ยามเที่ยงวัน รถม้าหรูหราคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูจวนโหว
บุรุษผิวคล้ำคนหนึ่งลงจากรถม้าแล้ววิ่งเข้าไป เขาก้าวยาวๆ ไปตามระเบียง ตลอดทางข้ารับใช้ทุกคนที่เห็นเขาต่างก็ก้มหน้า “คุณชายสาม”
“ท่านแม่! ท่านแม่!”
เขาเปิดประตูห้องของเหลยซื่อออกดังปัง สตรีที่กำลังดื่มชาอยู่ด้านในใ มองไปยังบุรุษที่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยความยินดี
“อวิ๋นฮั่น! เ้า เหตุใดเ้าจึงไม่บอกกล่าวแม่สักคำก่อนจะกลับมา?”
หลิ่วอวิ๋นฮั่นรูปร่างสูง ไม่หล่อเหลาเท่าหลิ่วอวิ๋นเฟิง แต่แข็งแรงเด็ดเดี่ยว ในดวงตาเจือแววเอาแต่ใจอยู่หลายส่วน นิสัยก็ค่อนข้างจะดื้อรั้น
“บอกแล้ว ลูกส่งจดหมายมาบอกว่าวันนี้จะมาถึงเมืองแล้ว ทำไมหรือขอรับ? ท่านแม่ไม่ได้รับหรือ?”
เหลยซื่อพลันเข้าใจกระจ่าง บางทีจดหมายอาจจะไปถึงมือของฮูหยินผู้เฒ่า แต่นางไม่ได้บอกตนเองเท่านั้น ความขมขื่นในใจยิ่งทบทวี “กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว”
“ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงดูซีดเซียวนัก มีผู้ใดรังแกท่านแม่หรือ?”
สีหน้าของเขาพลันเย็นเยียบ เมื่อสาวใช้ข้างๆ เห็นก็อดใจเต้นไม่ได้ คุณชายสามกลับมาจากชายแดนคราวนี้ น่ากลัวขึ้นมาก
“น้องสาม น้องสามกลับมาแล้วหรือ?”
“พี่รอง!”
เมื่อหลิ่วอวิ๋นฮว๋าเดินเข้ามาเห็นคนในห้อง ใบหน้าพลันเต็มไปด้วยความยินดี “น้องสาม มาให้พี่รองดูหน่อย เ้าโตขึ้นทั้งยังดูแข็งแรงถึงเพียงนี้ มีจิติญญาความเป็บุรุษมากขึ้นแล้ว!”
“แน่นอนอยู่แล้ว! ในกองทัพมีไม่กี่คนที่กล้ามาหาเื่ข้า!”
“เช่นนั้นหรือ? ดีแล้ว...” แววตาของนางพลันเปลี่ยนไป กลายเป็มืดครึ้มลง
หลิ่วอวิ๋นฮั่นเห็นแวตาของพวกนาง “ท่านแม่ พี่รอง มีคนรังแกพวกท่านใช่หรือไม่? เป็อี๋เหนียงคนไหน? ข้าจะไปถลกหนังหัวมัน!”
“ไม่ใช่อี๋เหนียงหรอก...”
“เช่นนั้นเป็ผู้ใด? คงมิใช่ท่านย่ากระมัง?”
“นังเด็กสาวสารเลวคนหนึ่ง!” เหลยซื่อกัดฟัน
“เด็กสาว? เช่นนั้นก็โบยให้ตายเสียก็สิ้นเื่มิใช่หรือ เหตุใดต้องมีโทสะเช่นนี้ด้วย ท่านจะเสียสุขภาพเอาได้”
หลิ่วอวิ๋นฮว๋าพลันหน้าเปลี่ยนสี รีบมองไปนอกห้อง “เป็น้องหกที่เพิ่งรับกลับมาจากชนบทได้ไม่นาน! ไม่รู้ว่านางใช้เวทมนตร์อะไร ตอนนี้ท่านย่าถึงได้รักและตามใจนางนัก หากท่านย่าได้ยินคำพูดของเ้าเมื่อครู่ จะต้องถูกกักบริเวณเหมือนพวกเราแน่!”
