หลี่หรูอี้เดินออกมาจากห้องครัว พบว่าผู้มาเยือนเป็สตรีวัยกลางคนรูปร่างอ้วนเตี้ย มีใบหน้าเหลี่ยม ริมฝีปากหนา สวมชุดหรูฉุน[1]กลางเก่ากลางใหม่สีเทา มวยผมทรงหยวนจี้[2] ประดับปิ่นที่ทำจากดีบุก ถือต้นหอมยาวประมาณสองชุ่นหลายต้นเอาไว้ในมือ ที่แท้นางก็คือ ชวีหง สะใภ้ใหญ่ของหวังไห่นั่นเอง
เฟิงซื่อที่เป็ภรรยาใหม่ของหวังไห่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อจ้าวซื่อ ทว่าชวีหงเป็ดั่งศัตรูคู่อริของเฟิงซื่อ หลายปีมานี้จึงไม่เคยเหยียบย่างเข้าประตูบ้านหลี่เลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ชวีหงมาหาแล้ว ทั้งยังนำต้นหอมจำนวนหนึ่งมามอบให้อีกด้วย นับเป็เื่แปลกราวกับดวงตะวันขึ้นทางทิศตะวันตกเลยทีเดียว
แม้ว่าจ้าวซื่อจะอายุน้อยกว่าชวีหงห้าปี แต่นับเป็ผู้าุโรุ่นเดียวกับเฟิงซื่อ ดังนั้นจึงถือได้ว่ามีลำดับรุ่นาุโมากกว่าชวีหง อีกทั้งนางก็ไม่ชอบชวีหงอยู่แล้วจึงไม่ได้เดินออกมาต้อนรับด้านนอก เพียงหยุดยืนอยู่ตรงประตูห้องโถง กล่าวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เ้ามีธุระอะไรหรือ”
ชวีหงส่งต้นหอมให้หลี่หรูอี้ จากนั้นจึงพูดกับจ้าวซื่อว่า “ข้าได้ยินว่า บ้านของพวกเ้ามีต้นหอมไม่พอใช้ จึงคิดมาส่งถ่านกลางหิมะ[3] นำต้นหอมมาให้บ้านเ้ากิน”
จ้าวซื่อกล่าวเสียงแหลม “ดูเ้าพูดเถิด เคยเห็นแต่ให้ถ่านกลางฤดูหนาว ไม่เคยเห็นผู้ใดมอบต้นหอมใน่ฤดูหนาวมาก่อน เ้าทำเช่นนี้คิดว่าข้าจะกล้ารับหรือ”
หลี่หรูอี้สังเกตที่ต้นหอม พบว่ายังมีดินเปื้อนอยู่เล็กน้อย เห็นได้ว่าเป็ของสดใหม่ คาดว่าชวีหงเพิ่งเก็บมาจากแปลงดินเมื่อครู่นี้กระมัง แต่คนเราไม่อาจรับของโดยไร้เหตุผล นางจึงไม่กล้ารับต้นหอมของชวีหง ได้แต่โบกมือปฏิเสธไป “ในครัวบ้านข้ามีต้นหอมอยู่กองใหญ่แล้วเ้าค่ะ ท่านไม่ต้องเอามาให้หรอก เอากลับบ้านไปเถิด”
ชวีหงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนโยนต้นหอมไว้ตรงประตูห้องโถงแล้วปัดเศษดินบนมือออก เมื่อเห็นว่าจ้าวซื่อไม่มีทีท่าจะให้นางเข้าไป ในใจก็คิดว่าเฟิงซื่อจะต้องมาพูดจาว่าร้ายตนให้จ้าวซื่อฟังเป็แน่ จึงได้แต่ลอบก่นด่าเฟิงซื่ออยู่ในใจก่อนเอ่ยขึ้นว่า “ข้ามีธุระกับเ้า”
