คุณตากู่เห็นว่าเป็กู่ซิ่วกับสวี่เยว่ที่เดินเข้ามา ก็บันดาลโทสะทันที
คว้าถ้วยชาขึ้นมาปาใส่ พลางะโลั่น “ไสหัวไป! ไสหัวไปให้หมด! อย่ามาเหยียบพื้นบ้านฉันให้สกปรก!”
กู่ซิ่วรีบหันหลังไปกอดสวี่เยว่ ถ้วยชาจึงกระแทกเข้าที่หลังของกู่ซิ่ว เจ็บแทบตาย
คุณยายกู่กำลังวุ่นอยู่ในครัว ได้ยินเสียงตะคอกของสามีก็รีบวิ่งออกมาจากครัวแล้วปิดประตูใหญ่
ต่อว่าสามีเสียงเบา “คุณเบาเสียงหน่อยไม่ได้หรือไง ไม่กลัวเพื่อนบ้านได้ยินแล้วหัวเราะเยาะเหรอ!”
ั้แ่เื่อื้อฉาวของสวี่เยว่ถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ คนในบ้านพักก็รู้กันเกือบหมด เพื่อนบ้านเห็นพวกเขาทั้งสองก็เอาแต่ซุบซิบนินทา
ตอนนี้เื่วุ่น ๆ เริ่มสงบลงแล้ว ถ้าสามีโวยวายแบบนี้ จนเพื่อนบ้านกลับมาสนใจอีก พวกเขาสองสามีภรรยาก็จะกลายเป็ตัวตลกของเพื่อนบ้านอีกครั้ง
คุณตากู่ลดเสียงลงด้วยใบหน้ามืดครึ้ม “ให้มันสองแม่ลูกไสหัวกลับไปเร็ว ๆ เลย! ฉันไม่อยากเห็นงูพิษอย่างสวี่เยว่!”
กู่ซิ่วร้องไห้ “พ่อ! เยว่เยว่ป่วยอยู่นะคะ พ่อจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้นะ”
คุณตากู่เบิกตากว้าง “แล้วไง? มันป่วยแล้วจะทำเื่เลวร้ายทำร้ายคนอื่นได้งั้นเหรอ?”
“มันป่วย ทำเื่ชั่ว ๆ ฉันยังต้องคอยโอ๋คอยประคับประคองมันอีกเหรอ?”
สวี่เยว่คุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้น้ำตาไหลพราก “คุณตา หนูผิดไปแล้ว ต่อไปหนูจะไม่ทำอีกแล้ว”
คุณตากู่หัวเราะเยาะ “คำพูดตอแหลพวกนี้ของแกหลอกได้แค่แม่โง่ ๆ ของแกเท่านั้นแหละ อย่ามาแสร้งทำตัวน่าสงสารต่อหน้าฉัน!”
“ถ้าแกสำนึกผิดจริง แกจะขโมยเงินรางวัลของพี่สาวลับหลังเหรอ? แล้วยังจะใช้เสี่ยวเหลียนเป็เครื่องมือจัดการพี่สาวแกอีก?”
“อย่าคิดว่าฉันแก่มากแล้ว อยู่ในเมือง แล้วจะไม่รู้อะไรเลย!”
สวี่เยว่ถูกตำหนิจนหน้าซีดสลับแดง สับสนไปหมด
คุณยายกู่พูดกับสวี่เยว่อย่างเสียใจปนผิดหวัง “เด็กคนนี้นี่ ทำไมถึงทำร้ายพี่สาวตัวเองได้ลงคอ?”
