บทที่ 2
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่วันแรกที่ลืมตาตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองได้ข้ามมาอยู่ในโลกของนิยายที่อ่านค้างไว้ หลินห่าวซวนก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับเื่ที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
คิดดูว่าทันทีที่ลืมตาขึ้นมาพบว่ามีสาวสวยนอนเปลื้องผ้าอยู่ข้างตัว แต่ความทรงจำสุดท้ายของเขากลับเป็การจำได้ว่าตัวเองนอนอยู่โรงพยาบาล แถมไม่ทันได้เริ่มอธิบายอะไรก็ถูกส่งเข้าไปกินข้าวแดงในคุกเต็ม ๆ2 คืน
โชคดีที่บ้านของหลินห่าวซวนก็หาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของเขาได้ทัน แม้จะจับคนร้ายตัวจริงไม่ได้ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวเขารอดออกมาได้ เพียงแต่ว่าเื่นี้กลับแพร่กระจายออกไปในวงกว้างแล้ว ด้วยความที่ทั้งสองตระกูลหลินและซ่งเป็สหายกันมานาน อีกทั้งทั้งสองตระกูลก็มีสัญญาหมั้นหมายกัน เพื่อรักษาชื่อเสียงของหลานสาวคนโตของตระกูลซ่งเอาไว้ ทำให้การแต่งงานแบบคลุมถุงชนนี้เกิดขึ้น
เพียงแต่ว่าปัญหามันมีอยู่แค่อย่างเดียว ก็คือนิสัยของฝ่ายชายนั้น ย่ำแย่จนเป็ที่เลื่องลือไปทั่วทั้งเมือง ไม่คู่ควรกับซ่งหยูเยียนแม้แต่น้อย
" เก็บคำพูดที่ฟังดูสวยหรูเอาไว้เถอะ ฉันจะคอยจับตาดูนายเอาไว้ หากนายกล้ารังแกหยูเยียน ซ่งหนิงจินคนนี้จะเป็คนแรกที่จะเอาเื่นาย "
คำกล่าวแกมข่มขู่ได้ดังขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่เ็าของซ่งหนิงจินหรือชายหนุ่มในชุดทหาร ดึงให้หลินห่าวซวนที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองให้มีสติกลับมา และเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย หลินห่าวซวนก็ยิ้มออกมาแล้วพยักหน้ารับแล้วกล่าวตอบกลับไปว่า
“พี่ซ่ง ผมรับรองเลยว่า ผมจะดูแลน้องสาวพี่อย่างดี หากเธอสั่งให้ไปซ้าย ผมไม่มีทางไปขวาอย่างแน่นอน ”
แน่ละสิ ! ขนาดไม่ได้ทำอะไรน้องสาวของผู้ชายคนนี้ แต่ผลสุดท้ายแล้วก็ยังถูกยิงจนร่างพรุน หากให้ฉันรังแกน้องสาวของนาย ไม่เท่ากับว่าเร่งเวลาตายของตัวเองให้เร็วขึ้นหรอกเหรอ !
หากเป็ไปได้ หลินห่าวซวนคนนี้ก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนในตระกูลซ่งเหมือนกันแหละโว้ย !
