นางควรใส่เครื่องประดับเพิ่มนานแล้ว เหลียนเซวียนจ้องมวยผมที่ว่างเปล่าของเซวียเสี่ยวหรั่น สีหน้านิ่งขรึมลงเล็กน้อย
"ชุดกระโปรงเยอะเพียงนี้ ยังมีผ้าต่วนอีกด้วย" เซวียเสี่ยวหรั่นนับดู "โอ้โห เกือบยี่สิบชุดเลยนะเนี่ย นี่มันมากเกินไปแล้ว"
อาภรณ์ฤดูร้อนเนื้อจะบาง เมื่อพับไว้รวมกันจึงดูเหมือนไม่เยอะ หลังจากนับดูก็ทำให้คนใ
กระโปรงยี่สิบชุดนี่เยอะหรือ? เหลียนเซวียนนึกถึงสตรีบางคนสวมใส่อาภรณ์หนึ่งปีสี่ฤดูกาลไม่เคยซ้ำกันเลย มุมปากโค้งขึ้นฉายแววเหยียดหยัน
"กระโปรงตัวนี้ความยาวกำลังดี หว่านเหนียงคงไม่ถึงกับให้คนงานทำงานทั้งคืนเพื่อตัดชุดเหล่านี้ออกมาหรอกนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นนำกระโปรงสีแดงอ่อนตัวหนึ่งมาทาบที่ขาพลางร้องอุทาน
"รูปร่างของนางพอๆ กับเ้า" เหลียนเซวียนทักท้วงเสียงเรียบ
"จริงด้วยสิ เช่นนั้นนางคงมอบชุดใหม่ของตนเองให้ข้ากระมัง" เซวียเสี่ยวหรั่นลองพลิกดู ล้วนเป็ของใหม่ทั้งหมด ไม่มีของเก่าแม้แต่ชิ้นเดียว"
"คุณหนูเมิ่งกำลังจะออกเรือน ตบแต่งไปแดนไกล อาภรณ์ส่วนใหญ่ล้วนต้องตัดใหม่หลังจากไปถึงเมืองหลวง"
แม้เสื้อผ้าเหล่านี้สีสันจะสวยสด แต่เห็นชัดว่าไม่ใช่ชุดที่เตรียมไว้สำหรับหลังออกเรือน
"หา? หมายความว่า ถึงแม้เสื้อผ้าเหล่านี้เมิ่งหว่านเนียงจะยังไม่เคยใส่ นางก็ไม่เอาไปเมืองหลวงงั้นหรือ"
เช่นนั้นก็น่าเสียดายยิ่ง มีแต่ของสวยๆ ทั้งนั้น เซวียเสี่ยวหรั่นลูบไปบนลวดลายที่ปัก้า
ถ้าให้นางปักนิ้วต่อให้นิ้วพรุนเป็รูตะแกรง ก็ไม่แน่ว่าจะปักลวดลายประณีตเช่นนี้ได้
"ปรกติไม่เอาไปด้วยอยู่แล้ว" เหลียนเซวียนก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับเื่ของสตรีในห้องหอมากนัก
"เช่นนั้นก็น่าเสียดายอาภรณ์งดงามเช่นนี้" เซวียเสี่ยวหรั่นพับผ้าทีละชิ้นอย่างดี "ลวดลายงดงามเหล่านี้ หญิงปักผ้าคงต้องใช้เวลานานมากถึงจะทำออกมาได้ หากให้ข้าปัก กว่าจะได้กระโปรงสักตัวครึ่งปีก็ไม่แน่ว่าจะเสร็จหรือยัง"
เธอลูบไปบนผ้าแพรเนื้อนิ่มลายร้อยผีเสื้อล้อมบุปผา ผีเสื้อที่ปักอยู่บนนั้นงดงามสดใสราวกับมีชีวิตจริงๆ
เหลียนเซวียนยิ้ม "หากหญิงปักผ้าทำช้าเช่นเ้าก็คงอดตายไปแล้ว"
เซวียเสี่ยวหรั่นยักไหล่ "ดังนั้น ข้าจึงเป็หญิงปักผ้าไม่ได้"
