เซฟิรอสกุมมือข้างขวาของตนที่กำลังสั่นน้อย ๆ ขณะรถยนต์แล่นไปตามเส้นถนนกลางเมือง สภาพแวดล้อมรอบกายช่างยุ่งเหยิงวุ่นวาย แม่ค้าหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ รูปร่างอ้วนเผละราวกับก้อนไขมันตะเบ็งเสียงเรียกลูกค้าอย่างเอาเป็เอาตาย ยามอ้าปากจะเห็นฟันสีเหลืองและหยดน้ำลายเล็ก ๆ กระเซ็นลงมา อีกฟากฝั่งเป็กลุ่มคนงานเนื้อตัวดำคล้ำ เสื้อผ้าสกปรกมอมแมมเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ นั่งล้อมวงดื่มสุราชั้นต่ำราคาถูก ส่งเสียงดังกักขฬะ
เมืองหลวงของโนแมนแลนด์ เมืองหลวงของประเทศที่เฟื่องฟูที่สุด ฟุ้งเฟ้อไปกับแฟชั่น พิถีพิถันในการใช้ชีวิต แต่ ณ มุมหนึ่งกลับมีย่านสกปรก แหล่งรวมตัวของขยะชั้นดี
เพราะน้องชายสารเลวผู้นั้นตัวเดียว เขาตกหลุมพรางมันจนถูกจับเข้าไปในกรงขังอันแสนโสมมนั่น ระยะเวลาแปดปีที่ต้องลงไปเกลือกกลั้วกับพวกคนคุก ซ้ำเมื่อออกมาแล้วตนยังถูกรังควานจนไม่อาจใช้ชีวิตต่อในเมืองหลวงได้ จำระเห็จออกมาอยู่ชานเมืองกับฮิโนกิ
เซฟิรอสไม่สามารถทนอยู่ในคฤหาสน์ที่คับแคบและทรุดโทรม รายล้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมอันเน่าเหม็น หลังจากฝืนทนอยู่ที่นั่นเกือบปี ในที่สุดเขาก็สามารถหาเส้นสายหลังออกมาจากคุก ใช้เพื่อนที่ตนคุยอย่างถูกคอในบ่อนช่วยหาอะพาร์ตเมนต์ที่บริเวณจัตุรัสกลางเมืองได้ ในปีที่ผ่านมาเซฟิรอสจึงไม่ต้องอดทนกับสถานที่แห่งนั้น เขาอ้างกับฮิโนกิว่าติดพันงานสำคัญในเมือง มุดหัวอยู่ภายในอะพาร์ตเมนต์ที่แม้จะคับแคบกว่าคฤหาสน์ชานเมือง เพียงพอแค่ตัวเขาและคนรับใช้อีกหนึ่งคนได้อยู่อาศัย กระนั้นสภาพแวดล้อมก็ยังน่าอภิรมย์ เมื่อรอบกายคือใจกลางเมืองหลวงที่สะอาดสะอ้าน อากาศปลอดโปร่ง เต็มไปด้วยผู้ลากมากดีที่ไม่ชวนระคายสายตา
รวมถึงยังเป็อะพาร์ตเมนต์ที่เขาจะได้ชิดใกล้กับภรรยาของตน
ไม่รู้ว่าเหตุเพราะตนไม่ได้เจออีกฝ่ายมาเนิ่นนาน จึงได้ค้นพบว่าใน่เวลาที่ห่างหายจากกัน ดอกไม้งามจึงยิ่งบานสะพรั่งจนมิอาจถอดถอนสายตาออกไปได้
ทุกสุดสัปดาห์ กองคาราวานจากต่างถิ่นมาเร่ขายที่จัตุรัส ไฮยาซินท์จะปรากฏกายที่นั่น ภรรยาของเขาเริ่มจากการแวะร้านดอกไม้ ไล่เฟ้นหาดอกสดสวยแปลกตานำไปแต่งเติมคฤหาสน์ให้มีชีวิตชีวา หน้าที่ที่แม้ไม่ได้มีใครมอบหมาย แต่อีกฝ่ายก็ตั้งใจทำมันในฐานะสะใภ้ของลูเซียโน่
หลังจากนั้นจึงเป็โซนแผงขายอัญมณี เพชรพลอยทั่วฟ้าใต้หล้า ทั้งที่ถูกเจียระไน สรรค์สร้างกลายเป็เครื่องประดับ ทั้งที่ยังเป็เพียงก้อนหินไร้ค่า แต่ไฮยาซินท์ก็ล้วนให้ความสนใจทุกอย่าง อย่างเท่าเทียม
