ทะลุมิติไปทำฟาร์มกับหมอหญิงตัวน้อย (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลี่ฮูหยินได้ยินเช่นนี้ ก็ขมวดคิ้วออกมาด้วยความโมโหทันที “นี่เ๽้าพูดอะไรกัน? หากช่วยได้ข้าก็คงช่วยเ๽้าไปแล้ว! ข้าจะอยากมีหนี้บุญคุณกับเ๽้าไปทำไม?” แต่เมื่อหลินฟู่อินอธิบายนางก็รับฟัง แล้วจึงครุ่นคิด ก่อนจะกล่าวว่า “เ๱ื่๵๹นี้ข้าช่วยไม่ได้จริงๆ แต่ฟู่อิน เ๽้าไม่ได้ไร้หนทางเสียทีเดียว โรงเรียนเอกชนนี้เป็๲ของตระกูลวัง บัณฑิต๵า๥ุโ๼ทั้งสามก็ได้เงินสนับสนุนจากตระกูลวังอยู่ทุกปี หากเป็๲เ๽้า การจะส่งพี่ชายของเ๽้าเข้าไปก็คงมิใช่เ๱ื่๵๹ยากเกินไปนัก!”

        ได้ยินเช่นนี้หลินฟู่อินจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย

        ตระกูลวังหรือ โชคเข้าข้างนางแล้ว!

        นางเพิ่งช่วยชีวิตของนายหญิงวังและบุตรชายของตระกูลไป หากนางนำเ๹ื่๪๫นี้ไปขอแล้วละก็ มีโอกาสสูงที่นางจะไม่ถูกปฏิเสธ

        และต่อให้ตระกูลวังจะไม่ช่วยนาง ก็ยังมีฉินหมัวมัวอยู่

        เมื่อหลินฟู่อินเห็นโอกาสแล้ว นางจึงฝากไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนไว้กับหลี่ฮูหยิน แล้วขอให้นางส่งมอบให้คนกลางเมิ่งซือแทนนางด้วย ก่อนจะกล่าวลา

        จากนั้นจึงพาหลินซานหลางไปยังร้านทั้งสอง แต่ท่าทีของเขาในระหว่างทางกลับดูไม่ร่าเริงนัก

        หลินฟู่อินมองเขาแล้วขมวดคิ้ว

        “ฟู่อิน หากมันไปได้ไม่สวยก็ลืมๆ มันไปก็ได้ ข้าจะไปขอท่านปู่ให้ข้าและพี่ใหญ่ได้ไปเรียนหนังสือกับซิ่วไฉชราแทน” หลินซานหลางไม่อยากสร้างความลำบากให้หลินฟู่อิน จึงกล่าวออกมา

        หลินฟู่อินใช้เงินเพื่อให้เขาได้เรียนหนังสือไปมาก มาถึงจุดนี้ก็กล่าวได้ว่านางทำดีที่สุดแล้ว หากเขามีมารดาคนเดียวกันกับนาง เขาก็คงบอกนางไปว่านางทำดีที่สุดแล้ว แต่นี่เขาเป็๞เพียงญาติ…

        นอกจากนี้ มารดาแท้ๆ ของเขายังเคยพยายามฆ่านางด้วย!

        หลินซานหลางรู้สึกผิดกับเ๹ื่๪๫นี้จนแทบอยากตายมาตลอด แต่นางก็บอกเขาว่านั่นเป็๞สิ่งที่มารดาของเขาทำ ไม่ใช่เขา และความผิดของบิดามารดาต้องไม่ใช่ความผิดของลูก ในวันที่เขาได้ยินคำนี้ เขาก็ได้ให้คำสัตย์ไว้แล้วว่าเขาจะดูแลหลินฟู่อินและพี่น้องเป็๞อย่างดี!

        หลินฟู่อินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลินซานหลางศรัทธาในตัวนางถึงเพียงนี้ เมื่อนางเห็นเขาพูดอะไรไม่สร้างสรรค์เช่นนั้นแล้ว นางจึงขมวดคิ้วมองเขา “พี่ซานหลาง เป็๲บุรุษแท้ๆ แต่เหตุใดถึงยอมแพ้กับแค่อุปสรรคเล็กๆ เช่นนี้กัน? ข้าจะช่วยให้ท่านได้เรียนในโรงเรียนเอกชนแน่นอน และต่อจากนั้นไปก็ด้วย!”

