ในูเาตระกูลหลิงนั้น พวกเขาย่อมไม่สามารถหาโอสถที่ดีมากพอมาให้หลู่กวนิใช้รักษาแผลได้อยู่แล้ว
ตอนนี้ต้องกลับไปที่ลัทธิสยบฟ้าเท่านั้น
หลิงหานรีบอุ้มหลู่กวนิ มุ่งหน้าไปทางคฤหาสน์ตระกูลหลิงกับหลงอวี้และหลิงอีเยว่เพื่อหาม้าสักสามสี่ตัวทันที
แม้ระดับพลังของพวกเขาจะไม่ต่ำ แต่เส้นทางมันยาวไกลขนาดนี้ สุดท้ายก็ต้องขี่ม้าไปถึงจะเหมาะสมกว่า
“เศษชิ้นส่วนจันทรานี่...”
หลิงอีเยว่ที่วิ่งอยู่ข้างๆ หลงอวี้นั้นถือเศษชิ้นส่วนจันทราไว้ในมือ คิดจะมอบมันให้กับหลงอวี้
“ในเมื่อให้พวกเ้าแล้วมันก็เป็ของพวกเ้า ไม่ต้องห่วงข้าหรอก”
หลงอวี้แย้มยิ้มบางๆ
เขาได้แผ่น์จันทราครึ่งส่วนมาแล้ว ปราณหยินที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นเกรงว่าจะมากกว่าเศษชิ้นส่วนนับพันนับหมื่นเท่าเลยทีเดียว
แล้วเขาจะเอาเศษชิ้นส่วนไปทำไมอีก?
แน่นอนว่าเื่ของแผ่น์จันทรานั้นเป็ความลับร่วมกันระหว่างเขากับหลิ่วยวน ต่อให้เป็พวกหลิงหานก็บอกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะดึงดูดปัญหาเข้ามาได้ง่าย และจะกลายเป็การทำร้ายพวกเขามากกว่า!
พอได้ยินหลงอวี้บอกไม่เอาแล้ว ในดวงตาอันงดงามของหลิงอีเยว่ก็มีแววตาประหลาดใจทันที
เศษชิ้นส่วนจันทราเป็สมบัติล้ำค่าที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสองก็ยังแย่งชิงกัน แต่หลงอวี้กลับบอกว่าไม่เอาเนี่ยนะ?
“สหายหลง ของชิ้นนี้เ้าทุ่มสุดชีวิตกว่าจะได้มา พวกเราจะรับเอาไว้ได้อย่างไร?”
หลิงหานกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“สหายหลง พร์ในการฝึกฝนของเ้าดีกว่าพวกเราทุกคน หากเศษชิ้นส่วนนี่อยู่ในมือเ้า มันต้องมีประโยชน์กว่าในมือพวกเราเยอะ!”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว บอกว่ามอบให้ก็คือมอบให้สิ”
หลงอวี้หัวเราะ
“ระหว่างสหายด้วยกันจะเกรงใจทำไม? ข้าหลงอวี้ไม่จำเป็ต้องใช้เศษชิ้นส่วนนี่หรอก”
ต่อให้ไม่ได้รับแผ่น์จันทรานั่นมา หลงอวี้ก็ไม่มีทางเอาของของหลิงหานอยู่แล้ว
เดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเศษชิ้นส่วนจันทราอยู่แล้ว แต่เป็เพราะหลิงหานเชิญเขามาต่างหาก เขาถึงเดินทางมาในครั้งนี้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเื่ไม่คาดฝันมากมาย ทั้งยังสามารถสร้างิญญาแท้ในแหล่งแร่และได้ปะทะกับยอดฝีมืออย่างหลิ่วยวนด้วย
พอได้ยินคำพูดของหลงอวี้แล้ว หลิงหานก็พลันมีสีหน้าเคร่งขรึม
“สหายหลง ในชาตินี้หากเ้ามีเื่อะไรให้ข้าหลิงหานรับใช้ เชิญเ้าบอกข้าได้เสมอ!”
เขาไม่คิดจะปฏิเสธไม่รับเศษชิ้นส่วนจันทราอีกต่อไปแล้ว
หลิงหานฟังออกว่า ที่หลงอวี้ไม่จำเป็ต้องใช้เศษชิ้นส่วนจันทรา เป็เพราะในการเดินทางครั้งนี้หลงอวี้ได้รับสิ่งที่ดียิ่งกว่ามาแล้ว
ซึ่งสิ่งนั้น น่าจะหมายถึงการสร้างิญญาแท้และก้าวขึ้นสู่ขอบเขตระดับิญญาแท้ได้แล้วนั่นเอง!
