พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปนานแล้วเฉียวลู่และเด็กๆ ก็กลับเข้าไปในกระท่อมน้อยของตนอีกครั้ง เตียงเล็กๆ ที่ทำจากไม้ไผ่ปูด้วยฟูกเก่าๆ พอให้สามคนได้อาศัยนอน อากาศตอนกลางวันแม้จะเย็นสบายแต่เพราะหมู่บ้านอยู่ในหุบเขาทำให้ตอนกลางคืนนั้นหนาวมาก
เฉียวลู่ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะรู้สึกหนาว นางดึงเด็กทั้งสองคนเข้ามาในอ้อมแขนเพื่อให้ไออุ่นแก่พวกเขา เฉียวลู่ััได้ถึงร่างเล็กที่เย็นเฉียบในอ้อมแขน นางได้แต่นึกสงสารพวกเขาจับใจถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันนางจะไม่มีวันปล่อยให้เด็กสองคนนี้ต้องลำบากเช่นนี้แน่
เฉียวลู่นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเื่มากมายที่ตนจะต้องทำในวันพรุ่งนี้ แต่แล้วนางก็รู้สึกได้ถึงแสงสว่างบางอย่างที่วาบขึ้นมาในห้อง เฉียวลู่มองไปที่มุมห้องที่มีกล่องไม้เก่าๆ ไม่ใหญ่มากวางอยู่ ถึงแม้กล่องไม้ใบนั้นจะยังปิดเอาไว้แต่แสงสว่างก็ยังสามารถลอดผ่านออกมาด้านนอกได้
เฉียวลู่มองกล่องใบนั้นอย่างระมัดระวัง จะมีอะไรที่น่าระทึกขวัญมากไปกว่าการที่ต้องตื่นมาแล้วมาอยู่ในยุคโบราณอีก เฉียวลู่ตัดสินใจลุกขึ้นไปเปิดกล่องใบนั้นดู เมื่อนางเปิดกล่องไม้เก่าใบนั้นออกด้านในกล่องใบนั้นที่มีแสงสว่างลอดออกมาคือหนังสือเก่าหนึ่งเล่มปกสีฟ้าที่เฉียวลู่รู้สึกคุ้นตาเป็อย่างมาก
เมื่อเปิดหนังสือเล่มนั้นออกดู มีตัวอักษรเฉียวลู่เขียนเอาไว้ นางแน่ใจแล้วว่าตนเองคิดไม่ผิดมันคือหนังสือเล่มนั้นนั่นเองที่นางซื้อมาจากคุณยายที่ตลาดขายของเก่า แสงสว่างยังคงกระจายออกมาจากหนังสือเล่มนั้น เฉียวลู่เปิดกระดาษหน้าถัดไปมีตัวหนังสือเขียนเอาไว้ด้วยลายมือที่สวยงามคล้ายกับว่าเป็บันทึกของใครคนหนึ่งหรือบางที นี่อาจเป็บันทึกของผู้หญิงคนนี้ก็เป็ได้
เฉียวลู่ถือหนังสือเล่มนั้นเดินออกมาจากห้องนอนเพราะกลัวว่าเด็กๆ จะตื่นขึ้นมาเห็นแล้วใ ก่อนออกจากห้องนางได้เดินไปห่มผ้าให้เด็กทั้งสองคนอีกครั้งอย่างเบามือ เมื่อเฉียวลู่นั่งลงที่ห้องครัวก็ได้เริ่มอ่านบันทึกเล่มนั้นทันที
ผ่านไปนานเท่าใดไม่สามารถรู้ได้แต่นางยังคงอึ้งกับเื่ที่ตนได้รับรู้ผ่านทางบันทึกในหนังสือเล่มนั้น เฉียวลู่สามารถสรุปเื่ราวในบันทึกได้ว่า
เฉียวลู่บุตรสาวเพียงคนเดียวของเฉียวซาน บัณฑิตซิ่วไฉแห่งเมืองโยวโจวที่ตั้งอยู่ชายแดนแคว้นเซียว มารดาของเฉียวลู่ตายจากไปเพราะคลอดยากั้แ่ที่เฉียวลู่อายุเพียวสามขวบ จากนั้นสองพ่อลูกก็ใช้ชีวิตกันสองคนตลอดมา เฉียวซิ่วไฉรักบุตรสาวของเขามากถึงแม้จะยากจนแต่เขาก็ไม่เคยให้บุตรสาวต้องทำงานลำบากอะไรเลย
