เล่มที่ 1 บทที่ 15 เข็มทิศห้าวเยว่
ยังดีที่หลินเฟยเคยอ่านบันทึกนี้มาก่อนจึงได้เตรียมใจมาแล้ว ถึงแม้จะแน่ใจว่าข้างใต้นี้มีอสรพิษปักษาขั้นเยาตี้อาศัยอยู่ จึงไม่แปลกใจสักเท่าไร เพียงแต่เสียดายนักพรตชื่อฟ่าที่อุตส่าห์อุทิศร่างบำเพ็ญขั้นติงตันของตนเพื่อผนึกอสรพิษปักษา สำหรับอัจฉริยะอย่างเขาเช่นนี้ ต่อให้เวลาผ่านไปเป็หมื่นปี ทั่วทั้งสำนักเวิ่นเจี้ยนก็คงไม่มีใครทำได้
หลินเฟยเปิดขวดหยก ปล่อยให้ไอเย็นเสียดกระดูกแพร่กระจายออกมา...
ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างก็ปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็น นอกจากนี้หลินเฟยยังตั้งใจเก็บผนึกพลังปราณของตนเอง ทำให้ตัวเขาตอนนี้มีกลิ่นอายละม้ายกับเหล่าปีศาจในแม่น้ำหยิน
นี่ก็คือแผนการที่หลินเฟยเตรียมไว้รับมืออสรพิษปักษาขั้นเยาตี้นั่นเอง
ไอมรณะน้ำพุเหลืองที่ได้มาจากลูกแก้วปีศาจนั้น เมื่อแพร่กระจายออกมา ก็จะสามารถเลียนกลิ่นอายของปีศาจเ่าั้ได้ ขอแค่ไม่โคจรพลังปราณ ก็มีโอกาสสูงที่จะรอดชีวิตข้ามผาปากเหยี่ยวนี้ไปได้
และผลลัพธ์ก็เป็ตามคาด...
หลินเฟยถือกระบี่ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างถือขวดหยกเอาไว้ โดยแม้ว่าตลอดทางที่ผ่านมาจะมีอสรพิษปักษาบินว่อนไปมา พวกมันกลับไม่เห็นเขาเป็ศัตรู บางตนเฉียดเข้าใกล้แต่ก็ทำแค่เพียงแลบลิ้นขู่ “ ฟ่อๆ ” แล้วจากไปเท่านั้น
“โชคดีไม่เบาเลยแฮะ...”
ภายใต้การอำพรางด้วยไอมรณะน้ำพุเหลือง ทำให้หลินเฟยเข้ามาถึงส่วนลึกของผาปากเหยี่ยวได้ มีบ้างในบางครั้งกพบอสรพิษปักษาที่ไม่หลงกลอำพราง แต่ก็มีเพียงหนึ่งถึงสองตนเท่านั้น ต่อให้ไม่ใช้พลังปราณ เพียงเคล็ดวิชากระบี่อย่างเดียวก็สามารถสังหารได้แล้ว อย่างไรก็ตามที่ต้องระวังก็คือพยายามไม่ให้พวกมันส่งเสียงก่อนตาย...
ในตอนที่หลินเฟยตัดสินใจเดินเข้าสู่ส่วนลึกของผาปากเหยี่ยว อยู่ดีๆก็มีลำแสงสายหนึ่งสว่างขึ้นที่ด้านหลังของเขา ลำแสงนั้นค่อยๆจางลงไป ก่อนจะปรากฏเป็ร่างหนึ่งที่แสนคุ้นเคย
“ศิษย์น้องหลินเองหรือ บังเอิญจังเลยนะ!”
“...” พอเห็นว่าเป็ใคร หลินเฟยก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที ซวยชะมัดเลย ซ่งเทียนสิงช่างเหมือนิญญาร้ายที่ตามหลอกหลอนอะไรถึงเพียงนี้
ั้แ่หอดาบมาจนถึงหุบเขาอวี้เหิง และจากหุบเขาอวี้เหิงก็ยังตามถึงถ้ำเสวียนปิง กระทั่งตอนนี้ก็ยังคงตามจากถ้ำเสวียนปิงมาผาปากเหยี่ยวอีก จะไม่จบไม่สิ้นสักทีใช่หรือไม่?
เ้านี่ถึงกับใช้อาวุธหายตัว เพื่อที่จะมาตามตอแยเนี่ยนะ!
