ในปี 1995 ราคาที่ดินต่อตารางเมตรในเมืองโม๋ตูจะราคาประมาณสองร้อยถึงห้าร้อยหยวน หากอยู่ใกล้ใจกลางเมืองเข้าไปหน่อยจะอยู่ที่หกร้อยถึงแปดร้อยหยวน
หลังจากเกิดใหม่ เฉินเฟิงก็รู้ราคาทรัพย์สินรอบๆ โม๋ตูเป็อย่างดี
เทียบกับราคาหลักหมื่นหลักแสนต่อตารางเมตรในปี 2021 แล้ว ถือว่าราคาของปี 1995 นั้นถูกมาก
ขณะนี้เอง เฉิงเฟิงกำลังขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไปยังลู่เจียโค่ว
เพราะเฉินเฟิงจำได้อย่างชัดเจน ในปี 1995 ถางจุนจ่านซื้อที่ดินผืนหนึ่งในลู่เจียโค่วของโม๋ตูในนามของถางเฉินกรุ๊ป ซึ่งต่อมาได้กลายเป็ถางเฉินอีพิ่นในปี 2021 ที่มีลักษณะเป็คอนโดมิเนียมสุดหรู แถมในเวลานั้นถางจุนจ่านยังได้รับการขนานนามว่าเป็ ‘บุคคลผู้ริเริ่มการพัฒนาโม๋ตูฝั่งตะวันออก’ จากบุคคลภายนอกอีกด้วย
แต่ข้อมูลการซื้อขายอย่างแน่ชัดว่าซื้อมาั้แ่เดือนไหน เฉินเฟิงไม่รู้
ตอนนี้เขาหวังว่าถางจุนจ่านยังไม่ได้ที่ดินแปลงนั้นไป เพื่อที่เขาจะยังเข้าร่วมการแข่งขันในตลาดล่วงหน้าได้
ตอนนี้ในปี 1995 เจียงตงและลู่เจียโค่วยังเป็ที่ดินแห้งแล้ง
เฉินเฟิงกำลังพยายามอย่างมากในการไปถึงจุดหมายในความทรงจำของเขา
ศูนย์กลางทางการค้าในเจียงตงและลู่เจียโค่ว
ณ เวลานี้ ภายใต้การดูแลของฝ่ายบริหารเมืองโม๋ตูกำลังมีการประมูลที่ดินครั้งใหญ่ในเจียงตง ซึ่งเป็การประมูลที่น่าสนใจพอสมควร เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าฝ่ายบริหารเมืองโม๋ตูกำลังจัดประมูลที่ดินในเจียงตงนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเฉินเฟิงเป็อย่างมาก
เนื่องจากรองผู้ว่าฯ ซึ่งเป็ผู้ดูแลด้านการเงินของสำนักงานที่ดินเป็ผู้ทำเื่ขายที่ดินกว่า 7 ตารางกิโลเมตรในราคาสามสิบล้านหยวนไปเมื่อวันก่อน และั้แ่ปี 1992 ฝ่ายบริหารเมืองมีแผนการพัฒนาจากผูเชี่ยนไปถึงเจียงตง ด้วยเหตุผลว่าพวกเขาเล็งเห็นศักยภาพในการพัฒนาของเจียงตง ดังนั้นพวกเขาจึงเปิดประมูลที่ดินในเจียงตง
ขณะนี้มีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เข้าร่วมประมูลหลายราย
สถานการณ์เดียวกับเฉียนต๋ากรุ๊ปที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 ทั้งถางเฉินกรุ๊ปและเฉียนเคอกรุ๊ปถูกก่อตั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน
นอกจากนี้ยังมีปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1992 และ ิกวางกรุ๊ปที่เพิ่งก่อตั้ง 1995 และอื่นๆ อีกมากมาย
เฉินเฟิงขี่มอเตอร์ไซค์เก่าๆ โทรมๆ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรถของบริษัทั์ใหญ่อื่นๆ
ยังไงก็แล้วแต่ เ้าสัวนายทุนทั้งหลายต่างฟังผู้นำฝ่ายบริหารเมืองอย่างตั้งอกตั้งใจ
ไม่มีใครให้ความสนใจแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเฉินเฟิง
หลังจากจอดมอเตอร์ไซค์แล้ว เฉินเฟิงพลันเห็นใบหน้าคุ้นเคยคนหนึ่งในงานประมูล
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เฒ่าหวัง ประธานแห่งเฉียนต๋ากรุ๊ป ซึ่งยังเป็เป้าหมายสำคัญสำหรับเขาในเวลานั้น
