บทที่ 84 าสามฝ่าย!!
ในป่าทึบ มีเถาวัลย์ปีศาจหลายสิบเส้นลอยเลื้อยอยู่กลางอากาศ ส่องแสงน่ากลัว กิ่งเถาวัลย์มีใบมีดสีเขียวแหลมคม ้าอาบด้วยของเหลวสีแดงสด
นั่นคือเืสดๆ ที่ยังอุ่นๆ
“เป็... เถาวัลย์ใบมีด! แถม... ยังมีถึงสามต้น? ให้ตายเถอะ สัตว์ปีศาจที่ทรงพลังเช่นนี้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!?”
ดวงตาของเริ่นอวี่สิงทั้งหวาดกลัวและประหลาดใจ เขาก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเขียวเข้มด้วยความใ
เถาวัลย์ใบมีด เป็สัตว์ปีศาจระดับกลางที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่านักรบในระดับห้าของขั้นมหาสมุทร ใบมีดของมันเปรียบเสมือนเหล็กล้ำค่า สามารถตัดเหล็กเหมือนโคลน เจาะน้ำแข็งตัดหิมะได้ด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ มักอาศัยอยู่ในป่าสีเื
แต่ตอนนี้ สัตว์ปีศาจที่ทรงพลังเช่นนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่ปลอดภัยแห่งนี้ ทั้งยังปรากฏตัวพร้อมกันสามต้น
เถาวัลย์ใบมีดสามต้นเทียบเท่ากับนักรบระดับห้าขั้นมหาสมุทรสามคน ทั้งซ่งอี้และหลางซื่อต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียด สัตว์ปีศาจชนิดนี้ปรากฏตัวขึ้นมากะทันหันเกินไป คาดไม่ถึงจริงๆ!
“หลางซื่อ! ความแค้นของพวกเราค่อยมาคิดบัญชีกันทีหลังดีกว่า ถ้าช้ากว่านี้ ไม่เพียงแต่เ้ากับข้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสมาชิกในกลุ่มของเราทั้งหมดจะถูกฆ่าด้วย!” ซ่งอี้แนะนำ ยกดาบขึ้นและจ้องมองเถาวัลย์ที่ค่อยๆ เข้ามาใกล้
“หึ! ได้!” หลางซื่อไม่ได้พูดอะไรไร้สาระมากนัก เขาเดินออกมาพร้อมกับตะบองและพูดว่า “เริ่นอวี่สิง เ้ากับข้าจะจัดการเถาวัลย์เล็กๆ สองต้นนั้น ส่วนต้นใหญ่ก็ปล่อยไว้ให้หัวหน้าซ่งเถอะ!”
ทันทีที่พูดจบ หลางซื่อก็แค่นเสียงหัวเราะส่งท้ายแล้ววิ่งไปที่เถาวัลย์ต้นเล็กโดยไม่สนใจสถานการณ์ทางนี้อีก ตะบองและเถาวัลย์ใบมีดเข้าปะทะห้ำหั่นกันด้วยเสียงดังสนั่น
“เหอะ เ้าเล่ห์นัก!” ซ่งอี้ด่าไปหนึ่งคำ จากนั้นก็ลุกขึ้นและรีบวิ่งไปที่เถาวัลย์ใบมีดที่สูงเก้าหมี่ที่อยู่ตรงกลาง เขาเหวี่ยงดาบั์ไปอย่างไม่คิดอะไรมาก
มีเพียงเริ่นอวี่สิงเท่านั้นที่ลังเล เขาอยู่ที่ระดับสี่ของขั้นมหาสมุทร จึงไม่เต็มใจที่จะจัดการกับเถาวัลย์ใบมีดต้นนี้
แต่ถึงกระนั้น เขาก็กลัวว่าหลางซื่อจะตามมาเอาเื่ จึงทำได้แค่กัดฟันปล่อยแสงหมัดออกไป และรีบวิ่งไปที่เถาวัลย์ต้นที่เล็กที่สุด
“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”
ในเวลานี้ ดาบั์ของซ่งอี้คำรามด้วยพลังปราณอันยิ่งใหญ่ ต่อต้านการบุกรุกของเถาวัลย์ใบมีดอยู่ตลอดเวลา แสงของดาบกะพริบวิบวับ และสั่นด้วยแรงปะทะอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง
“ฮึ่ม! สัตว์ปีศาจ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะ! ไป!”