พอพับเสื้อผ้าเรียบร้อย กำลังคิดจะห่อกลับ ก็พบว่าข้างกองเสื้อผ้ายังมีถุงผ้างามหรูอีกใบ เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียด ถุงผ้าปักลายดอกถานฮวา เนื้อผ้ามันวาวเรียบลื่น ดูสวยงามมาก
"นี่อะไรอีกล่ะ?" เซวียเสี่ยวหรั่นดึงเชือกที่ผูกออก ก้มลงมองใกล้ๆ
โอ้แม่เ้า มีแต่เครื่องประดับทั้งถุง ทั้งปิ่นไข่มุก ปิ่นดอกไม้
เธอสุ่มหยิบขึ้นมาดูอย่างหนึ่ง เป็ดอกเสาเย่าสีชมพูเหมือนของจริงมาก ใช้หยกเม็ดละเอียดทำเป็เกสร พอขยับเบาๆ ก็ทอประกายวิบวับหลากสี
"นี่... ไม่ล้ำค่าไปหน่อยหรือ"
หยกเชียวนะ ยุคสมัยนี้คงไม่มีหยกปลอมหรอกกระมัง เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกเหนือคาดอยู่บ้าง ที่เมิ่งหว่านเหนียงให้ปิ่นดอกไม้มีราคาเช่นนี้กับตนเอง
"ล้วนเป็แค่หยกละเอียดไม่ได้มีราคาค่างวดอันใด" เหลียนเซวียนปรายตามอง
"จริงหรือ? หยกไม่มีราคาเลยหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่เชื่อ
"หยกชิ้นใหญ่ย่อมมีราคามากกว่า แต่หยกละเอียดเป็แค่ของเหลือเดนเท่านั้น" เหลียนเซวียนหยิบดอกเสาเย่าสีชมพูจากมือนางมาพลิกดู เศษหยกเล็กเท่าเมล็ดข้าวสารไม่ได้มีมูลค่าสักเท่าไร
หยกละเอียดเป็แค่ของเหลือเดน? เธอเพิ่งเคยได้ยินเป็ครั้งแรกพลางถอนหายใจ แล้วล้วงของอีกชิ้นออกมา
ครานี้เป็ต่างหูไข่มุกที่คล้องกันอยู่คู่หนึ่ง
"ต่างหูเองหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบขึ้นมายล ไข่มุกเม็ดกลมสีขาวปานหิมะ ทอประกายวิบวับ
"ข้าไม่ได้เจาะหูสักหน่อย มอบให้ทำไมล่ะเนี่ย"
แม้เซวียเสี่ยวหรั่นจะค่อนข้างชอบไข่มุก แต่พอนึกถึงความจริงที่เธอยังไม่ได้เจาะหู ก็รู้สึกระอาอยู่บ้าง
เหลียนเซวียนได้ยินเช่นนั้น สายตาก็เหลือบไปที่ติ่งหูเล็กๆ ขาวผ่องของนาง
ยามดวงตากลับมามองเห็นเขาถึงพบเื่นี้ เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่ได้ถามออกไปตรงๆ ตอนนี้สบโอกาสพอดี
"เหตุใดจึงไม่เจาะหู?"
สตรีไหนไม่เจาะหูกันบ้าง ต่อให้เป็ชาวบ้านฐานะยากจน เมื่อบุตรสาวอายุเจ็ดแปดขวบก็เจาะหูกันแล้ว
"ข้ากลัวเจ็บ" เซวียเสี่ยวหรั่นโบกมือ คุณย่าบอกให้เธอไปเจาะหู แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อมาก็ยืนกรานว่าไม่เจาะ ถึงอย่างไรผู้หญิงที่ไม่เจาะหูมีอยู่ถมไป
เหลียนเซวียนทั้งฉิวทั้งขัน นี่มันเหตุผลอะไรกันเนี่ย?
