“ท่าน?”
เสิ่นเสวียนหรี่ตามองเสวียนหลิงเอ่อร์
แม่นางผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ั้แ่รู้จักกันมาจนถึงตอนนี้เป็เวลากว่าครึ่งปีแล้ว เขาเองไม่รู้จักตัวตนของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ทว่าอีกฝ่ายกลับรู้เื่ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา
เขารู้สึกดีต่อเสวียนหลิงเอ่อร์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเชื่อใจนางได้อย่างสมบูรณ์
“คลายผนึกผังเมืองซานเหอไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ท่านคิด”
เสิ่นเสวียนไม่ได้ปฏิเสธโดยตรง แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ
“อย่างนั้นก็แล้วแต่เ้าเลย แต่ถ้า้าความช่วยเหลือ เ้ามาหาได้ทุกเมื่อ”
เสวียนหลิงเอ่อร์ยิ้มให้เสิ่นเสวียนเล็กน้อย จากนั้นก็เหาะไปอยู่ข้างๆ กรงของงูจิ่นเมี่ยน เพื่อสังเกตงูจิ่นเมี่ยนตัวนั้น
หลังจากงูจิ่นเมี่ยนเห็นเสวียนหลิงเอ่อร์ มันหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้มันขดตัวอยู่อีกข้างหนึ่ง ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย
เสิ่นเสวียนเหลือบตามองเสวียนหลิงเอ่อร์ จากนั้นก็นั่งลงทำสมาธิ เตรียมคลายผนึกของผังเมืองซานเหอ
เขาคลายผนึกที่นี่ไม่ได้กังวลว่าเสวียนหลิงเอ่อร์จะทำร้ายเขา ก่อนหน้านี้เสวียนหลิงเอ่อร์สาบานด้วยิญญาเทพไปแล้ว เื่นี้พิสูจน์ถึงความจริงใจของนางได้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจเสวียนหลิงเอ่อร์ เพียงแต่การคลายผนึกผังเมืองซานเหอเกี่ยวข้องกับความลับมากมายของเขา ให้คนรู้น้อยมากเท่าไรยิ่งดีมากเท่านั้น
แม้ตนเองจะคลายผนึกได้ช้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็ไปไม่ได้หากมีเวลามากพอ
ในขณะนี้ หยวนก่อกำเนิดภายในตันเถียนกำลังดูดซับพลังและฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนปรากฏตัวขึ้นเหนือทะเลจิตสำนึก เขามองทะเลจิตสำนึกที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต จากนั้นก็เคลื่อนตัวไปยังทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วสูง
ในทะเลจิตสำนึกของตนเอง เขาคือประมุข
เพียงไม่นาน เสิ่นเสวียนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงตำแหน่งเก็บซ่อนผังเมืองซานเหอในส่วนลึกของทะเลจิตสำนึก
ตอนแรกเริ่มผังเมืองซานเหอเป็เพียงม้วนภาพที่ถูกม้วนเอาไว้ ต่อมาเมื่อพลังยุทธ์ของเสิ่นเสวียนเพิ่มขึ้น ม้วนภาพนี้จึงค่อยๆ คลายออกมาส่วนหนึ่ง ตรงกลางมีสีขาว และมีพลังมิติแผ่ซ่านออกมา
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนหยุดนิ่งชั่วคราว แล้วเขาก็เดินเข้าไปตรงมิติสีขาว
ภายในมิติสีขาวเต็มไปด้วยร่องรอยการเปิดทาง และเสี่ยวเหยียนกำลังพักผ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของมิติ
เมื่อเห็นร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียน เสี่ยวเหยียนที่นอนหมอบอยู่ที่พื้นก็ะโโลดเต้น วิ่งมาวนรอบๆ ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียน ใช้หัวเล็กๆ ถูไถเสิ่นเสวียนไม่หยุด หากไม่ใช่เพราะร่างจิติญญาเป็สภาวะว่างเปล่า เสี่ยวเหยียนคงะโเข้าอ้อมอกเสิ่นเสวียนไปแล้ว
“เสี่ยวเหยียน ลำบากเ้าแล้ว”
เสิ่นเสวียนนั่งยองๆ ลงไป และใช้มือเลือนรางของเขาลูบหัวเสี่ยวเหยียนเบาๆ
เสี่ยวเหยียนนั่งลงที่พื้นอย่างมีความสุข หางสีแดงเพลิงสะบัดไปมา
หลังจากปลอบประโลมเสี่ยวเหยียนแล้ว เสิ่นเสวียนก็ลุกขึ้น
“ไปดูกัน”
เสิ่นเสวียนเดินนำเสี่ยวเหยียนไปยังปลายสุดของมิติ จากนั้นเขาก็ทาบฝ่ามือลงไปบนมิติสีขาว พลังจิติญญาสั่นะเืออกไปเพื่อััถึงความหนาของกำแพงมิติ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะเปิดออกได้เมื่อไร
ดูจากแรงสั่นะเืที่สะท้อนกลับมา อย่างน้อยยังมีระยะทางอีกกว่าสามจั้ง
สามจั้งในที่นี้เทียบกับขนาดของมิติสีขาวที่ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนยืนอยู่ มีเพียงทะลวงผ่านกำแพงมิติสามจั้งนี้ไปได้ จึงจะเรียกได้ว่าผังเมืองซานเหอถูกเปิดออกแล้วมุมหนึ่ง
“สามจั้ง...”