“คุณตาของเธอกำลังหัวร้อน เธอกับแม่กลับไปก่อนเถอะ อย่าทำให้คุณตาโกรธจนเป็อะไรไปเลย”
กู่ซิ่วกับลูกสาวทำได้เพียงวางของขวัญลงแล้วจากไปด้วยความเศร้า
ส่วนเื่ยืมเงิน แทบไม่มีโอกาสได้เอ่ยปาก แถมยังเสียเงินซื้อของขวัญไปหลายสิบหยวน กู่ซิ่วเจ็บใจแทบบ้าตาย
สองแม่ลูกเพิ่งจะเดินพ้นประตูบ้าน คุณพ่อกู่ก็สั่งไล่หลังมาว่า “วันที่เก้า เดือนสิงหาคมเป็วันเกิดฉัน แกพาฮุ่ยฮุ่ยมาด้วย”
จากนั้นกล่าวเสริมอีกประโยค “อย่าพาสวี่เยว่มาเด็ดขาด ฉันกลัวว่าเห็นหน้ามันแล้วจะอายุสั้นลงหลายปี”
กู่ซิ่วยอมรับอย่างไม่เต็มใจ
สวี่เยว่กัดริมฝีปาก ก้มหน้าลง ทำท่าทางนอบน้อมน่าสงสาร แต่ในใจกลับเกลียดคุณตากู่เข้ากระดูกดำ
พอสวี่ฮุ่ยสอบได้ที่หนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย คุณตาที่เป็ผู้ใหญ่ก็รีบมาประจบสอพลอ ท่าทางน่ารังเกียจจริง ๆ !
บ้านพักพนักงานโรงงานเครื่องจักรกลการเกษตรอยู่ติดกับบ้านพักครู
สองแม่ลูกเพิ่งจะเดินออกจากบ้านพักครู ก็บังเอิญเจอกับแม่ลูกฉินยงจวินพอดี
แม่ลูกฉินยงจวินไปซื้อของจากตลาดสด กำลังจะกลับบ้าน
สวี่เยว่เห็นฉินยงจวินก็นึกถึงตอนที่เขาสะกดรอยตามสวี่ฮุ่ยในเย็นวันนั้น
สวี่เยว่คิดมาตลอดว่าฉินยงจวินจะไปรังควานสวี่ฮุ่ย เธอจะได้ถือโอกาสปล่อยข่าวฉาวของสวี่ฮุ่ย ทำลายชื่อเสียงเธอ
แต่คาดไม่ถึงว่าฉินยงจวินจะนิ่งเฉยไม่ยอมเคลื่อนไหวมาโดยตลอด
สวี่เยว่อยากยุยงให้ฉินยงจวินไปตามตอแยสวี่ฮุ่ย แต่ตอนนี้มีแม่อยู่ด้วยกันทั้งคู่ เธอทำแบบนั้นไม่ได้
สองฝ่ายเดินผ่านกันไป สวี่เยว่หันกลับไปมองฉินยงจวิน
ฉินยงจวินััได้ว่ามีคนจ้องมองเขาอยู่ จึงหันกลับไปมองเช่นกัน และสบสายตากับสวี่เยว่พอดี
เขาขยิบตาให้สวี่เยว่อย่างหยอกเย้า ทำเอาสวี่เยว่ใจนรีบหันกลับไป
ยืมเงินจากบ้านเดิมไม่ได้ กู่ซิ่วจึงต้องใช้เงินส่วนตัวที่แอบเก็บไว้ลับหลังสวี่ต้าซาน รวมกับเงินที่จี่หนานสยงให้ และเงินหนึ่งพันหยวนที่พี่ใหญ่ กู้เจี้ยนกั๋วแบ่งให้จากการขายผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยของสวี่ฮุ่ยเมื่อปีที่แล้ว ทั้งหมดเป็เงินเกือบสี่พันหยวน