ดาบัเหล็กฟันผ่านอากาศด้วยเสียงอันดังกึกก้องทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวในขณะที่ลมพัด ทันใดนั้น มันก็ตัดเถาวัลย์เส้นหนึ่งขาด ทำให้เถาวัลย์ใบมีดกรีดร้องด้วยความเ็ป ดูดุร้ายน่ากลัวจนทำให้ผู้คนหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ทว่าเถาวัลย์ใบมีดต้นนี้ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน[1] ขณะที่เก็บดาบัเหล็กกลับ ใบมีดอีกสิบใบที่เหลือก็พุ่งแทงราวหอกและฟาดฟันด้วยสายไฟ ดักทางซ่งอี้และพยายามตัดหัวของเขา
“หืม?!”
ซ่งอี้ใ และรีบก้มศีรษะหลบลงอย่างรวดเร็ว ยกดาบัเหล็กขึ้นสกัดกั้น แต่ก็ยังช้าไปครึ่งก้าว ทำให้เกิดรอยแผลลึกบนลาดไหล่และมีเืไหลออกมา
“ช่างเป็สัตว์ปีศาจที่ทรงพลังจริงๆ! ความแข็งแกร่งเทียบได้กับนักรบระดับห้าสูงสุดของขั้นมหาสมุทร!”
ซ่งอี้ถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยท่าทีเคร่งเครียด เถาวัลย์ใบมีดนี้แข็งแกร่งมาก จัดการไม่ง่ายนัก!
ในเวลาเดียวกัน หลางซื่อและเริ่นอวี่สิงเองก็ลำบากเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะเลือกเถาวัลย์ที่ค่อนข้างเล็ก แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันก็แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อาวุธสมบัติของหลางซื่อมีหลายตุ่มแหลม การต่อสู้จึงเท่าเทียม
แต่ในทางกลับกัน เริ่นอวี่สิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้มือจับและสกัดกั้นไว้ ร่างกายถูกใบมีดบาดจนเป็แผลไปทั่วร่าง เขาถอยหลังอย่างต่อเนื่อง และกำลังจะถูกไล่ฆ่าออกนอกบริเวณป่าทึบ ไปถึงสนามรบข้างแม่น้ำ
“ตึง!”
ซ่งอี้และหลางซื่อถูกเถาวัลย์ใบมีดตีกระแทกให้กระเด็นห่างออกไปหลายก้าวพร้อมกัน จากนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังก้องในป่าทึบและรู้สึกถึงแรงกดดันที่เร่งรีบ
“ตึง ตึง ตึง——”
“ฟุ่บ-ฟุ่บ-ฟุ่บ-”
ต้นไม้ล้มระเนระนาด แผ่นดินสั่นะเื ภูผาสั่นไหว ฝุ่นควันลอยฟุ้งสู่ท้องฟ้า มองเห็นเงาดำจำนวนนับไม่ถ้วนบินผ่านท้องนภา กระพือปีกและมุ่งหน้าบินต่อไป ปิดกั้นแสงจันทร์แดงอย่างสมบูรณ์
ไม่นาน เงาของสัตว์ปีศาจก็ปรากฏขึ้นในป่าทึบ เสียงคำรามดังก้องอย่างต่อเนื่อง สั่นให้ใบไม้ร่วงหล่นปลิวไหว หลังจากนั้น ฝูงแรดเกราะทอง ฝูงหมาป่าปีศาจไฟทมิฬ ฝูงคชสารัดินก็รีบวิ่งออกมาเขย่าหินให้กลิ้งตกลงมาจนเกิดเสียงดัง
และกลางอากาศ ค้างคาวผีหกปีกและนกดำหางดาบจำนวนนับไม่ถ้วนบินข้ามท้องฟ้าอย่างไร้ทิศทาง ปกคลุมความว่างเปล่ากลางอากาศไปทั่วบริเวณ ดูหนาทึบและน่าตกตะลึง
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสัตว์ป่าและสัตว์ปีศาจอีกมากมายที่วิ่งออกมาจากส่วนลึกของป่าทึบ พวกมันทั้งหมดดูเหมือนจะอยู่ในสภาพบ้าคลั่ง
“โฮก!!!”
“ฟ่อ!!!”
