หลังจากที่หลัวเลี่ยทำลายกำแพงน้ำแข็งชั้นที่ลึกที่สุดได้แล้ว ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าสู่ชั้นในสุดของคุกกลืนอสูรที่ไม่มีใครเคยเข้าถึงมาก่อน
ภายในนั้นหนาวเย็นมาก แม้ว่าหลัวเลี่ยจะถือลูกแก้วอัคคีณานไว้ เขาก็ยังรู้สึกหนาวมาก สุดท้ายเขาก็พบว่าลูกแก้วอัคคีณานทนความหนาวเย็นไม่ไหว และเกิดรอยร้าวขึ้น หลังจากนั้นไฟในลูกแก้วก็ดับลง
เขาสามารถทนต่อความเ็ปจากอากาศที่หนาวเย็นไปถึงกระดูกได้ และโชคดีที่หัวใจของเขาได้รับการปกป้องจากการชำระล้างด้วยเืั หากไม่ได้รับการชำระล้างจากเืัเขาคิดว่าอวัยวะภายในของเขาคงไม่อาจต้านทานความหนาวเย็นนี้ได้
หลัวเลี่ยมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว
ข้างในนี้มืดมาก แต่เพราะเขาอยู่ในระดับผู้ฝึกตนระดับที่หกแล้ว จึงมีทักษะมองเห็นในที่มืด ทำให้ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
หลังจากกวาดตามองโดยรอบแล้ว เขาก็พบว่าสถานที่นี้ไม่มีอะไรเลย และพื้นที่โดยรวมก็ไม่ใหญ่มากนัก
มีกอไผ่เล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง
ต้นตอของความหนาวเย็นทั้งหมดมาจากต้นไผ่เ่าั้ ลำต้นของต้นไผ่เองก็เย็นะเืไปถึงกลางลำ และดูเหมือนจะมีประกายลำแสงเจ็ดสีอยู่ที่พื้นดินตรงใต้กอไผ่ แต่แสงค่อนข้างจาง หากไม่ใช่เพราะสายตาที่เฉียบคมของหลัวเลี่ย เขาอาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้
นอกจากนี้ยังมีลูกบอลลายขาวดำวางอยู่ข้างๆ
“ไม่เห็นมีอะไรเลย”
“แล้วโอกาสพลิกชะตาล่ะ ทำไมที่นี่มีแค่ต้นไผ่ไม่กี่ต้น?”
“หรือข้าเดาผิดเอง เดี๋ยวนะ...ลูกบอล?”
“ดินแดนเหยียนหวงได้ลูกบอลมาจากที่ไหน”
หลัวเลี่ยก้มตัวไปมองใกล้ๆ
ตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นลำตัวกลมๆ ขนฟูๆ และแขนขาสั้นๆ ที่หดชิดหน้าท้อง
ลูกบอลที่ไหนกัน นี่คือหมีแพนด้าน่ารักตัวหนึ่งชัดๆ
เขามองไปรอบๆ ค้นหาสิ่งอื่นอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบอะไรอีก
ในส่วนที่ลึกที่สุดของคุกกลืนอสูรนี้มีเพียงสองสิ่งเท่านั้น
หนึ่งคือหมีแพนด้า และอีกหนึ่งคือกอไผ่
สิ่งนี้ทำให้หลัวเลี่ยหดหู่ใจมาก เดิมทีเขาคิดว่าคงจะดีถ้าเขาได้พบกับสมบัติล้ำค่า เคล็ดวิชาต่อสู้ หรืออาวุธวิเศษบางอย่าง
“ฟู่!”
ในขณะที่หลัวเลี่ยกำลังรู้สึกหดหู่ใจ เขาก็ได้ยินเสียงเล็กๆ ดังขึ้นเบาๆ
เขาเหลียวหาต้นตอของเสียง ในที่สุดก็พบว่าแท้จริงแล้วมันคือเสียงหายใจของเ้าหมีแพนด้า หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือมันเป็เสียงกรน
หมีแพนด้ากำลังหลับอยู่!
