ความดันโลหิตสูงคือสิ่งใด?ภรรยาตัวน้อยของเขาพูดภาษาที่เขาฟังมิเข้าใจ หรือความดันโลหิตสูงคือศัพท์ทางการแพทย์ในโลกเดิมของนาง?
“ภรรยา ท่านพ่อรอให้พวกเรากลับบ้านอยู่ พวกเรารีบตรวจให้ท่านทวดน้อยก่อนว่ามีปัญหาที่ใดหรือไม่ แล้วค่อยออกเทียบยาให้พวกท่าน” ซ่งจื่อเฉินเลื่อนเวลาตรวจท่านทวดน้อยให้เร็วขึ้น พวกเขาจะได้รีบกลับบ้าน
“พวกเราไปศาลาตรงนั้นเถิด” นายท่านผู้เฒ่าสวี่ชี้บอกว่าอยากไปนั่งตรงศาลา
เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น นายท่านผู้เฒ่าสวี่ก็นั่งลงบนเก้าอี้หิน ส่วนซ่งจื่อเฉินนั่งยองอยู่ข้างหลัง เขาเอื้อมมือไปคลำบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว ดูว่ามีจุดที่นูนออกมาหรือไม่
“ท่านทวดน้อย ปกติท่านมักจะยืดตัวตรงมิได้ วิงเวียนศีรษะ สายตาพร่ามัว ความจำถดถอย และเมื่ออาการหนักขึ้น ท่านก็มีอาการปวดไหล่และต้นคอ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน แข้งขาอ่อนแรงร่วมด้วยใช่หรือไม่ขอรับ” ซ่งจื่อเฉินมิพบส่วนนูนบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว แต่เขามั่นใจว่านายท่านผู้เฒ่าป่วยมาสิบยี่สิบปีแล้ว และอาการค่อนข้างหนักด้วย
“มิปิดบังคุณชายซ่ง ข้ามีอาการตามที่ท่านพูดมาทั้งหมด ท่านหมอในเมืองต่างบอกว่าข้าเป็โรคกระดูกสันหลังเอวเสื่อม แต่ยาที่พวกเขาออกให้นั้นมิได้ผล!” นายท่านผู้เฒ่าสวี่เองก็จนปัญญา เมื่อนึกถึงโรคจากการทำงานหนักของเขา
ลูกชายกตัญญู หาท่านหมอหลายคนมารักษาเขา แต่มิมีผู้ใดสามารถรักษาเขาให้หายขาดได้ ทุกวันนี้อาการของเขาก็รุนแรงขึ้นด้วย
“ท่านยังรักษาให้หายได้ อย่าเพิ่งท้อแท้เลยขอรับ” ซ่งจื่อเฉินลุกขึ้นเอ่ยกับนายท่านผู้เฒ่าสวี่ “ความนุ่มและแน่นของเตียงนอนของท่านต้องพอดี หลีกเลี่ยงการนอนบนเตียงที่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ขอรับ”
“ข้ามิได้สนใจเลย ลูกชายลูกสะใภ้กลัวว่าข้าจะนอนเตียงแข็งๆ มิได้ พวกเขาจึงทำเตียงนุ่มๆ ให้ ที่แท้ข้าต้องให้ความสำคัญกับจุดนี้ด้วยหรือ!”
“ท่านทวดน้อย พวกเรารีบออกมา จึงมิได้พกกล่องยาติดตัวมาด้วย เมื่อพวกเรากลับถึงบ้านแล้วจะปรุงยาออกมาเป็เม็ดให้ท่าน เมื่อถึงเวลานั้นท่านต้องทานยาให้ตรงเวลา เท่านี้ก็เพียงพอแล้วขอรับ” ซ่งจื่อเฉินตัดสินใจจะมินำน้ำศักดิ์สิทธิ์ออกมาใช้โดยที่ยังมิได้นำไปทำเป็ยาอีก เขาคิดจะนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปกลั่นเป็ยาเม็ด เพื่อเพิ่มสรรพคุณของยาและเพื่อตบตาผู้คน
“จื่อเฉินเอ๋ย หากพวกเ้าจะปรุงยา ก็ต้องใช้เงิน เงินนี้มีมิมากนัก พวกเ้านำไปซื้อยาก่อนเถิด” ฟู่ซื่อหยิบเงินออกมายื่นให้จิ่นเซวียน จิ่นเซวียนบ่ายเบี่ยงมิยอมรับ
