บทที่ 86 กระแสสัตว์ปีศาจกำลังมา
พระจันทร์แดงลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ทั่วทั้งค่ายเต็มไปด้วยหมอกสีเื ท้องฟ้าและพื้นดินถูกย้อมเป็สีเดียวกัน ราวกับนรกซิวหลัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร
“ควั่บ!"
แสงกระบี่สีแดงพุ่งทะลุท้องฟ้าและสาดประกายไปทั่วบริเวณ ฉู่อวิ๋นถือกระบี่วิ่งด้วยก้าวเงาบิน ปราณกระบี่อันล้นหลามเปล่งประกายและพุ่งเข้าหากลุ่มคน
“ชึบ ชึบ!”
ทันทีที่เข้าสู่คลื่นมนุษย์ ปราณกระบี่ที่พลุ่งพล่านก็พุ่งออกมาราวกับดาวตก ชนเข้ากับความว่างเปล่า และสังหารผู้ฝึกกระบี่ชั้นยอดสองคนในทันที กระบี่ของพวกเขาหักพร้อมกับถูกฆ่า เืไหลนองเต็มพื้น
“น่า...น่ากลัวมาก! เด็กคนนี้ยังเป็มนุษย์อยู่หรือเปล่า?”
“เขาอยู่ที่ระดับหกของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ แต่กลับสังหารนักรบสองคนที่ระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณได้ด้วยกระบวนท่าเดียว? บ้าไปแล้ว!”
นักรบของกลุ่มหมาป่าตกตะลึงและหวาดกลัว สีหน้ายากจะเชื่อ ถ้าเมื่อครู่บอกว่าฉู่อวิ๋นจับปลาในน้ำขุ่น อาศัยสถานการณ์ชุลมุนหลบหลีกออกมา เช่นนั้นสถานการณ์ในตอนนี้จะอธิบายว่าอย่างไร?
ทุกคนโกรธ อิจฉา หวาดกลัว เหงื่อเย็นๆ ชโลมหลั่ง แม้ว่าเขาจะมีพร์ แต่ก็เป็พร์ที่น่าใเกินไป หากปล่อยให้เ้าหนุ่มนี้ปล่อยพลังต่อไป ไม่นานพวกเขาคงได้กลายเป็ซากศพที่นอนตายทับถมกัน!
“มาล้อมฆ่ามันเสีย! อย่ารอให้พี่น้องขั้นมหาสมุทรของเราต้องลงมือเอง!”
“เ้าเด็กคนนี้เป็ใครกันแน่?!”
“ไม่ว่าเขาจะเป็ใคร ต่อให้เป็เทพเซียนลงมาจุติ แต่เผชิญหน้ากับพวกเราก็มีทางเดียวคือตาย!”
“ฆ่า!"
ความกลัวหายไปในพริบตา ทุกคนพุ่งไปห้อมล้อมฉู่อวิ๋น พื้นดินสั่นะเืราวกับคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง อายสังหารของพวกเขาท่วมท้น ดวงตาหลายสิบคู่แดงก่ำช้ำเื
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่อวิ๋นก็เลิกคิ้วขึ้น ดวงตาราชสีห์ของเขาเบิกกว้างแล้วะโว่า “อยากตาย?! ข้าจะสงเคราะห์พวกเ้าเอง!"
“เข้าไปทีละคน!”
ทันใดนั้น อาวุธนับสิบก็พุ่งออกไป รัศมีสั่นะเืท้องฟ้า แม้แต่เหล่านักรบในขอบเขตควบแน่นพลังปราณที่หนาแน่นก็ะเิพลังปราณออกมาจากทุกทิศทางเช่นกัน
“ควั่บ ควั่บ ควั่บ!"