“อะไรนะ? พี่รอง ท่านถูกกักบริเวณหรือ?” หลิ่วอวิ๋นฮั่นไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง ตลอดมาท่านย่าทั้งรักทั้งตามใจพี่รองมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เฮ้อ...” เหลยซื่อถอนใจ “เด็กคนนั้น ทำร้ายพี่รองของเ้าจนทุกข์ใจแล้ว!”
พูดไป ดวงตาของหลิ่วอวิ๋นฮว๋าก็แดงก่ำ ท่าทางน่าสงสารเช่นนั้นทำให้หลิ่วอวิ๋นฮั่นยิ่งทวีความโกรธแค้นมากขึ้น
...
ตอนกลางคืน เหลยซื่อจัดงานเลี้ยงต้อนรับกับเหล่าอี๋เหนียงทุกคนโดยเฉพาะ กล่าวว่าเพื่อต้อนรับคุณชายสามกลับจวน
“พี่รอง อย่ากลัวไปเลย รออีกไม่นานข้าจะให้นังสารเลวนั้นได้เห็นดีแน่!” หลิ่วอวิ๋นฮั่นชูกำปั้นของตนขึ้น ท่าทางเช่นนี้ทำให้หลิ่วอวิ๋นฮว๋าขบขัน
สองพี่น้องออกไปอย่างมีความสุข เป็จริงดังคาด เมื่อกล่าวว่าเพื่อต้อนรับคุณชายสาม ก็ไม่มีใครกล้าไม่มา อนุรอง อนุสี่ และอนุห้านั่งอย่างไม่เป็ธรรมชาตินัก ส่วนคุณหนูหลายท่านนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งอย่างหวาดกลัว
“ทำไมน้องแปดกับน้องเก้าจึงไม่มา?!” ใบหน้าของหลิ่วอวิ๋นฮั่นมืดครึ้ม อนุสี่รีบอธิบายว่า “คุณชายแปดกับคุณชายเก้าต้องลมเย็น ท่านหมอกล่าวว่าต้องนอนพักติดเตียงหลายวัน กระทั่งสถานศึกษาก็ไม่ได้ไปเ้าค่ะ”
“อ่อนแอขนาดนี้เชียว? พรุ่งนี้ให้พวกเขามาเรียนต่อสู้กับข้าก็ดีขึ้นเอง!”
อนุสี่ตกตะลึง นางยังจำได้ว่าตอนที่คุณชายสามยังไม่ถูกส่งไปชายแดน ก็ต่อยตีจนคุณชายทั้งสองของนางตาเขียวแล้ว
อนุสองเห็นท่าทางกังวลใจระคนหวาดกลัวของอนุสี่ มุมปากก็ยิ้มอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
“ท่านย่าไม่มาหรือ?”
เหลยซื่อสีหน้าอ่อนลง วันนี้นางไปเชิญฮูหยินผู้เฒ่า ผลคือฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวประโยคหนึ่งว่า ท่านโหวยังไม่กลับมา นี่มิใช่ว่ากำลังตำหนินางอยู่หรอกหรือ?
“เด็กคนนั้นเล่า?” ที่สำคัญคือ หลิ่วอวิ๋นซูก็ไม่มา!
“คุณชายสามไม่ทราบหรือเ้าคะ ตอนนี้คุณหนูหกเป็คนโปรดของฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าไม่มา คุณหนูหกจะมาได้อย่างไร” อนุรองยิ้ม แม้นางจะหวาดกลัวคุณชายสามท่านนี้ แต่เห็นได้ชัดว่า เป้าหมายของเขาวันนี้มีเพียงคุณหนูหกเท่านั้น
ช่างเป็เด็กสารเลวเสียจริง กระทั่งตนเองก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา!
