หากหลงอวี้ยังมีพลังแค่ระดับิญญาแท้ขั้นหนึ่ง เกรงว่าเขาต้องาเ็สาหัสจากการถูกลอบโจมตีจากอวี่เชียนหนิงครั้งนี้แน่
แต่ตอนนี้ เขาก้าวขึ้นสู่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สองแล้ว!
“เขตแดนสยบฟ้า!”
หลงอวี้ปล่อยเขตแดนสยบฟ้าออกมาในพริบตา ในขณะเดียวกันก็ได้มีเงาิญญาแท้สุริยะสยบฟ้าปรากฏด้านหลังของเขา ทำให้เงาดำที่ลอบโจมตีเขานั้นหยุดชะงักทันที
ต่อจากนั้นหลงอวี้ก็กวาดหอกด้วยกระบวนท่าัปรภพทะยานฟ้า ฉีกห่างออกไปนับร้อยจ้าง!
การลอบโจมตีของอวี่เชียนหนิงจึงพลาดเป้าไป เพียงแต่นี่ยังเป็แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“ในเวลาสั้นๆ แค่นี้กลับยกระดับเป็ิญญาแท้ขั้นสองได้แล้ว หากวันนี้ข้าปล่อยเ้าไปวันหน้าเ้าต้องกลายเป็ศัตรูตัวฉกาจของข้าแน่!”
อวี่เชียนหนิงเอ่ยพูดขึ้นอย่างเ็าอำมหิต เสียงของนางดังขึ้นมาจากทุกทิศทาง ทำให้ยากจะคาดเดาตำแหน่งของนางได้
เงาที่อวี่เชียนหนิงสร้างขึ้นมาจากเคล็ดพันไหมบัญชาเงา มันก็ได้จมหายไปในพื้นหิมะอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมาหลงอวี้ก็รู้สึกว่าด้านหน้าของเขาได้มีแรงกดดันของจักรพรรดิแผดพุ่งเข้ามา!
“เขตแดนจักรพรรดิ!”
อวี่เชียนหนิงเองก็สามารถฝึกวิชาฝึกพลังของนางจนบรรลุระดับเขตแดนได้แล้ว!
วิชาฝึกพลังของตระกูลราชวงศ์ตระกูลฉู่มีชื่อว่า คัมภีร์จักรพรรดิชุนชิว วิชาฝึกพลังของทั้งสามตระกูลมหาอำนาจถูกเรียกขานว่าสามสุดยอดวิชาฝึกพลังแห่งอาณาจักรต้าถัง
กฎเกณฑ์ฟ้าดินในคัมภีร์จักรพรรดิชุนชิวคือกฎเกณฑ์จักรพรรดิ มันคือกฎเกณฑ์แห่งการกดทับที่ทรงพลังยิ่งกว่ากฎเกณฑ์สยบฟ้า!
เมื่ออวี่เชียนหนิงปล่อยกฎเกณฑ์จักรพรรดิออกมาแล้ว มันก็ได้ครอบหลงอวี้ไว้ภายใน ทำให้หลงอวี้ไม่สามารถขยับตัวได้เลย!
ระดับพลังที่แท้จริงของอวี่เชียนหนิงคือระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่ พลังพื้นฐานเหนือกว่าหลงอวี้สี่เท่า อีกทั้งคัมภีร์จักรพรรดิชุนชิวยังทรงพลังกว่าเคล็ดสยบฟ้าด้วย ดังนั้นเขตแดนจักรพรรดิก็ย่อมต้องทรงพลังกว่าเขตแดนสยบฟ้าอยู่แล้ว!
เมื่อเป็เช่นนี้ หลงอวี้ก็ย่อมต้องตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบในการปะทะกันซึ่งๆ หน้าอยู่แล้ว
“แย่แล้ว!”
หลงอวี้ตื่นตระหนก หากอวี่เชียนหนิงเปิดฉากโจมตีใส่เขาตอนนี้ เขาไม่มีทางหลบพ้นแน่ และไม่มีทางต้านรับไหวด้วย!
“สัญลักษณ์ัปรภพ จงตื่น!”