แสงดาบ แสงปราณ แสงหอก แสงกระบี่ ทั้งหมดอัดแน่นและพลุ่งพล่านออกมาอย่างล้นหลาม ปกคลุมฉู่อวิ๋นไปทั่ว หากเขาก้าวผิดแม้เพียงนิดก็จะถูกรัดคอในทันที ร่างกายเองก็จะถูกสับเป็ชิ้นนับไม่ถ้วน
ยามนี้ ฉู่อวิ๋นมองไม่เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืน เห็นเพียงกระแสสีสันของพลังปราณที่ปกคลุมไปทั่ว ครอบงำท้องนภาอันกว้างใหญ่ อาวุธต่างๆ กะพริบแสงเย็นๆ ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ
“ฉู่อวิ๋น!” ในระยะไกล มู่หรงซินใจนอดะโออกมาไม่ได้ นักรบทั้งยี่สิบคนปลดปล่อยพลังปราณออกมาพร้อมกันเพียงเพื่อสังหารคนคนเดียว น่าใจริงๆ
นางกังวลมากเสียจนกระทืบเท้าซ้ำๆ ทำได้เพียงใช้งานิญญายุทธ์เบญจศรเพื่อฟื้นฟูพลังปราณอย่างต่อเนื่องไม่เช่นนั้นนางก็จะช่วยอะไรไม่ได้เลย
ทว่าิญญายุทธ์ระดับห้าของมู่หรงซินนั้นดูดซับพลังิญญาได้ช้ากว่าิญญายุทธ์กระบี่บาป์หลายเท่า นางทำได้เพียงรวบรวมพลังิญญาช้าๆ กังวลจนหัวใจแทบวาย
ทว่าฉู่อวิ๋นกลับไม่สะทกสะท้าน ิญญายุทธ์ของเขาอยู่ในระดับสูง ร่างกายเต็มไปด้วยพลังปราณ เขา้าต่อสู้จนถึงที่สุด!
“ควั่บ!”
กระบี่ชื่อยวนถูกวาดเหวี่ยงอย่างรวดเร็ว แสงดาวล้อมรอบตัวเขา ปิดกั้นพลังปราณส่วนใหญ่ไว้ เสียงกระแทกทำให้แก้วหูของฉู่อวิ๋นเจ็บแปลบขึ้นมาจนวิงเวียนศีรษะ
แต่ถึงกระนั้น การโจมตีพร้อมกันนี้ก็น่ากลัวเกินไป แม้ดวงดาราแปรผันจะป้องกันได้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังของอาวุธทั้งหมด ร่างกายของฉู่อวิ๋นทรุดลงบนพื้นและะเิคลื่นอากาศออกมา!
“ตูม!"
เสียงพลังปราณก้องกังวานราวเสียงระฆังั์ คลื่นพลังปราณพุ่งออกไปทุกทิศทาง ทำให้ใบไม้ปลิดปลิวกระจัดกระจายไป ลำต้นของต้นไม้หนาแตกร้าว ลมแรงกระโชกพัดพาฝุ่นผงปลิวตลบ
“ฆ่า!”
“ฆ่าเขา!”
บางคนบินไปในอากาศ บางคนก็พุ่งมาจากข้างหน้า มองเห็นเงาร่างที่ล้อมรอบตัวฉู่อวิ๋น ทุกคนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งยังเปล่งแสงพลังปราณพยายามจะฆ่าเขาไม่หยุด!
“เชอะ! ตายซะ!”
เมื่อทุกคนเข้ามาใกล้ ฉู่อวิ๋นก็หันไปมอง และเปลี่ยนจากการป้องกันไปเป็การโจมตี ใช้ก้าวเงาบินในการเคลื่อนที่ แสงกระบี่เปล่งประกาย เร็วราววายุ และรุนแรงราวกับเพลิงไฟ
สามสิบหกค่ายกล
เจ็ดสิบสองค่ายกล
หนึ่งร้อยแปดค่ายกล...
ทันใดนั้น กระบี่ชื่อยวนก็เร็วขึ้นมาก แสงกระบี่แสงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาพร้อมๆ กัน ด้วยแสงอันศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือชั้น ส่องสว่างให้ทั้งร่างของฉู่อวิ๋นสว่างราวกับกลางวัน
นี่คือทักษะกระบี่ที่มีประโยชน์ที่สุดของฉู่อวิ๋น ประกายทมิฬ
หลังจากฝึกฝนทั้งวันคืน กระบวนท่านี้ก็มาถึงขึ้น์มนุษย์ สำหรับต่อกรกับศัตรูในระยะใกล้ ท่านี้เหมาะสมที่สุด และทรงพลังที่สุด!
“ควั่บ ควั่บ ควั่บ ควั่บ!"
มองเห็นแสงกระบี่สีม่วงและสีแดงพัวพันกันจนยากแยกออก สุกใสเป็อย่างยิ่ง ส่องแสงสว่างและมีพลังที่น่าทึ่ง ส่วนโค้งของกระบี่สะท้อนแสงวาววับ ปาดคอนักรบกลุ่มหมาป่าที่อยู่ใกล้ๆ จนกลายเป็หมอกเืเต็มฟ้า เกิดเสียงร้องอันน่าสมเพชดังลั่น!
