“เ้าหนู แกคิดว่าอาศัยเอกสารฉบับเดียว แกก็จะเอาทุกสิ่งทุกอย่างของฉันไปได้งั้นเหรอ?”
เสียงหัวเราะของอันเต๋อเซิ่งแสดงออกชัดเจนว่าเขาขาดอากาศหายใจ ดูท่าน่าจะเป็แรงเฮือกสุดท้ายก่อนที่เขาจะขาดใจ แต่เหมือนว่าเ้าหมอนี่จะรู้ตัวว่าใกล้ถึงเวลาตายของตัวเองแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรที่ต้องเกรงกลัวอีก “แกน่าจะรู้ พวกข้าราชการพวกนั้น ล้วนเป็ผีดูดเืด้วยกันทุกคน พวกนั้นก็อยากได้ทุกอย่างของฉันเหมือนกัน ถึงแม้ในมือแกจะมีเอกสารพวกนี้ ผีดูดเืพวกนั้นก็ไม่มีทางปล่อยให้แกได้ทุกอย่างไปง่ายๆ หรอก… ฮึๆๆ ที่แกเหนื่อยมาทั้งหมด สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรจากการเหน็ดเหนื่อยให้คนอื่นเท่านั้น… แค่นี้แหละ ฉันพูดจบแล้ว ฆ่าฉันเถอะ ฉันจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอีก! เพียงแต่ *วันนี้ของฉันอันเต๋อเซิ่ง ก็คือพรุ่งนี้ของพวกแก!”
“เอ้า…ได้ยินรึยัง คนเขาสั่งสอนแกอยู่” ตาเฒ่าพิษเหลียวมองฉินหลาง ท่าทีของฉินหลางกลับดูไม่สนใจ ราวกับว่ากิจการหลายสิบล้านของอันเต๋อเซิ่ง สำหรับเขาแล้ว มันไม่ได้มีค่าอะไรเลย
“คำสอนของเขาไม่จำเป็สำหรับผมหรอก อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าใครมันจะกล้ามาดูดเืบนตัวผม!” ฉินหลางสบถ
“ถ้าอย่างนั้น แปลว่าเขาหมดประโยชน์แล้ว?” ตาเฒ่าพิษพูดขึ้นเบาๆ
อันเต๋อเซิ่งใจหาย แม้เขาจะรู้สึกได้ก่อนแล้วว่าเขากำลังจะเดินมาถึงตอนจบของเขาแล้วก็ตาม แต่พอได้ฟังคำพูดดังกล่าวของตาเฒ่าพิษ ในใจเขาก็ยังคงหวาดกลัวกับความตายอยู่ดี
หากแต่ตาเฒ่าพิษเป็คนที่ชอบทำอะไรเด็ดขาด ไม่ยืดเยื้อ ยุ่งยาก เขาเอาขวดเล็กๆ มาเทน้ำอะไรบางอย่างลงไปบนหัวของอันเต๋อเซิ่งอย่างไม่รีรอ อันเต๋อเซิ่งร้องโอดโอยทันที เพราะส่วนหัวของมันเริ่ม ‘ย่อยสลาย’ แล้ว ผ่านไปแค่แป๊บเดียว ทั้งเสื้อผ้าและร่างกาย รวมไปถึงกระดูกของเขา โดน ‘ย่อยสลาย’ จนกลายเป็น้ำเหม็นราวๆ เกือบร้อยกิโลกรัม ซึมลงไปในดินกลางป่า
ฉินหลางรู้ว่า ภายใต้การย่อยสลายของ ‘น้ำยาย่อยศพ’ อันเต๋อเซิ่งจะหายไปจากโลกนี้อย่างแท้จริง
“ตาเฒ่าพิษ ภารกิจที่คุณมอบหมายมา ผมทำเสร็จแล้ว” ฉินหลางยื่นเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ให้ตาเฒ่าพิษ “รับไว้เถอะ นี่เป็ของที่คุณ้า หมดธุระของผมแล้ว ผมไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวก่อน—”
ตาเฒ่าพิษไม่ได้รับเอกสารที่ฉินหลางยื่นให้ ทว่ากลับเผยรอยยิ้มที่ทำให้ฉินหลางเสียวไส้แทน “เ้าหนู แกคิดว่าภารกิจนี้จะจบแค่นี้เหรอ?”
