“ฮ่าๆ พูดออกมาได้เลย ครั้งก่อนเ้าช่วยข้าจัดการเื่ใหญ่โตไปได้ เพียงคฤหาสน์หลังเดียวไม่สามารถแทนความขอบคุณที่ข้ามีต่อเ้าได้หรอก ถ้า้าความช่วยเหลืออะไรก็เชิญเ้าพูดมาได้เลย” เ้าเมืองเทียนเฉินหัวเราะแล้วพูดออกมา น้ำเสียงของเขาดูเกรงใจยิ่งกว่าเย่เทียนเซี่ยเสียอีก นี่ไม่ใช่เื่แปลก ผู้กล้าที่สามารถเหรียญผู้กล้าได้ต้องเป็คนที่สั่นะเืทวีปที่สาบสูญได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย และความแข็งแกร่งของเย่เทียนเซี่ยในเลเวลสิบกว่าๆก็ยังสามารถ “สังหาร” ฟีนิกซ์สีเืได้แล้ว ดังนั้นเ้าเมืองเทียนเฉินจึงพยายามที่จะทำดีต่อเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
เย่เทียนเซี่ยแสดงความ้าอย่างตรงไปรงมาว่าตัวเองอยากได้ทำเลทองกลางเมืองเทียนเฉินเพื่อเปิดสมาคมการค้า เขาถึงอยากร้องขอที่ดินที่อยู่ในตำแหน่งดีๆสักผืนหนึ่ง
เ้าเมืองเทียนเฉินหัวเราะออกมาเล็กน้อย “อย่างนี้นี่เอง เื่เล็กน้อยน่า เ้าอยากได้ที่ตรงไหนก็บอกข้ามาได้เลย ตราบใดที่มันยังไม่ถูกใช้ ไม่ว่าจะเป็ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”
“ขอบคุณท่านมากนะครับ ท่านเ้าเมือง”
มันช่างราบรื่นจนไม่รู้จะราบรื่นยังไงแล้ว นี่นับเป็รางวัลพิเศษที่เขา “สังหาร” ฟีนิกซ์สีเืได้สินะ?
“เพียงแต่ ที่ดินใจกลางเมืองไม่เพียงหายาก แต่ยังมีราคาสูงอีกด้วย” เ้าเมืองเทียนเฉินเตือนเย่เทียนเซี่ยออกมาอีกประโยค ั์ตาของเขาทอประกายครุ่นคิด
“เงิน.............. ไม่ใช่ปัญหา” เย่เทียนเซี่ยพูดออกมา
ดังนั้นเ้าเมืองเทียนเฉินจึงพูดต่อ “จริงๆแล้ว ทางเหนือของลานกว้างใจกลางเมืองเทียนเฉินมีที่อยู่ผืนหนึ่ง ถึงแม้จะเป็ที่ใหม่แต่ก็ถูกสมาคมการค้าเหลียนสั่วทอดทิ้งไปสามปีแล้ว เดิมทีมันถูกพ่อค้าที่มาจากต่างแดนซื้อไปและใช้เวลาสามเดือนก็สร้างสิ่งก่อนสร้างจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าการระส่ำระสายของหอคอยแห่งโชคชะตาจะนำมาซึ่งภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อเขา สามปีก่อนเขาได้ตายจากไปด้วยมอนสเตอร์ที่ได้รับผลกระทบจากไอปีศาจที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตา ั้แ่นั้นมาที่แห่งนั้นก็กลายเป็สมาคมการค้าที่ไร้เ้าของ แม้ว่าพวกเราจะเวนคืนที่ดินผืนนั้นแล้ว แต่กลับไม่มีสมาคมการค้าใดอยากจะรื้อถอนมันเลย........”
“ความหมายของท่านคือ?” ในของเย่เทียนเซี่ยกระตุก เขาเอ่ยปากถามออกไป หรือว่าเ้าเมืองเทียนเฉินอยากจะขายที่แห่งนั้นให้เขา?