ก่อนหน้านี้ก็ให้แล้วต่อกันไปเถอะ เพราะเป็การถกเถียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น หลินเฟยเองก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งแล้ว แถมยังมีเื่มากมายที่จะต้องสะสาง ไม่มีเวลามายุ่งเื่ขี้ปะติ๋วเช่นนี้หรอก
แต่ว่าครั้งนี้...
เ้าของร่างนี้ดันเลือกฝึกเคล็ดวิชาหมื่นกระบี่ไปเสียแล้ว หากเขาไม่ได้สิ่งที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของแม่น้ำหยินนั่นแล้วล่ะก็ ต่อให้พยายามเพียงใด ก็คงจะบำเพ็ญไปถึงแค่ขั้นฟ่าเซิน หากคิดจะสานต่อเื่ในชาติที่แล้ว ก็คงได้แต่ฝันไป ดังนั้นจะทำพลาดไม่ได้เด็ดขาด อย่าว่าแต่ซ่งเทียนสิงเลย ต่อให้เป็องค์เง็กเซียนมาขวาง เขาก็จะใช้กระบี่ในมือเขานี่แหละสะบั้นเสียให้สิ้น
‘เอาเถอะ ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็อย่าได้คิดจะหันหลังหนี...’
‘หากเ้านั่นมาถึง ค่อยให้ขนมมันหน่อยแล้วกัน’
“ดูจากสีหน้าแล้ว …ศิษย์น้องคงจะแปลกใจน่าดู” ซ่งเทียนสิงยังไม่รู้ว่าตัว ว่าตนเองได้ถูกกำหนดให้เป็อาหารว่างไปเสียแล้ว ในระหว่างที่พูดนั้น ใบหน้าก็ยังคงระบายด้วยรอยยิ้มที่ดูพึงพอใจสุดๆ
ก่อนมารับหน้าที่เฝ้าเวรที่ถ้ำเสวียนปิง เขาลงทุนลงแรงไปขอเข็มทิศห้าวเยว่ ซึ่งเป็หนึ่งในเจ็ดอาวุธประจำหุบเขาเทียนสิงกับอาจารย์ เข็มทิศห้าวเยว่นั้น มีไว้สำหรับไล่ล่านักโทษหลบหนี ขอแค่เป็ผู้บำเพ็ญระดับต่ำกว่าขั้นจิงตันเท่านั้น ก็ล้วนไม่อาจหลบหนีจากการตามล่าของเข็มทิศห้าวเยว่ได้ ทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง จะสามารถใช้มันเปิดห้วงมิตหายตัวได้ภายในรัศมีร้อยลี้* นักโทษมากมายล้วนถูกจับได้ในคืนพระจันทร์เต็มดวงนี้ ก็เพราะด้วยอำนาจของเข็มทิศนี้นั่นเอง
(*ลี้ หมายถึง 500 เมตร)
‘คิดไม่ถึงว่าจะต้องหยิบขึ้นมาใช้เร็วเพียงนี้’
‘ซื้อใจเ้าซูหยวนไปแล้วไม่ใช่หรือ?’
‘ก็ดี…ในเมื่อซูหยวนไม่จับตาดูเ้า เช่นนั้นข้าจะทำเอง ขอดูหน่อยเถอะว่าต่อหน้าข้าจะกล้าเล่นตุกติกอะไรอีก!’
‘ว่าแต่...อสรพิษปักษาที่นี่จะยอะเกินหรือเปล่านะ?’
ซ่งเทียนสิงคิดพลางเงยหน้ามองฟ้าที่เนืองแน่นไปด้วยเหล่าอสรพิษปักษา บ้างก็อยู่กันเป็ฝูงสิบกว่าตน บ้างก็อยู่กันเกือบร้อยตน ทั้งอยู่แบบเดี่ยวและเป็ฝูง ต่างก็บินว่อนไปทั่วทั้งท้องฟ้า คล้ายกับในตำนานที่บันทึก...
‘เดี๋ยวก่อนนะ ผาปากเหยี่ยวอย่างนั้นหรือ?’
พอนึกได้ ซ่งเทียนสิงก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเอาแต่จ้องหลินเฟยอยู่พักใหญ่ สุดท้ายจึงค่อยเผยรอยยิ้มเหยเกออกมา ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ศะ...ศิษย์น้องหลิน ที่นี่...คือที่ไหนหรือ?”