เสียงคำรามของสัตว์ปีศาจดังก้องอย่างต่อเนื่อง เกือบทำให้แก้วหูแตก คล้ายมหาสมุทรกลืนโลก
เมื่อเห็นสัตว์ปีศาจปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งอี้ก็ใกลัวและะโเสียงดังทันที “ทุกคนรีบหนี! มี... มีสัตว์ปีศาจกำลังมา! มีเยอะมาก... เยอะมาก!!! พวกมันเป็กระแสสัตว์ปีศาจ!!!”
ทว่าคำเตือนของเขาไร้ผล เพราะเสียงคำรามของสัตว์ปีศาจดังกลบเสียสิ้น ไร้ซึ่งสุ้มเสียงของมนุษย์ให้ได้ยิน
ในเวลาเดียวกัน ในค่ายเกลื่อนไปด้วยร่างไร้ลมหายใจ พื้นดินถูกย้อมเป็สีแดง กลุ่มหมาป่าและกลุ่มัเหล็กยังคงต่อสู้กันอยู่
ดวงตาของทุกคนแดงก่ำ แม้ว่าสัตว์ปีศาจที่อยู่รอบตัวจะส่งเสียงกรีดร้อง แต่พวกเขาก็ไม่รู้ตัว มีความรู้สึกเพียงแค่อยากจะฆ่าทุกคนที่อยู่ตรงหน้า!
หลังจากสู้รบนองเืไปแล้วรอบหนึ่ง นักรบที่อ่อนแอก็เสียชีวิตกลายเป็ร่างไร้ิญญานอนทับถมกัน บางคนก็จากไปด้วยใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวคล้ายไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์พึงมี ทั้งค่ายเป็ดั่งูเาซากศพและทะเลเื เต็มไปด้วยกลิ่นคาวสนิมน่าคลื่นเหียน
แต่ิญญายุทธ์ยังคงถูกปล่อยออกมาไม่ขาดสายอยู่ข้างแม่น้ำ การฆ่าดูไร้จุดสิ้นสุด ต่างฝ่ายต่างมีกันเยอะเกินไป!
“บุก!!”
“ฆ่า!!”
ฉู่อวิ๋นและกลุ่มัเหล็กร่วมมือกันโจมตี ต่อสู้หลั่งเืเพื่อต้านทานการรุกระลอกสองของกลุ่มหมาป่า ในเวลานี้ สี่ทิศแปดทางต่างก็มีนักรบที่อยู่เหนือระดับแปดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณล้อมรอบ พวกเขาถูกรุม ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“โฮก! โฮก! ข้าจะบดขยี้พวกเ้าทุกคน!”
สือเหล่ยมีรูปร่างใหญ่โต เขารีบวิ่งเข้าไปในกลุ่มต่อสู้และเหวี่ยงหมัดเหล็กกวาดออกไปในแนวนอน ทุกๆ หมัดปล่อยพลังที่น่าทึ่งออกมา พลังปราณที่น่าประหลาดใจนี้ได้สังหารนักรบหลายคนของกลุ่มหมาป่าอย่างต่อเนื่อง
บางคนมีใบหน้าช้ำจมูกบวม บางคนกะโหลกศีรษะแตกร้าว และบางคนก็ถูกตัดแขนขาดทั้งเป็
สือเหล่ยอาศัยความแข็งแกร่งอันดุร้ายของตนพุ่งไปข้างหน้า เหวี่ยงหมัดกระทบเนื้อหนัง ผลลัพธ์หลังจากนั้นรุนแรงมาก ทุกครั้งที่เขาปล่อยหมัดออกไป จะมีกลิ่นคาวเืและเสียงกระดูกแตกตามมาเสมอ
“เวรเอ้ย! ไอ้ตัวใหญ่นั่นอันตรายเกินไป ฆ่าเขาก่อน!” ใครบางคนจากกลุ่มหมาป่าะโ และทันใดนั้น กระบี่ หอก ดาบและง้าวจำนวนนับไม่ถ้วนก็เข้าโจมตีสือเหล่ย
หนึ่งในนั้นก็มีนักรบขั้นมหาสมุทรเข้าโจมตีด้วย!
“แย่แล้ว! เ้าก้อนหินกำลังจะถูกล้อมฆ่า!”
ด้วยเสียงกระอักเืหนึ่งครั้ง กระบี่ชื่อยวนก็เหวี่ยงออกไปฆ่าคนคนหนึ่ง เืกระเซ็นไปทั่วใบหน้า ทันใดนั้น เขาเห็นว่าสือเหล่ยกำลังจะถูกล้อม จึงกังวลขึ้นมาทันที
แต่นักรบขั้นมหาสมุทรไม่ใช่ศัตรูที่เขาสามารถจัดการได้ ดังนั้นเขาจึงได้แค่กัดฟัน!