และสุดท้ายคือแผงเร่ขายหนังสือ นี่เป็งานอดิเรกของภรรยาที่เซฟิรอสเพิ่งรู้ ไฮยาซินท์ชื่นชอบนิยายรักประโลมโลก แต่บางคราก็จะมีหนังสือประเภทอื่นที่ถูกหยิบติดไปด้วย ทั้งวรรณกรรมที่ดูแล้วจะต้องใช้เวลาในการขบคิด ทั้งที่ไม่ใช่วรรณกรรมแต่เป็บันทึกเื่ราวประวัติศาสตร์
อาจเพราะเหตุนั้นภรรยาของเขาจึงรอบรู้ อ่านเขียนคล่องแคล่วทั้งภาษาของโนแมนแลนด์ หรือแม้แต่ภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน
ไฮยาซินท์ที่ปรากฏตัวในทุกสุดสัปดาห์ถูกจับจ้องผ่านสายตาของเซฟิรอส ผ่านเลนส์จากกระบอกกล้องส่องทางไกล รอบกายของไฮยาซินท์รายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ั้แ่คนรับใช้ไปจนถึงไอ้ลูกนอกสมรสสวะที่ถือดีกล้าอยู่เคียงคู่ไฮยาซินท์
ตอนนี้เซฟิรอสยังไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ไฮยาซินท์ ถ้าหากสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไป ตนคงจะถูกสุนัขรับใช้ของน้องชายกันตัวออกไปอยู่ดี
แต่เขาเชื่อว่าต้องมีสักวัน… สักวันหนึ่งที่ตนจะเดินเข้าไปหาภรรยา ได้มีโอกาสยืนเผชิญหน้า กล่าวขอโทษ ร้องขอความเห็นใจว่าเป็ตนเองที่หลงผิดเพราะแผนชั่วของเ้าลูกนอกสมรสโสโครก ถ้าหากไม่มีมัน ไม่มีเพียวโอเมก้านั่น ความสัมพันธ์ของเขาและภรรยาก็จะยังรักใคร่กันเหมือนเดิม
ไฮยาซินท์จะต้องเข้าใจแน่ พวกเขาใช้ชีวิตด้วยกันมาสิบปี ระยะเวลายาวนานแทบจะเป็ครึ่งชีวิตของกันและกัน มากพอจะพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่อาจแยกจากกันได้
เซฟิรอสคิดว่าหากเฝ้ารอคอยด้วยความอดทน จับจ้องไฮยาซินท์ไม่ให้คลาดสายตาทุกวัน สักวันหนึ่งคงจะมีวันนั้นที่์เห็นใจและมอบโอกาสแด่เขา
แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน ตนต้องวุ่นวายจนไม่มีโอกาสได้เฝ้ามองไฮยาซินท์ไปสักพักหนึ่ง ในคืนหนึ่งที่ตนต้องกลับไปคฤหาสน์ชานเมืองกะทันหันเพื่อจัดการกับเอกสาร ตอนที่เขากลับมา คฤหาสน์ยังคงเปิดไฟสว่างโร่ ฮิโนกินั่งรอคอยอยู่ที่ห้องรับแขก
ฮิโนกิรู้แล้วว่า่เวลาที่สามีไม่ค่อยกลับบ้าน ไม่ใช่การติดพันงานอย่างที่กล่าวอ้าง แต่เป็การหลีกหนีไปอยู่ที่อื่น
“เลิกทำตัวน่าสมเพชสักทีได้มั้ย! แค่นี้ยังขี้แพ้ไม่พออีกหรือไง ย้ายไปอยู่ข้างนอก งานการไม่ทำ ถลุงเงินของพ่อแม่คุณไปให้ไอ้พวกผีพนัน!” ถ้อยคำผรุสวาทอันไม่น่าฟังหลุดออกมาจากปากภรรยาที่ตนเคยมองว่าอ่อนหวานสดใส
“กล้าพูดได้อย่างไรว่าฉันไม่ทำงาน! สิ่งที่ฉันทำอยู่คือการทำเพื่ออนาคตของเรา ไอ้ดีเลียนนั่นมันตัดหนทางทำกินของฉันหมดแล้ว ฉันเหลือแค่ทางเดียวคือต้องพึ่งเส้นสายของพวกผีพนันที่คุณดูถูกไง!”