ตอนนี้เอง ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าแว่วมาเบาๆ ชุนเซียงประคองหีบใบหนึ่งเดินเข้ามา “คุณชายสามเ้าคะ คุณหนูหกสั่งให้บ่าวส่งของขวัญต้อนรับให้คุณชายสาม คุณชายสามโปรดรับไว้ด้วยเ้าค่ะ”
ของขวัญ? เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง จะส่งเห็ดมาให้ตนเองหรืออย่างไร?! เมื่อมองสาวใช้ตรงหน้าหลิ่วอวิ๋นฮั่นก็จำนางได้ เมื่อก่อนนางอยู่ในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า เดิมทีคิดอยากจะตีนางแรงๆ สักหน่อย ตอนนี้กลับทำไม่ได้แล้ว เห็นแก่หน้าของฮูหยินผู้เฒ่าจึงไม่อาจแตะสาวใช้ผู้นี้ได้
“น้องหกเล่า? เหตุใดนางไม่มา ไม่ไว้หน้าข้าใช่หรือไม่?”
“คุณชายสามโปรดอย่าเข้าใจผิด คุณหนูหกมาไม่ได้เ้าคะ”
มาไม่ได้? นี่มันข้ออ้างอะไรกัน?! “ไป! ข้าอยากจะดูเสียหน่อยว่านางแขนขาดหรือขาหัก! ต่อให้ต้องคลานก็ต้องคลานมาให้ข้า!”
บุรุษผู้ยโสโอหังเดินออกไปทันที ใบหน้าของหลิ่วอวิ๋นฮว๋าในตอนนี้ปรากฏรอยยิ้มมีความสุข นังเด็กสารเลวต้องตายวันนี้แน่แล้ว สำหรับน้องสามของนางนั้น ต่อให้อีกฝ่ายเป็สตรีก็ลงมืออย่างไม่ไว้หน้า
“คุณชายสามรอก่อนเ้าค่ะ คุณหนูหกไม่ได้อยู่ที่เรือนเ้าค่ะ”
“พูดจาเลอะเทอะ นางไม่อยู่ที่เรือนหรือจะไปอยู่ในซ่อง? จะหลบจากข้าหรือ?” ใช้ชีวิตอยู่กับเหล่าทหารที่ชายแดนมานาน หลิ่วอวิ๋นฮั่นที่เดิมทีมีนิสัยป่าเถื่อนก็ยิ่งเพิ่มความหยาบคายมากขึ้นอีก เปิดปากแต่ละทีล้วนมีแต่คำพูดไม่น่าฟัง
ทุกคนรีบตามไป ความจริง้าไปดูสภาพโชคร้ายขอหลิ่วอวิ๋นซู บุตรีอนุภรรยาหลายคนไม่พอใจที่จู่ๆ อวิ๋นซูก็ได้รับความรักจากฮูหยินผู้เฒ่า เพียงแต่ตลอดมานี้ไม่มีโอกาสสร้างความวุ่นวายให้กับนาง เมื่อมีงิ้วน่าสนุกขนาดนี้ พวกนางจะพลาดได้อย่างไร
อนุห้ากลับกังวลใจยิ่งนัก นางมองทุกคนเดินจากไป แล้วจึงรีบวิ่งเหยาะๆ ตรงไปยังเรือนฮูหยินผู้เฒ่า
“หลิ่วอวิ๋นซู ไสหัวออกมาให้ข้าเห็นหน้าเสีย!”