หลิงหานยังคิดอยากจะชิงหมู่บ้านูเาตระกูลหลิงที่แต่เดิมเป็ของบิดาเขากลับมาจากเงื้อมมือของหลิงเทียนป้าด้วย หากไร้ซึ่งพลังแล้วเขาจะทำสำเร็จได้อย่างไร? ลำพังแค่ระดับวิถียุทธ์ของเขาในตอนนี้ก็เป็ได้แค่ความฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้น
แต่หากได้เศษชิ้นส่วนจันทรามา บางทีเื่นี้อาจจะง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยก็เป็ได้
การชิงหมู่บ้านูเาตระกูลหลิงกลับคืนมานั้น เป็เื่ที่หลิงหานสาบานไว้ั้แ่ตอนที่บิดาของเขาจากไปเมื่อสิบปีก่อนแล้ว
หลงอวี้มอบเศษชิ้นส่วนจันทราให้เขาเช่นนี้ มันช่วยให้เขาทำตามคำสาบานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย สำหรับเขาแล้วเื่นี้จึงมีความหมายมาก!
“ไม่ต้องหรอก ในฐานะมิตรสหายแล้ว หากมีใครประสบปัญหาข้าย่อมต้องช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว”
หลงอวี้เอ่ยขึ้น
“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนอยู่ในป่าโสมโบราณศิษย์พี่หลิงหานก็เคยมอบโอสถขั้นสูงให้ข้ามาแล้วไม่ใช่หรือ?”
ความซื่อสัตย์จริงใจที่หลิงหานมอบให้เขาย่อมต้องััได้อยู่แล้ว เขาเองก็จะตอบแทนกลับไปด้วยความจริงใจเช่นกัน!
“เอาล่ะเอาล่ะ พวกท่านสองคนเลิกพูดจาไร้สาระกันได้แล้ว เราถึงหมู่บ้านแล้ว ยังไม่รีบหาม้าเดินทางกลับลัทธิกันอีก”
หลิงอีเยว่ไม่เข้าใจความใจร้อนของผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด เพียงคำพูดไม่กี่ประโยคก็ทำลายบรรยากาศเสียหมดเลย
หลิงหานและหลงอวี้หันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะเล็กน้อย จากนั้นก็มุ่งหน้าไปด้วยความรวดเร็ว
เพียงไม่นานก็ไปถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิง
หลิงอีเยว่รีบวิ่งไปที่คอกม้าทันที แต่ก็ต้องผิดหวังไป
“ไม่เหลือม้าแม้แต่ตัวเดียว อี้เหยียนกับหลิ่วซู่เฉิงที่กลับไปก่อนหน้านี้ เกรงว่าพวกมันคงจะนำม้าสองตัวสุดท้ายของตระกูลหลิงเราไปแล้ว”
คำพูดนี้ทำให้หลงอวี้ขมวดคิ้ว
เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบกับตระกูลหลิงไม่น้อย และอีกไม่นานหลังจากนี้จะต้องส่งผลกระทบใหญ่หลวงมากกว่าเดิมแน่น อาจถึงขั้นที่ปราณหยินสลายหายไปจากทั่วทั้งแหล่งแร่อย่างสิ้นเชิงเลยก็เป็ได้
เหล่าคนที่มาชิงเศษชิ้นส่วนจันทรานั้น ตอนที่คิดจะเดินทางออกจากที่นี่ ย่อมต้องมานำม้าไปจากคฤหาสน์ตระกูลหลิงอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเป็เช่นนี้ ม้าทั้งหมดที่ตระกูลหลิงเลี้ยงไว้ก็ย่อมต้องมีไม่พอใช้อยู่แล้ว!
“ไป ไปดูที่อื่นกันก่อน”
หลงอวี้รีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว หันหลังแล้วเดินจากไปทันที
หากเสียเวลาในการหาม้านานเกินไป เกรงว่าาแของหลู่กวนิอาจจะสาหัสมากขึ้นก็เป็ได้ หากเป็เช่นนั้นล่ะก็แย่แน่!