“ตาเฒ่าพิษ นี่คุณหมายความว่าไง?” ฉินหลางหยุดเดิน เขารู้สึกเหมือนตัวเองตกหลุมพรางแล้ว
“อันเต๋อเซิ่ง เป็เพียงแค่หางของ ‘งูใหญ่ตัวหนึ่ง’ แกฆ่าอันเต๋อเซิ่ง ก็เท่ากับว่าแกกัดหางของงูใหญ่ ในเมื่อทำมันเจ็บแล้ว แกคิดว่ามันจะโต้ตอบแกยังไง?” ตาเฒ่าพิษพูดอย่างเชื่องช้า แล้วจึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “มีคำโบราณที่ว่า คนอยู่ในยุทธภพบางครั้งต้องทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ ในเมื่อแกก้าวเข้ามาในถนนสายนี้แล้ว อยากจะถอนตัว มันไม่ได้ทำง่ายขนาดนั้นแล้ว”
“ตาเฒ่าพิษ แสดงว่าคุณตั้งใจใช่มั้ย—”
ฉินหลางโมโหจนแทบคลั่ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจจุดประสงค์ของตาเฒ่าพิษแล้ว ที่ตาเฒ่านี่ให้เขาทำไม่ใช่ภารกิจ หากแต่เป็การผลักเขาเข้าสู่**ยุทธภพในวงการมาเฟีย ที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง ทว่ากลับเต็มไปด้วยอันตรายนี้
“ถูกต้อง ฉันตั้งใจแบบนั้น” ตาเฒ่าพิษพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจากเดิม “เพราะว่าแกเป็ลูกศิษย์ฉัน จะช้าหรือเร็วแกก็ต้องก้าวเข้ามาเดินบนเส้นทางนี้อยู่ดี เทียบกับการรอให้ศัตรูมาตัดรากถอนโคนแก สู้ฉันเป็คนผลักแกเข้าไปเองดีกว่า ให้แกได้เตรียมตัวั้แ่เนิ่นๆ ให้แกเติบโตเร็วขึ้น แกจะได้รับมือ และดูแลตัวเองได้!”
“คุณเก่งขนาดนี้ ยังต้องห่วงหน้าพะวงหลังด้วยเหรอ?” ฉินหลางสบถด้วยความไม่เชื่อ
“ูเาที่ว่าสูงยังมีเขาที่สูงกว่าเลย” ตาเฒ่าพิษถอนหายใจยาวๆ “ต่อไปแกก็จะเข้าใจเอง!”
พูดจบ ตาเฒ่าพิษกระตุกเพียงหนึ่งครั้ง ก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ด้วยพลังยุทธ์ของฉินหลาง เขาจึงมองเห็นไม่ชัดว่าตาเฒ่าพิษหายไปทางไหน
ฉินหลางจำต้องเดินกลับออกมาพร้อมกับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์ด้วยความไม่สบอารมณ์
ฮานซานฉางเห็นเอกสารในมือฉินหลาง ได้ปั๊มลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว จึงกล่าวขึ้นว่า “พีฉิน นี่เป็ลายนิ้วมือของอันเต๋อเซิ่งจริงๆ เหรอครับ? พี่นี่มีวิธีเยอะแยะมากมายจริงๆ! กลัวก็แต่ จะติดที่ตำรวจ แล้วพวกมันจะมาสร้างเื่ให้เรา”
เหมือนอย่างที่อันเต๋อเซิ่งพูดไว้ไม่มีผิด ต่อให้ฉินหลางมีหนังสือมอบอำนาจที่มีลายนิ้วมือฉินหลาง การจะรับ่กิจการทั้งหมดของอันเต๋อเซิ่ง ก็ยังไม่ใช่เื่ง่ายอยู่ดี
“เื่นี้ ฉันต้องจัดการอยู่แล้ว” ฉินหลางกล่าว “อีกอย่าง นายกับกระทิงจับมือกันยึดสัมปทานของซางคุนแล้ว ตอนนี้สายของอิทธิพลในเมืองเซี่ยหยาง น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใช่ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ” ฮานซานฉางพูดด้วยความตื่นเต้น “พี่ฉิน สัมปทานแถบสถานีรถไฟ ตอนนี้อยู่ในการของเราแล้ว ในเมืองเซี่ยหยางตอนนี้ ทั้งเขตเฉิงหนาน กับเขตเฉิงตงอิทธิพลของพวกเราเพิ่มขึ้นมาก ยึดแก๊งเล็กๆ ในเขตเฉิงหนานกับเขตเฉิงตงได้มากพอสมควรแล้ว อีกไม่นานก็น่าจะยึดได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนเื่รายรับ หักเงินเดือนของพี่น้องในแก๊งแล้ว ผมกับกระทิงเอาร้อยละ 15 ส่วนพี่ฉินก็ร้อยละ 70”
“พวกนายเอาร้อยละ 15 เหรอ?” ฉินหลางถามด้วยความสงสัย
“พี่ฉิน… ถ้าพี่คิดว่าไม่เหมาะสม ผมกับกระทิงเอาแค่ร้อยละ 10 ก็ได้ครับ” ฮานซานฉางรีบอธิบาย