หลังจากกระอักเือีกไม่กี่ครั้ง ศีรษะของบางคนก็หลุดออกจากบ่า บางคนร่างกายก็เต็มไปด้วยรอยกระบี่ บางคนก็อวัยวะภายในเสียหาย สถานที่ราวทะเลเื
“อ๊าก! บุก!”
“ฆ่าเขา!”
เมื่อเห็นฉู่อวิ๋นฆ่าทุกคนที่บุกเข้าไป ราวกับเทพาที่อยู่ยงคงกระพัน ทุกคนทั้งใทั้งโกรธ ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำแต่กลับไม่กล้าถอยหนี เพราะในการเผชิญหน้าอันดุเดือดนี้ หากไม่ใช่พวกเขาตายก็ต้องเป็ฉู่อวิ๋นที่ตาย!
ทุกคนทำได้แค่บุกฆ่าต่อไป ไม่อาจหยุดได้!
“ควั่บ!”
ยามนี้ มีนักรบไม่กลัวตาย ไม่สนผลที่ตามมาของการถูกปราณกระบี่แสงดาวฉีกเป็ชิ้นๆ ใช้ทักษะหอกก่อนตาย ต่อสู้จนถึงที่สุด!
เสียงปะทะดังสนั่น แสงหอกสะท้อนวับวาบ พลังปราณพุ่งเข้ากระทบไหล่ของฉู่อวิ๋น ทำให้เขาไอออกมาเป็หมอกเื
“แค่ก!” ฉู่อวิ๋นกระอักเื แม้ว่าการโต้กลับของเขาจะดุร้ายและรุนแรง แต่จะไม่ได้รับาเ็จากการถูกโจมตีเข้าใส่ทุกทิศทางก็คงเป็ไปไม่ได้
ต้องรู้ว่า ตอนนี้เขาเป็เพียงนักรบระดับหกของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ และในเวลาเดียวกัน ศัตรูของเขาล้วนเป็ผู้แข็งแกร่งในระดับสูงสุดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ
ทว่าคราวนี้ที่เขาาเ็ กลับไปกระตุ้นเืของฉู่อวิ๋นให้เดือดพล่านขึ้น ดวงตาของเขาสว่างวาบราวต้องไฟ การเคลื่อนไหวรวดเร็วปานสายฟ้า เขาเคลื่อนไหวเร็วขึ้น และความแข็งแกร่งของเขาเองก็มีพลังมากขึ้น!
“ข้าจะตายไม่ได้…ข้ายังต้องช่วยพี่ซินเหยา…”
“ข้ายังตายไม่ได้!”
“ย๊า--!"
ฉู่อวิ๋นะโเสียงดัง หันกระบี่ฟาดฟันไปทุกทิศทาง แสงกระบี่ราวทะเลสะท้อนแสงตะวัน เปล่งประกายเรืองรอง ราวกับราชสีห์ในฝูงหมาป่าที่เข่นฆ่าหมาป่าแต่ละตัวจนชุ่มไปด้วยเื!
“สวบ!”
กระบี่แทงทะลุหน้าอก
“ชึบ!”
ตายภายในกระบี่เดียว
“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”
ปราณกระบี่กะพริบราวกับฟ้าร้อง แสงดาวพุ่งออกมาไม่หยุดหย่อน ตัดขาดแขนขากระจายเกลื่อน
นักรบที่ทรงพลังทั้งยี่สิบคนของกลุ่มหมาป่าค่อยๆ สูญเสียกำลังคนไปจากการโจมตีอันบ้าคลั่งของฉู่อวิ๋น พวกเขาห่อร่างกายเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว พลังอันล้นเหลือเมื่อครู่อันตรธานหายไป เืของพวกพ้องไหลรินราวแม่น้ำโลหิต
“แข็ง... แข็งแกร่งมาก!” มู่หรงซินตกตะลึงจากระยะไกล คนคนนี้ไร้ความเป็มนุษย์ไปแล้ว ฉู่อวิ๋นแม้ได้รับาเ็ แต่พลังยุทธ์ของเขากลับเพิ่มขึ้น!
“ควั่บ!”
นักรบอีกคนหนึ่งที่ระดับสูงสุดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณถูกตัดศีรษะ หมอกเืฟุ้งกระจาย กลิ่นคาวสนิมเข้มข้นโชยมากระทบจมูก ฉู่อวิ๋นแทบจะกลายเป็มนุษย์โลหิตไปแล้ว ทว่าดวงตาของเขายังคงวาววับสดใส และเต็มไปด้วยความกระหายสังหาร!