และหมีแพนด้าตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
คราวนี้หลัวเลี่ยตัวสั่นทันที
ด้วยความหนาวเย็นของสถานที่แห่งนี้ ที่เย็นถึงขนาดทำให้ลูกแก้วอัคคีณานเกิดรอยร้าว แต่กลับยังมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถนอนหลับที่นี่ได้อย่างสบายๆ ความอดทนต่อความหนาวเย็นเช่นนี้ แม้จะมีวรยุทธ์อยู่ในระดับวังชะตา ก็ไม่อาจสามารถยืนหยัดได้ถึงเพียงนี้
สิ่งสำคัญคือการอยู่ในคุกกลืนอสูรนี้ได้นานจนไม่อาจนับวันเวลาได้ สิ่งที่หลัวเลี่ยรู้คือคุกกลืนอสูรแห่งนี้มีมาั้แ่สมัยก่อตั้งแคว้นเป่ยสุ่ย ซึ่งก็คือเมื่อหนึ่งถึงสองร้อยปีก่อน
ั้แ่เขาเข้ามาที่นี่ เขาก็ส่งเสียงดังมาโดยตลอด ปกติแล้วถ้าหมีแพนด้าหลับอยู่ มันคงตื่นแน่ๆ แต่เ้าหมีแพนด้าตัวนี้กลับหลับลึกจนถึงตอนนี้
มันกำลังหลับใหลอยู่ในคุกกลืนอสูร
ในคุกกลืนอสูรแห่งนี้ ว่ากันว่าเป็ที่อยู่ของอสูรมิใช่หรือ แต่หมีแพนด้าเป็หมีชนิดหนึ่ง มันไม่ใช่อสูรนี่
หรือว่าสิ่งที่คุกกลืนอสูรกักขังไว้ก็คือมัน?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลัวเลี่ยก็รู้สึกกังวลจนเหงื่อออกหลัง ถ้าเป็เช่นนั้น มันต้องเป็สัตว์อสูรที่น่ากลัวมากแน่ๆ
เมื่อมองไปที่หมีแพนด้าอีกครั้ง ความคิดแรกของเขาคือการถอยออกมาก่อนแล้วเก็บไผ่เ่าั้ขึ้นมา
ยังไม่พอ
เขาเปิดกระเป๋าเฉียนคุณ และค้นหาดูว่ามีสิ่งใดที่สามารถใช้ได้ สุดท้ายเขาก็พบแหวนปีศาจ
แหวนปีศาจเป็หนึ่งในสิ่งของสามสิ่งที่ได้รับจากด่านที่สี่ของบททดสอบผู้พิชิต
เนื่องจากแหวนปีศาจมุ่งเป้าโจมตีไปที่พวกปีศาจหรืออสูร หลัวเลี่ยจึงไม่เคยใช้มันมาก่อนเลย
“แหวนปีศาจแบ่งออกเป็จุดแข็งและจุดอ่อน แหวนปีศาจระดับธรรมดาสามารถพบเจอได้ทั่วไป สัตว์ประหลาดบางตัวในระดับผู้ฝึกตนหรือระดับหยินหยางจะถูกกักขังไว้ให้กลายเป็สัตว์เลี้ยง ในขณะที่สัตว์อสูรขั้นสูงนั้นหายาก แต่หากสามารถทำให้อสูรระดับระดับแก่น์ ระดับวังชะตา หรือระดับทลายยุทธ์ กลายเป็สัตว์เลี้ยงได้ ก็นับว่ามีความสามารถร้ายกาจแล้ว”
“และยังมีแหวนปีศาจในตำนานบางวง ที่สามารถใช้บังคับสัตว์อสูรระดับกายทองคำให้กลายเป็สัตว์เลี้ยงได้”
“แหวนปีศาจของหลัวเลี่ยได้รับมาจากราชันผู้พิชิต ราชันผู้พิชิตเป็อัจฉริยะ ในอดีตเขามีโอกาสที่จะบรรลุระดับกายทองคำแล้ว แต่เขากลับเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรเพราะอาการาเ็เรื้อรัง และด้วยสถานะสูงส่งของเขา สมบัติที่ถูกทิ้งเอาไว้คงจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน”
“เมื่อกล่าวถึงสิ่งของอีกสองสิ่ง ได้แก่ ตราคำสั่งราชันผู้พิชิต ที่สามารถทำให้กลายเป็ผู้สืบทอดตำแหน่งราชันผู้พิชิตได้ และลูกแก้วมณีแห่งสรรพสิ่ง ที่ช่วยให้เข้าใจเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดิน ทั้งสองสิ่งล้วนเป็ของล้ำค่า ดังนั้นแหวนปีศาจคงมีค่าไม่ด้อยไปกว่าสิ่งของสองสิ่งนั้นเป็แน่
“เช่นนั้นแหวนปีศาจนี่ก็น่าจะมีคุณภาพอยู่ในอันดับต้นๆ นะ”
ขณะที่หลัวเลี่ยกำลังขบคิดเกี่ยวกับเื่นี้ วิธีการใช้แหวนปีศาจก็ปรากฏขึ้นในสมองของเขา
แหวนปีศาจนี้ใช้งานง่ายมาก
แหวนปีศาจในระดับทั่วไป้าเพียงเืหนึ่งหยดจากผู้ เพื่อให้เกิดสัญลักษณ์บางอย่างบนพื้นผิวของแหวนปีศาจปรากฏขึ้น จากนั้นก็ส่งพลังภายในไปที่ตัวแหวน เพื่อทำให้แหวนมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้ แล้ววางไว้ที่คอหรือหัวของสัตว์อสูร
หลัวเลี่ยหยดเืลงไปหยดหนึ่ง แต่แหวนปีศาจกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ
เขากะพริบตา และหยดเืเพิ่มอีกหนึ่งหยด
ยังคงไม่มีการตอบสนอง
“เสียแล้วหรือ? เป็ไปไม่ได้ ราชันผู้พิชิตจะส่งต่อสิ่งของที่มีตำหนิได้อย่างไร”
เขายังคงหยดเืต่อไป
ในท้ายที่สุดหลังจากหยดเืเก้าหยดติดต่อกัน แหวนปีศาจก็เปล่งแสงจางๆ ร่องรอยของสัญลักษณ์ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของแหวน และมีกลิ่นอายของความโบราณพัดผ่านเข้ามา
แหวนปีศาจนี้ดูเหมือนจะมาจากยุคโบราณ
เขาส่งพลังภายในเข้าไปครั้งแรกหนึ่งครั้ง แต่มันก็ยังไม่เต็ม
เขาจึงส่งพลังภายในเข้าไปอีกอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถึงยี่สิบเจ็ดครั้งติดต่อกัน แหวนปีศาจก็ถูกเติมเต็มพลังภายในจนเต็ม จากนั้นหลัวเลี่ยก็ขว้างมันไปที่หมีแพนด้า
พรึ่บ!
