เพียงไม่นานหลงอวี้ก็ได้พาเฟิงฉางเกอและขุนพลเฒ่าหมานอี้ออกมาจากอาณาเขตของฐานทัพกู่เิและไปซ่อนตัวอยู่หลังเนินเขาหิมะขนาดเล็กแห่งหนึ่ง
ขุนพลเฒ่าถูกอวี่เชียนหนิงซัดใส่หนึ่งฝ่ามืออย่างรุนแรงจนาเ็ภายในอย่างสาหัส จนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
“ขุนพลเฒ่า เ้าเป็อย่างไรบ้าง?”
หลงอวี้และเฟิงฉางเกอได้ช่วยกันวางร่างของหมานอี้ลงบนพื้นหิมะอย่างแ่เบา
“ข้าไม่ไหวแล้ว...”
ขุนพลเฒ่าหมานอี้ไอออกมาเป็เือย่างต่อเนื่อง ในดวงตากลับยังคงฉายแววหนักแน่นเด็ดเดี่ยว เขามองมาทางหลงอวี้แล้วเอ่ยพูด
“ฉางเกอ นี่คงเป็หลงอวี้ บุตรของสหายหลงจ้ายเทียนที่เ้าพูดถึงสินะ...”
“ใช่แล้ว เขาผู้นี้แหละ”
เฟิงฉางเกอตอบกลับเสียงเครียด
“หลงอวี้”
ขุนพลเฒ่าไอออกมาเป็เื มองไปทางหลงอวี้ด้วยแววตาแฝงความคาดหวัง
“พร์ของเ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าบิดาของเ้าเลย ความสำเร็จภายภาคหน้าต้องไม่ธรรมดาแน่... ข้า ข้าสามารถมอบหัวของข้าให้เ้านำกลับไปชำระล้างความผิดฐานทรยศอาณาจักรที่เ้าถูกใส่ความได้ แต่ว่า เ้าก็ต้องทำตามคำขอของข้าหนึ่งข้อ...”
“หืม?”
หลงอวี้ขมวดคิ้ว จนตอนนี้เขายังไม่แน่ใจเลยว่าขุนพลเฒ่าผู้นี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขา
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่กล้ารับปากซี้ซั้ว
“ตอบตกลงขุนพลเฒ่าไปเถอะ ส่วนเื่อื่นๆ เดี๋ยวข้าจะเล่าให้เ้าฟังเอง”
เฟิงฉางเกอเอ่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อวี่เชียนหนิงเห็นเขากับหลงอวี้อยู่ในเขตฐานทัพของกู่เิ หากนางกลับไปถึงอาณาจักรต้าถังแล้วต้องป่าวประกาศออกไปว่าพวกเขาเป็คนทรยศอาณาจักรแน่
หากพวกเขายังอยากกลับไปอาณาจักรต้าถัง มีหนทางเดียวก็คือต้องนำหัวของขุนพลเฒ่าหมานอี้กลับไปด้วยถึงจะชำระล้างความผิดได้!
แม้เฟิงฉางเกอจะรู้สึกเ็ปใจ แต่เขามองออกว่าลมหายใจของขุนพลเฒ่าตอนนี้ใกล้จะดับลงไปแล้ว
ต่อให้รวมตัวนักหลอมยาทั้งหมดในอาณาจักรต้าถังมาก็ไม่มีทางช่วยรอดชีวิตได้! หากเทียบกับการต้องตายทั้งอย่างนี้ สู้ยกหัวให้หลงอวี้นำกลับไปด้วยยังจะมีค่ามากกว่า
และที่สำคัญที่สุดก็คือ ขุนพลเฒ่าหมานอี้ยังมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่และอยากให้หลงอวี้ไปสานต่อให้สำเร็จด้วย
“ก็ได้ ขุนพลเฒ่า ข้าตกลง”
หลงอวี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง พยักหน้าให้กับอีกฝ่าย
“อย่างนั้น ข้าก็วางใจแล้ว หลังจากที่ข้าตาย จงตัดหัวข้ากลับไปที่เมืองถังกวน เมื่อเป็เช่นนี้ ความผิดฐานทรยศอาณาจักรของเ้าและพ่อบุญธรรมของเ้าก็ย่อมถูกชำระล้างไปเอง...”
ขุนพลเฒ่าหมานอี้มีสีหน้าโล่งใจ
“ส่วนเื่ที่ข้าอยากให้เ้าช่วยนั้น อันที่จริงเป็เื่ที่ไม่ใช่ก็เร็วเ้าต้องลงมือทำเองอยู่แล้ว เื่นั้นคือ... ฆ่าฉู่เฉาเซิงทิ้งเสีย!”