แน่นอนว่าสิ่งที่หลินห่าวซวนคิดนั้นไม่ได้เป็การคิดที่เกินจริง เพราะชื่อของ ‘ซ่งหนิงจิน ’ ผ่านเข้ามาในหัว ตัวของเขาจำได้ว่าในนิยายต้นฉบับที่เขาอ่านนั้น การเสียชีวิตของหลินห่าวซวนคนเดิมนั้นเกิดขึ้นจากน้ำมือของคนตรงหน้าที่กำลังยืนจ้องหน้าเขาในตอนนี้
“พี่ใหญ่ พี่ไม่ใช่มีธุระต่อที่กรมไม่ใช่เหรอ ?นี่ก็สายมากแล้ว พี่ไปทำธุระก่อนเถอะ ไม่ต้องอยู่กับฉันแล้ว ปู่กับย่าหลินก็รอพวกฉันอยู่บ้าน พี่ไปทำธุระของพี่เถอะ ”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของพี่ชายดูไม่ดี ซ่งหยูเยียนก็รีบเอ่ยขัดขึ้นมาพร้อมกับดึงแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ ทำให้ซ่งหนิงจินที่เกือบเดือดดาลได้สติขึ้นมาและรับรู้ได้ถึงสายตาของผู้ที่จับจ้องมาที่ตัวเขาและน้องสาว ทำให้พี่ใหญ่ท่านนี้ได้แต่ข่มอารมณ์ของตัวเองแล้วกล่าวกับซ่งหยูเยียนว่า
“งั้นพี่ไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรที่ไม่สบายใจก็รีบติดต่อมานะ พี่สัญญาว่าจะไปรับเรากลับมาทันที ”
ซ่งหนิงจินกล่าวกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็ห่วง ก่อนที่จะเลื่อนสายตามาที่หลินห่าวซวนที่ยังคงยิ้มอยู่ราวกับว่าเด็กน้อยที่ไม่รู้เื่ราวอันใด ในใจก็อดไม่ได้ที่ไม่พอใจในตัวของน้องเขยคนนี้ ทำให้ตอนเดินจากไปนั้นเขาตั้งใจเดินกระแทกไหล่ใส่หลินห่าวซวนจนเกือบล้มแล้วจากไปแบบไม่ไยดีแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นว่าซ่งหนิงจินจากไปแล้ว หลินห่าวซวนที่กลับมาทรงตัวได้ก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพร้อมกับตั้งใจว่า หากไม่จำเป็จริง ๆ ตนจะไม่ไปแวะเกี่ยวข้องกับพี่เขยคนนี้อีก เพียงแค่เจอกันครั้งแรกก็เกือบเอาตัวไม่รอดแล้ว ถ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เกรงว่าชีวิตของเขาอาจจะจบเร็วกว่าที่นิยายเขียนเอาไว้
“คุณหลิน ฉันขอโทษแทนพี่ใหญ่ด้วยนะคะ เขาแค่ยังโกรธกับห่วงฉันมากไปหน่อย หวังว่าคุณหลินจะไม่ถือนะคะ ”
ซ่งหยูเยียนกล่าวออกมาเมื่อเห็นว่าซ่งหนิงจินพ้นระยะสายตาไป เพียงแต่ว่าใบหน้าของเธอนั้นไม่ได้มีรอยยิ้มเหมือนที่คุยกับซ่งหลินจิน แต่กลับปรากฏให้เห็นความเ็าและถือตัวออกมาอย่างชัดเจน
“ไม่เป็ไรหรอกครับ !ความไม่พอใจของเขาที่มีต่อผม ผมเองก็เข้าใจได้ ถ้าให้ผมไปยืนในจุดเดียวกับเขา ผมคงโกรธไม่ต่างกัน ”
หลินห่าวซวนพูดตอบกับหญิงสาวพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความหน่ายใจ ทำให้ซ่งหยูเยียนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยพร้อมหันมามองคู่สนทนาด้วยความประหลาดใจ เพราะตอนแรกเธอคิดว่าจะเห็นความไม่พอใจบนใบหน้าของคู่สนทนาเสียอีก
อย่างไรเสีย อีกฝ่ายก็มีคดีติดตัวเพราะครอบครัวของเธอ แม้ว่าสุดท้ายนี้มันเป็เพียงเื่เข้าใจผิดและตัวของหลินห่าวซวนเองก็บริสุทธิ์คนหนึ่งในเหตุการณ์วุ่นวายในบ้านตระกูลซ่ง แต่ด้วยนิสัยของหลินห่าวซวนที่เธอเคยได้ยิน ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะเข้าใจอะไรง่าย ๆ แบบนี้
“งั้นเรากลับบ้านกันเลยไหมครับ ”
แน่นอนว่าหลินห่าวซวนไม่ได้รับรู้ถึงความคิดในหัวของซ่งหยูเยียน ในตอนนี้ตัวของเขาแค่ไม่อยากเป็เป้าสายตาของใครและอยากกลับไปพักผ่อนที่บ้านเท่านั้น
เมื่อได้ยินคำถามของหลินห่าวซวน ซ่งหยูเยียนที่ยังคงเคลือบแคลงกับนิสัยของสามีในนามคนนี้ก็หลุดจากความคิดของตัวเอง ก่อนที่พยักหน้ารับคำของหลินห่าวซวนแล้วเดินออกจากสำนักงานกิจการพลเรือนทันที
..............................................
