ซูหรงหรงลากจ้านอี้หยางเข้ามาในห้องนอนเล็กๆของเธอ
ห้องนอนของเธอตกแต่งตามสไตล์ของผู้หญิงหวานแหววทั่วทั้งห้องรวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็สีชมพู อย่างเช่น เตียงนอนขนาดใหญ่อ่อ...แล้วก็มีตุ๊กตากระต่ายตัวใหญ่ตัวหนึ่งวางไว้บนนั้น
เหอะๆ เตียงเดียววางกระต่ายได้ถึง 2 ตัวเลยเหรอ
“นี่...นายมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ"
ซูหรงหรงเลิกคิ้วขึ้นถามคนตรงหน้าริมฝีปากและสายตาท่าทางที่ส่งมาบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
จ้านอี้หยางใช้สายตาอันแหลมคมของเขามองมาที่เธอก่อนจะเอ่ย
“พาเธอไปสำนักงานอำเภอ"
“ห๊ะ?"
ดวงตาของซูหรงหรงเบิกกว้างปฏิกิริยาของเธอเต็มไปด้วยความงุนงง
สำนักงานอำเภอ? แต่งงาน? นี่เื่จริงเหรอ?
ไม่เอานะ...!
เธอไม่อยากแต่งงานกับคุณทหารที่แค่มองหน้าก็ทำให้รู้สึกหวาดผวาได้แบบเขา
“แต่งงาน!"
แม่ของซูหรงหรงที่กำลังถือผลไม้จะเอาเข้ามาให้ได้ยินเข้ารีบโผล่พรวดเข้ามาในห้อง
ในที่สุด...ลูกสาวของเธอก็จะขายออกแล้ว โอ๊ย น้ำตาจะไหล
“แม่!"
ซูหรงหรงหันไปค้อนใส่จ้านอี้หยางหนึ่งที
จ้านอี้หยางเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มเขายังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย ทว่าแววตานั้นกลับมีรอยยิ้มอยู่ภายใน
เธอไม่สามารถอ่านั์ตาของเขาได้แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์อย่างละเอียด...เธอว่าเขากำลังเยาะเย้ยเสียมากกว่า
ที่แท้คนที่ทำให้เธอรู้สึก “เย็นะเื"ก็คือเขา!
ชิ...เธอคิดอยู่แล้วว่านายคนนี้จะต้องเป็คนที่ทำให้คนอื่นหวาดผวา !
“ทำไมเธอถึงไม่มาพูดกับน้าเื่นี้ล่ะ? หืม?"
จ้านอี้หยางก้าวออกมากิริยาดูสุภาพอ่อนน้อมชวนให้รู้สึกถึงความอบอุ่นเขากระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะทำท่าทีสนิทสนมกับซูหรงหรงโดยการเอาผมของเธอทัดไว้ที่กกหู
“ทางฝั่งของผมเตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยหมดแล้วครับ"
“นี่นาย..."
ซูหรงหรงแหงนหน้าขึ้นมองริมฝีปากบางของเธอกระตุกยิ้มแหยๆ
ทำไมจ้านอี้หยางเปลี่ยนสีหน้าได้ไวขนาดนี้นะตอนแรกผู้ชายคนนี้ยังยิ้มเยาะเย้ยฉันอยู่เลย แค่พริบตาเดียวก็เปลี่ยนไปเป็คนละคน
นี่เขาเป็ทหารจริงๆหรือเป็นักแสดงรางวัลออสการ์กันแน่?
อีกด้านเมื่อแม่ของซูหรงหรงเห็นจ้านอี้หยางปฏิบัติกับลูกของเธออย่างอ่อนโยนอีกทั้งยังตระเตรียมเพื่อจะมาขอซูหรงหรงแต่งงานเรียบร้อยแล้ว
พูดตามความจริงจ้านอี้หยางดูดีว่าเ้าไก่อ่อนกู้แหยนเจ๋อเป็ร้อยเท่า
จู่ๆ เธอก็ยิ้มออกมาก่อนจะใช้มือตีก้นของลูกสาวตัวเอง
“ดูทำท่าเขินเข้าสิ"
พอพูดจบก็หันหน้ามาที่กู้อี้หยาง
“พวกเธอคุยกันไปเถอะฉันจะไปเตรียมผลไม้มาให้กิน"
คุณแม่...ทำไมจะต้องรีบร้อนขนาดนั้นแล้วเมื่อกี้ที่ถือมาไม่ใช่ผลไม้หรือยังไง
“ขอบคุณครับคุณน้า"
ในขณะที่พูดจ้านอี้หยางรู้สึกได้ว่าซูหรงหรงกำลังมีแผนบางอย่างเขาที่ไวกว่าใช้มือกดไปที่บ่าของเธอ
ซูหรงหรงรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังจะถูกจ้านอี้หยางจับกินเธอทำตัวเล็กลงก่อนจะเงยหน้ามองเขา
“นายคิดจะทำอะไร?"