“ท่านย่าน้อย ท่านปู่ทวดคือญาติผู้ใหญ่ของพวกเรา พวกเราย่อมกตัญญูต่อเขาเ้าค่ะ หากท่านทำเช่นนี้พวกเราจะมิปรุงยาให้ท่านปู่ทวดแล้วเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนปฏิเสธมิรับค่ารักษา ฟู่ซื่อจึงได้แต่เก็บเงินกลับไป
“ฟางฟาง จื่อเฉินกับเซวียนเซวียนเพิ่งแต่งงานกันเมื่อวานนี้ พวกเรามิสามารถไปแสดงความยินดีได้ เ้าไปที่ห้องของข้า นำกำไลทองที่อาผินให้ข้า นำมาให้เซวียนเซวียนแทนน้ำใจของพวกเราเถิด” ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่เป็ชาวนาที่ซื่อสัตย์และจริงใจ นางจึงรู้สึกมิดีเมื่อเห็นพวกจิ่นเซวียนมิยอมรับค่ารักษา ยิ่งจิ่นเซวียนเป็ผู้ที่หลานสาวของนางรัก นางจึงอยากแสดงน้ำใจ
“ท่านย่าทวดน้อย ข้ามิชอบใส่เครื่องประดับ กำไลวงนั้นคือของขวัญที่ท่านปู่น้อยมอบให้ท่าน ท่านเก็บไว้เถิดเ้าค่ะ เวลานี้พวกเราต้องขอตัวกลับก่อนนะเ้าคะ” จิ่นเซวียนจะกลับบ้านแล้ว วันพรุ่งนี้พวกนางต้องกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ของนาง วันนี้จึงมีเื่ต้องทำอีกมากมาย
เมื่อพวกจิ่นเซวียนจะกลับ ฟู่ซื่อก็มิได้รั้งพวกนางไว้ และยังบอกให้ชานเอ๋อร์ไปเตรียมรถม้า เพื่อไปส่งจิ่นเซวียนกับซ่งจื่อเฉิน แต่จิ่นเซวียนปฏิเสธ เพราะพวกนางจะเข้าเมืองไปดูร้านค้า
......
“พวกจิ่นเซวียนเล่า กลับไปแล้วหรือ?พวกเขาตรวจให้ท่านพ่อแล้วหรือยัง?” จิ่นเซวียนออกไปได้มินาน นายอำเภอสวี่ก็กลับมา เขาถามภรรยาว่าสถานการณ์ตอนตรวจเป็อย่างไร?
“ตรวจแล้วเ้าค่ะ ผู้ที่ตรวจให้ท่านพ่อคือสามีของเซวียนเซวียน เขาบอกอาการของท่านพ่อละเอียดกว่าท่านหมอคนอื่นมากเ้าค่ะ”
“อาผินเอ๋ย เด็กคู่นั้นซื่อสัตย์จริงๆ พวกเขาตรวจให้พวกเรา แต่มิ้าสิ่งใดตอบแทนเลย”
“คุณหนูเซวียนเซวียนใจดียิ่งนักเ้าค่ะ นางเห็นใบหน้าของบ่าวมีสิวขึ้น นางจึงนำน้ำซวงฟูของนาง มาให้บ่าวใช้ด้วยเ้าค่ะ” ชานเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ มิลืมชื่นชมจิ่นเซวียน ทุกคนรู้กันดีว่าใบหน้าของนางมีสิวขึ้นมานานแล้ว คำพูดของนางจึงน่าเชื่อถือที่สุด
“ทักษะการแพทย์ของเซวียนเซวียนเหนือธรรมชาติเกินไปแล้ว ซ่งจื่อเฉินผู้นั้นขาทั้งสองข้างพิการมาเจ็ดแปดปี นางยังรักษาให้หายได้ อาการเ็ปของคุณชายอิ่นเมื่อวานนี้ก็เป็นางที่รักษาให้” นายอำเภอสวี่เชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของจิ่นเซวียนยิ่งนัก
“สามี ในที่สุดข้าก็ได้รู้ว่าเพราะเหตุใดพี่ติ้งหรงถึงชอบเซวียนเซวียนมากเช่นนั้น เซวียนเซวียนมิเพียงฉลาดหลักแหลม ยังมีคุณธรรม ชานเอ๋อร์เป็สาวใช้ นางยังยินดีรักษาให้ ช่างใจกว้างเหลือเกินเ้าค่ะ!” ฟู่ซื่อได้ยินสามีพูดเช่นนี้ก็ยิ่งนับถือจิ่นเซวียนมากขึ้น นางเชื่อว่าเมื่อถึงเวลา ชื่อเสียงหมอเทวดาของจิ่นเซวียนจะขจรขจายไปทั่วแผ่นดินแน่นอน
“จริงสิ ชานเอ๋อร์ เ้าบอกว่าน้ำซวงฟูใช้สำหรับเช็ดหน้าใช่หรือไม่?ข้าเห็นผิวของเซวียนเซวียนดียิ่งนัก ข้าจึงอยากให้ผิวของข้าดีขึ้นด้วย” สวี่ฉานมิสนใจวิชาแพทย์ของจิ่นเซวียน นางอยากรู้แค่เื่ของน้ำซวงฟู