"เจ็บครู่เดียว เ้าก็ทนไม่ได้หรือ"
เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงตอนที่เพื่อนร่วมชั้นไปเจาะหู กลับมาหูบวมเป่ง ตอนนั้นเธอกลัวจนไม่กล้าไปเจาะ
เหลียนเซวียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือโมโหนางดี "แม่นางทั่วบ้านทั่วเมืองของเ้าล้วนไม่สวมต่างหูรึ"
"ข้าเป็สตรีที่ไม่สวมต่างหูเองต่างหาก"
เซวียเสี่ยวหรั่นย่อมทราบว่าสตรียุคสมัยนี้ส่วนใหญ่ล้วนสวมต่างหูกันทั้งนั้น อูหลันฮวาก็เจาะหู ปรกตินางก็หาเชือกเส้นเล็กๆ มาคล้องไว้ไม่ให้ตัน
แต่ถึงจะเป็เช่นนี้ เธอก็ไม่คิดจะเจาะหู อย่างไรเสียก็ไม่มีใครมาสังเกต เธอไม่เจาะก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อันใด
เหลียนเซวียนถูกยั่วประสาทจนคันเหงือกยุบยิบ หลุบมองต่างหูไข่มุกในมือของนาง ผ่อนคลายลมหายใจ แล้วเปลี่ยนวิธีเกลี้ยกล่อม "เ้าดูสิ คุณหนูเมิ่งอุตส่าห์มอบต่างหูให้ หากเ้าไม่เจาะหู ก็เสียของโดยเปล่าประโยชน์นะสิ"
เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบต่างหูขึ้นมาดูอีกครั้งพลางทำปากจิ๊จ๊ะ "เพื่อต่างหูคู่เดียวต้องไปเจาะหูเลยหรือ"
งั้นก็ช่างเถอะ เธอเบ้ปากพลางสั่นศีรษะ
เส้นเืที่หน้าผากของเหลียนเซวียนเต้นตุบ บีบดอกเสาเย่าสีชมพูในมือจนเกือบแบน
เซวียเสี่ยวหรั่นยังคงล้วงของข้างในต่อไป เป็ปิ่นปักผมไข่มุก รูปแบบเรียบง่าย แต่อันเล็กน่ารักและประณีตมาก
เหลียนเซวียนเห็นแล้วก็รู้สึกสะดุดใจ "เ้าเทของออกมาดูให้หมด"
รถม้ากำลังควบตะบึงสั่นะเืบ้างเล็กน้อย เซวียเสี่ยวหรั่นดึงเบาะรองนั่งออกจากก้น แล้วเทเครื่องประดับในถุงผ้าทั้งหมดลงไปบนนั้น
ปิ่นดอกกุ้ยฮวาสีทอง ปิ่นดอกเฉียงเวยสีชมพูแซมขาว สร้อยข้อมือไข่มุก สร้อยข้อมือลูกปัดโมรา ต่างหูเงินรูปหยดน้ำ ต่างหูดอกติงเซียงม่วง เครื่องประดับจิปาถะสีสันสดใสกองเต็มเบาะรองนั่ง
ต่างหูมิได้มีเพียงคู่เดียวดังคาด เหลียนเซวียนกลบเกลื่อนรอยยิ้มมุมปาก
"เ้าดู ยังมีต่างหูอีกตั้งสองคู่ เ้าไม่เจาะหู ก็สิ้นเปลืองสิ"
เซวียเสี่ยวหรั่นย่นหัวคิ้ว เหตุใดเมิ่งหว่านเหนียงถึงต้องส่งของเยอะแยะมาให้เธอด้วยนะ?
เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบต่างหูเงินรูปหยดน้ำมาอย่างระอาใจ
"หรือไม่ครั้งหน้าพบกับนางข้าค่อยเอาของไปคืน"
"เหลวไหล มีที่ไหนรับของขวัญแล้วเอาไปคืนกันบ้าง เ้าอยากตัดความสัมพันธ์กับคุณหนูเมิ่งรึ" เหลียนเซวียนถลึงตาใส่นาง
เพื่อที่จะไม่เจาะหู ช่างหาเื่เปลืองความคิดจริงๆ
เซวียเสี่ยวหรั่นเบ้ปาก "เจาะหูเจ็บจะตาย หูบวมไปตั้งหลายวัน"
เหลียนเซวียนเห็นดวงหน้าเล็กจ้อยยู่ย่น ก็เสริมเข้าไปอีกประโยคราวกับถูกผีดลใจ "ข้าจะช่วยเ้าเอง"
เซวียเสี่ยวหรั่นเบิกตากว้างทันที