ฉู่เฉาเซิง!
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็ประหลาดใจ
ชื่อของฉู่เฉาเซิง เขาเคยได้ยินั้แ่ตอนที่หมานอี้พูดคุยกับเฟิงฉางเกอในกระโจมใหญ่ก่อนหน้านี้ เหมือนจะได้ยินว่าเป็บิดาของอวี่เชียนหนิง
ให้ฆ่าบิดาของอวี่เชียนหนิง?
หลงอวี้ยังไม่ทันได้ตอบรับ ร่างกายของขุนพลเฒ่าก็ล้มลงไปบนพื้นหิมะ
ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความคาดหวังและความเจ็บใจ
เขาคาดหวังว่า สักวันหนึ่งหลงอวี้จะสามารถสังหารฉู่เฉาเซิง ล้างแค้นให้เขาได้! แต่เขากลับรู้สึกเจ็บใจที่ไม่มีโอกาสได้เห็นความตายของฉู่เฉาเซิงด้วยตาตัวเอง!
“ขุนพลเฒ่า?”
เฟิงฉางเกอหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ยื่นมือไปบริเวณจมูกของหมานอี้
ทำให้เขาได้รู้ว่า บัดนี้ขุนพลเฒ่าหมานอี้ได้สิ้นใจจริงๆ แล้ว!
“เสี่ยวอวี้ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”
เฟิงฉางเกอลุกขึ้น ตวัดกระบี่ในมือออกไปตัดหัวของหมานอี้มาหิ้วในกระบี่เดียวอย่างไร้ความลังเล
จากนั้นเขาก็ใช้กระบี่ขุดหลุมลึกบนพื้นหิมะแล้วฝังศพของหมานอี้
การเคลื่อนไหวที่เด็ดเดี่ยวขนาดนี้ ทำให้หลงอวี้อดรู้สึกประทับใจไม่ได้
แม้เขาจะไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงฉางเกอกับขุนพลเฒ่าผู้นี้โดยละเอียด แต่ก็ไม่น่าจะไม่ใช่ศัตรูคู่แค้นกันแน่ๆ เฟิงฉางเกอสามารถตัดหัวของหมานอี้ผู้นี้ออกมาได้อย่างเด็ดขาดหนักแน่นเหลือเกิน!
“เสี่ยวอวี้ พวกเราเดินไปคุยไปเถอะ อีกเดี๋ยวกองทัพของกู่เิก็น่าจะไล่ตามมาแล้ว”
เฟิงฉางเกอถือหัวของหมานอี้เดินออกไปทันที
หลงอวี้เองก็ไม่ลังเล กางปีกจันทราบนแผ่นหลัง บนนั้นได้มีลายเส้นสีดำลี้ลับปรากฏ จากนั้นก็ได้พาตัวเขาพุ่งทะยานไปทางเมืองถังกวนพร้อมกับเฟิงฉางเกอด้วยความเร็วสูงจนเห็นเป็เพียงประกายแสงสีเทาดำสายหนึ่ง เดินทางอ้อมกลับไป
ขณะเดียวกัน เฟิงฉางเกอก็ได้เล่าเื่ในอดีตออกมาให้ฟัง ในที่สุดหลงอวี้ก็ได้ฟังเื่ราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบิดาของตนอย่างสมบูรณ์เสียที!
......
เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน
อาณาจักรกู่เิได้ร่วมมือกับอาณาจักรตงยื่อในการบุกโจมตีอาณาจักรต้าถัง
กำลังรบของทั้งสามอาณาจักรไม่ได้แตกต่างกันมากสักเท่าไร เมื่อสองอาณาจักรร่วมมือกันก็ย่อมต้องเหนือกว่าอาณาจักรเดียวอยู่แล้ว
เป้าหมายของทั้งสองอาณาจักรคือการยึดครองดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักรต้าถังมาแบ่งกัน
แต่กระนั้นทั้งสองอาณาจักรไม่คาดคิดว่าที่อาณาจักรต้าถังจะมีขุนพลที่เป็ยอดฝีมือแห่งวิถียุทธ์ที่ร้ายกาจสุดขีดถือกำเนิดขึ้น!