จ้าวซื่อกล่าวด้วยใบหน้านิ่งเฉย ไม่ขยับแม้แต่เปลือกตา “พูดมาเถิด”
ชวีหงเงยหน้ามองจ้าวซื่อที่ตัวสูงกว่าตน กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “่นี้พ่อสามีข้ายุ่งอยู่กับงานรับจ้างสร้างเตียงเตา ไม่มีเวลารับซื้อแป้งขาวและไข่ไก่ให้เ้า เอาเช่นนี้เถิด สามีข้ารู้จักคนมากกว่าท่านพ่อ เ้าก็ให้สามีข้าไปรับซื้อแป้งและไข่ไก่ให้เ้าแทนเป็อย่างไร”
หลี่อิงฮว๋าที่เพิ่งเดินออกมาจากลานด้านหลังได้ยินเสียงการสนทนาทางด้านนี้พอดี จึงรีบเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ จ้าวซื่อด้วยท่าทางระมัดระวัง
จ้าวซื่อส่ายศีรษะช้าๆ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “ข้าทำสัญญากับแม่สามีของเ้าไว้แล้วว่า จะให้นางเป็คนดูแลเื่การรับซื้อแป้งขาวและไข่ไก่ ข้าไม่รับจากผู้อื่น”
เมื่อชวีหงได้ยินว่า จ้าวซื่อยกชื่อเฟิงซื่อขึ้นมาเพื่อปฏิเสธนาง ก็ทำให้รู้สึกขุ่นเคืองใจ “เฟิงซื่อนับเป็อะไรกัน นางไม่ได้เลี้ยงดูสามีข้าเสียหน่อย คู่ควรเป็แม่สามีข้าด้วยหรือ”
จ้าวซื่อตอบเสียงเย็น “นางเป็ภรรยาใหม่ของพ่อสามีเ้า หากเ้าไม่อยากให้นางเป็แม่สามี ก็ไปบอกพ่อสามีของเ้าเถิด”
ชวีหงรีบเก็บกลืนคำด่าเฟิงซื่อกลับลงไปในท้อง กล่าวขึ้นอีกครั้งว่า “อาหญิง ครอบครัวข้ามีเงินน้อยกว่าบ้านท่านพ่อ เห็นหรือไม่” ในใจก็คิดว่า นี่ข้าถอยให้มากที่สุดแล้ว นังสารเลวจ้าวซื่อควรยอมเห็นด้วยแล้วกระมัง
จ้าวซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ไม่”
ชวีหงโกรธจนแทบเป็ลม ตวาดไปว่า “จ้าวซื่อ เ้าคิดว่าบ้านเ้าทำการค้าเล็กๆ น้อยๆ ได้ก็สูงส่งแล้วหรือ หึ... ก็แค่เงินเหม็นเน่าไม่เท่าไร รอก่อนเถอะ ต่อไปพอสามีของข้าได้เป็หัวหน้าหมู่บ้านแล้วข้าจะมาจัดการครอบครัวของเ้าก่อนเลย!”
จ้าวซื่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เก็บต้นหอมของเ้ากลับไปด้วย แล้วไสหัวไป!”
“ข้าเอาต้นหอมกลับไปให้หมูกินยังดีกว่าให้ครอบครัวพ่อค้าหน้าเือย่างพวกเ้า” ชวีหงย่อตัวลงเก็บต้นหอมขึ้นมาก่อนที่จะเดินกลับไปพร้อมคำด่า
จ้าวซื่อกล่าวเสียงดัง “นั่นเป็บ้านพ่อแม่ของสามีเ้า เ้าคิดจะแย่งกิจการของพวกเขาหน้าด้านๆ เช่นนี้ ไม่กลัวผู้อื่น ชี้หน้าด่าเ้าว่าอกตัญญูหรือ!”