นี่มันเป็เื่ดีสุดๆไปเลย!! ถ้ามันเป็สมาคมการค้าพร้อมใช้งานมันก็สามารถลดขั้นตอนในการสร้างสิ่งก่อสร้างไปได้ไม่น้อยเลย แม้ว่าจะเป็ในโลกแห่งเกม เวลาในการสร้างสิ่งก่อสร้างก็ถูกจัดรูปแบบไว้แล้ว สิ่งก่อสร้างธรรมดาสามารถสร้างได้ภายในระยะเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ แต่ถ้าอยากเปิดสมาคมการค้านำหน้าคนอื่นไปได้สักหนึ่งอาทิตย์ นั่นย่อมหมายถึงโอกาสและผลประโยชน์มหาศาลแน่นอน
แต่ประโยคต่อมาของเ้าเมืองเทียนเฉินกลับทำให้จังหวะหัวใจของเย่เทียนเซี่ยเต้นถี่แรงเข้าไปอีก
“ผู้กล้าที่ได้เหรียญผู้กล้า ข้าอยากจะพูดบางอย่างกับเ้าอีกสักหน่อย เพราะข้ามีเื่ให้เ้าช่วย ถ้าเ้าสามารถช่วยข้าได้ ที่ดินของสมาคมการค้าเหลียนสั่วผืนนั้นข้าจะขายให้เ้าครึ่งราคา........ เ้าจะยินยอมรับฟังคำขอของข้าหรือไม่?” เมื่อเ้าเมืองเทียนเฉินพูดจบก็เฝ้าจ้องมองเย่เทียนเซี่ยอย่างรอคอย
เย่เทียนเซี่ยยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้า “มีอะไร้าให้ผมช่วย เชิญท่านพูดมาได้เลยครับ”
“ขอบใจเ้ามาก เ้าหนุ่ม ในเมื่อเ้ารับปากข้าก็วางใจมากแล้วล่ะ” เ้าเมืองเทียนเฉินนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมาช้าๆ “เื่นี้เกี่ยวข้องกับพ่อค้าที่ตายไปด้วยน้ำมือของมอนสเตอร์ที่ข้าพูดถึงก่อนหน้านี้นั่นแหละ ระยะห่างของหอคอยแห่งโชคชะตาที่อยู่ใจกลางทวีปที่สาบสูญกับเมืองเทียนเฉินของพวกเรานี้นับว่าห่างไกลมาก ไอปีศาจที่แพร่กระจายออกมาไม่สามารถส่งผลต่อสถานที่แห่งนี้ได้ชัดเจนนักหรอก....... แต่ั้แ่สามปีก่อนที่พ่อค้าคนนั้นถูกมอนสเตอร์ที่ได้รับผลกระทบของไอปีศาจทำร้าย ในใจของข้าก็เกิดสงสัยขึ้นมา พูดให้ถูกก็คือแม้ว่าผลกระทบของไอปีศาจจะไม่ชัดเจน แต่การคงอยู่ของมันนั้นชัดเจนมาก.......อีกทั้งยิ่งระยะเวลานานไป ผลที่ตามมาก็ยิ่งสะสมไปเรื่อยๆจนน่ากลัว และในที่สุด...........”
เขาถอนหายใจไปเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “เมืองเทียนเฉินดูจากภายนอกแล้วก็ดูมั่นคงดี แต่จริงๆแล้วมันกลับซ่อนเร้นอันตรายที่มองไม่เห็นเอาไว้มากมาย เมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อนคนของเราพบสถานที่น่ากลัวอยู่ทางตะวันออก ที่แห่งนั้นเป็ป่าคลอบคลุมไปกว่าสิบลี้ มีสัตว์ป่าและนกอยู่มากมาย รวมทั้งสถานที่อันตรายจำพวกกับดักธรรมชาติกระจายไปทั่วอีกด้วย ไม่รู้ว่ามันเป็เพราะสาเหตุอะไร เขตแดนตรงนั้นเป็เขตแดนที่มีพลังหยินหนาแน่นมาก ทุกครั้งที่เดินเข้าไปด้านในมักจะััได้ถึงความรู้สึกกดดันจากไอความตาย และพลังหยินอันหนาแน่นก็แฝงอยู่ในต้นไม้และเปลี่ยนที่แห่งนั้นให้เป็สถานที่ที่เต็มไปด้วยหลังหยินและทำให้สถานที่แห่งนั้นดึงดูดไอปีศาจเข้ามาได้อย่างง่ายดาย........ ในตอนนั้นพวกเราค้นพบว่ามอนสเตอร์ของที่แห่งนั้นได้ติดเชื้อจากไอปีศาจไปกว่าครั้งแล้ว แม้กระทั่งาามอนสเตอร์ที่อยู่ในป่าก็ได้รับผลกระทบจากไอปีศาจจนกลายเป็ปีศาจไปแล้วเช่นกัน บางทีอีกไม่นานเหล่ามอนสเตอร์ที่สูญเสียการควบคุมภายใต้ไอปีศาจก็คงออกมาจากป่าแห่งนั้น หากมันเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนมนุษย์ก็ไม่รู้ว่าจะนำภัยพิบัติอะไรมาสู่เมืองเทียนเฉินของเราในอนาคต”
“ท่าน้าให้ผมทำอะไรครับ?” เย่เทียนเซี่ยถามออกไป
“ง่ายมาก” เ้าเมืองเทียนเฉินมีสีหน้าจริงจังและคาดหวัง “ข้าหวังว่าเ้าจะสามารถเอาชนะสิงโตดาบทองที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนั้นได้ เ้าสิงโตตัวนั้นน่ากลัวมาก ถ้าเ้าสามารถเอาชนะมันได้ มอนสเตอร์ตัวอื่นๆก็จะไปจากป่าแห่งนั้น แล้วพวกเราก็จะสามารถหยุดยั้งพวกมันไว้ได้โดยสมบูรณ์”
“ติ๊ง! เ้าเมืองเทียนเฉินมอบหมายให้ท่านสังหารสิงโตดาบทอง มอนสเตอร์ระดับขุนนางเลเวล 25 แห่งป่าเงาปีศาจทางทิศตะวันออกของเมืองเทียนเฉิน ลักษณะของภารกิจ : ภารกิจลับเพียงหนึ่งเดียว, ระยะเวลาจำกัดของภารกิจ : เจ็ดวัน, รางวัลภารกิจ : ชื่อเสียง+30, ได้รับส่วนลดครึ่งราคาในการซื้อสมาคมการค้าเหลียนสั่วใจกลางเมืองเทียนเฉิน”
บอสขุนนางเลเวล 25? ด้วยคุณสมบัติที่เย่เทียนเซี่ยมีในเวลานี้เขามั่นใจว่าต่อให้เป็บอสขุนนางเลเวล 30 เขาก็สามารถต่อสู้กับมันได้ แล้วทำไมเขาถึงจะไม่ยอมรับภารกิจที่ดูยังไงก็ไร้ความตื่นเต้นนี้ล่ะ เย่เทียนเซี่ยพยักหน้าอย่างโล่งอกแล้วพูดไป “ได้ครับ ท่านวางใจได้เลย ผมจะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้นแน่นอน”
“เ้าพูดเช่นนี้ข้าก็ดีใจเป็อย่างยิ่ง” เ้าเมืองเทียนเฉินหัวเราะออกมา เมื่อเย่เทียนเซี่ยเตรียมตัวจะจากไปเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงรั้งเย่เทียนเซี่ยเอาไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา “มีอีกเื่หนึ่งที่ข้าจะต้องเตือนเ้าเอาไว้ก่อน........ ตามคำพูดสุดท้ายของพ่อค้าคนนั้นเมื่อสามปีก่อน เขาถูกสิงโตที่กลายเป็ปีศาจไปแล้วครึ่งหนึ่งฆ่าตาย.......... แต่สิงโตตัวนั้นกลับไม่ใช่เ้าสิงโตดาบทอง แต่เป็มอนสเตอร์อีกตัวที่ไม่น่าจะปรากฏตัวออกมาได้....... มันคือมอนสเตอร์ชั้นเซียน!”