คนผู้นั้น ก็คือบิดาของหลงอวี้ หลงจ้ายเทียน
ตอนนั้นหลงจ้ายเทียนเป็หัวหอกหลักที่คอยต่อต้านการรุกรานของอาณาจักรกู่เิและตงยื่อไว้ด้วยวิชาหอกหมื่นสังหารที่คิดค้นขึ้นมาเอง แทงออกเพียงหนึ่งหอก ก็สามารถคร่าชีวิตของศัตรูได้นับหมื่นคน ทำให้กองทัพพันธมิตรระหว่างสองอาณาจักรต่างก็หวาดหวั่นครั่นคร้ามถึงขีดสุด
ประมุขลัทธิพันไหมในตอนนี้ อวี่หยูเยียน ในสมัยนั้นยังเป็สาวน้อยที่หน้าตางดงามจนเป็ที่เลื่องลือไปทั่วทั้งอาณาจักร
นางหลงรักในตัวของหลงจ้ายเทียนผู้เป็วีรบุรุษของเหล่าปวงประชาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับสาวน้อยคนอื่นๆ อีกจำนวนนับไม่ถ้วนในอาณาจักร อีกทั้งนางยังมีพร์ด้านวรยุทธ์ที่โดดเด่น จึงสามารถเข้าร่วมกับกองทัพต้าถังได้และได้กลายเป็หนึ่งในรองขุนพลของหลงจ้ายเทียน
หลงจ้ายเทียนรบราฆ่าฟันบนสนามรบอยู่หลายปี อวี่หยูเยียนก็อยู่เคียงข้างหลายปีเช่นกัน แต่กระนั้น หลงจ้ายเทียนกลับไม่เคยรู้สึกพิศวาสอวี่หยูเยียนนเลย
เขา ไม่ได้ชอบอวี่หยูเยียน!
ในกองทัพของอาณาจักรกู่เิที่เป็ศัตรูกับหลงจ้ายเทียนมีขุนพลเฒ่าหมานอี้ประจำการอยู่ด้วย ตอนนั้นเขาเพิ่งจะมีอายุเพียงสามสิบเศษเท่านั้น อยู่ในวัยฉกรรจ์ที่กำลังฮึกห้าว
ในการปะทะกันครั้งหนึ่ง หมานอี้ที่ก้าวขึ้นไปถึงระดับิญญาแท้ขั้นที่หกแล้วได้พบกับอวี่หยูเยียน ถูกความงดงามอันน่าตะลึงราวกับนางฟ้าของอีกฝ่ายสะกดให้ตกหลุมรักทันที
ด้วยขอบเขตวิถียุทธ์ของหมานอี้แล้ว เขามีโอกาสลักพาตัวอวี่หยูเยียนไปได้หลายครั้งหลายครา ใช้กำลังบังคับให้กลายเป็ของตัวเอง แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้ลงมือใช้กำลัง แต่กลับไล่ตามไขว่คว้าเอาใจด้วยสารพัดวิธีแทน
อีกทั้งหมานอี้ยังมีความสามารถสูงมากพอที่จะต่อกรกับหลงจ้ายเทียนในสนามรบได้หลายครั้งหลายครา เรียกได้ว่าเขาเป็เสาหลักของกองทัพทหารฝ่ายกู่เิ มีพร์ด้านการทหารที่สูงจนไม่มีผู้ใดทัดเทียม
ทำให้ทั้งหลงจ้ายเทียนและหมานอี้ต่างก็รู้สึกชื่นชมและเคารพนับถือในตัวอีกฝ่าย และแอบส่งจดหมายผ่านนกพิราบสื่อสารเพื่อพูดคุยกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นจึงเป็เพียงคู่แข่งที่ชื่นชมในความสามารถของกันและกันเท่านั้น แต่เมื่ออยู่ในสนามรบแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงทุ่มสุดความสามารถเพื่อฆ่าสังหารอีกฝ่าย
เพราะถึงอย่างไรทั้งสองก็ยืนอยู่คนละฝ่ายที่เป็ศัตรูกัน!
จนกระทั่งหลงจ้ายเทียนได้พบเจอกับสตรีผู้มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนอวี้ เป่ยอวี้เหยา เขาตกหลุมรักอีกฝ่ายที่เป็ราวกับเทพธิดาในพริบตา
ทั้งสองนั้นตกหลุมรักกันั้แ่แรกพบ ทำให้อวี่หยูเยียนใจสลายเป็อย่างมาก
“เ้าต้องเสียใจแน่!”