“ที่นี่น่าจะเป็ผาปากเหยี่ยว ได้ยินว่าเป็รังของเหล่าปีศาจอสรพิษปักษา อ้อ...จริงสิ เหมือนว่าในอดีต มีนักพรตชื่อฟ่าเคยผนึกปีศาจขั้นเยาตี้ไว้ที่นี่ด้วย ศิษย์พี่ซ่งอยากไปดูหน่อยไหม?”
“บ้าเอ๊ย!” ซ่งเทียนสิงแทบกระอักเืเมื่อได้ยินเช่นนั้น
‘ผาปากเหยี่ยว!’
‘ที่นี่คือผาปากเหยี่ยว!’
เมื่อเห็นอสรพิษปักษาที่บินไปบินมาบนฟ้า ซ่งเทียนสิงอยากจะถามหลินเฟยเหลือเกิน ว่าเพี้ยนหรือเปล่า?
‘สังหารปีศาจก็สังหารปีศาจสิ ที่ปลายธารน้ำมีปีศาจอยู่มากมาย ยังไม่พอให้ฆ่าอีกหรืออย่างไร? ถึงได้อยู่ดีไม่ว่าดี ถ่อมาถึงผาปากเหยี่ยว ไม่รู้หรือว่าที่นี่มีอสรพิษปักษาอยู่มากเท่าไร หากนับรวมกันแล้วคงจะมากกว่าผมบนหัวเ้าอีกล่ะมั้ง’
‘ซวยจริงๆ มือของข้าก็เริ่มจะอยู่ไม่สุขเสียแล้ว...’
อยู่ถ้ำเสวียนปิงก็ดีอยู่แล้ว ดันคิดจะมาแกล้งให้เ้านี่ใเล่น ...เป็ไงล่ะทีนี้ เข็มทิศห้าวเยว่พาเขามาถึงผาปากเหยี่ยว มองไปทางไหนก็มีแต่อสรพิษปักษาเต็มไปหมด คิดจะหนีก็หมดสิ้นหนทาง...
“เ้า...” ซ่งเทียนสิงเอ่ยเสียงสั่น
“หุบปาก อย่าพูดมาก”
ในเวลานี้เอง ก็มีฝูงอสรพิษปักษาบินมาพอดี หลินเฟยรีบสั่งให้ซ่งเทียนสิงเงียบเสียงลง ก่อนจะดึงเขาเข้ามาในเขตรัศมีไอมรณะ
“...” ซ่งเทียนสิงเงยหน้า ชั่วขณะนั้นเองเขารู้สึกหัวใจแทบหยุดเต้น นั่นมันฝูงอสรพิษปักษาไม่น้อยกว่าร้อยกว่าตนเชียวนะ ต่อให้อยู่ที่ผาปากเหยี่ยว ก็ยากที่จะได้เห็นจำนวนมากเช่นนี้ ซ่งเทียนสิงถึงกับจินตนาการหากพวกมันเข้าประชิดตัว ผู้บำเพ็ญขั้นจู้จีแค่สองคน คงไม่พอยาไส้แก่พวกมันแน่ๆ...
‘จบแล้ว...’
‘ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว...’
ผ่านไปสักพักก็ยังไม่ได้ยินเสียงของอสรพิษปักษา ซ่งเทียนสิงรู้สึกประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมอง แต่กลับพบว่าฝูงอสรพิษปักษานับร้อยตัว กลับเฉียดผ่านพวกเขาไปโดยไม่จู่โจมหรือส่งเสียงใดๆ ราวกับมองไม่เห็นพวกเขา...
“เกิดอะไรขึ้น?”
ซ่งเทียนสิงเอ่ยถ้อยคำสงสัยขึ้นมาทันที มองอสรพิษปักษาที่บินจากไป สลับกับหลินเฟยที่อยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจทั้งนั้น...
“ถ้าไม่อยากตาย ก็ตามมาดีๆ...” หลินเฟยเองก็คร้านจะอธิบาย ทำเพียงกล่าวเตือนก่อนจะเดินเข้าไปยังส่วนลึกของผาปากเหยี่ยวที่คดเคี้ยวราวเขาวงกต...
ตลอดทางซ่งเทียนสิงหวาดกลัวเป็อย่างมาก ขาทั้งสองข้างเอาแต่สั่นไม่หยุด...
แต่ไม่นานนัก เขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา...
-------------------------------------------------------------------------------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้