หลังจากที่นั่งรถเมล์ไปได้ประมาณ 20 นาที ทั้งคู่ก็ลงตรงป้ายที่ใกล้บ้าน จากนั้นก็เดินเท้าเข้าในเขตบ้านพักอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเป่ยจิง มหาวิทยาลัยระดับประเทศที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุด
ถึงแม้ว่าตระกูลหลินจะมีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองเทียนจิน แต่ด้วยฐานะปู่ของหลินห่าวซวนที่เป็นักวิชาการระดับประเทศและศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยเป่ยจิง ทำให้มีบ้านพักที่ทางรัฐจัดเตรียมไว้ให้ และตัวของหลินห่าวซวนเอง นับั้แ่ที่พ่อและแม่เสียชีวิตก็อาศัยอยู่ที่นี้ในวัยเด็กเช่นกัน
ปกติแล้วพี่น้องและญาติ ๆ ของเขามักแยกบ้านอยู่กันคนละที่ รวมทั้งหลินห่าวซวนเองก็แยกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว แต่เพราะจู่ ๆ มีงานมงคลเกิดขึ้นทำให้บ้านพักของตระกูลหลินจึงเป็แหล่งรวมตัวของญาติพี่น้องในทันที
ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนกลับไปแล้ว แต่อย่างน้อยคนที่อาศัยอยู่ในเป่ยจิงก็ยังอยู่กันครบ และกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นอยู่ในตอนนี้
“ปู่ ย่า ลุงหยาง ผมกลับมาแล้วครับ ”
หลินห่าวซนที่เข้ามาในบ้านเอ่ยปากทักทายบุคคลที่รอตนอยู่ จากนั้นก็ก้าวเข้ามานั่งที่โต๊ะในห้องนั่งเล่นพร้อมทั้งรินน้ำดื่มเพื่อดับกระหายให้กับตัวเอง
“เรียบร้อยแล้วเหรอ?”
เสียงของหลินอู้ต้าหรือชายชราที่หลินห่าวซนเรียกว่าปู่ดังขึ้นมา เมื่อเห็นหลานชายคนรองกลับมาถึงบ้านและกำลังรินน้ำใส่อีกแก้วและยื่นให้ซ่งหยูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ
“ เรียบร้อยแล้ว นี่ทะเบียนสมรสที่เพิ่งไปจดมา ”
หลินห่าวซวนกล่าวออกมาเบา ๆ ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสามคนที่ได้ยินต่างก็พยักหน้า จากนั้นคุณย่าหลินก็ยิ้มออกมาแล้วย้ายตัวเองมานั่งใกล้ ๆ ซ่งหยูเยียนพร้อมกับยื่นมือมากุมอีกฝ่ายเอาไว้
“ลำบากหนูแล้วนะ ต่อไปนี้เราเป็ครอบครัวเดียวกันแล้ว หากห่าวซวนรังแกหรือทำให้เธอไม่พอใจ เธอมาบอกย่าได้เลยนะ ย่าจะจัดการให้เธอเอง ”
ซ่งหยูเยียนยิ้มเป็การตอบรับคำพูดของมู่ซื่ออวี่หรือคุณย่าหลิน ก่อนที่หลินตงหยางผู้เป็อาที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เอ่ยขึ้นมา
“ใช่แล้วล่ะ หยูเยียน ตอนนี้เธอกับพวกเราตระกูลหลินก็เป็ครอบครัวเดียวกันแล้ว หากมีเื่อะไรก็บอกพวกเราได้เลยนะ ลุงรับรองว่าจะจัดการให้เธอเอง ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้าุโของตระกูลหลินที่กล่าวกับเธอด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่จริงใจ ทำให้ท่าทีของซ่งหยูเยียนที่มีต่อคนในตระกูลหลินนั้นเต็มไปด้วยความสุภาพและความเคารพพวกเขา
“ขอบคุณนะคะคุณย่า ลุงหยาง ”
เมื่อเห็นการวางตัวของหลานสะใภ้คนนี้ ทำให้ผู้าุโตระกูลหลินทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจและเสียใจต่อสาวน้อยคนนี้เป็อย่างมาก
ดีใจที่หลานชายได้ภรรยาที่ดีและเพียบพร้อม และเสียใจที่ชื่อเสียงที่ดีของคนคนหนึ่งถูกทำลายโดยผู้ที่ไม่หวังดีคนหนึ่ง
แม้ว่าเื่นี้จะเกี่ยวข้องกับหลานชายสายตรงอย่างหลินห่าวซวนที่โดนหางเลขโดยที่ไม่รู้เห็น แต่หากว่าไม่ใช่เพราะไอ้หมอนี่เมาจนไม่มีสติ มีหรือที่จะทำให้เื่ราวแบบนี้เกิดขึ้นได้
หากว่าไม่มีเื่ในคืนนั้นที่ตระกูลซ่ง มีหรือที่คนที่ดีและเพียบพร้อมอย่างซ่งหยูเยียนจะมาแต่งงานกับคนเสเพลอย่างหลานชายของพวกเขา
แน่นอนว่าคำตอบนั้นคือ ไม่มีทาง !