ดวงตาของกระต่ายน้อยช่างน่ารักเสียจริงเต็มไปด้วยจริงใจและใสซื่อราวกับว่ามีใครเอาน้ำใสๆ ไปใส่ไว้ในแววตาของเธอ
เสียงอ่อนหวานที่ส่งมาราวกับกำลังร้องขอบางอย่างเขาลอบมองคนตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะตอบด้วยเสียงอันเด็ดขาดชัดเจน
“ขอเธอแต่งงาน...”
ตึง!
ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? ขอแต่งงานเหรอ? ถ้าให้พูดจริงๆมันคือการบังคับแต่งงานชัดๆ!
“เื่งานแต่ง..."
ซูหรงหรงกำมือแน่น ท่าทางของเธอเหมือนคนกำลังจะร้องไห้เธอสบตาจ้านอี้หยางเหมือนคนที่ไม่ได้รับความเป็ธรรมก่อนจะเอ่ยต่อ
“...แต่งหรือไม่แต่ง"
“ต้องแต่งเธอต้องแต่งงานกับฉัน"
จ้านอี้หยางล่วงรู้ถึงความคิดของซูหรงหรงเธอยังพูดไม่ทันจบเขาก็ปฏิเสธออกไปแทบจะทันที
“นายทำแบบนี้ได้ยังไง!"
ซูหรงหรงแทบจะร้องไห้ออกมาเธอกัดปากจนมันเหมือนจะบวม
“นี่มันเกินไปแล้ว!"
จ้านอี้หยางหยิบจดหมายที่อยู่ในเสื้อของเขาส่งมาให้เธอรอยยิ้มของเขาดูไม่ร้อนรนเลยสักนิด
“เธอค่อยๆอ่านอ่านเสร็จแล้วตอบฉันทีว่านี่มันเกินไปตรงไหน"
พูดจบเขาก็ใช้มือลูบผมสีดำขลับของซูหรงหรงคล้ายกับ้าจะปลอบประโลม
ซูหรงหรงกลับคิดว่าการกระทำของเขาเหมือนกับหมาป่าตัวโตที่้าจะเขมือบหนูน้อยหมวกแดง
เธอเริ่มอ่านจดหมายด้วยใจขุ่นมัวเมื่ออ่านจบเธอก็ชี้นิ้วไปที่หน้าจ้านอี้หยางทันควัน
“นายๆ..."
เธอพูดได้แค่ว่า “นาย"...จากนั้นก็พูดอะไรไม่ออก
ดวงตาของเ้ากระต่ายน้อยเริ่มแดงก่ำแสงแดดสาดส่องเข้ามาที่ดวงตาทั้งสองข้างและดวงหน้าขาวผ่องของเธอเหมือนกับว่ามีหยดน้ำไหลหลงมากระทบริมฝีปากจ้านอี้หยางก้มหน้าลงมาหาเธอแล้วขบริมฝีปากบางของเธออย่างไม่รู้ตัว
“นี่สิถึงจะเรียกว่าทำเกินไป"
“..."
ซูหรงหรงตะลึงงัน
ฝ่ายจ้านอี้หยางก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกสะกดเมื่อก่อนเขาไม่เคยทำอะไรอ่อนไหวแบบนี้เลย
แต่พอเป็เธอคนนี้...เขากลับไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ขณะที่ซูหรงหรงยังคงตกตะลึงเธอหวนกลับไปนึกถึงเื่ราวระหว่างเธอกับกู้แหยนเจ๋อ เธอกับกู้แหยนเจ๋อคบกันแล้ว 3 เดือนถึงจะจับมือกัน
จ้านอี้หยางกับเธอเจอกันครั้งที่สองก็ถูก...ถูกเขากัดปาก?