“อนาคตของเรา? อนาคตของคุณเสียมากกว่า รู้มั้ยว่าลับหลังคุณพวกมันพูดว่าอะไร? พวกมันนินทาว่าคุณเอาแต่เป็สตอล์กเกอร์ คอยตามเลียทุกถนนที่คุณนายลูเซียโน่เดินผ่านประหนึ่งสุนัขจรจัด”
เวร… ไอ้อีสารเลวที่ไหนมันกล้าพูดถึงเขาแบบนี้
“เลิกทำตัวขี้แพ้ได้แล้ว ให้คุณปาดคอตัวเองตายต่อหน้า ภรรยาเก่าของคุณอย่างมากที่สุดก็คงอดสูที่มดปลวกตัวหนึ่งตายไป!”
เซฟิรอสเชื่อมาตลอดว่าตนยังมีน้ำหนักในใจของไฮยาซินท์ ดังนั้นการที่มีคนมาพูดเช่นนั้นจึงไม่ต่างอะไรจากการจี้จุดอ่อนไหวในส่วนลึก
นังลูกนอกสมรส คนอย่างแกกล้าดีอย่างไรมาชี้นิ้วสั่งสอนว่าฉันควรทำสิ่งใด ไม่ทำสิ่งใด กล้าดีอย่างไรมาตัดสินว่าฉันขี้แพ้และน่าสมเพช
ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเผลอตัว กระทำสิ่งที่ตนพยายามห้ามใจมาตลอด
ฝ่ามือคว้าลำคออันแสนเล็กจ้อยและบอบบางไม่ให้หนีไปไหน ขณะที่ฝ่ามืออีกข้างก็ใช้ประทุษร้าย เสียงผิวกายซึ่งถูกตีกระแทกผสมผสานกับเสียงกรีดร้อง โหยหวนด้วยความเ็ปราวกับเป็บทเพลงที่ยิ่งช่วยเร่งเร้าเขาให้มีชีวิตชีวา เมื่อร่างนั้นแหลกเหลว ล้มลงไปนอนกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ ยามได้สบดวงตาซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มิใช่ความจองหองเหมือนเมื่อครู่ มันจึงค่อยทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่ง รู้สึกราวกับตนได้กลายเป็ผู้พิชิตโลกในบัดนั้น
เซฟิรอสไม่ควรทำแบบนั้น ไม่ควรคิดแบบนี้เลย เขาคือลูเซียโน่ ตระกูลชั้นสูงที่สั่งสอนให้อัลฟ่าต้องให้เกียรติ ทะนุถนอมโอเมก้าผู้เป็ดั่งสมบัติล้ำค่า
แต่กระนั้นฮิโนกิก็ไม่ควรพูดจาเช่นนั้นกับเขา แม้จะเป็ถึงเพียวโอเมก้าแต่ก็เป็แค่พวกลูกนอกสมรส สายเืจากโอเมก้าชั้นต่ำ อีกฝ่ายกลับกล้ากล่าววาจาจาบจ้วงตัวเขาที่เป็ถึงอัลฟ่าสายเืบริสุทธิ์และชั้นสูง เขาจึงจำต้องฝืนใจลงโทษให้ฮิโนกิรู้กฎเกณฑ์ของโลก
เซฟิรอสหลบออกไปพักผ่อนข้างนอกเกือบอาทิตย์ ในที่สุดความกรุ่นโกรธก็จางหายไปบ้าง ครุ่นคิดได้ว่าในฐานะอัลฟ่า ในฐานะผู้ปกครองครอบครัวตนเองควรเป็ฝ่ายให้อภัยโอเมก้าจอมถือดี อย่างไรอีกฝ่ายก็คือภรรยาของเขา แม้จะเป็ภรรยาที่ถูกน้องชายสารเลวยัดเยียดเข้ามา แต่เื่ที่ฮิโนกิหลงรักเซฟิรอสจริง ๆ ก็เป็เื่ที่ตนััได้
ภรรยามาจากบ้านนอกคงไม่มีความรู้เื่ข้อปฏิบัติของชนชั้นสูงมากนัก จึงทำผิดพลาดไปบ้าง
ดังนั้นเขาจึงยอมกลับคฤหาสน์ ลดทิฐิ ตั้งใจจะไปพะเน้าพะนอเอาใจภรรยาเสียหน่อย
คฤหาสน์หลังใหญ่ย่านชนบท สภาพเก่าแก่ทรุดโทรมช่างเงียบเหงา ในทีแรกเซฟิรอสไม่ได้ระแคะระคายใจกับความเงียบสงบเสมือนคฤหาสน์ร้าง เงินทองที่ร่อยหรอลงทำให้พวกเขาต้องลดการจ้างคนรับใช้ ภายในพื้นที่ใหญ่โตจึงเหลือเพียงไม่กี่สิ่งมีชีวิตพักอาศัย