เมื่ออวี่หยูเยียนพูดจบเขาก็ได้ตีตัวออกหากจากหลงจ้ายเทียนไปหาฉู่เฉาเซิงแทน
ฉู่เฉาเซิงนั้นเป็คนของตระกูลฉู่ตระกูลราชวงศ์แห่งต้าถังที่บัดนี้ได้เป็ถึงจั่วหวังเหย่[1]แห่งอาณาจักรต้าถัง แต่ฉู่เฉาเซิงในสมัยนั้นเป็เพียงแค่เครือญาติของราชวงศ์ที่พร์เพิ่งปรากฏตัวเท่านั้น
เพียงแต่ว่า ฉู่เฉาเซิงในสมัยนั้นได้แสดงให้เห็นถึงพร์ด้านวรยุทธ์และด้านแผนการกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งสุดขีด เป็คนที่เ้าเล่ห์เพทุบายหาที่เปรียบไม่ได้!
นับั้แ่ที่เป่ยอวี้เหยาปรากฏตัว าสามอาณาจักรที่ดำเนินต่อเนื่องมานานหลายปีก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
เพื่อที่จะได้อยู่ครองรักเคียงคู่กับเป่ยอวี้เหยาโดยเร็ว หลงจ้ายเทียนจึงดุดันอำมหิตมากขึ้นกว่าเดิม ในาครั้งสุดท้าย ในที่สุดเขาก็สามารถขับไล่กองทัพพันธมิตรระหว่างกู่เิและตงยื่อที่รุกรานเข้ามาในอาณาเขตของต้าถังออกไปจากเมืองถังกวนได้
ในศึกนั้นทหารของทั้งสามฝ่ายาเ็ล้มตายกันนับไม่ถ้วน โดยหลงจ้ายเทียนเพียงคนเดียวได้ทำการฆ่าทหารของศัตรูไปนับหลายหมื่นคน ทำให้กองทัพพันธมิตรต้องล่าถอยกลับไปอย่างทุลักทุเล ในที่สุดก็ยอมยุติา
แต่ศึกนั้นหมานอี้กลับไม่ได้เข้าร่วมด้วย ทำให้หลงจ้ายเทียนรู้สึกสงสัยเป็อย่างมาก
ต่อมาหลงจ้ายเทียนถึงได้รู้ว่า ฉู่เฉาเซิงแห่งตระกูลราชวงศ์ของต้าถังได้ส่งให้หลี่หยูเยียนมาซุ่มโจมตีหมานอี้จนทำให้หมานอี้าเ็สาหัส ระดับพลังลดลงเหลือเพียงแค่ระดับวิถียุทธ์ขั้นแปดเท่านั้น!
ไม่เพียงแค่นั้น ฉู่เฉาเซิงยังฉวยโอกาสนี้ค้นหาจดหมายที่หมานอี้และหลงจ้ายเทียนส่งหากัน และใส่ร้ายหลงจ้ายเทียนในฐานะของ “ผู้ทรยศอาณาจักร”
อีกทั้งตอนนั้นมหาอำนาจอันทรงพลังของเป่ยอวี้เหยา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนอวี้ ได้ส่งยอดฝีมือจำนวนมากมาเล่นงานหลงจ้ายเทียนด้วย
ส่วนสาเหตุที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนอวี้ไม่พอใจหลงจ้ายเทียนก็เป็เพราะ เป่ยอวี้เหยามีฐานะสูงศักดิ์อย่างมาก แล้วขุนพลในดินแดนบ้านนอกอย่างหลงจ้ายเทียนจะคู่ควรกับนางได้อย่างไร?
ยอดฝีมือมากมายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนอวี้ได้ร่วมมือกับฉู่เฉาเซิง และหลังจากที่สูญเสียยอดฝีมือไปไม่รู้มากขนาดไหน ในที่สุดพวกมันก็ขับไล่หลงจ้ายเทียนออกจากอาณาจักรต้าถังได้สำเร็จ อีกทั้งยังจับตัวเป่ยอวี้เหยากลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์และไม่อาจออกมาได้อีก
ส่วนหลงจ้ายเทียนหายตัวไปอยู่ที่ไหน คนทั่วไปย่อมไม่อาจรู้ได้ เกรงว่าคงมีเพียงคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนอวี้และฉู่เฉาเซิงเท่านั้นที่รู้
หลังจากหลงจ้ายเทียนถูกขับไล่ออกจากอาณาจักร หลงอวี้ที่ได้รับการคุ้มครองจากผู้เป็ปู่ที่อยู่ในตระกูลหลง ถูกเฟิงฉางเกอแอบพามาเลี้ยงดูที่ตระกูลเฟิง
ในทั่วทั้งตระกูลหลงนั้นมีเพียงปู่ของหลงอวี้คนเดียวที่ห่วงใยเขากับหลงจ้ายเทียน แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนั้น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจคุ้มครองหลงจ้ายเทียนได้
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนอวี้นั้นมีอำนาจมากเกินไป แม้แต่คนของราชวงศ์ต้าถังเอง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังต้องค้อมตัวอย่างนอบน้อม แค่ตระกูลหลงยิ่งไม่มีทางต่อต้านได้เลย
นับั้แ่นั้นมา ฉู่เฉาเซิงก็กลายเป็จั่วหวังเหย่เห่งอาณาจักรต้าถัง กลายเป็หนึ่งในผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดของอาณาจักรต้าถัง
ส่วนอวี่หยูเยียนนั้นถูกฉู่เฉาเซิงใช้เล่ห์กลบางอย่างจนทำให้นางตกเป็ของเขา อีกทั้งยังท้องลูกของฉู่เฉาเซิง
แต่กระนั้นอวี่หยูเยียนก็ไม่อาจลืมหลงจ้ายเทียนไปจากหัวใจได้ จะอย่างไรก็ไม่ยอมแต่งงานกับฉู่เฉาเซิง
ต่อมา อวี่หยูเยียนก็ได้รับหน้าที่เป็ประมุขของลัทธิพันไหม อีกทั้งยังคลอดบุตรสาวออกมาหนึ่งคนและตั้งชื่อให้ว่า อวี่เชียนหนิง
“อวี่เชียนหนิงมีสายเืของราชวงศ์อยู่จริงๆ นี่เอง ไม่น่าทำไมถึงได้กล้าตั้งฉายาให้ตัวเองว่า ‘เ้าหญิงพันไหม’ และไม่มีใครกล้าทักท้วง”
หลงอวี้ตื่นตะลึงขึ้นมา ในที่สุดก็ได้รู้ความจริงแล้ว!
หมายความว่า ตอนที่ไป๋อวิ๋นจงมุ่งหน้าไปทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้าุโอวี้ที่ลัทธิพันไหมแล้วถูกทำร้ายกลับมาก่อนหน้านี้ ผู้ที่ลงมือก็น่าจะเป็ไอ้ฉู่เฉาเซิงนั่นแน่ๆ!
ตอนนั้นไป๋อวิ๋นจงและเหล่าผู้าุโของลัทธิสยบฟ้าต่างก็พูดแค่ว่า “ท่านผู้นั้น” พวกเขาคงจะหมายถึงฉู่เฉาเซิง
ไป๋อวิ๋นจงในสมัยนั้นเป็จอมทัพผู้บัญชากองทัพต้าถังอีกทัพหนึ่งเหมือนกันกับหลงจ้ายเทียน มีความสัมพันธ์อันดีกับหลงต้ายเทียนด้วย ฉู่เฉาเซิงย่อมไม่ชอบใจเขาด้วยเป็ธรรมดา
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฉู่เฉาเซิงถึงลงมือกับประมุขไป๋ อีกทั้งยังคิดจะใช้การประลองเจ็ดสำนักลัทธิมาแย่งชิงเคล็ดสยบฟ้าไปด้วย...”
หลงอวี้ตาเป็ประกายเ็า
หลังจากขับไล่หลงจ้ายเทียนออกจากอาณาจักรต้าถังไปเกือบยี่สิบปีแล้ว ฉู่เฉาเซิงก็คิดจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง นั่นก็คือลดอิทธิพลของเจ็ดสำนักลัทธิใหญ่ที่มีต่ออาณาจักรต้าถังลงไป
ขอเพียงได้เคล็ดวิชาฝึกพลังของทั้งเจ็ดสำนักลัทธิใหญ่มา อย่างนั้นอำนาจปกครองของราชวงศ์ต้าถังย่อมต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนทั้งเจ็ดสำนักลัทธิก็ย่อมต้องอ่อนแอลงมากขึ้น
“อวี่เชียนหนิง พลังที่แท้จริงของนางนั้นอยู่ที่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่แล้ว ต้องเป็เพราะได้รับการดูแลจากฉู่เฉาเซิงเป็พิเศษอย่างลับๆ แน่นอน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้มั่นใจว่าจะชนะประลองมากขนาดนี้...”
หลงอวี้รู้สึกกดดันมากขึ้น
ระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่ สำหรับตัวเขาในตอนนี้มันยังคงเป็ตัวตนที่แข็งแกร่งจนไม่อาจต่อกรได้
ไม่ว่าจะหลงจี๋หรืออวี่เชียนหนิง เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ทั้งนั้น!
……
[1] จั่วหวังเหย่ หมายถึง ท่านอ๋องฝ่ายซ้าย