        หลินซานหลางรู้สึกอับอายในคำพูดของตัวเอง แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้อยากถอย เขาแค่ไม่อยากให้หลินฟู่อินต้องยอมก้มหัวเพื่อหาเส้นสายมาให้เขา

        หลินฟู่อินเห็นว่าเขาน่าจะยังไม่รู้ตัว นางจึงกล่าวต่อ “อย่าไปคาดหวังกับซิ่วไฉชรานั่นเลย ถ้าเขามีความสามารถจริง ป่านนี้พี่ใหญ่คงสอบผ่านไปแล้ว!”

        หลินซานหลางสมองโล่งขึ้นทันที ก็จริง หากซิ่วไฉชรานั่นมีดีจริง รวมถึงเ๹ื่๪๫ที่พี่ใหญ่เองก็ไม่ได้โง่ ทั้งๆ ที่เริ่มเรียน๻ั้๫แ๻่หกขวบ เหตุใดจนป่านนี้แล้วกลับยังสอบไม่ผ่านทั้งๆ ที่ย่างเข้าวัยยี่สิบแล้วกัน?

        นับแต่วินาทีนั้นมา หลินซานหลางก็ละทิ้งความคิดที่จะไปเรียนกับซิ่วไฉชราผู้นั้นไปเลย

        “เอาละ ข้ารู้ว่าสถานการณ์ของเราในตอนนี้ไม่ได้ดีนัก ทว่านับแต่โบราณมาก็มียอดคนมากมายที่ไต่เต้าขึ้นมาจากผืนดินมิใช่หรือ? ดังนั้นแล้วเราแค่ทำไปอย่างที่ควรจะทำก็พอ อย่าได้ยอมแพ้” หลินฟู่อินให้กำลังใจเขา

        แม้จะไม่ได้ให้คำมั่นว่าเมื่อไปบ้านตระกูลวังแล้วเป้าหมายจะสำเร็จแน่นอนก็ตาม แต่สีหน้าของหลินซานหลางก็ดีขึ้นมาก

        เมื่อหลินฟู่อินพาหลินซานหลางไปถึงร้าน หลินซานหลางก็ตะลึงไป เขาคาดไม่ถึงว่าร้านทั้งสองจะกว้างใหญ่ขนาดนี้ ทั้งห้องด้านหลังก็ใหญ่มาก เกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก!

        เขาถึงกับลืมเ๱ื่๵๹โรงเรียนไปครู่หนึ่ง แล้วร่าเริงขึ้นมาราวกับเป็๲ผู้ซื้อร้านแห่งนี้มาเอง

        หลินฟู่อินเห็นหลินซานหลางดีใจกับนางด้วยเช่นนี้ นางจึงรู้สึกย้อนแย้งขึ้นมา

        หลังจากปรึกษากับหลินซานหลางแล้ว เขาก็ตัดสินใจเลือกร้านที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของถนนใกล้โรงเรียนเอกชน เป็๲ร้านที่จะใช้ทำเป็๲ร้านขายของชำในอนาคต

        อย่างไรเสีย ร้านนี้ก็มีทางเข้าที่เข้าถึงง่ายกว่า อีกทั้งการขายของชำยังต้องมีความหนาแน่นของคนสัญจรมาก ถึงจะมียอดขายที่ดีได้

        เมื่อหลินฟู่อินและหลินซานหลางดูร้านเสร็จแล้วจึงลงกลอน แล้วไปยังร้านติ่มซำในเมืองเพื่อซื้อติ่มซำดีๆ หลายห่อ แล้วไปซื้อไก่แก่อีกสองตัวในตลาดผัก

        ติ่มซำเก็บไว้ให้ฉินหมัวมัว ส่วนไก่แก่เอาไว้สำหรับนายหญิงวังของตระกูลวัง

        เมื่อมาถึงบ้านตระกูลวัง ยามเฝ้าประตูนั้นรู้จักหลินฟู่อินอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่านางพกถุงติ่มซำในมือ และพี่ชายข้างหลังยังอุ้มไก่ไว้ในอ้อมแขน เขาก็รู้ทันทีว่าหลินฟู่อินมาเพื่อเยี่ยมนายหญิงวัง เขาจึงเข้าไปรายงานถึงการมาของนางทันที

        เมื่อวังฮูหยินได้ยินว่าหลินฟู่อินมาเยือนบ้านนางอีกครั้ง แทนที่จะไม่พอใจนางกลับดีใจขึ้นมาแทน แล้วจึงส่งสาวใช้ไปต้อนรับหลินฟู่อินทันที

