ท่ามกลางพลังจิติญญาเหล่านี้กลับคละคลุ้งไปด้วยจิตสังหาร เสิ่นเสวียนััได้ว่าพลังจิติญญาเข้าประชิดร่าง แต่เขากลับส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วย่างเท้าเข้าไป
แม้พลังยุทธ์ของเสิ่นล่างจะสูง แต่ยังไม่เพียงพอที่จะขุดค้นความลับของเสิ่นเสวียนได้
หลังจากล้วงความลับไม่เป็ผล เสิ่นล่างก็เดินออกจากกระท่อมมายังลานด้านนอก เขานั่งลงบนม้าหินพลางกล่าวกับเสิ่นเสวียน
“นั่งสิ”
เสิ่นเสวียนนั่งลงข้างๆ อย่างไม่เกรงใจ
เมื่อความทรงจำคละเคล้าเข้าด้วยกันแล้ว ทำให้เขารู้จักผู้าุโใหญ่เสิ่นล่างคนนี้ในระดับหนึ่ง
ขั้นบรรพบุรุษระดับสูง เทียบได้กับผู้ฝึกฝนการบำเพ็ญเพียรขั้นแก่นทองคำระดับปลาย ห่างจากขั้นหยวนก่อกำเนิดเพียงก้าวเดียวเท่านั้น หากฝึกฝนถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดได้จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้นถึงห้าร้อยปี แสดงให้เห็นว่าพลังยุทธ์ของเสิ่นล่างไม่ธรรมดาเลย แน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิต ก็มิอาจฝึกฝนถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดได้
เสิ่นล่างมีนิสัยเหมือนกับชื่อของเขา ่วัยหนุ่มเขามั่นใจในตนเองมาก เหตุจากความเย่อหยิ่งของเขาจึงโดนศัตรูไล่ล่า ต้องระหกระเหินอยู่ภายนอกถึงสามสิบปี เพิ่งจะกลับมายังตระกูลตอนอายุมากแล้ว โดยได้รับตำแหน่งเป็ผู้พิทักษ์ตระกูลเสิ่น
ตำแหน่งของเขาสูงยิ่งกว่าผู้นำตระกูลเสิ่นเสียอีก
“ว่ามา!”
“อะไรหรือ”
เสิ่นเสวียนหันมองเสิ่นล่างพลางถาม
“พลังแข็งแกร่งขึ้นมากโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่คิดว่าต้องอธิบายหน่อยหรือ” เสิ่นล่างกล่าวกับเสิ่นเสวียนด้วยท่าทีสนใจ
“พลังแข็งแกร่งขึ้นมาก? ฮ่าๆ หากข้าบอกว่าข้ามีพลังเช่นนี้อยู่แล้ว ท่านจะเชื่อหรือไม่”
เสิ่นเสวียนกล่าวเสียงเรียบ
“หืม?”
เสิ่นล่างมองเสิ่นเสวียน ดวงตาฉายแววสงสัยเล็กน้อย แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อ
“ตอนเด็กพร์ของข้าเป็อย่างไร เชื่อว่าผู้าุโใหญ่น่าจะเคยได้ยินมาบ้าง เพียงแต่มีคนคิดริษยาวางยาพิษข้า เมื่อท่านปู่สังเกตเห็นก็คิดวางกลอุบายเพื่อปกปิดพร์ของข้าไว้ สามปีที่ผ่านมาข้าแอบฝึกฝนด้วยตนเองอยู่ในลานหลังเขา วันนี้เพิ่งได้เปิดเผยให้รู้ มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ”
ขณะที่กล่าว เสิ่นเสวียนจ้องมองเสิ่นล่างอยู่ตลอด ดูไม่ออกแม้แต่น้อยว่าเขากำลังโกหก
เสิ่นเสวียนไม่มีทางกล่าวถึงเื่ที่ตนเองข้ามมิติมาอย่างเด็ดขาด ทำได้เพียงหาเหตุผลที่เหมาะสมให้ตนเองเท่านั้น
“เ้าว่า แต่เดิมพร์ของเ้าเป็เช่นนี้หรือ”
เสิ่นล่างครุ่นคิดพลางกล่าวออกมา พร้อมกับสังเกตอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของเสิ่นเสวียนไปด้วย ในหอประชุมก่อนหน้านี้ แวบหนึ่งเขาสงสัยว่าเสิ่นเสวียนคนนี้เป็ตัวปลอม เหตุจากพลังที่แตกต่างกันมากเกินไป
“เดิมที หากเสิ่นเหวินเทาอยากเป็ผู้นำตระกูลมากจริงๆ ให้เขารับตำแหน่งไปเลยก็ได้ แต่วันนี้เขากลับวางยาสลายจิตกับข้า คิดจะให้ข้าตาย ข้าจึงต้องปรากฏตัวออกมา”
เสิ่นเสวียนกล่าวขึ้นโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลย
“ยาสลายจิต! เขาคิดจะวางยาพิษสังหารเ้า?”