เสิ่นเสวียนกล่าวพึมพำ เขานับนิ้วไปมา จากนั้นจึงพยักหน้า
“หากพวกเราพยายามอย่างเต็มที่ อย่างน้อยอาจต้องใช้เวลาถึงครึ่งเดือน เสี่ยวเหยียนเ้าเป็อย่างไรบ้าง”
เสิ่นเสวียนถามเสี่ยวเหยียน
“จี๊ดๆ...”
เสี่ยวเหยียนส่งเสียงร้องให้เสิ่นเสวียนแล้วพยักหน้าหลายครั้ง
“ดี ในเมื่อเป็เช่นนี้ พวกเรามาพยายามไปด้วยกันเถอะ”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า เขากัดฟันแน่น จากนั้นร่างจิติญญาของเขาก็แตกสลายไปแล้วหลอมรวมขึ้นใหม่กลายเป็หัวเจาะ แล้วหมุนทะลวงฝ่ามิติสีขาวเข้าไป
ชี่ๆ!!!
ชี่ๆ!!!
หัวเจาะหมุนวนแทงเข้าใส่กำแพงมิติก่อให้เกิดเสียงเสียดสีดังก้อง ทำให้กำแพงมิติถูกแหวกออกอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวเหยียนเห็นอย่างนั้นจึงกระโจนออกไปทันที
เขาบนหัวของเสี่ยวเหยียนเปล่งประกายแสงสว่างไสว แล้วมันก็หมุนตัวเจาะทะลวงกำแพงมิติเช่นเดียวกัน
ปลายเล็กแหลมที่หมุนวน ทำให้ร่างของเสี่ยวเหยียนหมุนตามไปด้วย
หากมองจากด้านข้างจะเห็นว่ามีพายุสองลูกกำลังทะลวงผ่านกำแพงมิติเข้าไป
ทว่าเสวียนหลิงเอ่อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ งูจิ่นเมี่ยนกำลังเท้าคางมองเสิ่นเสวียนด้วยความสนใจ
“คนในดวงใจ ใช่เ้าไหม”
แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความสงสัย คล้ายว่าจะคิดถึงอะไรบางอย่าง นางนึกย้อนไปเมื่อพันปีก่อน ถึงความปรารถนาอันยิ่งใหญ่เมื่อปิดผนึกโลงศพสีแดงในตอนนั้น
หากใครเปิดโลงศพสีแดงได้เป็คนแรก คนนั้นคือคนในดวงใจของนาง
คนในดวงใจของนางคือยอดบุรุษที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
นี่ไม่ใช่เื่ล้อเล่น นางใช้พลังยุทธ์ทั้งชีวิตไปกับความปรารถนาอันแรงกล้าครั้งนี้แล้ว เพียงแต่แม้เสิ่นเสวียนจะมีความโดดเด่นในหลายๆ เื่ แต่ยังห่างจากความ้าของนางอยู่มาก
และตอนนี้เสิ่นเสวียนยังไม่รู้ความคิดของเสวียนหลิงเอ่อร์
เขามีเพียงความคิดเดียวคือทะลวงกำแพงมิติให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อเปิดผังเมืองซานเหอออก ยิ่งคิดว่าอีกครึ่งเดือนก็จะสามารถคลายผนึกศาสตราเทพที่ใฝ่ฝันได้แล้ว ยิ่งทำให้เสิ่นเสวียนตื่นเต้น
หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน ร่างของแม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิก็กลับมาเป็ปกติ เขายืนตรงอยู่ด้านหน้าเสิ่นเสวียนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทว่าดูจากกล้ามเนื้อของเขาแล้ว เขาเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเกิดภัยคุกคามใดๆ ต่อเสิ่นเสวียน เขาจะจัดการคลี่คลายอันตรายให้เสิ่นเสวียนได้ทันที
แต่ในมิติใต้หนองน้ำแห่งนี้เงียบสงบมาก ไม่มีอันตรายใดๆ เลย
กาลเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เสิ่นเสวียนนั่งหลับตาอยู่ตรงนั้น ไม่มีอะไรแตกต่างเลย