กู่ซิ่วพาสวี่เยว่ไปถอนเงินจากในเมือง จากนั้นก็พาสวี่เยว่เข้าเมืองเอกมณฑล เพื่อซื้อของขวัญที่บ้านสกุลลู่ให้มา
งานเลี้ยงของสวี่ฮุ่ยดำเนินไปจนถึงบ่ายสองโมงกว่า อาจารย์ใหญ่โจวรอแขกกลับไปเกือบหมด แล้วค่อยเรียกสวี่ฮุ่ยมาถามว่าชายหนุ่มสามคนที่มอบเค้กวันเกิดและกำไลเงินให้เธอเมื่อกี้คือใคร
สวี่ฮุ่ยเล่าให้ฟังตามจริง
อาจารย์ใหญ่โจวได้ยินว่าเป็พวกน้องชายของตำรวจแซ่ลู่ที่เคยช่วยชีวิตสวี่ฮุ่ยไว้ก็เบาใจ แต่ยังกำชับให้สวี่ฮุ่ยระมัดระวังในการคบหาเพื่อน
อาจารย์ใหญ่โจวกล่าวว่า “ฉันไม่ได้จะก้าวก่ายเื่การเลือกคบเพื่อนของเธอหรอกนะ แค่กลัวว่าเธอจะเสียเปรียบ”
สวี่ฮุ่ยยิ้มแล้วพยักหน้า “ฉันเข้าใจค่ะ ขอบคุณอาจารย์ใหญ่โจวที่เป็ห่วง”
อาจารย์ใหญ่โจวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไปเถอะ”
สวี่ฮุ่ยจึงจากไปกับจ้าวชิงชิง
ระหว่างทาง จ้าวชิงชิงก็ซักถามเื่สามพี่น้องสกุลลู่อย่างอยากรู้อยากเห็น
พอได้ยินว่าสามพี่น้องสกุลลู่มาส่งของขวัญแทนพี่ชายคนโต ดวงตาก็เป็ประกายทันที
“เขาฝากน้องชายมาส่งของขวัญวันเกิดให้เธอในวันเกิดเธอแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาสนใจเธอเหรอ?”
“ในเมื่อเขาจีบเธอ เธอก็รีบตอบตกลงไปสิ”
“ตำรวจเชียวนะ! เป็คู่ครองที่ดีมากเลย แถมเขายังมีพระคุณเคยช่วยชีวิตเธอไว้ เธอยิ่งควรตอบแทนเขาด้วยการมอบหัวใจให้!”
สวี่ฮุ่ยยิ้มขื่น “เขามีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว”
จ้าวชิงชิงอึ้งไปครู่หนึ่ง “มีคนที่แอบชอบแล้วไง? ก็ยังไม่ได้เป็แฟนกันนี่ เธอสามารถจีบคุณตำรวจลู่ได้”
สวี่ฮุ่ยมองเธอ “ฉันทำแบบนั้นไม่เท่ากับเป็มือที่สามเหรอ?”
จ้าวชิงชิงพูด “เขายังไม่ได้คบกัน เธอจะเป็มือที่สามได้ยังไง?”
สวี่ฮุ่ยเหมือนกินยาชูกำลัง เกิดความกล้าขึ้นมาทันที “ก็ได้ ฉันจะจีบเขาก่อน!”
แต่ไม่ทันไร เธอก็ใจแป้ว “ฉันคู่ควรกับพี่ลู่เหรอ?”
จ้าวชิงชิงถลึงตาใส่เธอ “ทำไมเธอจะไม่คู่ควร? เธอเป็ถึงนักเรียนที่สอบได้อันดับหนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แถมยังสวยราวกับดอกไม้ ฉันกลัวว่าคุณตำรวจลู่จะไม่คู่ควรกับเธอด้วยซ้ำ!”