“มอนสเตอร์ชั้นเซียน? ในป่าแห่งนั้นมีมอนสเตอร์ชั้นเซียนด้วยเหรอครับ?”
“แต่เดิมไม่มีใครเคยเห็นการปรากฏตัวของมอนสเตอร์ชั้นเซียนมาก่อน หลายปีมานี้พวกเราเคยค้นหามันมาแล้วแต่ก็ไม่เคยพบมันเลย บางทีพ่อค้าคนนั้นอาจจะมองผิดไปก็ได้ แต่ถ้ามันมีตัวตนอยู่จริงล่ะก็.......... มอนสเตอร์ชั้นเซียนที่ถูกทำให้กลายเป็ปีศาจไปเมื่อสามปีก่อนจะต้องน่ากลัวมากแน่ๆ หวังว่าเ้าคงจะไม่พบมัน....... ด้วยความสามารถของเ้าในตอนนี้หากเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นเซียนคงมีความเป็ไปได้ยากที่จะหนีพ้น” เ้าเมืองเทียนเฉินพูดอย่างจริงจัง
“เอาล่ะครับ ผมเข้าใจแล้ว”
เมื่อออกมาจากจวนเ้าเมืองเย่เทียนเซี่ยก็หยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาแล้วติดต่อไปยังซูตี้เหยียนอวี้ “เฟยเฟย เธอเปลี่ยนอาชีพหรือยัง?”
เพิ่งจะพูดจบเย่เทียนเซี่ยก็ตกตะลึงไปทันที
เพราะตัวเขาติดต่อไปหาซูเฟยเฟย......... ไม่ได้ติดต่อไปหาจั้วพั่วจวินหรือชิวสุ่ยอีเหรินที่อยู่กับเธอ
เขาไม่ได้คิดเื่นี้ให้มาก่อน แล้วการกระทำโดยไม่รู้ตัวเช่นนี้หมายถึงอะไรล่ะ? เพราะตัวเขาเองเริ่มนับว่าเธอเป็คนสนิทโดยไม่รู้ตัวแล้วใช่ไหมนะ?
ทุกวันที่เธอตื่นนอนอย่างแรกที่เธอจะทำก็คือทำอาหารเช้า จากนั้นก็จะใช้วิธีของตัวเองปลุกเขาขึ้นมา....... ต่อหน้าเขาเธอไม่เคยใช้อารมณ์เลยแม้แต่น้อย ไม่เคยรบกวนหรือวุ่นวายกับเขาด้วยเื่ใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าเขาจะเล่นเกมทั้งวันั้แ่เช้าจนเย็น นอกจากจะถึงเวลาอาหารแล้ว เธอก็จะไม่บังคับลากเขาไปไหนเด็ดขาด อาหารเลิศรสแต่ละอย่างไม่ซ้ำกันตรงเวลาทุกวัน ทำความสะอาดบ้านจนสะอาดเอี่ยม และเรียบร้อย ตอนเย็นก็ยังเตือนให้เขาอาบน้ำให้ตรงเวลาอีก..........
เขาเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกนี้ั้แ่เมื่อไรก็ไม่รู้............. และมันก็ค่อยๆประทับเธอลงไปในช่องว่างในใจของเขาช้าๆ การได้ใช้ชีวิตร่วมกันเช่นนี้ ต่อให้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาจดจำไปชั่วชีวิต
“อื้ม ฉันเปลี่ยนอาชีพแล้ว เทียนเซี่ย นายอยู่ที่ไหนน่ะ?”