แต่ในตอนที่เขาหันหลังกลับไปนั่นเอง เขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงอันคุ้นหูมาจากที่ไม่ไกล
“หลงอวี้ ตรงนี้มีม้าอยู่สองตัว ในเมื่อเ้ารีบร้อนขนาดนั้น ข้าให้เ้าไปก่อนก็ได้”
เสียงพูดอันสดใส ไพเราะของสาวน้อยคนหนึ่งดังเข้าไปในหูของผู้คนทั้งหมด
ผู้คนทั้งหมดพากันหันไปมองทางต้นเสียงทันที และพบกับสาวน้อยที่งามงดสุดแสน เส้นผมสีขาวดุจหิมะยาวสลวยลงมาถึงบริเวณเอว กำลังขี่ม้าสี่ขาวตัวหนึ่งอยู่ ดูเหมือนว่านางจะบังเอิญผ่านมาแถวนี้พอดี
หลิ่วยวน!
ผู้คนทั้งหมดนั้นมองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร
นอกจากหลิ่วยวนแล้วยังมีสาวน้อยอยู่อีกคนหนึ่ง ซินเยว่หย่า ที่เป็ศิษย์น้องของหลิ่วยวน
ทั้งสองนั้นต่างขี่ม้าคนละตัว ล้วนเป็ม้าที่พวกนางพามาจากหอโฉมสะคราญทั้งสิ้น
“หลิ่วยวน? เส้นผมกับคิ้วนางทำไมกลายเป็สีขาวไปแล้วล่ะ?”
ทันทีที่เห็น หลิงหานและหลิงอีเยว่พากันประหลาดใจ นอกจากนี้ หลิ่วยวนรู้จักกับหลงอวี้ด้วยหรือ? ถึงกับยอมมอบม้าให้เขาเช่นนี้!
หรือว่า หลังจากที่พวกเขานำเศษชิ้นส่วนจันทราไปแล้ว ระหว่างหลงอวี้กับหลิ่วยวนจะมีเื่อะไรเกิดขึ้น?
ในสายตาของหลิงหานตอนที่มองไปทางหลิ่วยวนนั้นก็มีแววตาหวาดระแวงทันที!
“ศิษย์พี่ นี่ท่านล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?”
ซินเยว่หย่าแสดงสีหน้ารังเกียจทันที มองไปทางหลงอวี้แล้วพูดขึ้น
“ไอ้คนผู้นี้มันเป็คนแย่งชิงเศษชิ้นส่วนจันทราไปไม่ใช่หรือ? ศิษย์พี่ท่านยังคิดจะให้มันยืมม้าที่เป็ลูกรักของท่านอีก!”
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้ว่าหลิ่วยวนไม่ได้บอกเื่แผ่น์ครึ่งชิ้นให้ซินเยว่หย่าฟัง
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนต่างรู้อยู่แก่ใจว่า ทันทีที่เื่นี้หลุดออกไปจะต้องพาปัญหาเข้ามาไม่สิ้นสุดแน่
หลิ่วยวนไม่ได้ตอบคำถามของซินเยว่หย่า เพียงแย้มยิ้มบางๆ เล็กน้อยก่อนจะลงจากหลังม้า
นางลูบขนอันอ่อนนุ่มของม้าน้อยที่มีสีขาวดุจหิมะพร้อมกับเอ่ยพูดเสียงเบา
“ส่งเขากลับไปที่ลัทธิสยบฟ้า จากนั้นค่อยกลับมาหาข้า อย่าลืมล่ะ”
ม้าสีขาวหิมะตนนี้ เป็ม้าที่หลิ่วยวนเลี้ยงดูั้แ่มันยังเด็ก แต่นางกลับยอมมอบมันให้หลงอวี้ยืม!
ภาพที่เกิดขึ้นนี้ทำให้หลิงหาน หลิงอีเยว่และซินเยว่หย่ารู้สึกสงสัย
ระหว่างหลงอวี้กับหลิ่วยวนมีเื่อะไรเกิดขึ้นกันแน่?
ความจริงแล้ว ตอนที่ซินเยว่หย่าเห็นสีผมกับสีคิ้วของหลิ่วเยียนเปลี่ยนไปเป็สีขาวดุจหิมะ นางก็เอ่ยถามทันที แต่น่าเสียดายที่หลิ่วยวนไม่ยอมเล่าให้ฟัง บอกเพียงว่าได้ปะทะกับหลงอวี้แต่ผลออกมาเสมอกัน
ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้ายิ่งทำให้ซินเยว่หย่างุนงงมากกว่าเดิม!