“เป็ไปไม่ได้…เป็ไปไม่ได้!”
"ปีศาจ...นี่...นี่มันปีศาจ!"
นักรบที่เหลืออีกสองคนกรีดร้องเสียงหลง ไม่อาจยืนเฉยได้อีกต่อไป พวกเขาชี้ไปที่ฉู่อวิ๋นด้วยสีหน้าหวาดกลัว
พวกเขาไม่กล้าต่อสู้อีกต่อไป นักรบยี่สิบคนที่อยู่ในระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณต่างก็ล้อมสังหารชายหนุ่มคนนี้พร้อมๆ กัน ทว่าไม่เพียงแต่ไร้ผลทั้งยังถูกตอกกลับมาอีกด้วย พวกเขาสร้างาแให้เขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เกือบทั้งยี่สิบคนกลับถูกฉู่อวิ๋นสังหารเสียไม่มีชิ้นดี!
“หนี หนีเร็ว!"
นักรบทั้งสองมองหน้ากันและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดทันที ส่งเสียงร้องด้วยความเ็ป และรีบวิ่งกลับไปยังสนามรบกลาง หวาดกลัวจนแม้แต่พ่อแม่ก็ลืมไปเสียสิ้น
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับมือได้!
เมื่อมองดูร่างที่ลับตาไปของทั้งสองคน ฉู่อวิ๋นก็เริ่มสงบลง แต่ทันทีที่แรงกดดันลดลง เขาก็รู้สึกเ็ปอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งร่าง เผยสีหน้าเหยเกที่น้อยครั้งจะได้เห็น
“แค่ก...เกือบทนไม่ไหวแล้วเชียว...”
หลังจากไอออกมาสองครั้ง ฉู่อวิ๋นก็ปักกระบี่ลงบนพื้นพลางหายใจเข้ายาวๆ การต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อนคราวนี้แทบจะใช้พลังชีวิตของเขาจนหมด
หากมีอีกสักสองสามคนพุ่งเข้ามา ผลลัพธ์คงเป็หายนะอย่างยิ่ง
ทว่าคนที่เหลือเมื่อครู่คงใกลัวจนหนีไปแล้ว เพียงครู่เดียว รอบตัวของฉู่อวิ๋นนอกจากซากศพแล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดอีก
“นี่!” มู่หรงซินรีบวิ่งเข้าไปหา ยื่นมือขาวหยกประคองฉู่อวิ๋นให้ลุกขึ้น และเอ่ยอย่างเป็กังวล “เ้าเป็อะไรหรือไม่? เื... เืเยอะมากเลย”
“ไม่ต้องกังวล เืส่วนใหญ่บนเสื้อผ้าไม่ใช่ของข้าหรอก” ฉู่อวิ๋นส่ายหัวเบาๆ และตอบอย่างสงบ ถือโอกาสฟื้นพลังไปในตัว
จำนวนผู้คนที่อยู่ริมแม่น้ำสายเล็กๆ นี้เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ผู้ที่รอดชีวิตล้วนเป็นักรบที่แข็งแกร่ง ยามนี้ ไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายใดคือผู้ชนะ การต่อสู้เองยังคงชุลมุนอยู่
การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบและอาจยังต้องต่อสู้ต่อไปเรื่อยๆ
“กลับไปที่กระโจมเพื่อเลี่ยงปัญหาก่อนเถอะ คนที่เหลืออีกหลายคนเป็นักรบขั้นมหาสมุทร พวกเราเทียบขั้นเขาไม่ได้หรอก” มู่หรงซินกล่าว
“ไม่ สือเหล่ย เมิ่งซานและคนอื่นๆ ยังสู้กันอยู่ ข้าอยากไปช่วย”
“ลมหายใจเ้าเชื่องช้าแถมพลังปราณก็หมดไปแล้ว หยุดอวดดีสักที!”
“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ฟื้นฟูได้พอประมาณแล้ว…”
“อะไรนะ!?” ดวงตาคู่งามของมู่หรงซินเบิกกว้าง เวลาเพิ่งผ่านไปเท่าไรเอง พลังปราณของเขาเกือบจะฟื้นคืนมาหมดแล้ว? ความเร็วในการฟื้นตัวนี้น่ากลัวเหลือเกิน
"ตึง ตึง ตึง!"