ชวีหงเห็นคนตระกูลจาง คนตระกูลหลิว และชาวบ้านคนอื่นๆ อีกหลายคนยืนชะเง้อคอดูเื่สนุกอยู่นอกประตูรั้วบ้านหลี่ ก็รีบหันไปะโอธิบายด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองว่า “พวกข้าแยกบ้านกับพ่อสามีแล้ว เขาก็คือเขา ครอบครัวข้าก็คือครอบครัวข้า”
จ้าวซื่อเอ่ยอย่างเ็า “ต่อให้แยกบ้านกันแล้วก็ยังเป็พ่อแม่ของสามีเ้า หากเ้าเก่งนักก็ไปบอกพ่อสามีเ้าสิว่า ไม่ต้องมอบตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านให้สามีเ้า!”
ชวีหงถ่มน้ำลายลงพื้นก่อนะโด่าไปด้วยความเกรี้ยวกราดเกลียดชัง “จ้าวซื่อ เ้ามันนังสารเลวหน้าไม่อาย เป็นังจิ้งจอกเ้าเล่ห์ที่คิดยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างสามีข้ากับพ่อของเขา ไร้คุณธรรมสิ้นดี!”
คำพูดนี้ของชวีหงเลวร้ายเกินไปจนชาวบ้านที่มามุงดูทนฟังไม่ไหว แววตาที่มองนางจึงเต็มไปด้วยความรังเกียจและดูแคลน
หลี่อิงฮว๋าวิ่งไปยืนขวางทางชวีหงเอาไว้ก่อนถลึงตาใส่ “ชวีหง แน่จริงก็ลองด่าแม่ข้าดูอีกครั้งสิ!”
หลี่หรูอี้เดินถือไม้นวดแป้งยาวสองชุ่นออกมาจากห้องครัวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว วิ่งพุ่งตัวออกไปประหนึ่งลูกธนู ตวาดว่า “พี่สาม ถอยไป ข้าจะตีนังปากเน่านี้ให้ตาย!”
ชวีหงไม่กลัวเด็กๆ บ้านหลี่ หันไปะโท้าทาย “มาตีสิ! มาเลย!”
“พวกท่านได้ยินกันหมดแล้วนะเ้าคะ นางบอกให้ข้าตีเอง!” หลี่หรูอี้ฟาดไม้นวดแป้งลงไปถูกแขนขวาของชวีหงพอดี คราวนี้ไม่เพียงได้ตีคน ทั้งยังได้ทำให้คนที่มุ่งร้ายต่อตระกูลหลี่รู้สึกสั่นสะท้านไปตามๆ กันอีกด้วย
“โอ้ย!” ชวีหงกรีดร้อง รีบยื่นมือออกไปจับหลี่หรูอี้เอาไว้ “นังเด็กสารเลว กล้าตีข้าหรือ ข้าจะหยิกเ้าให้ตาย”
ดวงตาของหลี่หรูอี้เต็มไปด้วยประกายเย็นเยียบ ยกไม้นวดแป้งขึ้นฟาดลงไปที่แขนขวาของชวีหงอีกครั้ง
“หรูอี้ตีนาง!”
“คนไม่ดีก็ชอบก่อเื่เช่นนี้เอง ชวีหงก็ไม่ใช่คนดีอะไร!”
คนในหมู่บ้านไม่ได้เข้ามาช่วยหลี่หรูอี้ เอาแต่ะโให้กำลังใจ ทำเอาชวีหงโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ชวีหงปรายตามองชาวบ้านที่พากันะโโหวกเหวกด้วยแววตาอาฆาต ในใจคิดว่า รอให้สามีข้าได้เป็หัวหน้าหมู่บ้านก่อนเถิด พวกเ้าได้เห็นดีกันแน่!