เสียงะโดังลั่น หลิ่วอวิ๋นฮั่นใช้เท้าถีบแจกันในเขตเรือนจนแตกเป็เสี่ยงๆ ทว่ากลับมีเพียงสาวใช้สามคนวิ่งออกมา
“คุณชายสามเ้าคะ คุณหนูหกไม่อยู่ในเรือนเ้าค่ะ”
“ไม่อยู่งั้นหรือ? หลีกทางไป!” หลิ่วอวิ๋นฮั่นผลักเซี่ยเหอออก สตรีน้อยนางนั้นพลันล้มลงกับพื้นอย่างแรง ชุ่ยเอ๋อร์และอวี้เอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ตกตะลึง พวกนางเคยได้ยินว่าคุณชายสามหยิ่งยโสไร้เหตุผล คิดไม่ถึงว่าจะโหดร้ายถึงเพียงนี้! พี่เซี่ยเหอยังมีวิชาต่อสู้ช่วยเสริมร่างกาย หากเปลี่ยนเป็พวกนาง อาจถึงขั้นกระอักเืออกมา
ในเรือนไม่มีแม้แต่เงาคนจริงๆ ทว่า ขวดโหลเ่าั้กลับดึงดูดความสนใจของหลิ่วอวิ๋นฮั่น
ดี! เล่นของจริงๆ เสียด้วย ของเหล่านี้ก็เป็เครื่องมือไว้ใช้ทำของสินะ?!
“อย่าเ้าค่ะ คุณชายสาม ของพวกนี้จะให้แตกไม่ได้!”
“คุณชายอย่างข้าจะให้พวกเจาได้เห็นว่าได้หรือไม่ได้!” หลิ่วอวิ๋นฮั่นปัดขวดโหลจำนวนมากบนโต๊ะตกลงพื้นจนแตกเสียงดัง ชุ่ยเอ๋อร์และอวี้เอ๋อร์ตนใจจนหลบไปอยู่หลังเสา พวกนางมองความเละเทะบนพื้น ยังดีที่วันนี้คุณหนูให้พวกนางเปลี่ยนผงยาในโหลทั้งหมดเป็ทราย มิฉะนั้นหยาดเหงื่อของคุณหนูใน่หลายวันมานี้คงเสียเปล่าแล้ว!
แต่ว่า คุณหนูรู้ได้อย่างไรว่าคุณชายสามจะทำลายขวดโหล?
“หลบไปอยู่ที่ไหนเล่า? หากยังไม่ออกมาอีก ข้าจะทำลายทุกอย่างให้หมด!”
“ใครทำลายข้าวของกัน?” เสียงห่างไกลทั้งทุ้มต่ำดังแว่วมา ทุกคนตกตะลึง ฮูหยินผู้เฒ่ามาแล้ว!
อวิ๋นซูประคองฮูหยินผู้เฒ่ามาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน เหลยซื่อใ แปลกจริง นางให้คนเฝ้าไว้หน้าเขตเรือนไผ่แล้วแท้ๆ ชัดเจนว่าทั้งวันหลิ่วอวิ๋นซูไม่ได้ออกไปไหน ตอนนี้ก็ควรจะอยู่ข้างใน เหตุใดจึงมากับฮูหยินผู้เฒ่าได้?
“ท่านย่า!” อวิ๋นซูราวกับได้รับความตื่นตระหนก มองไปยังแจกันในเรือนที่ถูกถีบจนแตกเป็ชิ้นๆ ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเย็นเยียบ บุรุษที่เดิมทีมีท่าทางก้าวร้าวรุนแรงพุ่งออกมาจากด้านใน เมื่อได้เห็นสายตาเข้มงวดของฮูหยินผู้เฒ่าก็รีบคารวะอย่างกระอักกระอ่วน “ท่านย่าขอรับ”
“อวิ๋นฮั่น เ้าเข้าไปทำอะไรในเรือนน้องหกของเ้า?” ฮูหยินผู้เฒ่ามองบุรุษตรงหน้าั้แ่หัวจรดเท้า คุณชายสามคนนี้นับวันยิ่งโอหัง ยังนึกไปว่าส่งเขาไปชายแดนจะลดนิสัยโอหังระรานนี่ไปได้ ไม่คิดว่ากลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก!
“ท่านย่าเ้าคะ วันนี้ท่านแม่จัดงานต้อนอวิ๋นฮั่น เชิญทุกคนไปร่วมงาน แต่เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้ไม่มา ทั้งยังส่งของอะไรมาหลอกลวงฮั่นเอ๋อร์ นี่เป็การไม่เห็นน้องชายของข้าอยู่ในสายตาเลยจริงๆ!”