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะครับ ”
หลินห่าวซวนที่เห็นว่าทุกคนให้ความสนใจกับซ่งหยูเยียน ตัวเขาก็เอ่ยปากขอตัวในทันที อย่างไรเสียนี่ก็ไม่ใช่เวลาอาหารและตัวเขาที่ยังไม่คุ้นชินกับใครก็ยากอยู่คนเดียวเพื่อเรียบเรียงความคิดของตัวเองเสียหน่อย
แม้จะตัวของเขารู้ว่าโลกที่เข้าข้ามมาเป็โลกของนิยายที่เคยอ่าน แต่ว่าชาติก่อนนั้นเขาเองก็ไม่ได้อ่านมันจนจบ และเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ก็เหมือนว่าไม่เคยมีอยู่ในนิยายต้นฉบับ ทำให้หลินห่าวซวนอยากจะหาเวลาข้อมูลที่อยู่ในหัวเสียหน่อย เพื่อรับมือกับเื่ที่จะเกิดขึ้น
“แกจะไปไหน ฉันยังไม่ได้พูดเื่สำคัญกับแกเลย คิดว่าก่อเื่ไว้ขนาดนั้นแล้วฉันจะปล่อยไปหรือไง ”
เสียงหลินตงหยางดังขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของหลานชาย ทำให้หลินห่าวซวนเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยความสงสัยแล้วกล่าวถามออกมาว่า
“ลุงหยาง ลุงหมายถึงอะไรเหรอครับ? ผมก็อยู่บ้านตลอดจะไปก่อเื่อะไรได้ ”
“เหอะ ! ไม่ก่อเื่อะไรงั้นหรือ? งั้นแกจะอธิบายเื่ที่แกไปหักหน้าอาจารย์ตงในงานเสวนาแบบนั้นได้ไง ! ”
หลินตงหยางกล่าวออกมาด้วยความโมโหพร้อมเลื่อนหนังสือพิมพ์ไปตรงหน้าของหลินห่าวซวนพร้อมชี้ไปที่พาดหัวใหญ่บนหน้ากระดาษที่แสดงว่าข่าวนี้เป็เื่ใหญ่ที่สุดของรอบวันนี้ แล้วพูดต่อด้วยอารมณ์ที่โมโหว่า
“ ฉันอุตส่าห์ใช้เส้นสายให้แกไปทำงานกับสำนักพิมพ์ของสหายเก่า แต่แกกลับเอาแต่ดื่มแต่เหล้า แถมไปวิจารณ์หักหน้าเขากลางวงสัมภาษณ์ แกรู้ไม่ว่าทางรัฐใช้ความพยายามแค่ไหนกว่าจะเชิญอาจารย์ตงกลับมาที่ประเทศได้ แต่แกไปทำเื่หักหน้าคนเขาแบบนี้ ถ้าตกงานรอบนี้ ฉันจะไม่ช่วยแกแล้ว ! ”
แน่นอนว่าคำพูดของหลินตงหยางทำให้หลินห่าวซวนต้องเค้นความทรงจำเก่าที่อยู่ในหัวออกมา แน่นอนว่าด้วยตัวตนเก่าของร่างนี้ที่เป็คนเสเพลและขี้เมา ทำให้ความทรงจำหลายอย่างพร่ามัวเอามาก ๆ และด้วยพาดหัวและข้อมูลที่หลินตงหยางพูดมา ทำให้หลินห่าวซวนก็นึกออกว่าลุงของเขาหมายถึงเื่ไหน
ก่อนหน้าที่จะเกิดเื่ที่ตระกูลซ่ง หลินห่าวซวนที่ทำงานในสำนักพิมพ์ด้วยเส้นสายของผู้เป็ลุง ได้รับมอบหมายให้ไปสัมภาษณ์และทำข่าวเกี่ยวกับอาจารย์ตง ปรมาจารย์หมากล้อมที่ไปเติบโตที่ต่างประเทศเพราะพิษทางการเมือง ก่อนที่จะสร้างชื่อเสียงและกลับมาประเทศในฐานะปรมาจารย์
ซึ่งเื้ัการกลับมาของปรมาจารย์ท่านนี้เกี่ยวพันด้วยกันหลายฝ่าย อีกทั้งยังมีข่าวว่าสหายผู้นำเป็คนเชื้อเชิญให้กลับมาเอง อีกทั้งยังเชิญสื่อมวลชนหลายสำนักให้มาทำข่าวเื่นี้โดยเฉพาะ