จวบจนตนเดินไปถึงห้องรับแขก เอ่ยเรียกหาคนรับใช้ สิ่งที่ได้รับตอบกลับมามีเพียงความเงียบงัน จึงค่อยนึกสะกิดใจอะไรบางอย่าง
‘เอ๊ะ? ก็คุณนายบอกว่าให้พวกเราหยุดพักผ่อน เนื่องจากคุณชายจะเรียกช่างมาบูรณะคฤหาสน์’
คำพูดปลายสายจากหัวหน้าคนรับใช้นั้นเต็มไปด้วยความงุนงง สับสน
บูรณะคฤหาสน์…
เซฟิรอสตะลึงงัน วินาทีนั้นสัญชาตญาณบางอย่างกำลังกู่ร้อง เขาวางสายโทรศัพท์ รีบวิ่งพรวดพราดขึ้นไปยังชั้นสอง ขณะกระชากเปิดประตูห้องนอน หัวใจภายในอกก็เต้นไม่เป็ส่ำ ภาพความทรงจำในอดีต ห้องนอนในคฤหาสน์ลูเซียโน่ที่ว่างเปล่า หลังจากใครอีกคนจากไปฉายชัดกลับมาในความทรงจำ
ทว่าห้องนอนตรงหน้ากลับไม่ได้แปรเปลี่ยนไปไหน เซฟิรอสถอนลมหายใจ ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเดิน มองสำรวจรอบ ๆ นับั้แ่ย้ายไปอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ เขาก็ไม่ได้ขึ้นมาเหยียบที่นี่นานนับหลายเดือน สภาพห้องไม่ได้แตกต่างไปจากในความทรงจำอันยาวไกลนัก เครื่องเรือนทุกชิ้น ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิม ไม่ได้ลด ไม่ได้เพิ่ม
กำลังนึกเบาใจว่ามันไม่ใช่เื่เลวร้ายอย่างที่ตนคาดคิด ในตอนนั้นสายตาเขาก็ไปหยุดยังโต๊ะเครื่องแป้ง จุดเดียวที่เต็มไปด้วยข้าวของระเกะระกะราวกับถูกรื้อค้น และที่บริเวณกระจกใสสะอาด ซึ่งควรสะท้อนภาพอย่างเดียว เวลานี้กลับปรากฏประโยคหนึ่งซึ่งถูกเขียนด้วยลิปสติกสีแดงสด
ไอ้ชาติหมา สารเลว
เซฟิรอสนิ่งอึ้งไป ก่อนที่ความโกรธจะแล่นริ้วเข้ามาภายในกายเมื่อรู้ว่าข้อความนั้นต้องการสื่อสารถึงใคร ข้อความหยาบคายดั่งคนไร้การศึกษา เขาตรงดิ่งเข้าไปที่กระจก แล้วจึงได้พบว่าสิ่งที่ใครอีกคนทิ้งไว้ไม่ได้มีเพียงข้อความ
แสงประกายวาววับขึ้นมาท่ามกลางข้าวของที่วางกองรวมกัน เพชรกะรัตเม็ดเล็กประดับบนแหวนเงินเกลี้ยง หากเทียบกับแหวนแต่งงานของภรรยาคนแรกแล้วนับว่าด้อยกว่ามากเนื่องจากไม่มีบารมีของบิดามาช่วยเฟ้นหาเพชรน้ำงาม แต่กระนั้นมูลค่าของมันก็ยังมากมาย อยู่เหนือผู้คนของโนแมนแลนด์
แหวนแต่งงานที่ฮิโนกิมักสวมใส่ บัดนี้มันถูกวางทิ้งไว้ลวก ๆ บนโต๊ะ
เป็ครั้งที่สองที่เซฟิรอสต้องได้เห็นภาพแหวนแต่งงานของตนที่ถูกวางเช่นสิ่งไร้ค่า
วินาทีนั้นความร้อนผ่าวเดือดพล่านแล่นั้แ่ศีรษะไปจรดปลายเท้า ดวงตาจับจ้องแหวนวงนั้นเป็ประกายความโกรธแค้นจนน่ากลัว ทั่วทั้งร่างสั่นเทิ้ม ฝ่ามือกำแน่น เล็บจิกทิ้งลงไปในเนื้อฝ่ามือ
นังสำส่อน… แกกล้าดีอย่างไร กล้าดีอย่างไรถึงกล้าทำเช่นนี้กับฉัน!