ทันใดนั้น ในขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน ก้อนหินใหญ่ก็พังทลาย ภูผาสั่นะเื และมีเสียงดังกึกก้องห้อมล้อมไปทั่วทุกทิศทาง ต้นไม้นับไม่ถ้วนหักล้ม พื้นดินแตกแยก และได้ยินเสียงอันทรงพลังที่น่าพรั่นพรึงกำลังเข้ามาใกล้
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินต่างตกตะลึงก่อนจะรีบตั้งสติและกวาดตามอง
เหล่านักรบที่กำลังต่อสู้ก็เริ่มรู้สึกได้ พวกเขาค่อยๆ รามือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบ พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
“จิ๊ด จิ๊ด จิ๊ด!”
“พั่บ พั่บ--”
ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์ปีศาจที่บินได้ เงาสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนบินข้ามท้องฟ้าอย่างรวดเร็วและสะเปะสะปะ ก่อตัวเป็ม่านสัตว์ปีศาจขนาดใหญ่แลดูน่ากลัว ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า บดบังแสงจันทร์ ส่งเสียงหึ่งๆ และกระพือปีกไม่หยุด
พื้นที่กลางอากาศถูกสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังยึดครองจนแทบจะไม่มีที่ว่าง ทั้งพลังก็ดุร้ายมาก
"ไม่ดีแล้ว!"
จู่ๆ หัวใจของฉู่อวิ๋นก็ััได้ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกแวดล้อมไปด้วยศัตรู ทั้งยังมีการซุ่มโจมตีจากทุกด้าน พลังที่ท่วมท้นนั้นเหมือนกับคลื่นลูกใหญ่สาดกระทบถึงท้องฟ้า พัดพาทุกสิ่งทุกอย่างออกไป
เขาเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว ดวงตาจับจ้องไปยังนักรบสองคนที่เพิ่งหลบหนีมาแต่กลับยืนนิ่งอยู่กับที่
“โฮก!!!”
ด้วยเสียงคำราม ก็มีสัตว์ปีศาจเขาเดียววิ่งออกมา ร่างกายมหึมาราวขุนเขา มันอ้าปากเปื้อนเืและกัดแขนของนักรบคนหนึ่งออก บดเคี้ยวทีละคำ น่าสะพรึงกลัวเป็ที่สุด
ก่อนที่นักรบคนอื่นจะทันได้ตอบสนอง สัตว์ปีศาจก็วิ่งออกมาจากป่าทึบทีละตัว ปกคลุมท้องนภายึดครองแผ่นดินไปในทันที! ดูเหมือนพวกมันกำลังบ้าคลั่ง โกรธเกรี้ยว และแข่งกันแย่งอาหาร
“นี่...นี่!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เพราะไม่ว่าพวกเขาจะมองไปทางไหน ก็มีแต่เงาของสัตว์ปีศาจหนาแน่น มากเกินไป มากเกินไปแล้วจริงๆ!
“โฮก โฮก โฮก——!”
“อาฮู้ว——!”
“ฟ่อ-ฟ่อ-“
ครู่ต่อมา ต้นไม้ก็แหวกเอนออก ป่าทึบเต็มไปด้วยเศษซากต้นไม้นับไม่ถ้วนปลิวว่อน ฝุ่นควันฟุ้งไปทุกที่ เศษทรายหินลอยกระเด็นไร้ที่พักพิง!
“ตึง!”
“ตึง!”
กลุ่มสัตว์ป่าและสัตว์ปีศาจจำนวนมหาศาลพุ่งออกมาจากทุกทิศทางราวกับกระแสน้ำบนูเาและคลื่นขนาดใหญ่ที่ซัดสาด ทำให้ทั่วทั้งลานสั่นะเืเสียงดังสนั่นจนไม่ได้ยินสิ่งใด เสียงคำรามของสัตว์ปีศาจทำให้แผ่นดินสั่นไหวและแยกออกจากกัน!
นักรบทั้งสองที่อยู่ข้างหน้าจมอยู่ใต้กระแสสัตว์ปีศาจในที่สุด กลายเป็ซากศพไม่ครบส่วนที่ตกเป็อาหารอันโอชะของสัตว์ปีศาจนานาชนิด
สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนแดนชำระ[1] การสังหารอันไร้จุดจบเพิ่งเริ่มต้นขึ้น!
----------
[1] ที่ที่คนตายไปสู่เพื่อการล้างบาป ที่ที่มีการทำโทษ