สิ่งที่เฉียวลู่ทำได้มีเพียงร่ำเรียนเขียนอ่านอยู่ที่เรือนเท่านั้น เฉียวซานใช้ชีวิตโดยการสอนหนังสือในสำนักศึกษาเล็กๆ ต่อมาสองพ่อลูกได้ช่วยเหลือชายร่างใหญ่ที่ได้รับาเ็สาหัสผู้หนึ่งเอาไว้ แต่แล้วเมื่อเขาฟื้นขึ้นมากลับไม่สามารถจำเื่ราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ แม้กระทั่งชื่อของตนเองหรือเขาเป็ใครมาจากไหนเขาก็จำไม่ได้เลย
บุรุษผู้นั้นหลังจากที่รักษาอาการาเ็ของตนเองจนหายดีแต่กลับไม่รู้ว่าตนเองจะต้องไปที่ไหน อีกอย่างเพราะเื่ที่เขาาเ็อาจเป็เพราะกำลังถูกคนอื่นปองร้ายอยู่ ถ้าหากออกไปเดินข้างนอกโดยที่ไร้ความทรงจำเช่นนี้อาจถูกทำร้ายอีกครั้งก็ได้
เฉียวซานจึงอนุญาตให้เขาได้อาศัยอยู่ที่นั่นต่อและได้ตั้งชื่อให้บุรุษผู้นั้นว่าเยี่ยน เพียงคำเดียวแต่เฉียวลู่เป็คนเติมคำว่าิที่แปลว่าสดใสด้านหน้าชื่อเยี่ยนของเขาเพราะเขาดูพูดน้อยเ็าและทึมทื่อทำให้นางนึกอยากกลั่นแกล้งขึ้นมา เฉียวลู่นึกไม่ถึงว่าชื่อที่นางตั้งขึ้นมาล้อเลียนเขาจะกลายเป็ชื่อจริงๆ ของตัวเขาเอง
ทั้งสามคนอาศัยอยู่ด้วยกันจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งปีิเยี่ยนก็ยังไม่สามารถฟื้นความทรงจำที่หายไปของตนเองกลับมาได้ และตอนนั้นเฉียวลู่ก็อายุสิบเจ็ดปีแล้วเฉียวซานเห็นว่าิเยี่ยนถึงแม้จะเป็คนพูดน้อยแต่ก็เอาการเอางานไม่เคยเกียจคร้านและยังดูเป็สุภาพบุรุษ
ถึงจะไม่รู้ที่มาที่ไปของเขาแต่เฉียวซานกลับรู้สึกไว้วางใจที่จะฝากบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขาเอาไว้กับบุรุษลึกลับผู้นี้ เขาจึงได้ถามความสมัครใจของทั้งสองคน เฉียวลู่นั้นรู้สึกชอบพอิเยี่ยนั้แ่ที่ได้พบเขาครั้งแรกแล้ว ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะาเ็สาหัสแต่บุรุษร่างใหญ่ผู้นี้กลับมีใบหน้าที่หล่อเหล่าโดดเด่นแบบที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน พูดได้ว่าทั้งโยวโจวไม่มีใครหน้าตาดีเท่าเขาอีกแล้ว
ด้านิเยี่ยนที่ได้สองพ่อลูกช่วยเหลือเอาไว้นั้นตอนนี้เขาก็ยังคงไร้ความทรงจำจึงไม่มีที่ไป ถึงแม้เขาจะไม่ได้รู้สึกรักใคร่ชอบพอต่อบุตรสาวของเฉียวซานแต่เพราะเป็ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตนเองจึงมิได้ปฏิเสธ และคิดว่าแค่ดูแลสตรีเพียงคนเดียวไม่ใช่เื่ใหญ่สำหรับเขานักถือว่าเขาได้ตอบแทนที่สองพ่อลูกช่วยชีวิตเขาเอาไว้
หลังจากที่เฉียวลู่และิเยี่ยนแต่งงานกันไม่นานที่ชายแดนเมืองโยวโจวก็ได้เกิดาขึ้น ชาวเมืองบางส่วนอพยพออกจากโยวโจวเพื่อหนีภัยาครอบครัวเฉียวลู่ก็เช่นกัน ระหว่างทางได้เกิดการจลาจลขึ้นทำให้พวกเขาพลัดหลงกัน
ผ่านไปสองเดือนาระหว่างแคว้นเซียวและแคว้นฉียังคงระอุ าที่โหมกระหน่ำระหว่างสองแคว้นสร้างความทุกข์ทรมานอย่างหนักให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้คนมากมายต้องพลัดถิ่นฐานกลายเป็ผู้ลี้ภัย สภาพความเป็อยู่ย่ำแย่ขาดแคลนทั้งอาหาร ยารักษาโรคและที่พักพิง ผู้คนจำนวนมากต้องอพยพหนีภัยา ไปยังพื้นที่ปลอดภัย