หลงอวี้ได้ใช้ลมปราณกระตุ้นสัญลักษณ์ัปรภพ และกระตุ้นลายเส้นปรภพบนปีกจันทรา พริบตานั้นก็ได้ทำให้เขาเกิดการบรรลุในปราณจันทรา
นับั้แ่ที่เขาได้แผ่น์จันทรามา เมื่อมีเวลาว่างเมื่อไรหลงอวี้ก็จะคอยศึกษาวิเคราะห์พลังที่มีต้นกำเนิดจากฟ้าดินที่อยู่ในนั้นตลอด
เมื่อเขาเผชิญหน้ากับวิกฤตเสี่ยงตายเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถบรรลุถึงเสี้ยวหนึ่งของปราณจันทราได้แล้ว
“ระดับการบรรลุของปราณจันทราระดับที่หนึ่งก็เป็จินตภาพเหมือนกัน จินตภาพจันทรา!”
หลงอวี้รู้สึกได้ถึงพลังของจินตภาพจันทราที่ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกายของเขา จึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นในใจอย่างอดไม่ได้
ปราณจันทราที่บรรจุอยู่ในแผ่น์น่าจะเป็กฎเกณฑ์ฟ้าดินอีกชนิดหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่มันมีระดับสูงกว่าพวกกฎเกณฑ์สยบฟ้า
อีกทั้งกฎเกณฑ์ที่บรรจุอยู่ในแผ่น์นั้น ดูเหมือนจะทรงพลังยิ่งกว่ากฎเกณฑ์จักรพรรดิเสียอีก!
‘หากมีเวลา ข้าต้องหาโอกาสศึกษาเื่ระดับชั้นของวิชาฝึกพลังกับกฎเกณฑ์ฟ้าดินให้รู้เื่ให้ได้ แต่ตอนนี้มันไม่มีเวลาเหลือให้ข้าคิดอะไรมากแล้ว...’
หลงอวี้รีบะเิพลังจินตภาพจันทราภายในตัวออกมาทันที!
แต่หลงอวี้เพิ่งจะบรรลุจินตภาพจันทราได้หมาดๆ เห็นได้ชัดเลยว่ายังไม่สามารถต่อกรกับเขตแดนจักรพรรดิของอวี่เชียนหนิงได้
เพียงแต่ในตอนที่เขาบรรลุจินตภาพจันทราได้ ปีกจันทราบนแผ่นหลังของเขาเองก็ได้เกิดการเชื่อมสายสัมพันธ์ระดับผสานใจขึ้นเช่นกัน!
ปีกแห่งหุบเขาปีศาจที่ถูกสัญลักษณ์ัปรภพดัดแปลงโดยใช้ปราณจันทราจนกลายเป็ยุทธภัณฑ์ระดับิญญาชั้นยอด ปีกจันทราแล้ว ได้ทำให้ความยากในการสร้างสายสัมพันธ์กับยุทธภัณฑ์ลดน้อยลงจากเดิมหลายเท่า
ตึก! ตึก! ตึก!
หลงอวี้รู้สึกได้ถึงพลังที่อยู่ในปีกจันทรา ราวกับว่ามันกำลังเต้นไปตามจังหวะหัวใจของเขา
ต่อจากนั้นก็ได้มีปราณจันทราที่ทรงพลังสุดขีดสายหนึ่งะเิออกมาจากปีกจันทราในพริบตา สลายแรงกดทับจากเขตแดนจักรพรรดิที่กดอยู่บนตัวของหลงอวี้ให้หายไปจนไม่เหลือร่องรอย
“จันทราปะทุ!”
พลังนี้มันถึงกับสามารถสลายแรงกดทับทั้งหมดบนตัวหลงอวี้ออกไปได้ ทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง!
แม้ว่าจะสามารถคงสภาพได้เพียงสองลมหายใจเท่านั้น แต่สำหรับหลงอวี้แล้ว แค่นี้มันก็มากเกินพอ
“ิญญาเคลื่อน!”
หลงอวี้แปรเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็ปราณิญญาแล้วหายไปจากจุดที่เคยอยู่ในพริบตา จากนั้นก็ไปปรากฏตัวอีกครั้งในจุดที่ห่างออกไปนับสิบจ้างอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นก็ได้ใช้กระบวนท่าัปรภพทะยานฟ้า ดีดตัวออกไปไกลหนึ่งร้อยจ้างในทันที!
“เป็ไปได้อย่างไร?”
เงาร่างของอวี่เชียนหนิงในชุดสีเหลืองอ่อนปรากฏตรงจุดที่หลงอวี้ถูกสะกดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดวงตาฉายแววโเี้อำมหิต!
พลังกฎเกณฑ์ที่ทรงพลังยิ่งกว่ากฎเกณฑ์จักรพรรดิ อย่างนั้นหมายความว่า มันคือพลังจากแผ่น์!