ที่ปากทางหอเปลี่ยนอาชีพเย่เทียนเซี่ยเดินมาหาซูเฟยเฟยและอีกสองคน ซูเฟยเฟยแย้มยิ้มให้เย่เทียนเซี่ยแล้วโบกไม้เท้าในมือไปมา ก่อนจะพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ทายสิว่าฉันเปลี่ยนเป็อาชีพอะไร”
“นักบวช” เย่เทียนเซี่ยตอบออกไปอย่างแทบจะไม่ลังเล
“อ๊า? ทำไมทายถูกล่ะ ไม่สนุกเลย........ พวกนายบอกเทียนเซี่ยหรือเปล่าเนี่ย” สายตาของซูเฟยเฟยเบนไปทองจั้วพั่วจวินกับมู่หรงชิวสุ่ย
“เปล่านะๆ ไม่ได้บอกอะไรเลย” จั้วพั่วจวินโบกมือไปมาอย่างรวดเร็ว
“โอ้........ ฉันขอสาบานต่อดวงจันทร์บนฟ้า ภายในเวลา 375 วินาทีก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้พูดกับพี่รองเลยแม้แต่ประโยคเดียว ดวงดาวและพระอาทิตย์เป็พยานให้ฉันได้”
“งั้น.......ก่อนหน้านี้ฉันเป็นักเวทย์ไฟฝึกหัดอยู่ชัดๆ ทำไมนายถึงเดาว่าฉันเปลี่ยนอาชีพเป็นักบวชล่ะ?”
“สื่อถึงใจมั้ง” เย่เทียนเซี่ยเลิกคิ้วมองไปที่ดวงตาของซูเฟยเฟยแล้วพูดออกมายิ้มๆ
ซูเฟยเฟยอึ้งไป จั้วพั่วจวินและมู่หรงชอวสุ่ยก็อึ้งไปเหมือนกัน
ริมฝีปากของซูเฟยเฟยกระตุกเบาๆ อารมณ์ของเธอปั่นป่วนไปเล็กน้อย คำที่เขาพูดออกมาแล้วยังสายตาที่เขามองมาทำให้หัวใจของเธอเต้นถี่รัว ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เธออดจะลุ่มหลงมัวเมาไม่ได้ เธอเผยรอยยิ้มที่งดงามออกมาทันที มันเป้นรอยยิ้มที่ราวกับดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์กำลังเบ่งบาน งดงามเป็หนึ่งไม่มีสอง “เหอะ! ถือว่านายเจ๋งก็แล้วกัน แล้วตอนนี้พวกเราจะไปสนุกกันที่ไหนดีล่ะ....... ว๊า! ตอนนี้ฉันเพิ่งจะเลเวล 10 เอง ห่างจากพวกนายตั้งเยอะ เทียนเซี่ยพาฉันไปเก็บเลเวลหน่อยได้ไหม?”
“มีภารกิจนึงที่ดูเหมือนจะอันตราย จะไปด้วยกันไหมล่ะ? ถ้าภารกิจเสร็จแล้วปัญหาเื่ที่ตั้งสมาคมการค้าก็จะถูกแก้ไขไปได้อย่างสวยงามเลยล่ะ อืม แบบนี้ดีกว่าที่พวกนายจินตนาการไหม?” เย่เทียนเซี่ยยิ้มแล้วพูดออกมา
“ห๊า? จริงเหรอ.......... ภารกิจอะไรน่ะ พวกเราจะไปกับนายด้วย ถึงฉันจะมีเลเวลแค่ 10 แต่...... แต่ฉันก็เป็นักบวช ฉันปกป้องนายได้นะ” ซูเฟยเฟยขยับไปใกล้เย่เทียนเซี่ยอย่างตื่นเต้น เมื่อพูดจนถึงประโยคสุดท้ายน้ำเสียงของเธอก็เบาลงหลายส่วนอย่างชัดเจน
จั้วพั่วจวินลูบหน้าอกเบาๆแล้วพูดออกมา “ถ้าพี่รองตกลง พี่ไปไหนผมก็จะไปด้วย เฮ้อ ได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่รองก็เป็เื่สบายๆมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว”
ดวงตาของมู่หรงชิวสุ่ยเปล่งประกาย ดวงตาพราวเสน่ห์ขยับไหว “อั๊ยหยา ในที่สุดก็จะได้เห็นออร่าของพี่รองแล้ว ตอนนี้หัวใจของผมเต้นเร็วกว่าเดิมตั้ง 3.7 เท่า ผมรอไม่ไหวอีกแม้แต่วิเดียวจริงๆนะ”
“ไปเตรียมน้ำยากับไอเทมให้พร้อม........แล้วรีบออกเดินทางทันที”
————
————