แต่ด้วยความเมาค้างและการไม่รู้จักคิดของหลินห่าวซวนคนเก่า ทำให้ถามคำถามต้องห้ามไปมากมาย อีกทั้งยังวิจารณ์ฝีมือการเล่นหมากล้อมของอีกฝ่ายจนไม่มีชิ้นดี ทำให้อาจารย์ตงผู้นั้นโกรธจนหนีออกจากโต๊ะสัมภาษณ์เลยทีเดียว
เมื่อนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นและคำพูดของหลินตงหยาง นับว่าตัวของหลินห่าวซวนคนเก่านั้นโชคดีมากแล้วที่ไม่โดนรวบเข้าห้องขังต่ออีกรอบ และหลินตงหยางที่เป็เลขาธิการพรรคก็คงใช้เส้นสายของตัวเองทั้งหมด เพื่อไม่ให้หลานคนนี้ไม่ต้องถูกส่งตัวไปทำเหมืองในพื้นที่ห่างไกล
เพียงแต่ว่านั้นเป็ความผิดของไอ้คนบัดซบคนเก่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย แต่กลับต้องมารับกรรมที่หมอนั่นก่อ หลินห่าวซวนในตอนนี้รู้สึกไม่ยุติธรรมอยู่บ้าง
“บอกไว้ก่อนเลยนะ แค่ตอนนี้ฉันช่วยแกไม่ให้ต้องไปทำงานในเหมืองหรือต้องติดคุกได้ ฉันก็แทบจะขอร้องทุกคนในพรรคแล้ว ที่สำนักพิมพ์จะลงโทษอะไรแก แกก็รับผิดชอบด้วยตัวเองเถอะ ”
หลินตงหยางที่เห็นหลานชายเงียบไปก็เอ่ยขึ้นมาพร้อกับถอนหายใจ ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า
“ห่าวซวนเอ๋ย !ตอนนี้แกก็มีภรรยาแล้ว หัดทำตัวมีความรับผิดชอบได้แล้ว ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็ลุงและสายตาของผู้าุโทั้งสองท่านที่มองดูด้วยความผิดหวัง ทำให้หลินห่าวซวนคิดที่จะเอ่ยปฏิเสธออกไป แต่กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงข่าวในโทรทัศน์
‘ข่าวด่วน เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ทางบริษัท xxx ที่เป็ตัวแทนของราชินีเพลง ‘ลี่อิง ’ ได้เสียชีวิตที่ประเทศ xxxx ระหว่างที่อยู่ในทริปพักผ่อนกับครอบครัว โดยผลลงานของเธอนั้นเคยกล่าวได้ว่าโด่งดังจนเคยมีคำกล่าวที่ว่า เธอคือปกครองยามราตรีของประเทศั… ’
เสียงรายงานข่าวในโทรทัศน์กลับดังขึ้นมาดึงความสนใจของหลินห่าวซวนเสียก่อน อีกทั้งมันยังทำให้หลินห่าวซวนเกิดความสงสัยของภูมิหลังของโลกนี้ขึ้นมา
เฮ้ ๆ ! นั่นไม่ใช่ข่าวของราชินีเพลงเติ้งลี่จวิน (1) ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงถูกแทนด้วยคนอื่นเสียล่ะ ? อย่าบอกนะว่าภูมิหลังของโลกนี้มันไม่เหมือนกับโลกในชีวิตก่อนน่ะ !?
….…………………………………………………………………………………………………………………....................................................................................................................................................................................................................................................................................
เชิงอรรถ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้