สวี่ฮุ่ยลูบหน้าอย่างเขินอาย “ฉันดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”
จ้าวชิงชิงพยักหน้าแรง ๆ “ถ้าฉันเป็ผู้ชาย ฉันจะจีบเธอ”
เพื่อนรักทั้งสองแยกทางกันที่ตำบลเถาฮวา ต่างคนต่างกลับบ้าน
เพื่อน ๆ ให้ปากกามาเยอะมาก อย่างน้อยก็ยี่สิบกว่าด้าม
สวี่ฮุ่ยใช้ไม่หมด เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก เธอเก็บปากกาที่แพงและดีที่สุดไว้ห้าด้าม ส่วนที่เหลือก็แจกให้เด็กมัธยมปลายในบ้านพัก
ส่วนสมุดโน้ตกับผ้าเช็ดหน้าไม่ได้ให้ใคร ของพวกนี้เธอเก็บไว้ค่อย ๆ ใช้ได้
กู่ซิ่วกับลูกสาวกลับมาถึงตำบลเถาฮวาตอนหนึ่งทุ่มกว่า พร้อมกับถุงใบเล็กใบใหญ่พะรุงพะรัง
สองแม่ลูกเพิ่งจะเดินถึงแถวบ้านพัก สวี่เยว่ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง
เธอชะงักเท้าไปครู่หนึ่ง นี่มันเสียงรหัสลับที่เธอใช้นัดกับจูฉีเจี้ยนไม่ใช่เหรอ?
สวี่เยว่มองตามเสียงไป เห็นจูฉีเจี้ยนซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
จูฉีเจี้ยนเลือกมาหาเธอวันนี้ คงอยากจะให้ของขวัญวันเกิดเธอ
ในวันเกิดเธอทุกปี เ้าหมาจูฉีเจี้ยนตัวนี้จะแอบให้ของขวัญวันเกิดเธอเสมอ
ส่วนเงินที่ซื้อของขวัญวันเกิดส่วนใหญ่มักจะเป็เงินที่ยัยโง่สวี่ฮุ่ยปรนเปรอจูฉีเจี้ยน ทำให้สวี่เยว่รู้สึกสะใจเป็พิเศษ
เธอแอบคาดหวังเล็กน้อย ไม่รู้ว่าปีนี้เ้าหมาจูจะให้อะไรเธอ
สวี่เยว่อ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เอาของทั้งหมดให้กู่ซิ่ว แล้วให้เธอกลับบ้านก่อน
มองกู่ซิ่วถือของเข้าประตูบ้านพักอย่างทุลักทุเล สวี่เยว่ค่อยเดินไปหาจูฉีเจี้ยน
จูฉีเจี้ยนไม่ได้รอสวี่เยว่อยู่ที่เดิม แต่หันหลังเดินเข้าไปในความมืดมิด
เดินไปจนถึงมุมเปลี่ยว จูฉีเจี้ยนถึงหยุดเดิน
สวี่เยว่เดินไปข้าง ๆ แล้วถามเขาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า “มาหาฉันมีอะไรรึเปล่า?”
สวี่เยว่ชอบแสร้งทำเป็ไร้เดียงสาที่สุด
วิธีนี้ได้ผลมาก เธอหลอกผู้ชายด้วยท่าทางไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกสำเร็จมาแล้วนักต่อนัก
จูฉีเจี้ยนยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนนุ่มนวล หยิบกำไลเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้สวี่เยว่ พลางพูดด้วยความรักใคร่ว่า “สุขสันต์วันเกิด”
กำไลเงิน!
ดวงตาของสวี่เยว่เป็ประกายทันที ยื่นมือออกมาอย่างออดอ้อน “ใส่ให้หน่อยสิ”
จูฉีเจี้ยนดีใจจนใบหน้าบิดเบี้ยว
เขาแอบคบกับสวี่เยว่มานานสามปีแล้ว สวี่เยว่บริสุทธิ์ผุดผ่อง นี่เป็ครั้งแรกที่เธอให้เขาััตัวเธอ
จูฉีเจี้ยนตื่นเต้นจนมือสั่นกึก ๆ ใส่กำไลเงินให้สวี่เยว่ด้วยความยากลำบาก
สวี่เยว่ยกข้อมือที่สวมกำไลเงินขึ้นมาดูใกล้ ๆ แล้วออเซาะต่อ “จูจู ฉันมีเื่ลำบากใจอย่างหนึ่ง นายช่วยฉันได้ไหม?”
“เื่อะไร?” จูฉีเจี้ยนถาม
“คือ...นายไปบอกพี่สาวฉัน ให้ฉันไปเรียนมหาลัยแทนพี่หน่อยสิ”