เฉียวลู่และบิดาก็ได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านมู่โฉว อำเภอเป่ยจิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงแคว้นเซียวประมาณหนึ่งร้อยลี้ ที่นี่ดูสงบสุขต่างจากโยวโจวที่มีาบ่อยครั้งเหมือนอยู่คนละแคว้น หลังจากนั้นเฉียวซานและเฉียวลู่ได้ตัดสินใจลงหลักปักฐานสร้างกระท่อมเล็กๆ ที่เชิงเขาห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลและตอนนั้นเองเฉียวลู่ก็ได้พบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
เพราะลำบากจากการเดินทางรอนแรมมานานทำให้เฉียวซานล้มป่วยลงจากนั้นไม่นานเฉียวซานก็ตายจากไปเฉียวลู่จึงต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่กระท่อมน้อยหลังนี้ โชคดีที่ชาวบ้านหมู่บ้านมู่โฉวมีแต่คนดีพวกเขารู้สึกเวทนาในความอาภัพของเฉียวลู่ที่ต้องพลัดพรากจากสามีทั้งบิดายังพึ่งมาตายจากไปจึงช่วยเหลือนางในบางครั้งเท่าที่พวกเขาพอจะช่วยได้
เฉียวลู่ไม่เคยทำงานหนักไม่เคยทำไร่ทำนามีเพียงเขียนหนังสือเท่านั้นที่นางพอจะทำได้นางจึงหาเลี้ยงชีพโดยการคัดหนังสือไปส่งที่ร้านขายตำราในอำเภอเป่ยจิง จนกระทั่งเฉียวลู่ได้คลอดเด็กชายฝาแฝดออกมา และเื่ราวในบันทึกยังเล่าอีกว่าเฉียวลู่ได้พบกับสามีของนางอีกครั้งโดยบังเอิญหลังจากที่าสงบ แต่ิเยี่ยนกลับจำนางไม่ได้แต่หลังจากที่เขาเห็นเด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกับเขาเมื่อตอนเด็ก เขาก็ได้ยอมรับและพาเฉียวลู่แม่ลูกกลับไปแคว้นฉีกับเขาด้วย
เฉียวลู่ได้รู้หลังจากนั้นคือิเยี่ยนคือชินอ๋องฉีิเยี่ยนน้องชายคนเล็กของฮ่องเต้แห่งของแคว้นฉีที่ทำากับแคว้นเซียวก่อนหน้านี้
เฉียวลู่ได้เข้าไปอยู่ที่ตำหนักชินอ๋องอย่างไม่มีสถานะแต่บุตรชายทั้งสองของนางนั้นถูกมามาพาตัวไป โดยพวกเขาให้เหตุผลว่าเด็กชายทั้งสองเป็ทายาทของชินอ๋องจะต้องถูกเลี้ยงดูสั่งสอนโดยอาจารย์ที่เก่งกาจและมามาผู้รู้ขนบธรรมเนียมของราชวงศ์ ั้แ่นั้นมาเฉียวลู่ก็ไม่ได้พบบุตรชายของตนอีกเลย นางไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนหรือเดินไปที่ไหนนอกจากเรือนของนาง ถึงแม้ว่าเขาจะยังจำเื่ราวทั้งหมดไม่ได้ก็ตาม แต่ฉีิเยี่ยนได้ให้สาวใช้คอยดูแลนางหนึ่งคนเขาคิดว่านั่นถือเป็ความเมตตาจากเขาที่สุดแล้วเพราะนางได้คลอดบุตรชายให้เขาถึงสองคน
บันทึกได้ถูกเขียนทุกวันสามีของนางได้แต่งพระชายาเอกเข้ามาและรับบุตรชายทั้งสองของนางเป็บุตรของตน เฉียวลู่เมื่อได้ทราบเื่นางไม่ยินยอมจึงไปอาละวาดที่ตำหนักของฉีิเยี่ยนและจากนั้นนางจึงถูกเขาขังเอาไว้ในห้องจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตนาง
“หากว่าข้าสามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งข้าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับท่านอีกฉีิเยี่ยน ข้าจะไม่ยอมให้ท่านพรากบุตรชายทั้งสองของข้าไป ข้าขอสาบาน”
เฉียวลู่อ่านมาถึงหน้าสุดท้ายที่น่าจะเป็บันทึกครั้งสุดท้ายของผู้หญิงคนนี้ที่มีชื่อเหมือนกับตน นางตรอมใจตายเพราะสิ่งที่สามีของนางกระทำกับนาง ถึงเขาจะจำนางไม่ได้แต่เขาทำอย่างนี้ได้ยังไงถ้าไม่ได้เฉียวลู่และบิดาของนางช่วยชีวิตเขาเอาไว้มีหรือเขาจะยังมีชีวิตรอดกลับมาเป็ชินอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างตอนนี้ น่าสงสารจริงๆ ไม่คิดว่าจะต้องมาอายุสั้นและทิ้งเด็กชายสองคนเอาไว้แบบนี้ เฉียวลู่ยกมือขึ้นพนมและอธิษฐานขึ้นว่า
“ขอให้ดวงิญญาของเ้าไปสู่สุคติบุตรชายทั้งสองคนของเ้าข้าจะดูแลให้เองเ้าไม่ต้องเป็ห่วง ขอให้เ้าได้อยู่กับท่านพ่อของเ้าบน์อย่างมีความสุข ส่วนเื่สามีของเ้าข้าจะไม่ยินยอมให้เขามาพรากเด็กทั้งสองไปอย่างแน่นอนคนอย่างบุรุษเช่นเขาสมควรโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยวไร้ผู้สืบสกุล ถ้าเขาอยากมีลูกก็ให้เขาไปมีกับพระชายาของเขาเอาเองเถอะ เมื่อเ้าได้อยู่กับบิดาของเ้าแล้วดังนั้นข้าก็อยากให้เ้าลืมเขาเช่นกันไม่ต้องไปคิดถึงบุรุษผู้นั้นอีก”
เฉียวลู่พูดอย่างใส่อารมณ์เมื่อนึกถึงเื่ของบุรุษที่ทำให้เ้าของบันทึกต้องช้ำใจ และนางก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วมคล้ายกับว่ามันเป็เื่ราวของนางเองเป็นางเองที่สาบานเอาไว้ก่อนที่จะตาย
หลังจากเฉียวลู่พูดจบกระดาษหน้าถัดไปที่ตอนแรกไม่มีอะไรเขียนอยู่ก็ถูกเปิดออกและบนนั้นได้มีข้อความเขียนเอาไว้ว่า คำแนะนำการสั่งซื้อสินค้า เฉียวลู่ถึงกับในี่คงไม่ใช่ที่นางคิดใช่หรือไม่ไอเท็มช่วยชีวิต
“ขอบคุณ์”
เฉียวลู่พึมพำเบาๆ นางแทบอยากจะกรีดร้องและะโตัวลอยแต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้ดึกมากแล้วถ้าหากนางะโออกมา เด็กสองคนใตื่นจะแย่เอาได้ เฉียวลู่ยกมือปิดปากแล้วกรี๊ดในใจดังๆ
รอดแล้วเราจะไม่อดตายแล้ว!!!!! นางก้มลงอ่านข้อความบนกระดาษอีกครั้งดูเหมือนว่าจะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้สามารถสั่งของจากในนี้ได้ แต่ว่านะนางไม่มีปากกาหรือพู่กันแล้วจะเขียนลงไปได้ยังไง เฉียวลู่กลับไปที่กล่องไม้ใบนั้นอีกครั้งด้านในมีแทนฝนหมึกและพู่กันอยู่ เฉียวลู่รู้สึกตื่นเต้นมากแต่ก็ยั้งใจเอาไว้รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าค่อยทดลองดูว่าจะสั่งของได้จริงหรือไม่
เฉียวลู่วางหนังสือเล่มนั้นกลับลงไปในกล่องไม้อีกครั้งอย่างทะนุถนอม นางกลับขึ้นไปนอนบนเตียงกอดเด็กชายทั้งสองเอาไว้ในอ้อมแขนและหลับไปด้วยใจที่เป็สุข
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้