เสวียนหลิงเอ่อร์นั่งอยู่ข้างๆ กรงจนเมื่อยแล้ว จึงกลับเข้าไปพักภายในโลงศพสีแดงอีกครั้ง
หลังจากพักพอแล้ว นางก็ออกมาดูเสิ่นเสวียน เมื่อมั่นใจว่าเขาไม่้าความช่วยเหลือจึงกลับเข้าไปพักในโลงศพสีแดงต่อ
หลายวันที่ผ่านมา เสวียนหลิงเอ่อร์ออกมาทั้งหมดเจ็ดครั้ง แต่แล้วก็กลับเข้าไปในโลง
ภายในสวน ตอนนี้กลายเป็ที่ทำงานใหม่ของเฝิงเป่าเป่าไปแล้ว ซึ่งเขากำลังยุ่งมาก หลังจากเปิดตลาดแล้ว ยอดขายกระดานหมากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็กิจการที่ทำกำไรให้ตระกูลเฝิงได้ นอกเหนือไปจากกิจการหลักที่มีอยู่
ทว่ายังเป็เพียงการเปิดตลาดภายในเมืองชางฉงที่มีประชากรเพียงไม่กี่สิบล้านคนเท่านั้น หากมันได้รับความนิยมไปทั่วทั้งทวีป คงจินตนาการได้ว่าผลกำไรต้องมหาศาลมากขนาดไหน
ทว่าตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเช่นกัน
หลังจากเกิดเื่ขึ้นครั้งก่อน เสิ่นเสี่ยวเม่ย เสิ่นเลี่ยน และเริ่นเสี้ยวเทียนไม่ได้ออกไปจากสวนอีกเลย พวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ตลอดเพื่อหลบเลี่ยงการไล่ล่าของอู๋ิ ส่วนเส้นทางส่งออกทั้งหลายที่เฝิงเป่าเป่าเปิดทางไว้ถูกทำลายไปทั้งหมดโดยไม่รู้สาเหตุ
เฝิงเป่าเป่าและคนอื่นๆ รู้ดีว่านี่ต้องเป็ฝีมือของอู๋ิอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้พวกเขายังแข็งแกร่งไม่พอจึงทำอะไรไม่ได้
จะไปหาท่านพ่อท่านแม่ ให้พวกเขาออกมายับยั้งอู๋ิ คงไม่ได้ผลอะไรมากนัก อย่างมากก็แค่กล่าวตักเตือนอู๋ิเท่านั้น หากเฝิงเทียนอยู่ด้วยและช่วยไกล่เกลี่ยให้ ก็ยิ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
เสิ่นเสี่ยวเม่ย เสิ่นเลี่ยน และเริ่นเสี้ยวเทียนในตอนนี้ นอกจากช่วยเฝิงเป่าเป่าจัดการปัญหาต่างๆ แล้ว ยังฝึกฝนอย่างสุดความสามารถเพื่อให้เลื่อนขั้นโดยเร็วที่สุด
ครึ่งเดือนต่อมา
ภายในมิติใต้หนองน้ำ เสิ่นเสวียนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แม่ทัพเทพขั้นจักรพรรดิยืนอยู่ข้างๆ กวาดตามองไปรอบๆ
ร่างของเสวียนหลิงเอ่อร์ปรากฏขึ้นข้างกรงของงูจิ่นเมี่ยน
นางยกมือเท้าคางเล็กน้อย ขณะที่มองเสิ่นเสวียนอีกครั้งแววตากลับเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อครึ่งเดือนก่อนนางมองเสิ่นเสวียนด้วยความสงสัย
ทว่าตอนนี้กลับมองด้วยความชื่นชม
“เ้าอาจเป็คนในดวงใจคนนั้นจริงๆ” เสวียนหลิงเอ่อร์มองอีกฝ่ายพลางกล่าวพึมพำ
ทว่าเสิ่นเสวียนกลับไม่รับรู้เื่ราวภายนอกเลย
ตอนนี้เขาอยู่สุดปลายทางของมิติแล้ว กำลังทะลวงกำแพงไปอย่างบ้าคลั่ง เขาและเสี่ยวเหยียนกลายเป็หัวเจาะสองอันที่กำลังมองเห็นแสงสว่างอยู่สุดปลายอุโมงค์แล้ว
แกร๊ก!
ทันใดนั้นเอง กำแพงมิติเบื้องหน้าพวกเขาพลันเกิดเสียงดังขึ้น
กำแพงมิติถูกทำลายแล้ว เมื่อผ่านกำแพงนั้นไปก็จะพบกับโลกใบใหม่