เสิ่นล่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนลุกขึ้นแสดงคารวะต่อเสิ่นเสวียน
“นายน้อยโปรดอภัย เป็ความผิดของข้าเอง ที่ทำให้นายน้อยต้องทนทุกข์ทรมานก่อนหน้านี้”
ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทำให้เสิ่นล่างมีอคติต่อตระกูลเสิ่นอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับท่านปู่ของเสิ่นเสวียน ั้แ่แรกเริ่มที่ท่านปู่ของเสิ่นเสวียนขับไล่เขาออกจากตระกูลเสิ่น แม้จะกลับมายังตระกูลเสิ่นได้หลายปีแล้ว เขายังคงคัดค้านที่จะให้คนธรรมดามารับตำแหน่งผู้นำตระกูลอยู่ดี เสิ่นเหวินเทาสังเกตเห็นในเื่นี้ ถึงได้กล้าวางอำนาจเช่นที่ผ่านมา
เสิ่นเสวียนลุกขึ้นยืนเช่นกัน เขาเข้าประคองเสิ่นล่างไว้พลางยิ้มแล้วกล่าวว่า “เื่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็อดีตไปแล้ว ตอนนี้ข้า้าให้เสิ่นเหวินเทาได้รู้ว่า ใครคือผู้นำตระกูลเสิ่นที่แท้จริง”
คำกล่าวนี้ดังก้องอยู่ในหูของเสิ่นล่าง ทำให้เขารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ เขามองเสิ่นเสวียนอีกครั้ง ไม่ใช่การมองเหยียดหยามอย่างก่อนหน้านี้แล้ว แต่เป็ความเคารพเลื่อมใส
ทั้งสองคนนั่งลงอีกครั้ง เสิ่นล่างกล่าวกับเสิ่นเสวียน “ดูเหมือนนายน้อยมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะในพิธีแต่งตั้งที่กำลังมาถึงนี้อย่างแน่นอน”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า แม้จะมีเวลาแค่สามวัน แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
“นายน้อยอย่าได้ดูถูกเสิ่นเหวินเทา โดยเฉพาะตระกูลหาน”
เสิ่นล่างกล่าวเตือนเสิ่นเสวียน
“ใช่แล้ว ผู้าุโใหญ่ ข้าอยากได้ยาของตระกูลสักหน่อย”
แม้เสิ่นเสวียนจะทำผลงานได้ดี แต่ก็เป็เพียงผลงานที่ว่างเปล่า เขายังไม่สามารถควบคุมกิจการร้านค้าทั้งหลายของตระกูลเสิ่นได้ อย่างเช่น ร้านยาสมุนไพร
“ได้ นี่คือตราประจำตระกูลของข้า รับเอาไว้ แล้วจะสามารถเบิกยาจากร้านยาสมุนไพรของตระกูลเสิ่นได้ทุกที่”
ขณะที่เสิ่นล่างกล่าวอยู่นั้น แหวนบนนิ้วก็ส่องประกาย จากนั้นแผ่นตราห้าเหลี่ยมสีดำอันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือ เขาส่งมันให้เสิ่นเสวียน
เสิ่นล่างเลือกที่จะเชื่อเสิ่นเสวียนและไม่สงสัยในตัวเขา โดยเฉพาะตัวเสิ่นเสวียนที่ให้ความรู้สึกลึกลับ ทำให้เขามองไม่ออก ไม่แน่ว่าเสิ่นเสวียนอาจนำพาตระกูลเสิ่นให้รุ่งเรืองขึ้นก็เป็ได้
“ขอบคุณผู้าุโใหญ่มาก”
เสิ่นเสวียนกล่าวขอบคุณเสิ่นล่าง เมื่อมีตราประจำตระกูลอันนี้ เขาก็สามารถหาสมุนไพรมาปรุงยาได้แล้ว
ที่เสิ่นล่างเรียกเสิ่นเสวียนให้มาหา เพราะอยากทำความรู้จักเสิ่นเสวียนให้มากขึ้น เมื่อมั่นใจแล้วว่าเขาไม่มีอะไรน่าสงสัยก็จะสนับสนุนจนสุดความสามารถ และเสิ่นเสวียนก็ได้รับความเชื่อมั่นจากเขาแล้วในตอนนี้ เสิ่นเสวียนเองก็มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน คือเพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่นจากเสิ่นล่าง เพื่อให้เขาได้มีเกราะป้องกันในโลกใหม่แห่งนี้
ทั้งสองคนคุยกันพักใหญ่ แล้วเสิ่นเสวียนก็ออกจากที่นั่น
ขณะที่เสิ่นเสวียนเดินห่างออกไปแล้ว ในมิติด้านหลังของเสิ่นล่างก็ค่อยๆ ปรากฏร่างชายชุดดำคนหนึ่ง มีหมอกสีดำลอยปกคลุมอยู่รอบๆ เขาสวมชุดสีดำปกปิดทั่วทั้งร่าง ทำให้ไม่อาจมองเห็นได้ว่าชายผู้นี้มีหน้าตาเป็อย่างไร
“เขาไม่ธรรมดาเลย”
เสียงหนึ่งดังขึ้น
“คนที่ทำให้เ้ารู้สึกว่าไม่ธรรมดามีอยู่ไม่มาก เขามีปัญหาอะไรหรือไม่”
เสิ่นล่างมองแผ่นหลังของเสิ่นเสวียนพลางกล่าวเสียงเรียบ
“ไม่มี เพียงแต่พลังของเขาแปลกมาก”
“แปลก?”