ในเวลาเพียงสิบนาที บริษัทั์ใหญ่เหล่านี้เสนอราคาเป็ล้าน สิบล้าน หรือแม้แต่ระดับหลายร้อยล้านเพื่อประมูลที่ดินสวยๆ งามๆ ทั้งหลายที่พวกเขาจับตามอง
เมื่อความอดทนของเฉินเฟิงใกล้จะหมดลง
ในที่สุดฝ่ายบริหารการคลังของเมืองก็เริ่มประมูลที่ดินผืนเล็กๆ ถัดจาก ‘ตี้หวาง [1]’ ในลู่เจียโค่ว
น่าเสียดายที่ครั้งนี้เป็เพียงการประมูลที่ดินผืนเล็กๆ ใกล้ตี้หวางในลู่เจียโค่ว ยิ่งกว่านั้น มันยังเป็ที่ดินรกร้าง มูลค่าต่ำเกินกว่าจะใส่ใจ ส่งผลให้ไม่มีใครประมูลที่ดินผืนนั้นเลย
มีแค่ประธานถางจุนจ่านแห่งถางเฉินเท่านั้นที่เสนอราคาสูงถึงเก้าแสนหยวน
ก่อนหน้านี้เขาเข้าร่วมประมูลที่ดินดีๆ หลายแปลงแล้ว ทำให้สินทรัพย์ที่สามารถใช้จ่ายได้ลดลงไปมากมาย อีกทั้งยังมีเงินบางส่วนถูกกักไว้เพื่อประมูลตี้หวาง
จึงพูดได้ว่า เก้าแสนหยวนนี้ เป็เงินทุนสภาพคล่องก้อนสุดท้ายที่เขาใช้จ่ายได้ในขณะนี้
หากเฉินเฟิงไม่ปรากฏตัว ถางจุนจ่านคงชนะการประมูลด้วยราคา เก้าแสนหยวนไปแล้ว เพราะนักธุรกิจคนอื่นๆ ไม่ได้ให้ความสนใจกับที่ดินแห้งแล้งในลู่เจียโค่วแห่งนี้ั้แ่แรกอยู่แล้ว พวกเขาจึงไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องเสียเงินแข่งขันกับถางจุนจ่านโดยเปล่าประโยชน์
“ผู้เข้าร่วมประมูลถางเฉินกรุ๊ป เสนอเก้าแสนหยวน สำหรับที่ดินผืนเล็กถัดจากตี้หวางของลู่เจียโค่วแปลงนี้ มีผู้เข้าร่วมประมูลท่านใด้าเสนอราคาที่สูงกว่านี้หรือไม่”
“เก้าแสน ครั้งที่หนึ่ง ...”
เฉินเฟิงจับตามองผืนดินแห้งแล้งแปลงเล็กซึ่งอยู่ถัดจากตี้หวางมาสักระยะแล้ว และเขาก็กำลังชั่งน้ำหนักในใจระหว่างที่ดินนี้กับสถานที่ตั้งบ้านของเขาในชาติก่อน
‘ใช่แล้ว ที่ดินแห้งแล้งแปลงนั้นจะถูกพัฒนาจนกลายเป็ทรัพย์สินระดับพรีเมียมของถางเฉินกรุ๊ปในอนาคต ไม่ใช่แค่นั้น ที่ดินแห้งแล้งเล็กๆ แปลงนี้ ในแง่ของฮวงจุ้ยแล้ว นับเป็แกนดวงอาทิตย์รูปจันทร์เสี้ยวของตี้หวาง ที่ดินตี้หวางจะถูกถางจุนจ่านซื้อไปในราคาหกร้อยล้านเป็แน่ เพราะฉะนั้นเขาควรจะใช้เวลาสิบปีในการออกแบบและสร้างโหล่หวาง [2] ถางเฉินจี๋พิ่น เพราะเขาในชาติก่อนถูกหลอกให้ซื้อบ้านราคาหลายร้อยล้านในถางเฉินจี๋พิ่น ตอนนั้นเขารู้สึกเสียใจมากที่เผลอหลวมตัวไปซื้อบ้านที่แพงที่สุดและดีที่สุดของถางเฉินจี๋พิ่น แต่ไหนๆ ตอนนี้มีโอกาสเกิดใหม่ทั้งที ขอตอบแทนคืนหน่อยแล้วกัน เฉินเฟิงคิดกับตัวเองอย่างตื่นเต้น
ทันทีที่เขาได้ยินเสียงประกาศราคาครั้งที่หนึ่ง เขาจึงเดินเข้าไปหาผู้เฒ่าหวังแห่งเฉียนต๋าอย่างเงียบๆ แล้วพูดกระซิบว่า
“พี่ใหญ่หวังครับ ผมแปลกใจจริงๆ ที่มาเจอพี่ที่นี่หลังจากผ่านไปแค่วันเดียวเอง ผมขอรบกวนอะไรพี่อย่างหนึ่งได้ไหมครับ พี่ช่วยผมประมูลที่ดินหน่อยครับ ผมจะเสนอราคาเก้าแสนหนึ่งหมื่นเพื่อซื้อที่ดินแปลงนั้นในลู่เจียโค่ว”
ผู้เฒ่าหวังเห็นเฉินเฟิงั้แ่สิบนาทีก่อนแล้ว และตั้งใจว่าจะโทรหาเขาเพื่อคุยเล่นสักหน่อย
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เฒ่าหวังต้องประหลาดใจคือ
