเทียนหลงที่เขาเคยเผชิญหน้ามาเสียอีก! การปะทะตรงๆ มีแต่จะนำไปสู่ความตายสถานเดียว!
ทางเลือกของเขามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!
"สู้คือตาย หนีอาจจะรอด!"
ความคิดนี้แล่นผ่านเข้ามาในหัว เย่เฟิงไม่ได้ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขาตัดสินใจในทันที เขาหันหลังกลับอย่างรวดเร็วแล้วทะยานร่างเข้าไปในอุโมงค์อีกด้านหนึ่งที่มืดมิดและยังไม่เคยสำรวจมาก่อน โดยในอ้อมแขนของเขายังคงอุ้มร่างที่อ่อนนุ่มของสตรีปริศนาเอาไว้แน่น
ทันทีที่เขาวิ่งลึกเข้าไปในอุโมงค์ได้ไม่นาน...เขาก็ได้ยินเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดดังมาจากห้องโถงที่เขาเพิ่งจากมา
"นางอยู่ที่นี่! กลิ่นอายของนางยังสดใหม่อยู่! นางต้องหนีเข้าไปในนี้แน่ๆ! ตามไป!"
เสียงที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและเกรี้ยวกราดนั้น ทำให้เย่เฟิงมั่นใจว่าตนเองได้ตัดสินใจถูกต้องแล้ว เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น วิ่งลัดเลาะไปตามทางเดินใต้ดินที่สลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต
ถ้ำแห่งนี้ใหญ่กว่าที่เขาจินตนาการไว้มากนัก มันมีทางแยกนับไม่ถ้วนและเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกประหลาด อากาศภายในนั้นเย็นและชื้น และมีเสียงน้ำหยดดังสะท้อนอยู่ในความมืดเป็ระยะๆ
"หลี่เฟย! เ้าเด็กเหลือขอ! ใจเย็นลงหน่อย!" เสียงที่ทุ้มและแก่กว่าดังตามมาติดๆ "ในถ้ำนี้มีกลิ่นอายแปลกประหลาด...มันให้ความรู้สึกที่ไม่ดีแก่ข้า...จงระวังตัวด้วย"
เย่เฟิงที่กำลังวิ่งอยู่ได้ยินบทสนทนานั้นอย่างชัดเจน ชื่อ 'หลี่เฟย' ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด แต่เขาก็ไม่มีเวลามาขบคิดในตอนนี้ เขารู้เพียงว่าศัตรูสองคนกำลังไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ และหนึ่งในนั้นคือยอดฝีมือที่สุขุมและน่ากลัวอย่างยิ่ง
เขาไม่สามารถวิ่งหนีไปเรื่อยๆ ได้ พลังของเขามีจำกัด และสตรีในอ้อมแขนก็เป็ภาระที่หนักอึ้ง เขาต้องหาที่ซ่อน!
สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว และในที่สุดเขาก็พบมัน...รอยแยกแคบๆ บนผนังถ้ำแห่งหนึ่ง มันถูกบดบังด้วยหินงอกขนาดใหญ่ หากไม่สังเกตให้ดีจะไม่มีทางมองเห็นได้อย่างแน่นอน
เขาไม่รอช้า รีบพาร่างของตนเองและสตรีปริศนาแทรกเข้าไปในรอยแยกนั้นทันที มันเป็ช่องที่แคบมากจนเขาต้องตะแคงตัวเข้าไป และเมื่อเข้ามาแล้ว เขาก็พบว่ามันเป็เพียงโพรงเล็กๆ ที่ลึกเข้าไปไม่กี่เชียะเท่านั้น
เขาดับคบไฟในมือทันที กลั้นลมหายใจ และเก็บงำกลิ่นอายของตนเองให้เบาบางที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในอ้อมแขนของเขา สตรีปริศนายังคงหมดสติและมีไอร้อนออกมาจากร่างอย่างต่อเนื่อง
ครู่ต่อมา...เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ สองคู่ วิ่งผ่านหน้าโพรงที่เขาซ่อนตัวอยู่ไป
"บ้าจริง! มันหายไปไหนแล้ว?" เสียงของหลี่เฟยดังขึ้นอย่างหัวเสีย
"จิตััของข้าถูกรบกวนในถ้ำแห่งนี้...กลิ่นอายของนางหายไปแถวๆ นี้...พวกมันต้องยังอยู่ไม่ไกลแน่ แยกกันหา!" เสียงของชายชราดังขึ้นอย่างเด็ดขาด
เสียงฝีเท้าค่อยๆ ห่างออกไปจนเงียบสนิท...เย่เฟิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก...เขารอดพ้นจากอันตรายไปได้ชั่วคราว
บัดนี้...เขาติดอยู่ในโพรงถ้ำที่มืดมิดและคับแคบ พร้อมกับสตรีปริศนาที่กำลังจะตายและศัตรูที่แข็งแกร่งสองคนที่กำลังค้นหาพวกเขาอยู่ด้านนอก สถานการณ์ยังคงเลวร้ายอย่างถึงที่สุด
เขาก้มลงมองใบหน้าที่ซีดขาวของสตรีในอ้อมแขน แสงจันทร์ที่ลอดผ่านรอยแยกเล็กๆ บนเพดานถ้ำส่องลงมากระทบใบหน้าของนาง ทำให้มันดูงดงามและเปราะบางราวกับภาพฝัน
เขาต้องช่วยนางให้ได้...แต่จะทำอย่างไร?
ในขณะที่เขากำลังขบคิดหาหนทางอยู่นั้นเอง...เขาก็พลันรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง...
มันไม่ใช่เสียง...แต่มันคือ "การสั่นะเื" ที่แ่เบาอย่างยิ่ง...มันดังมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของโพรงถ้ำที่เขาซ่อนตัวอยู่
ตุบ...
ตุบ...
ตุบ...
มันเป็จังหวะที่สม่ำเสมอและหนักแน่น...ราวกับเสียง...ของหัวใจที่กำลังเต้นอยู่!
เย่เฟิงขมวดคิ้วแน่น เขามองลึกเข้าไปในความมืดมิดของโพรงถ้ำ...เสียงหัวใจนี่มันคืออะไรกันแน่? หรือว่าในที่แห่งนี้...ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นซ่อนอยู่อีก?
(จบตอนที่ 4)