“พลังของเขาไม่ใช่พลังต่อสู้ แต่บริสุทธิ์ยิ่งกว่า ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
ชายชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่ไอพลังต่อสู้ แต่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังต่อสู้...น่าสนใจ!”
เสิ่นล่างยื่นมือออกมา มองไอพลังต่อสู้บางๆ ที่กระจายตัวอยู่บนฝ่ามือ ก่อนจะมองไปยังทิศทางที่เสิ่นเสวียนจากไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
ท้องฟ้ามืดลงแล้ว เสิ่นเสวียนกลับมาจากเรือนของเสิ่นล่าง หลังจากมองเสิ่นเสี่ยวเม่ยนอนหลับสบาย เขาก็สร้างค่ายกลเรียบง่ายขึ้นรอบๆ เรือน หากมีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาจะรับรู้ได้ทันท่วงที
จากนั้นก็กลับมายังเรือนของตนเอง แล้วนั่งสมาธิบนเตียง
วันแรกในโลกใหม่ เขารับรู้ถึงสภาวะของตนเองและสภาพแวดล้อมของโลกใหม่นี้จากความทรงจำของเ้าของร่างเดิมที่คละเคล้าเข้ากับความทรงจำของตนเอง
ผู้แข็งแกร่งเป็ใหญ่ ผู้อ่อนแอย่อมเป็เหยื่อของผู้แข็งแกร่ง เื่นี้เห็นได้ชัดยิ่งกว่าในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร
ส่วนเป้าหมายของเขาก็ธรรมดามากๆ นั่นคือหยั่งรากลงไปให้ลึกใน่เวลาที่สั้นที่สุด ทำให้พลังแข็งแกร่งขึ้นให้ได้มากที่สุด เพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า
เขานั่งสมาธิ รวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อทะลวงไปให้ถึงขั้นปี้กู่
ค่ำคืนแห่งความเงียบงันผ่านพ้นไป รุ่งเช้าวันใหม่ที่สดใสก็มาเยือน เสิ่นเสวียนที่ฝึกฝนมาทั้งคืนผลักประตูเปิดกว้าง ใบไม้บนต้นไม้เก่าแก่หลายต้นภายในลานด้านนอกยังคงมีหยาดน้ำค้างเกาะอยู่ แสงอรุณเพิ่งจะสาดส่องมาจากทิศตะวันออกเสมือนความรุ่งเรือง
เสิ่นเสวียนเดินทางไปยังประตูเมืองอวี่ฮว่า ซื้ออาหารเช้าเล็กน้อย จากนั้นนำตราประจำตระกูลของเสิ่นล่างเข้าไปเอาสมุนไพรจากร้านยาสมุนไพรตระกูลเสิ่น
นี่คือสมุนไพรและของที่เขาได้มา มีผลโลหิตสามผล หญ้าหางไก่สามต้น น้ำผึ้งราชินีหนึ่งขวด และยังมีผลหลงเหวินสามผล รวมทั้งหม้อยาธรรมดาอีกหนึ่งใบ
แม้ที่นี่คือโลกใหม่ แต่มีสมุนไพรอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร หาก้าตามหาสมุนไพรเหล่านี้ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรอาจต้องใช้เวลานานมาก แต่ที่นี่กลับหาซื้อได้ตามร้านยาสมุนไพรทั่วไป
เสิ่นเสวียนฝึกฝนมาทั้งคืนแล้ว แต่ไม่อาจทะลวงไปถึงขั้นปี้กู่ได้ จึงจำเป็ต้องพึ่งสรรพคุณของยา ยาที่เขาจะปรุงมีชื่อว่า ‘ยาหลอมรวมจิต’ ช่วยให้ผู้ฝึกฝนทะลวงไปถึงขั้นปี้กู่
หลังจากกินอาหารกับเสิ่นเสี่ยวเม่ยแล้ว เสิ่นเสวียนก็ขังตนเองอยู่ในเรือน ใช้พลังทั้งหมดไปกับการปรุงยา
ทันใดนั้น เสิ่นเหวินเทากลับย่างกรายเข้ามายังลานหลังเขาแห่งนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้