เยว่เฟิงเกอไม่เคยถูกใครปฏิบัติด้วยเช่นนี้มาก่อน เนื่องด้วยระดับวรยุทธ์ของนาง ทำให้ยังไม่เคยมีผู้ใดสามารถเข้าถึงตัวนางได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
แต่วันนี้นางกลับถูกชายตรงหน้าคุมตัวไว้ อีกทั้ง มือทั้งสองข้างของนางยังถูกม่อหลิงหานรวบจับไว้ด้านหลังอย่างแ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่หนังด้านอันเกิดจากการจับดาบรบทัพกับข้าศึกในสนามรบััเข้าที่ข้อมือของเยว่เฟิงเกอ นางก็ยิ่งรู้สึกเจ็บนัก
เยว่เฟิงเกอออกแรงดิ้นรนขัดขืน แต่จะทำอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นจากชายผู้มีพละกำลังมหาศาลคนนี้ไปได้ ไม่ว่านางจะดิ้นรนสักเพียงใดก็ไม่อาจออกหลุดออกไปจากอ้อมแขนของเขาได้เลย
“ท่านคิดจะทำอันใด รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” สีหน้าก่อนหน้านี้ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทะเล้นของเยว่เฟิงเกอพลันมลายหายสิ้นไปทันที และเหลือไว้เพียงความเ็าเต็มดวงหน้า
ม่อหลิงหานไม่สนใจการดิ้นรนของอีกฝ่าย เขาเพียงยกมือขึ้นดึงผ้าคลุมหน้าของนางลง
ฉับพลันนั้นใบหน้างดงามล่มเมืองดึงดูดใจคนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าม่อหลิงหาน
ม่อหลิงหานไม่เคยเจอสตรีที่งดงามถึงเพียงนี้มาก่อน กระทั่งหากให้เทียบกับชายารองฉินหว่านแล้ว เยว่เฟิงเกอผู้นี้ก็เรียกได้ว่างดงามกว่าไม่รู้กี่เท่า
ทางด้านเยว่เฟิงเกอ นางเห็นเพียงผ้าคลุมหน้าของตนถูกดึงหลุดไปแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับยังคงจ้องนางตาไม่กะพริบ
นางกำลังคิดจะพูดอะไร แต่กลับได้ยินเสียง แควก! ดังขึ้นเสียก่อน ม่อหลิงหานกระชากชุดของนางจนขาดวิ่น
เยว่เฟิงเกอรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่หน้าอกในทันที
นางก้มหน้าลงมอง และพบว่าอาภรณ์สีดำที่นางสวมอยู่ถูกม่อหลิงหานที่อยู่ตรงหน้าฉีกกระชากจนขาดวิ่นไปแถบหนึ่ง ยามนี้มุมหนึ่งของเอี๊ยมตัวในได้โผล่ออกสู่สาธารณะแล้ว
เยว่เฟิงเกอเห็นเช่นนั้นก็หน้าแดงก่ำทันที ในใจราวมีไฟสุม ไอร้อนจากเปลวเพลิงที่ปะทุคุกรุ่นแทบจะพวยพุ่งออกทางศีรษะ
เ้าโรคจิตนี่ ถึงกับกล้ากระชากชุดนาง
หากยังไม่สั่งสอนเขาอีก เกรงว่าเขาคงไม่รู้ว่าท่านหม่าหวางมีสามตา [1] แล้ว
นางยกขาขึ้น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่กึ่งกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของม่อหลิงหาน
แต่สิ่งที่ทำให้นางต้องแปลกใจก็คือ ขาของนางเพิ่งยกขึ้น ยังไม่ทันได้ััโดนตัวม่อหลิงหานก็ถูกขาของอีกฝ่ายดันไปติดกับต้นไม้แล้ว
“คนโรคจิต ปล่อยข้านะ ไม่เช่นนั้นข้าจะสังหารเ้าเดี๋ยวนี้” เยว่เฟิงเกอขมวดคิ้วแน่น อ้าปากแยกเขี้ยว ก่อนจะขบกัดเข้าที่ลำคอของม่อหลิงหาน
โชคไม่ดี ม่อหลิงหานหลบไม่ทัน คอของเขาจึงถูกเยว่เฟิงเกอกัดเข้าอย่างจัง ความเจ็บแปลบที่เสียดแทงทำให้เขาอดคำรามในลำคอไม่ได้
สตรีน่าตายคนนี้ นางเกิดปีจอหรืออย่างไร
ม่อหลิงหานขมวดคิ้วแน่นด้วยคิดไม่ถึงว่าพระชายาที่ภายนอกดูอ่อนแอ แท้จริงแล้วจะมีด้านที่บ้าคลั่งเช่นนี้อยู่
เยว่เฟิงเกอกัดอย่างแรง นางแทบจะอยากกัดให้ม่อหลิงหานตายๆ ไปเสียเดี๋ยวนี้ เพียงแต่ เมื่อรับรู้ได้ถึงรสคาวเืในปาก นางก็ยอมปล่อย
นางมองคอของม่อหลิงหานที่ถูกนางกัดจนเป็รอยฟัน อีกทั้งยังมีหยดเืไหลซึม ด้วยเหตุนี้ความโกรธในใจจึงคล้ายจะทุเลาลงไปไม่น้อย
ม่อหลิงหานยกมือขึ้นลูบบริเวณที่ถูกกัด เมื่อเลื่อนมือออกมาดู สิ่งที่เขาเห็นก็คือเืสดๆ สีแดงที่ติดมือมาด้วย
“กัดเปิ่นหวาง เ้ารู้หรือไม่ว่าจะต้องมีจุดจบเช่นไร?” ในสายตาของม่อหลิงหานมีความกระหายเืบ้าคลั่งปะทุอยู่
เมื่อเยว่เฟิงเกอถูกม่อหลิงหานจดจ้องด้วยดวงตากระหายเืเช่นนี้ อัตราการเต้นของหัวใจนางก็ถึงกับชะงักไปหนึ่งจังหวะ
นางไม่สงสัยแม้แต่น้อย หากตนทำให้ม่อหลิงหานโกรธ สิ่งที่ต้องพบคือลมหายใจที่ถูกบดขยี้อย่างอนาถแน่
กระนั้นเมื่อม่อหลิงหานเห็นความขลาดกลัวเล็กน้อยที่แฝงอยู่ในดวงตาของเยว่เฟิงเกอ เขาก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นก้มลงมองเนื้อหนังของเยว่เฟิงเกอในส่วนที่อาภรณ์ถูกฉีกขาด
ปานสีแดงราวเปลวเพลิงน้อยๆ ที่อยู่ด้านล่างไหปลาร้าของนางปรากฏสู่สายตาของม่อหลิงหาน
ปานแดงราวเปลวเพลิงดวงน้อยดวงนั้นกำลังโหมกระพือขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของเยว่เฟิงเกอ
ดูท่า สตรีนางนี้คงจะเป็องค์หญิงแห่งแคว้นเสวี่ยอวี้ไม่ผิดแน่ เพราะปานแดงรูปเปลวเพลิงดวงน้อยนี้เป็สิ่งที่มีแค่องค์หญิงแห่งแคว้นเสวี่ยอวี้เท่านั้นถึงจะมีได้
เชิงอรรถ
[1] ท่านหม่าหวางมีสามตา(马王爷有三只眼)หมายถึงเทพตนหนึ่งที่มีรูปลักษณ์น่าเกรงขาม ทั้งยังมีสามตา เป็คำเปรียบเทียบแสดงถึงความร้ายกาจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้