“คุณหนูเซวียนเซวียนบอกว่าเป็น้ำบำรุงความงามชนิดหนึ่งเ้าค่ะ สามารถทำให้ผิวของสตรีดีขึ้น พวกเขาสามีภรรยากำลังวางแผนจะเปิดร้านชาดในเมืองเ้าค่ะ” ชานเอ๋อร์บอกความมหัศจรรย์ของน้ำซวงฟู แม้กระทั่งฟู่ซื่อยังสนใจ ส่วนสวี่ฉานมิต้องพูดถึง เกิดเป็สตรี ล้วนรักสวยรักงามกันทั้งนั้น
“ชานเอ๋อร์ พวกเขาบอกว่าจะเปิดร้านเมื่อใดหรือ?” ฟู่ซื่อถามซักไซ้
“คุณหนูซวียนเซวียนยังมิได้บอกเ้าค่ะ นางบอกกับบ่าวเพียงว่าหากช่วยนางกระจายเื่เปิดร้าน นางจะให้น้ำซวงฟูกับบ่าวขวดหนึ่งเ้าค่ะ และน้ำซวงฟูธรรมดาหนึ่งขวดราคามากกว่าหนึ่งร้อยตำลึงเ้าค่ะ”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงค้างไป เมื่อสิ้นเสียงของชานเอ๋อร์ ซื้อน้ำเช็ดหน้าราคาหนึ่งร้อยตำลึงต่อหนึ่งขวด ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว
“หนึ่งขวดราคาหนึ่งร้อยตำลึงแพงเกินไปแล้ว มีคนซื้อได้มิกี่คนหรอก” ฟู่ซื่ออุทาน
“มิรู้ว่าพวกเ้าสังเกตเห็นแหวนหยกสีชมพูบนมือของจิ่นเซวียนหรือไม่ วัสดุที่ใช้ทำแหวนนั่นคือหยกฝูหรง หยกชั้นดีที่สุด มูลค่ามหาศาล ถึงเป็นางสนมในวังหลัง ก็ยังมิมีเครื่องประดับเช่นนี้เลย” จิ่นเซวียนตั้งราคาน้ำซวงฟูมากกว่าหนึ่งร้อยตำลึง นายอำเภอสวี่มิรู้สึกแปลกใจ เขาสังเกตเห็นแหวนวงนั้นั้แ่ตอนคุยเรื่อยเปื่อยกับจิ่นเซวียนแล้ว หยกฝูหรงคือหยกหายากที่ถูกบันทึกใน 《ตำราวัตถุโบราณ》 มีเงินมากเพียงใดก็หาซื้อมิได้
“สามี ข้ารู้สึกว่าหลานสาวของพี่ติ้งหรงผู้นี้ลึกลับยิ่งนัก อยู่ดีๆ นางก็รักษาคนที่พิการมาเจ็ดแปดปีให้หายดีได้เช่นนั้น ท่านมิรู้สึกแปลกใจหรือเ้าคะ?” ฟู่ซื่อตั้งข้อสงสัย
“มีสิ่งใดแปลกกัน นางมีท่านอาจารย์ลึกลับ ทุกสิ่งย่อมเป็ไปได้ทั้งนั้น” นายอำเภอสวี่กลับมิสงสัย เขาคิดว่าชะตากรรมของจิ่นเซวียน เกี่ยวข้องกับความสามารถและสติปัญญาของนาง หากนางอ่อนหัด และมิมีดี อาจารย์ของนางจะรับนางเป็ศิษย์หรือ
จิ่นเซวียนกับซ่งจื่อเฉินออกจากบ้านนายอำเภอสวี่และตรงไปซื้อของที่ตลาด พวกเขาเดินผ่านไปที่ใดก็ต้องมีผู้คนหันมองตลอดทาง
“สามี เดี๋ยวข้าจะเข้าไปขายโสมคนที่โรงหมอ ท่านรอข้าด้านนอกเถิด ข้ากลัวว่าคนในโรงหมอจะจำท่านได้ แล้วความลับของพวกเราจะถูกเปิดเผย”
ตอนที่ขาของซ่งจื่อเฉินยังาเ็อยู่ เขาไปหาหมอมาหลายที่ หมอที่มีชื่อเสียงทั้งในอำเภอเมืองนี้และอำเภอเมืองข้างๆ ล้วนเคยตรวจให้เขาแล้วทั้งสิ้น
“โสมคนนั่นมีอายุหลายปี ดูดซับแก่นพลังจากทุกสรรพสิ่งในมิติ เ้าไปโรงหมอธรรมดาเช่นนั้น มิมีผู้ใดซื้อได้หรอก มิสู้ไปขายที่โรงหมออี้คังเล่า โรงหมออี้คังเป็กิจการของทายาทผู้สืบทอดตระกูลอู่ พวกเขาย่อมมิหลอกลูกค้า” ซ่งจื่อเฉินแนะนำให้นางไปขายโสมคนที่โรงหมอใหญ่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้