อวี่เชียนหนิงได้รับการดูแลจากฉู่เฉาเซิงมาั้แ่เล็กๆ ย่อมต้องรับรู้ถึงตัวตนของแผ่น์อยู่แล้ว
“เป็ปราณแห่งจันทรา ดูท่าเ้าหลงอวี้จะได้แผ่น์ที่อยู่ในูเาตระกูลหลิงชิ้นนั้นไป”
ในดวงตาของอวี่เชียนหนิงฉายแววละโมบโลภมาก
“แม้ราชวงศ์ข้าจะรับรู้ถึงตัวตนของแผ่น์มานานแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถคว้ามันมาไว้ในมือได้ ส่วนโม่เฟิงินั้นก็ทำได้เพียงใช้เศษชิ้นส่วนจันทราชิ้นหนึ่งมาสร้างเป็ยุทธภัณฑ์เท่านั้น แต่เพียงแค่นั้นก็สามารถกลายเป็ยอดฝีมือสุดแกร่งได้แล้ว หากข้าสามารถชิงแผ่น์ในมือเ้าหลงอวี้มาได้ละก็...”
พอคิดถึงตรงนี้แล้ว อวี่เชียนหนิงก็ข่มกลั้นความรู้สึกตื่นเต้นในใจไว้ไม่อยู่
ที่นางเดินทางมายังบึงอัสนีซ่อนฟ้าครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะลองหาทางชิงแผ่น์มาอยู่แล้ว ต่อให้จะเป็แค่เศษชิ้นส่วนเพียงอย่างเดียวก็นับว่ายอดมากแล้ว!
แต่บนตัวของหลงอวี้อาจจะมีแผ่น์เต็มแผ่นเลยทีเดียว แล้วจะไม่ให้นางรู้สึกยินดีจนออกนอกหน้าได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้เอง อวี่เชียนหนิงจึงคิดจะจับตัวหลงอวี้อย่างสุดความสามารถแล้ว!
ส่วนหลงอวี้ในตอนนี้ก็ย่อมต้องไม่รู้ว่าตัวเองถูกอวี่เชียนหนิงมองความลับออกแล้ว เขาเพียงมุ่งหน้าไปยังบึงอัสนีด้วยความเร็วสูงสุดเท่านั้น
ปีกจันทราที่ผสานใจกับเขา เร่งความเร็วของเขาให้เพิ่มสูงขึ้นจนน่ากลัวสุดขีด ตัวเขาตอนนี้เป็ราวกับประกายแสงสีดำที่พุ่งผ่านทุกสิ่งบนูเาหิมะ!
“บึงอัสนีซ่อนฟ้ามันดึงดูดสัญลักษณ์ัปรภพไว้ตลอดเวลา”
หลงอวี้ตาเป็ประกาย ตอนนี้เขากำลังถูกอวี่เชียนหนิงไล่ล่า การจะหนีรอดไปได้นั้นมันยากเย็นสุดแสน มีเพียงวิธีเดียวที่จะทำได้นั่นก็คือการเข้าใกล้องค์ชายน้อยแห่งกู่เิแล้วก่อความวุ่นวายขึ้นก่อนจะฉวยโอกาสในตอนที่กำลังเกิดความโกลาหล!
นอกจากนี้ หากในบึงอัสนีซ่อนฟ้าแห่งนี้มีโอกาสที่จะมีแผ่น์ชิ้นหนึ่งซ่อนอยู่ล่ะก็ อย่างนั้นเขาก็ยิ่งพลาดไม่ได้เข้าไปใหญ่
เงาร่างของเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง วิ่งผ่าทหารลาดตระเวนของกู่เิไปไม่น้อย ทำให้เหล่าทหารทั้งหลายต่างก็ประหลาดใจ ใครมันวิ่งผ่านหน้าเขาไปน่ะ?
แต่พวกเขากลับมองเห็นเพียงเงาดำสายหนึ่งผ่านไปเท่านั้น อย่าว่าแต่จะไปไล่ตามหลงอวี้เลย!