ฉินหลางโบกมือไปมา “นายเข้าใจความหมายของฉันผิดแล้ว แบบนี้แล้วกัน นายกับกระทิงคนละร้อยละ 20 ฉันเอาร้อยละสามสิบห้า ที่เหลือเก็บไว้เพิ่มเงินเดือนหรือไม่ก็ซื้ออุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยให้พี่น้องในแก๊ง พยายามเปลี่ยนระบบบริหารงานในแก๊งให้เป็แบบเดียวกับบริษัท เื่นี้ฉันไม่ค่อยถนัด นายกับกระทิงเป็คนจัดการแล้วกันนะ”
“พี่ฉิน ไม่ดีมั้งครับ!” ฮานซานฉางไม่คิดว่าฉินหลางจะใจกว้างและคิดเผื่อลูกน้องขนาดนี้
“ตกลงอย่างนี้แหละ” ฉินหลางไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย ตอนนี้เขากำลังคิดถึงคำพูดของตาเฒ่าพิษก่อนหน้านี้
อยู่ในยุทธภพบางครั้งต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
ตอนนี้ถือว่าฉินหลางเป็คนในยุทธภพแล้ว ในเมื่อเขาก้าวเข้ามาในวงการนี้แล้ว เขาก็จะต้องวางแผนเตรียมการทุกอย่างไว้ให้พร้อม ถ้าเป็เหมือนที่ตาเฒ่าพิษพูด ถ้า ‘คนบางคน’ รู้ว่าเขาเป็ผู้สืบทอดของตาเฒ่าพิษ คนพวกนั้นจะต้องโจมตีและทำลายเขาแน่ ดีไม่ดีอาจจะเดือดร้อนไปถึงครอบครัว เพราะฉะนั้นเขาต้องรีบก่อร่างสร้างตัว รีบรวบรวมอำนาจ แล้วรีบเป็หัวัของยุทธภพ มีอำนาจควบคุมได้ทุกอย่างแม้แต่***คลื่นลมพายุ
“อีกอย่าง ให้ลูกน้องนายทั้งหมด ใช้แอลกอฮอล์ล้างยาที่ติดอยู่บนมีดออกให้หมด”
“พี่ฉิน มันใช้งานได้ดีจะตาย— ”
“ล้างออก!” ฉินหลางสบถ “นอกจากนายอยากจะหาเื่ใส่ตัว!”
“ครับ” ฮานซานฉางตอบ ไม่รู้เป็เพราะอะไร ฮานซานฉางรู้สึกยิ่งนับวันฉินหลางก็ยิ่งมีบารมีมากขึ้น ทำให้เขารู้สึกกดดันมาก แต่คิดถึงเื่เมื่อคืนที่อันเต๋อเซิ่ง ‘หายตัว’ ไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ แล้วยังมีข่าวลือน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นบนยอดเขาชิงหยุ๋นเมื่อคืนนี้อีก ฮานซานฉางรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เป็แค่เด็กนักเรียนมัธยมเหมือนอย่างที่เห็นแน่นอน
สักพักฉินหลางหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก “ฮัลโหลครับ ท่านนายกเทศมนตรีหวู นี่ผมเอง ฉินหลาง…”
ฮานซานฉางขนลุกซู่ รถเกือบเสียการทรงตัว—
นายกเทศมนตรีหวู ในบรรดาคณะกรรมการเทศบาลในเมืองเซี่ยหยาง มีแค่คนเดียวที่นามสกุลหวู นั่นก็คือหวูเหวินเซี่ยง เขาเป็มือวางอันดับสามของเมืองเซี่ยหยาง ซึ่งกำลังจะได้เลื่อนเป็มือวางอันดับสองแล้วด้วย สำหรับบุคคลในระดับนั้น ฮานซานฉางยังได้แต่แหงนมองเท่านั้น คิดไม่ถึงว่า ฉินหลางใช้น้ำเสียงที่เป็กันเองคุยกับหวูเหวินเซี่ยงได้ แล้วฉินหลางล่ะ เ้าหมอนี่มีคนหนุนหลังดีขนาดไหนเนี่ย!
ในขณะที่ฮานซานฉางตื่นตระหนกอยู่ ฉินหลางก็คุยโทรศัพท์กับหวูเหวินเซี่ยงเสร็จ จึงหันมาพูดกับฮานซานฉางว่า “อาฉาง ช่วยส่งฉันไปที่ ‘คนรักชาวังเจียง’ ฉันจะไปคุยกับหวูเหวินเซี่ยงสักสองสามคำก่อน”
คำพูดของฉินหลาง ได้ยืนยันในสิ่งที่ฮานซานฉางคาดเดาเมื่อครู่นี้
*วันนี้ของฉันคือพรุ่งนี้ของแก มาจากสำนวน เมื่อวานของฉัน คือวันนี้ของเธอ วันนี้ของฉัน คือพรุ่งนี้ของเธอ แปลว่า อนาคตของเธอจะเป็ยังไงให้ดูฉันไว้เป็ตัวอย่าง หรืออีกหน่อยเธอก็จะมีจุดจบเหมือนฉัน
**ยุทธภพ : โลกของการต่อสู้หรือเส้นทางของการต่อสู้เพื่ออิทธิพลหรือวงการมาเฟีย, นักเลงมีอิทธิพล
***คลื่นลมพายุ : เปรียบเทียบคนที่มีอำนาจมาก จะให้คนอื่นอยู่อย่างสงบสุขหรือเจอมรสุมชีวิตก็ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้