แต่ในเมื่อหลิ่วยวนพูดแล้วว่าได้ต่อสู้กับหลงอวี้และผลออกมาเป็เสมอกัน เช่นนั้นก็ต้องเป็ความจริงแน่นอน เพียงแต่ซินเยว่หย่าตอนนี้กลับรู้สึกสงสัยมากกว่าว่า ศิษย์พี่ของนางเกิดความรู้สึกอะไรกับหลงอวี้เป็พิเศษหรือเปล่า?
นางไม่เคยเห็นศิษย์พี่ของตนให้ใครยืมม้าสุดที่รักตัวนั้นมาก่อนเลย
“แต่ว่า แม้แต่คำเชิญของขุนพลน้อยหลงแห่งอาณาจักรต้าถังก็ยังถูกศิษย์พี่ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย หรือว่าเ้าหลงอวี้นี่จะโดดเด่นยิ่งกว่าขุนพลนายหลงเสียอีกหรือ?”
ซินเยว่หย่าครุ่นคิดอย่างไรก็ไม่อาจเข้าใจได้!
แต่นางนั้นเคารพนับถือและเชื่อฟังคำพูดของหลิ่วยวนมาโดยตลอด การที่นางสร้างิญญาแท้ได้ก็เพราะได้หลิ่วยวนช่วยเหลือ
หากหลิ่วยวนไม่คิดจะบอก นางก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเช่นกัน
“ในเมื่อศิษย์พี่ตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ก็ทำตามนั้นเถอะ แต่พวกเรามีม้าเพียงสองตัวเท่านั้น พวกนั้นมีกันตั้งสี่คน แล้วจะขี่กันอย่างไร?”
ซินเยว่หย่าลงมาจากหลังม้าแล้วประเมินพวกหลงอวี้สี่คน
“เื่นั้นข้าไม่สน”
ในดวงตาที่เป็เหมือนกันดวงดาวของหลิ่วยวนคู่นั้นดูเฉยชาอย่างมาก
“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ ไปหาม้าจากที่อื่นแทนแล้วกัน ใช้เวลาสักหน่อยก็น่าจะหาได้แล้วล่ะ”
พอพูดจบแล้วนางก็เดินจากไปอย่างสง่างามทันที
ั้แ่ต้นจนจบ หลงอวี้ไม่ได้เอ่ยปากพูดเลยแม้แต่คำเดียว เขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าเหตุใดนางถึงให้เขายืมม้าเช่นนี้?
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ตอนนี้เขาก็ไม่จำเป็ต้องเสียเวลาไปหาม้าแล้ว
“ถือว่าข้าติดค้างเ้าอีกครั้งหนึ่งก็แล้วกัน”
หลงอวี้หัวเราะเบาๆ เล็กน้อย มองดูเงาร่างของหลิ่วยวนที่หายลับไปจากตรงหน้า จากนั้นก็มองไปทางม้าสีขาวดุจหิมะตนนั้น
ม้าตัวนั้นดูเชื่อฟังคำสั่งของหลิ่วยวนเป็อย่างมาก
แม้มันจะไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจสักเท่าใด แต่หลังจากหลิ่วยวนจากไป มันก็เป็ฝ่ายเดินมาหาหลงอวี้เอง
ส่วนม้าของซินเยว่หย่านั้นก็ไม่ได้เชื่อฟังมากขนาดนั้น หลิงหานเองก็ไม่คิดอะไรมาก รีบอุ้มหลู่กวนิขึ้นหลังม้าแล้วขี่ม้าของซินเยว่หย่าทันที
“มีม้าเพียงสองตน อีเยว่ เ้าไปพร้อมกับสหายหลงก็แล้วกัน!”
หลิงหานหัวเราะ จากนั้นก็ควบม้าวิ่งตะบึงออกไปทันที!
หลู่กวนิมีาแฉกรรจ์อยู่ จะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้
หลงอวี้ขึ้นไปบนหลังม้าสีขาวตัวนั้นโดยให้หลิงอีเยว่ที่มีรูปร่างค่อนข้างตัวเล็กอ้อนแอ้นนั่งด้านหน้า จากนั้นก็ควบม้าวิ่งตะบึงออกไปทันที
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนว่าเ้าหลิงหานกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่เลย?”