“ซูเอ๋อร์ เ้าส่งอะไรไปให้พี่สามของเ้า?”
ชุนเซียงรีบหยิบหีบไหมนั้นออกมาแล้วเปิดออก ข้างในเป็เข็มขัดเลี่ยมหยกเส้นหนึ่ง
ทุกคนรู้สึกแปลกใจ บุตรีอนุภรรยาผู้นี้มีสมบัติล้ำค่าถึงเพียงนี้เชียว?
หลิ่วอวิ๋นฮั่นเองก็ตกตะลึง ไม่ใช่บอกว่ามาจากบ้านนอกหรอกหรือ มีสมบัติมาจากไหนกัน
“ซูเอ๋อร์ หยกนี้ไม่ใช่ที่ข้าให้เ้าไปหรอกหรือ? ไม่เก็บไว้แต่ให้พี่สามของเ้าหรือ?” ฮูหยินผู้เฒ่ามองสตรีข้างกายด้วยสายตาสงสัย
เมื่อกล่าวออกมาเช่นนี้ ความอิจฉาของคุณหนูคนอื่นๆ ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ท่านย่าถึงกับให้ของล้ำค่าเช่นนี้กับนาง!
“ท่านย่าเ้าคะ ซูเอ๋อร์จะเก็บหยกนี้เอาไว้ได้ที่ไหนกัน พี่สามกลับมาจากชายแดนมีตำแหน่งโดดเด่น ดังนั้นซูเอ๋อร์จึงให้คนนำหยกไปเลี่ยมบนเข็มขัด นี่ถึงจะสามารถขับเน้นตำแหน่งฐานะของพี่สามได้ เพีงแต่ไม่คิดว่า...” ไม่คิดว่าของที่ฮูหยินผู้เฒ่าให้เป็รางวัล จะกลายเป็ของไร้ค่าในสายตาคุณชายสาม!
“มิใช่เ้าค่ะท่านแม่ ลูกสามเองก็รีบร้อนไปชั่วครู่ คิดว่าลูกหกไม่พอใจจึงไม่ยอมมา ดังนั้นเลยตามมาดู ยังไม่ทันได้เปิดหีบเลยเ้าค่ะ!” เหลยซื่อรีบยืนขึ้นแก้ต่างให้ลูกชายของตน
“งั้นหรือ? แล้วเหตุใดข้าถึงได้ยินเสียงข้าวของแตกเล่า”
“เป็ลูกสามรีบเดินเกินไป ไม่ทันระวังเลยชนแจกันแตกเ้าค่ะ!” เหลยซื่อยังคงช่วยปิดบัง
ฮูหยินผู้เฒ่ามองเหลยซื่อด้วยดวงตามืดครึ้ม อีกฝ่ายยิ้มอย่างฝืนๆ “แต่ลูกหกก็ทำไม่ถูก ลูกสามกลับมาก็อยากจะพบน้องสาวที่เพิ่งถูกรับกลับมาคนนี้มาก ใครจะรู้ว่านางจะไม่มา ใจลูกสามจึงเ็ปยิ่งนัก”
หลังจากความเงียบงันผ่านไป เหลยซื่อสังเกตได้ถึงสายตาไม่พอใจของฮูหยินผู้เฒ่า ในใจคิดว่านังเด็กสารเลวคนนี้จะต้องพูดอะไรต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเป็แน่!
“เป็เพราะร่างกายข้ารู้สึกไม่สบาย เลยเรียกซูเอ๋อร์มาดูแลข้า ทำไม นี่ข้าก็ต้องบอกเ้าหรือ?”
“...” นี่มันต้องเป็ไปไม่ได้สิ? ในใจของเหลยซื่อรู้สึกสงสัย หากในเขตเรือนของฮูหยินผู้เฒ่ามีคนมา คนของนางจะต้องพบแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ตอนนี้นางพลันรู้สึกราวกับว่า หลิ่วอวิ๋นซูเด็กคนนี้รับมือยากกว่าที่นางคิด