เฉินเฟิงเพิ่งทุ่มเงินเมื่อวันก่อนไปกว่าสามสิบล้านให้ที่ดินกว่าเจ็ดตารางกิโลเมตร
แถมบวกอีกยี่สิบล้านให้โรงแรมเฉียนต๋าที่ทำให้เขาขาดทุนอีก แต่ไฉนเฉินเฟิงถึงไม่เข้าร่วมในการประมูลใดๆ ก่อนหน้านี้เลย
ผู้เฒ่าหวังได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้จนถึงตอนนี้ จนกระทั่งเขาเห็นเฉินเฟิงเข้ามาขอความช่วยเหลือ เขาถึงเข้าใจสักที เฉินเฟิงที่เข้าร่วมโดยไม่ได้รับเชิญไม่มีบัตรผู้เข้าร่วมประมูล นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาไม่เสนอราคาใดๆ ได้เลย
“ได้สิ ในเมื่อนายช่วยฉันซื้อโรงแรมเผือกร้อน นายเป็ผู้มีพระคุณสำหรับฉัน เื่เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ย่อมยินดีช่วยอยู่แล้ว”
วิธีพูดของเ้าสัวนายทุนย่อมแตกต่างจากคนธรรมดา แม้ว่าเฉินเฟิงจะไม่เข้าใจว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็รู้สึกยินดีกับคำตอบเช่นนี้
ผู้เฒ่าหวังยกบัตรประมูลของเขาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศครั้งที่สองจากคนของฝ่ายบริหารเมือง
“เฉียนต๋ากรุ๊ป ขอเสนอราคาเก้าแสนหนึ่งหมื่นหยวน สำหรับที่ดินผืนเล็กในลู่เจียโค่ว”
ผู้เฒ่าหวังกับผู้เฒ่าถางเป็คู่แข่งกันในวงการอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าหวังยกบัตรขึ้นประมูล ทำให้ถางจุนจ่านรู้สึกเหมือนถูกยั่วยุ
เห็นดังนั้น ถางจุนจ่าน้าเสนอราคาเพิ่มเป็หนึ่งล้านหยวน แต่ก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป
เนื่องด้วยการประมูลครั้งนี้มีข้อตกลงว่าจะต้องจ่ายเป็เงินสด ณ จุดประมูล หรืออาจตกลงกันภายหลังงานประมูลสิ้นสุดได้
แต่ไม่ว่ายังไง ฝ่ายบริหารเมืองคงไม่ปล่อยให้ใครเลื่อนการชำระเงินนานเกินไปแน่
แล้วทรัพย์สินสภาพคล่องที่เหลืออยู่ปัจจุบันมีเพียงเก้าแสนหยวนเท่านั้น
อีกหกร้อยล้านซึ่งอยู่ในระหว่างการหมุนเวียนนั้นต้องแบ่งไว้ประมูลตี้หวาง ยังไม่พร้อมนำออกมาใช้ทันที
นี่เป็การแสดงให้เห็นว่า เงินเพียงหนึ่งหมื่นหยวนก็ส่งผลต่อนักธุรกิจคนหนึ่งได้ขนาดไหน
เ้าสัวนายทุนคนอื่นไม่เข้าใจคุณค่าของที่ดินแห้งแล้งเล็กๆ ในลู่เจียโค่วแปลงนี้ แต่ผู้เฒ่าถางรู้เป็อย่างดี
แต่ตอนนี้ด้วยส่วนต่างเพียงหนึ่งหมื่นหยวน ทำให้เขามิอาจคว้าไพ่ใบสำคัญนี้มาได้
“เฉียนต๋ากรุ๊ปเสนอราคาเก้าแสนหนึ่งหมื่นหยวน สำหรับที่ดินแปลงนี้ในลู่เจียโค่ว มีผู้เข้าร่วมประมูลท่านใด้าเสนอราคามากกว่านี้ไหมครับ?”
พนักงานจากฝ่ายบริหารเมืองดูมีความสุขเช่นกัน
เชิงอรรถ
[1] ตี้หวาง มีความหมายว่า าาที่ดิน เป็คำที่ใช้เรียกที่ดินแปลงที่ถูกประมูลด้วยราคาสูงที่สุดในการประมูลแต่ละครั้ง ทำให้ที่ดินแปลงนั้นๆ มีราคาแพงที่สุดในเขต หรือย่านนั้นๆ ไปโดยปริยาย
[2] โหล่หวาง มีความหมายว่า าาสิ่งปลูกสร้าง เป็คำที่ใช้เรียกตึก อาคาร หรือโปรเจ็คก่อสร้างใดๆ ก็แล้วแต่ที่โดดเด่นกว่าอาคารหรือสิ่งก่อสร้างรอบๆ โดยวัดได้หลายวิธี เช่น ความหรูหรา สไตล์ ความสูงของตัวอาคาร หรือแม้แต่ราคาแพงที่สุดต่อตารางกิโลเมตร