“อยากทำร้ายน้องชายข้าหรือ? ไม่มีทาง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงะโดังออกมา มองเห็นใบมีดลมเย็นสองเล่มพุ่งผ่านเข้ามา เจาะคอของนักรบระดับแรกของขั้นมหาสมุทรทั้งสองคน หลั่งเืไหลนองไปทั่วพื้นดิน
ในเวลาเดียวกัน ลูกศรอีกหลายดอกก็ยิงออกไปสังหารนักรบที่แอบลอบโจมตีสือเหล่ย และทำให้เขาโล่งใจขึ้นมาทันที
“ฟู่ว โชคดี!” ฉู่อวิ๋นถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่แท้เป็เฟิงเยี่ยนและเมิ่งซานที่มาช่วยเหลือ
“ควั่บ!”
ภายในชั่วครู่หนึ่ง มีเพียงแสงเย็นวูบวาบสะท้อนให้เห็นในความว่างเปล่า และมีแสงสว่างอีกหลายดวงส่องมาจากด้านหลัง ฉู่อวิ๋นขมวดคิ้วและฟันกระบี่กลับไปอย่างรวดเร็วราวกับัโผบินตวัดหาง วาดรัศมีกระบี่สีม่วงออกมาสังหารนักรบที่โจมตีจากด้านหลัง
หลังจากส่งเสียงอีกไม่กี่ครั้ง เืก็กระเซ็นเปรอะเปื้อน ทำให้เสื้อผ้าของฉู่อวิ๋นกลายเป็สีแดง
“ให้ตายเถอะ! ทุกคนอย่าปล่อยให้เ้าเด็กนั่นหนีไปนะ เขาฆ่าพี่น้องของเราไปหลายคน!”
“เขานี่เอง! เขาก่อปัญหาในหมู่บ้านหงอู้ด้วย! ฆ่าเขาซะ!”
“ตัดหัวเขาซะ!”
หลังจากเสียงะโนั่น ฉู่อวิ๋นรวมทั้งนักรบขั้นมหาสมุทรก็ถูกล้อมรอบไปด้วยอาวุธนานับชนิด แทบไม่มีช่องว่างให้แทรกตัวหลบหนี ผู้คนหลายสิบคนล้อมรอบเขาและพยายามโจมตีโดยตัดเขาออกเป็ท่อนๆ!
นี่เป็สถานการณ์ที่อันตรายต่อชีวิต!
“บ้าเอ๊ย! อย่าคิดจะฆ่าข้าเชียว!”
กระบี่ชื่อยวนเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ลายสลักาถูกเปิดใช้งาน ปรากฏเปลวไฟและดวงดาวบริพัตร ฉู่อวิ๋นใช้ม่านกระบี่ดาวตกเพื่อต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังที่สุด นั่นคือกระบี่ของนักรบขั้นมหาสมุทรสองคน ต้องป้องกันเอาไว้ก่อน!
ทว่าการโจมตีของแสงกระบี่นี้รุนแรงเกินไป แม้ว่าดวงดาราแปรผันจะฝืนป้องกันได้ แต่ฉู่อวิ๋นก็ถูกผลักลึกเข้าไปในกลุ่มต่อสู้และตกลงไปในทะเลศพ กลิ่นเหม็นรุนแรงเกือบทำให้เขาทรุดตัวล้มลง
“แค่ก!”
ฉู่อวิ๋นกระอักเืออกมาสองสามคำ การโจมตีของนักรบขั้นมหาสมุทรทั้งสองนั้นรุนแรงมาก หากไม่มีการป้องกัน ร่างกายคงจะแตกสลายไปแล้ว!
“ตายซะ!!”
“ตกนรกไปซะ!!”
ยามนี้ นักรบหกคนในระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณได้เข้ามาโจมตีเขาเช่นกัน พวกเขาปลดปล่อยพลังปราณออกมา นักรบของขั้นมหาสมุทรสองคนตามมาทันจากด้านหลัง พวกเขา้าสังหารฉู่อวิ๋นท่ามกลางซากศพ!
“ไปตายซะ...ไปตายกันให้หมด!!”