เหล่าลาดตระเวนเหล่านี้จึงรีบแจ้งข่าวไปให้กับองค์ชายน้อยแห่งกู่เิเพื่อส่งทหารลาดตระเวนออกมาช่วยเฝ้าระวังเพิ่มเท่านั้น
ค่ำคืนนี้มีเสียงฟ้าผ่าในบึงอัสนีมากกว่าปกติ ส่วนผู้ที่คิดจะเข้ามาฉวยโอกาสในบึงอัสนีเองก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แค่คนที่ถูกทหารลาดตระเวนพบเห็นก็มีไม่ต่ำกว่าสิบแล้ว แต่ละคนล้วนเป็ยอดฝีมือที่ระดับวิถียุทธ์สูงสุดขีด อย่างเช่นโม่เฟิงิ อวี่เชียนหนิง เป็ต้น
ส่วนหลงอวี้ที่ผสานใจกับปีกจันทราแล้วก็มีความเร็วทัดเทียมกับโม่เฟิงิ ทำให้ทหารลาดตระเวนเหล่านี้ไม่สามารถมองเห็นเขาได้ชัดเจนด้วยซ้ำ ยิ่งไม่มีทางจับตัวเขาได้เลย
แต่หลังจากที่หลงอวี้เข้าใกล้บึงอัสนีเข้าไปเรื่อยๆ ก็พบว่ามันเริ่มมีทหารลาดตระเวนหนาแน่นมากขึ้น คิดจะขวางทางเขาเอาไว้ไม่ให้ไปต่อได้!
‘อวี่เชียหนิงยังคงไล่ล่าไม่ลดละ ต่อให้ข้างหน้ามีทหารลาดตระเวนอยู่มากกว่านี้ ข้าก็ได้แต่ต้องฝ่าไปแล้ว’
หลงอวี้เร่งเร้าตันเถียนให้เต้นตามจังหวะหัวใจ เร่งความเร็วในการโคจรลมปราณในเส้นลมปราณให้สูงขึ้น และเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูลมปราณ ทำให้เขาสามารถวิ่งเต็มกำลังโดยไม่หมดแรงได้ในระยะเวลาสั้นๆ
อวี่เชียนหนิงที่ไล่ตามจากด้านหลังนั้นก็อดรู้สึกตื่นตะลึงไม่ได้
ความเร็วของเ้าหลงอวี้ตอนนี้มันสูงถึงเพียงนี้เลยหรือเนี่ย นางที่มีพลังระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่กลับไม่สามารถไล่ตามได้เลย!
หากพลาดโอกาสครั้งนี้ไป การจะเล่นงานหลงอวี้อีกครั้งต้องยากเย็นกว่าเดิมหลายเท่าแน่ นอกเสียจากว่าจะมียอดฝีมือมารั้งตัวหลงอวี้ไว้!
หลงอวี้มุ่งหน้าด้วยความเร็วสูงสุด ปีกสีเทาดำด้านหลังนั้นกลายเป็ประกายแสงวาดผ่านพื้นหิมะภายใต้ท้องฟ้ายามรัตติกาล
ในตอนที่เขากำลังคิดจะบุกฝ่าเข้าไปในบึงอัสนีตรงๆ เลยนั่นเอง อยู่ๆ ก็มีเงาร่างที่มีเปลวเพลิงลุกไหม้ทั่วร่างสายหนึ่งปรากฏตัวขวางทางหลงอวี้!
‘คนของตำหนักซ่อนอัคคี?’
หลงอวี้ตื่นตะลึง คาดเดาฐานะของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว!
ก่อนหน้านี้เขาได้สังหารยอดฝีมือของตำหนักซ่อนอัคคีนามว่าหั่วฝู่ บุตรของจ้าวตำหนักซ่อนอัคคี มีระดับิญญาแท้ขั้นที่สองสูงสุด ถูกจัดอยู่ในอันดับที่สองของลูกศิษย์ระดับพิเศษของตำหนักซ่อนอัคคี
ส่วนผู้ที่ปรากฏตรงหน้าของหลงอวี้ กลับเป็ชายชราในชุดแดงและมีแผ่นตราประจำตัวของผู้าุโตำหนักซ่อนอัคคีแขวนอยู่ ระดับพลังของอีกฝ่ายตอนนี้อยู่ที่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สาม!
ชายชราผู้นี้มองมาทางหลงอวี้ด้วยแววตาดูแคลน
ขอเพียงฆ่าเ้าหลงอวี้ได้ เขาก็จะสามารถล้างแค้นให้กับจ้าวตำหนักน้อยได้ เมื่อกลับไปท่านจ้าวตำหนักต้องมอบรางวัลให้เป็แน่!
ชายชราในชุดสีแดงยื่นมือออกมา จากนั้นก็มีเปลวเพลิงลูกหนึ่งปะทุออกมาจากในฝ่ามือของเขา ทำให้พื้นที่ตรงหน้าของหลงอวี้มีไฟลุกไหม้เป็วงกว้างทันที
“อัคคีะเิพสุธา!”