“เ้ากล้าตีน้องสาวข้าหรือ ข้าจะตีเ้าให้ตาย!” หลี่อิงฮว๋าชกเข้าไปที่ท้องของชวีหงครั้งหนึ่งจนนางล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นจึงกำหมัดยกขึ้นอีกครั้งก่อนซัดไปที่ใบหน้าของนาง อยากชกนางให้ปากแตกไปเสีย แต่กลับได้ยินเสียงจ้าวซื่อะโขึ้นอย่างกังวลเสียก่อน “หยุด ปล่อยนางกลับไป!”
ชวีหงใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่บ้านตนเองจนเคยชินแล้ว เคยถูกผู้อื่นตบตีเช่นนี้ที่ไหนกัน คราวนี้นางถูกทั้งไม้นวดแป้งทั้งหมัดทำร้ายเข้าไปก็รู้สึกเจ็บจนน้ำตาไหล เมื่อเห็นพี่น้องบ้านหลี่มีแววตามาดร้ายคล้าย้าตีนางอีกก็ใจนรีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานออกไป ต้นหอมที่ทำตกบนพื้นก็ไม่คิดจะเอาแล้ว
ชาวบ้านเห็นชวีหงที่ปกติใช้อำนาจในฐานะที่นางเป็ภรรยาบุตรชายคนโตของหัวหน้าหมู่บ้านมารังแกผู้อื่นถูกตีเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก พากันคิดว่าเหตุใดพี่น้องบ้านหลี่จึงหยุดมือเร็วเกินไป เหตุใดจึงไม่ตีชวีหงให้หัวแตกเือาบไปเสียเลย
“ท่านแม่ ข้าจะไปบอกเื่นี้กับท่านลุงหวังและท่านป้าเฟิงนะขอรับ” หลี่อิงฮว๋าเอ่ยกับจ้าวซื่อแล้วเดินออกไป
ตอนนี้หวังไห่ไม่อยู่บ้าน เมื่อเฟิงซื่อได้ยินคำบอกเล่าของหลี่อิงฮว๋า ก็เดินไปที่ลานหลังบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
ตอนนี้ชวีหงที่ถูกตีกลับมาจากบ้านหลี่กำลังเดินไปหาหวังลี่ตงผู้เป็สามี รวมถึงหวังซานนิวและหวังซื่อนิว ซึ่งเป็บุตรสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนของตน และมีท่าทีอยากจะด่าคนเต็มที่
เฟิงซื่อปรายตามองหวังลี่ตงลูกเลี้ยงผู้เกียจคร้านไร้ประโยชน์ครู่หนึ่ง ก่อนจะด่าชวีหงไปว่า “เ้าไม่อยากเป็สะใภ้ตระกูลหวังของพวกเราก็ไสหัวออกไปเสีย!”
ชวีหงด่ากลับ “เื่ของครอบครัวข้ายังไม่ถึงคราวให้เ้ามายุ่ง!”
เฟิงซื่อตวาดลั่น “ข้ายุ่งเื่บ้านเ้าไม่ได้ แต่ข้ายุ่งเื่ที่จะให้ใครมารับ่ต่อตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านของสามีข้าได้ ตอนนี้สามีข้ายังเป็หัวหน้าหมู่บ้านอยู่ เ้ากล้ามายุ่งกับกิจการบ้านข้าแล้วยังกล้าทำร้ายสหายดีๆ ของข้าอีก ช่างใจกล้าจริงๆ กินยาผิดจนบ้าไปแล้วกระมัง!”
.............................
คำอธิบายเพิ่มเติม
[1] ชุดหรูฉุน เสื้อผ้าของชาวฉั่นที่สตรีนิยมสวมใส่ ประกอบด้วยเสื้อส่วนบนแขนยาว สวมทับกระโปรงยาวกรอม ข้อเท้า แล้วใช้ผ้าผูกเอว
[2] มวยผมทรงหยวนจี้ คือ การมวยผมด้วยการรวบตึง ด้านหลังม้วนเป็ทรงกลม
[3] ส่งถ่านกลางหิมะ หมายถึง การหยิบยื่นความช่วยเหลือแก่ผู้ลำบาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้