ฉู่อวิ๋นพลิกตัวและะโ กระบี่ชื่อยวนพุ่งข้ามท้องฟ้า ดาวเพลิงสามสิบหกมรรคาหมุนวนจนกลายเป็สายรุ้งศักดิ์สิทธิ์และพุ่งออกไป!
“ดาราร่วงไร้รอย!”
“ปัง ปัง ปัง!!!”
สายรุ้งศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงดังสนั่น ต่อมาก็มองเห็นหน้าอกของนักรบสองคนนั้นถูกฉีกออก นักรบอีกสี่คนที่เหลือไม่ทันตั้งตัวจึงถูกกระแทกไปข้างหลังจนกระอักเื
นักรบขั้นมหาสมุทรทั้งสองก็ถูกกระแทกจนถอยหลังไปหลายก้าว เผยให้เห็นสีหน้าใและไม่อยากจะเชื่อ
“ช่างเป็วิชากระบี่ที่ทรงพลังจริงๆ! เขาจะข้ามขั้นข้ามระดับมาเอาชนะพวกเราได้หรือเปล่า? เ้าหนูนี่เก็บไว้ไม่ได้ ต้องรีบฆ่าให้เร็วที่สุด!”
“ได้!!”
นักรบทั้งสองฟันกระบี่ออกไปทันที ความดุร้ายของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น พลังปราณเองก็พลุ่งพล่านโดยตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะฆ่าฉู่อวิ๋น
“ให้ตายเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกัดฟันและกำลังจะสู้กลับอย่างสิ้นหวัง
ในขณะเดียวกัน ลูกธนูเก้าศรก็พุ่งออกมาราวกับสายฟ้า พุ่งผ่านท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อตัวเป็ม่านศรธนู ตกลงมาจากท้องฟ้าและโจมตีทันที โดยมีเป้าหมายคือหัวของนักรบขั้นมหาสมุทรทั้งสองคน!
“หืม! นี่เป็ทักษะวิชาแบบใดอีก?”
ทั้งสองหยุดกะทันหัน ไม่กล้าประมาท ก่อนจะยกกระบี่ขึ้นป้องกันศรเก้าตะวันที่มู่หรงซินยิงออกมาอย่างสุดกำลัง จึงพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการฆ่าฉู่อวิ๋น
“เร็ว...รีบช่วยฉู่อวิ๋น!” มู่หรงซินะโใส่เฟิงเยี่ยน ร่างกายของนางอ่อนแอลงอย่างมาก ศรเก้าตะวันที่นางยิงไปเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าเผาผลาญพลังปราณของนางไปมหาศาล
"รับมีดไปกินซะ!"
ในเวลานี้ เฟิงเยี่ยนที่ว่างจากการต่อสู้ชั่วคราวก็สะบัดแขนเสื้อ ปรากฏมีดบินหลายสิบเล่มพุ่งออกมาแทงทะลุหลังศีรษะของนักรบขั้นมหาสมุทรทั้งสองคน เืสีแดงพุ่งกระฉูด ทำให้พวกเขาเสียใจอย่างถึงที่สุด
ทว่าในขณะที่เฟิงเยี่ยนกำลังวอกแวก คนจากฝ่ายตรงข้ามก็โจมตีเข้ามาอีกครั้ง เขาหน่ายเกินจะป้องกันแล้ว
“ขอบคุณนะ ซินเอ๋อร์” เมื่อมองไปทางมู่หรงซิน ฉู่อวิ๋นก็รู้สึกอบอุ่นในใจ
ผู้หญิงคนนี้สนับสนุนเขามาโดยตลอด ทั้งยังเป็ผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งมากด้วย
แต่เมื่อฉู่อวิ๋นมองเห็นอะไรบางอย่าง เขาก็ใทันที เพราะเขาเห็นนักรบที่ดุร้ายวิ่งไปหามู่หรงซิน แสงเย็นเยียบของดาบในมือของเขาช่างน่ากลัว
“หญิงสารเลว! เ้าคิดว่าพวกเราไม่กล้าฆ่าเ้าที่เป็หญิงหรือ? ข้าจะฉีกทึ้งเสื้อคลุมของเ้าออกและกรีดหน้าของเ้าเสีย!”
ดวงตาของนักรบคนนี้ดุร้ายโเี้ เขายกดาบขึ้นและกำลังจะสังหารมู่หรงซินที่อ่อนแอ!
----------
[1] ใช้ในการเปรียบเทียบกับคนที่เื่มาก มักจะสร้างความยุ่งอยากให้ผู้อื่นเสมอ