แม้ว่าวิชานี้จะเป็เพียงวิทยายุทธ์ระดับิญญาขั้นล่าง แต่เมื่อใช้ออกโดยยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นที่สามแล้วมันสามารถคุกคามหลงอวี้ได้อย่างหนักอยู่ดี!
‘อวี่เชียนหนิงกำลังไล่ตามมาจากด้านหลัง แม้ว่าผู้าุโของตำหนักซ่อนอัคคีนี่จะมีระดับิญญาแท้ขั้นที่สาม แต่ถ้าเทียบอวี่เชียนหนิงล่ะก็ การเผชิญหน้ากับตาแก่นี่ดูจะมีโอกาสมากกว่า!’
หลงวี้ครุ่นคิดในใจพร้อมกับมีจิตสังหารสว่างวาบขึ้นในดวงตาของเขา
“เอาหอกข้าไปกิน!”
หลงอวี้ยังคงวิ่งไปต่อโดยไม่หยุดฝีเท้า ฝ่าเปลวเพลิงด้านหน้าไปตรงๆ!
เขากัดนิ้วหนึ่งครั้งก่อนจะสาดเืสดๆ ลงไปบนหอกัปรภพ ต่อจากนั้นก็ได้ใช้ออกด้วยวิทยายุทธ์เชื่อมปัญญา แตะเกล็ดั แทงหอกัปรภพไปอย่างรุนแรง
แม้ว่าผู้าุโตำหนักซ่อนอัคคีผู้นั้นจะมีระดับสูงกว่าหลงอวี้หนึ่งขั้น แต่อานุภาพของวิชาแตะเกล็ดันั้นก็ยังทำให้อีกฝ่ายหน้าถอดสี
หากมันไม่ตั้งใจต้านรับไว้ล่ะก็ วิชาแตะเกล็ดัต้องสามารถฆ่าเขาตายได้ทันทีแน่!
“อัคคีไตริญญา!”
ผู้าุโตำหนักซ่อนอัคคีได้ประกบสองมือเข้าด้วยกัน พลันมีเปลวเพลิงสามลูกลอยมาจากด้านหลังเขาพร้อมกับมีเงาของิญญาแท้เปลวเพลิงลูกหนึ่งปรากฏด้านหลังเขา กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างได้แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ!
เมื่อพื้นที่บริเวณนี้มีอุณหภูมิสูงขึ้น หิมะที่อยู่ในรัศมีร้อยจ้างก็เริ่มละลายอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันมันก็ได้ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวนทั้งหลายไว้ด้วย
ในตอนที่ผู้าุโตำหนักซ่อนอัคคีกำลังจะรับมือกับกระบวนท่านี้ของหลงอวี้อยู่นั่นเอง หลงอวี้กลับซัดออกไปอีกหนึ่งหมัดแล้ว
“หมัดัปรภพ ฝ่ามือตื่นรู้สู่สังสารวัฏ!”
หนึ่งหมัดสังสารวัฏ รวบรวมพลังแห่งสังสารวัฏไว้ เพียงพริบตาเดียวได้ครอบผู้าุโของตำหนักซ่อนอัคคีไว้ ต่อจากนั้นระดับวิถียุทธ์ของผู้าุโนั่นลดลงมาเหลือระดับิญญาแท้ขั้นที่สองในทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
ผู้าุโตำหนักซ่อนอัคคีหน้าถอดสีทันที
“หมัดมัวเมาล้มสู่ปรภพ คลื่นะเิสังสารวัฏ ย้าก!!!”
หลงอี้ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้คิดเลย หลังจากอีกฝ่ายฝืนต้านรับหอกัปรภพไว้แล้ว หลงอวี้ก็ชกหมัดลงพื้นทันที
ปราณปรภพสายหนึ่งได้ถูกอัดแน่นไว้ที่ใต้เท้าของอีกฝ่ายก่อนจะปะทุพุ่งขึ้นมาจากพื้นกลายเป็เสาปราณอันน่าสะพรึงกลัว!
ปราณปรภพแทรกซึมเข้าไปในร่างกาย ผู้าุโของตำหนักซ่อนอัคคีถูกฆ่าตายในทันที
เพียงครู่เดียวเท่านั้น หลงอวี้ก็สามารถสังหารอีกฝ่ายได้ในพริบตา!