หลงอวี้กุมเชือกอานม้าไว้แน่น โอบหลิงอีเยว่ไว้ในอ้อมอก ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็รู้สึกผิดปกติ เ้าหลิงหานนั่นทิ้งน้องสาวตัวเองไว้กับเขาง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ?
ทั้งยังมีท่าทางเหมือนคาดหวังบางอย่างอยู่ด้วย!
แต่เดิมหลิงหานรู้สึกชื่นชมหลงอวี้เป็อย่างมากอยู่แล้ว รู้สึกว่าคนผู้นี้สามารถคบหาอย่างจริงใจได้ ยิ่งได้เห็นพร์อันน่าสะพรึงกลัวสุดขีดของหลงอวี้ เขารู้ได้ทันทีว่าความสำเร็จของหลงอวี้ในภายภาคหน้าต้องไม่ธรรมดาแน่!
เขามีน้องสาวอย่างหลิงอีเยว่เพียงคนเดียวไม่ช้าก็เร็วน้องสาวของเขาก็ต้องแต่งงาน
ในเมื่อตอนนี้มีคนอย่างหลงอวี้ มีหรือที่เขาจะไม่คิดไตร่ตรองถึงอนาคตของน้องสาวตัวเอง?
แต่เดิมแล้วหลิงหานก็ยังไม่ได้รีบร้อนอะไรขนาดนั้น แต่พอตอนนี้มีหลิ่วยวนโผล่ออกมาให้ยืมม้าเช่นนี้ เขาก็เกิดความรีบร้อนขึ้นมาทันที
หากคู่แข่งเป็หลิ่วยวน อย่างนั้นน้องสาวเขาก็ไม่มีโอกาสชนะอย่างสิ้นเชิง!
ด้วยเหตุนี้ หลิงหานจึงตั้งใจไปอุ้มหลงอวี้ขึ้นมาแล้วควบม้าวิ่งออกไปก่อน จงใจให้หลิงอีเยว่ได้ขี่ม้าตัวเดียวกับหลงอวี้ สร้างโอกาสในนางได้อยู่กับหลงอวี้สองต่อสอง
“น้องเอ๋ย คนเป็พี่ชายอย่างข้าก็ช่วยเ้าได้เพียงเท่านี้ล่ะนะ...”
หลิงหานควบม้าวิ่งตะบึงไปพร้อมกับทอดถอนใจ
ส่วนหลงอวี้กับหลิงอีเยว่นั้นก็ได้ขี่ม้าของหลิ่วยวนวิ่งตามหลังไป
ระหว่างทางนั้น ทั้งสองคนย่อมต้องเกิดการััตัวกันบ้างเป็ปกติ ทำให้ใบหน้ารูปไข่ของหลิงอีเยว่มีสีแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
“ไอ้พี่ชาย อยากตายหรืออย่างไร”
หลิงอีเยว่ย่อมรู้ทันแผนการของพี่ชายตัวเองอยู่แล้ว จึงรู้สึกหงุดหงิดโมโหขึ้นมา!
นอกจากหลิงอีเยว่แล้ว ก็ยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งหงุดหงิดโมโหเช่นกัน
บนยอดของหอคอยแห่งหนึ่งในหมู่บ้านูเาตระกูลหลิง เงาร่างของหลิ่วยวนในชุดสีดำและมีเส้นผมยาวสลวยสีขาวดุจหิมะถูกลมพัดจนไสวนั้น ในดวงตาดุจดวงดาวของนางได้สะท้อนเป็ภาพของหลงอวี้ที่กำลังขี่ม้าสีหิมะของนางอยู่กับหลิงอีเยว่
ภาพนั้นทำให้นางเกิดความหงุดหงิดอารมณ์เสียขึ้นมา
“ไอ้เ้าหลงอวี้ บังอาจขี่ม้าแสนรักของข้ากับผู้หญิงคนอื่น หึ!”
จิตใจของหญิงสาวนั้นยากแท้หยั่งถึงที่สุด หลงอวี้ในตอนนี้ไม่รู้ตัวเลยว่าหลิ่วยวนกำลังจ้องเขม็งมาจากไกลๆ เขาไม่มีทางรู้ด้วยว่าหลิ่วยวนในตอนนี้ได้เกลียดเขาเข้าให้แล้ว!