        หลินฟู่อินคาดไม่ถึงว่าจะมีสาวใช้ของวังฮูหยินมาต้อนรับ

        แล้วสาวใช้จึงรับไก่มาจากมือของหลินซานหลาง ก่อนจะพาหลินซานหลางไปยังสวนด้านนอกเพื่อดื่มชา

        แล้วจากนั้น หลิวเยว่ผู้เป็๲สาวใช้ที่ได้รับคำสั่งจากวังฮูหยิน ก็มาพบกับหลินฟู่อินที่เพิ่งได้เจอกับนายหญิงวัง นางจึงหาข้ออ้างเล็กน้อยเพื่อพาตัวหลินฟู่อินออกมาทันที แล้วกระซิบเสียงเบา “คุณหนูหลิน บังเอิญนักที่ท่านมาที่นี่ในตอนนี้พอดี เพราะหากท่านไม่มาในวันนี้ ทางเราคงส่งคนไปรับท่านมาแทนแล้ว”

        หลินฟู่อินนิ่วหน้าเล็กน้อย แต่รอยยิ้มบนใบหน้ายังไม่จางหาย นางกระซิบถาม “พี่หลิวเยว่หมายความเช่นไรหรือ?”

        “เมื่อคุณหนูเห็นนายหญิงแล้วก็คงจะเข้าใจเองเ๽้าค่ะ” หลิวเยว่ถูกถามก็หน้าแดงขึ้นมา แล้วพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม

        หลินฟู่อินกระตุกเล็กน้อย แล้วหวนนึกถึงสิ่งที่หลี่ฮูหยินเคยบอกไว้ว่า นางและวังฮูหยินมักจะสนทนากันบ่อยๆ และท่าทีเอียงอายของหลิวเยว่นี่ หรือว่าวังฮูหยินก็จะมองหาหมอนรีเวชอยู่เช่นกัน?

        หลินฟู่อินเดาได้ถูกต้อง และวังฮูหยินก็ต้อนรับนางอย่างดี

        หลังจากถามไถ่หลินฟู่อินเ๹ื่๪๫ครอบครัวเล็กน้อย ก็เข้าประเด็นเ๹ื่๪๫การรักษาหลี่ฮูหยินทันที

        กลายเป็๲ว่า ตอนพิธีสรงสามที่หลี่ฮูหยินไม่ได้มาร่วมด้วยนั้นเพราะนางรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงขอให้คนอื่นนำของมาใส่ตะกร้าแทน

        และเพราะมันยังไม่เห็นผลการรักษามากนัก หลี่ฮูหยินจึงไม่กล้าแนะนำหลินฟู่อินให้บ้านวัง แต่วังฮูหยินเห็นว่าหลี่ฮูหยินมีสีหน้าดีขึ้นมาก จึงตัดสินใจเรียกหาหลินฟู่อินเอง

        อย่างไรเสีย หลินฟู่อินก็เคยช่วยสะใภ้ของนางที่มีอาการคลอดยากไปแล้ว ดังนั้นวังฮูหยินจึงเชื่อว่าหลินฟู่อินมีฝีมือ

        ฟังเ๹ื่๪๫ที่เกิดขึ้นจากวังฮูหยินแล้ว หลินฟู่อินก็ไม่ปฏิเสธ แล้วจึงพิเคราะห์วังฮูหยินอย่างถี่ถ้วน จึงเห็นได้ว่าสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก แม้จะพยายามปกปิดไว้ด้วยแป้งแต่งหน้าและการทาปากก็ตาม นางจึงกล่าวตรงๆ “ล้างเครื่องสำอางออกก่อนเ๯้าค่ะ แล้วข้าจะได้ตรวจอย่างละเอียด”

        แพทย์จีนนั้นให้ความสำคัญกับการมองเพื่อตรวจอาการ วังฮูหยินจึงไม่ปฏิเสธ แต่ก็กล่าวอย่างเอียงอายด้วย “เพราะข้าไม่รู้ว่าแม่นางหลินจะมาวันนี้ หากข้ารู้มาก่อน ข้าคงไม่แต่งหน้าแล้ว แต่หากไม่แต่งหน้าไว้ ข้าก็พบหน้าใครไม่ได้อีก”

        วังฮูหยินกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง หลินฟู่อินจึงปลอบโยนนาง “ไม่เป็๞ปัญหาเ๯้าค่ะ ข้าจะรอท่านเอง”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้