ทันใดนั้นแหวนปีศาจก็ขยายใหญ่ขึ้น และสวมเข้าที่คอของหมีแพนด้า เอ่อ สมมุติว่ามันคือคอ ถึงแม้ว่ามันจะตัวกลมไปหมดจนแยกส่วนคอไม่ออกก็ตาม
เมื่อถูกแหวนปีศาจคล้องเอาไว้ เสียงกรนของหมีแพนด้าก็หยุดลงทันที จากนั้นมันก็อ้าปากเพื่อปล่อยเสียงหายใจที่ลึกขึ้น ผลก็คืออากาศเย็นที่แผ่ออกมาจากต้นไผ่พุ่งเข้าไปในปากและจมูกของมัน
จู่ๆ หลัวเลี่ยก็ไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป
จากนั้นแสงเจ็ดสีบนพื้นใต้ต้นไผ่ที่เดิมเห็นแค่จางๆ ก็เริ่มมีสีเข้มขึ้น ทำให้พื้นที่มืดทึบเริ่มสว่างไสวและแสงแทรกเข้ามา
หมีแพนด้าเริ่มหายใจเข้าออกอันแสดงถึงการมีชีวิต ขณะที่ดวงตาของมันก็พยายามจะเปิดขึ้น
หลัวเลี่ยที่ยืนเฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ ก็สังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าแหวนปีศาจกำลังสั่นเล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปััมัน อยากรู้ว่าแหวนปีศาจถูกแพนด้าต่อต้านหรือไม่ แต่ทันทีที่ปลายนิ้วของเขาแตะแหวน เขาก็รู้สึกถึงคลื่นพลังที่มองไม่เห็นที่จู่ๆ ก็พุ่งออกมาจากแหวนปีศาจ ไหลผ่านปลายนิ้ว ผ่านแขน และตรงเข้าสู่ศีรษะของเขา
จากนั้นภาพที่เต็มไปด้วยบรรยากาศในยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้นภายในหัวของเขา
ภาพที่เห็นในความคิดคือมีฝ่ามือปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน และกำลังทำลายพระราชวังให้ย่อยยับ และมุมหนึ่งของป้ายพระราชวังที่มองเห็นได้อย่างเลือนราง หลัวเลี่ยก็สังเกตว่ามีคำหนึ่งเขียนไว้บนนั้น นั่นคือ...์!
์ที่แตกสลาย รอยเืที่เจิ่งนอง ทั้งหมดถูกฝ่ามือขนาดใหญ่นี้ดูดกลืนและผนึกไว้ในไข่
ไข่ใบนี้ถูกวางไว้ในป่าไผ่น้ำแข็งขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยความลึกลับที่ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงตัวได้ง่ายนับไม่ถ้วน ซึ่งที่แห่งนั้นก็คือคุกกลืนอสูร
จากนั้นภาพในความคิดของเขาเปลี่ยนเป็การต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วนของ์และโลก ผลที่ตามมาคือป่าไผ่น้ำแข็งและคุกกลืนอสูรถูกทำลายแล้วร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน
ผ่านไปไม่รู้กี่ปี คุกกลืนอสูรก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง และไข่ที่อยู่ในป่าไผ่ตอนนั้นก็แตกออกแล้ว สิ่งที่อยู่ข้างในคือหมีแพนด้าตัวนี้ หมีแพนด้าที่รู้เพียงวิธีร้องไห้ จนกระทั่งวันหนึ่งมีแสงสีขาวปรากฏขึ้นบนหัวของมัน ราวกับว่าจะทำให้ความทรงจำของมันฟื้นคืนมา จากนั้นมันก็เริ่มกินต้นไผ่ และนอนหลับไปเป็เวลาหนึ่งร้อยปี กระทั่งหลัวเลี่ยมาถึง
เขามองไปยังหมีแพนด้าที่ยังคงดูดซับอากาศเย็นจากต้นไผ่น้ำแข็ง แล้วพึมพำกับตัวเอง “นี่คือหมีแพนด้าตัวแรกของโลก แถมยังกำเนิดมาจากไข่อีกด้วย”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้