ไม่ว่าฮิโนกิจะต้องการประชดประชัน หรือจงใจเลียนแบบการกระทำของไฮยาซินท์เพื่อให้เขาเจ็บช้ำ แต่การทำเช่นนี้นับว่าเป็การดูิ่เขา ดูิ่บุตรชายคนโตของลูเซียโน่
เป็แค่ลูกนอกสมรสที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แค่เพียงเห็นเขาเมตตายอมยกเป็ภรรยาหลวง มันคิดว่ามันจะมีสถานะเท่าเทียมจนสามารถกระทำตัวเฉกเช่นนี้ได้งั้นหรือ!?!
สายเืสกปรกที่เกิดจากความสำส่อนของมารดามัน พวกลูกนอกสมรสขี้ครอกสันดานก็ไม่ต่างกันทั้งนั้น จะทั้งดีเลียน หรือฮิโนกิ
หากเมื่อไรที่ได้เจอหน้ามัน เขาจะหักมือของมันที่กล้าเขียนข้อความดูิ่ ตัดนิ้วไม่ให้มันได้มีสิทธิ์ใส่แหวนแต่งงานที่กล้าทิ้งขว้าง ตบปากให้บวมช้ำดูว่ามันจะกล้าผรุสวาทคำหยาบคายเช่นนี้หรือเปล่า
แม้ฮิโนกิจะกระทำคล้ายไฮยาซินท์ ทิ้งแหวนแต่งงานแล้วหายไป แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะสามารถหลุดพ้นใต้อาณัติของตนได้ ฮิโนกิเป็แค่ลูกนอกสมรส ตระกูลเดิมไม่สามารถเป็ที่พึ่ง ไม่ใช่โอเมก้าสูงศักดิ์ที่ใครปรารถนา
ใช่… นอกจากความเป็เพียวโอเมก้า มันก็ไม่มีดีอะไรเลย เขากลับไปหลงมันหน้ามืดตามัว จนทิ้งสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต ตอนนี้นอกจากมันจะไม่สำนึกบุญคุณ ยังกล้ามาล้อเล่นกับเขาเช่นนี้
พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า เมื่อไร้คนรับใช้คอยเปิดปิดไฟตามเวลาก็ทำให้ทั้งคฤหาสน์ตกอยู่ในความมืด คุณชายคนโตของลูเซียโน่รังเกียจเกินกว่าจะต้องทำหน้าที่ที่ปกติเป็ของคนรับใช้ อีกฝ่ายจึงนั่งรอที่ห้องรับแขกภายใต้ความมืด มือข้างหนึ่งกำแส้ขี่ม้า ฝ่ามือลูบไล้ปลายแส้เบา ๆ ั์ตาสีฟ้าเป็ประกายเย็นเยียบราวกับผู้ล่าซึ่งกำลังเฝ้ารอเหยื่ออย่างอดทน
เดรัจฉานที่ไม่เชื่อฟังเ้านายก็ต้องถูกเฆี่ยนตี หรือหากมันยังดื้อแพ่ง จุดจบของมันก็คือโรงฆ่าสัตว์
เซฟิรอสเชื่อว่าสุดท้ายอีกฝ่ายก็ต้องซมซานกลับมา เซฟิรอสยังไม่จำเป็ต้องกระทำการโหดร้ายถึงขั้นฆ่าฟัน เขาเพียงแค่ต้องเฆี่ยนตี สั่งสอนให้มันหลาบจำว่าสิ่งใดคือที่ต่ำที่สูง เขาเองก็เคยได้รับบทเรียนแล้วว่าการเมตตาต่อเดรัจฉานนั้นจะก่อเกิดผลเสียอย่างไร
ดีเลียนก็ทีหนึ่งแล้ว เพราะความใจอ่อนคิดว่าอย่างน้อยมันก็มีสายเืลูเซียโน่ครึ่งหนึ่ง เขาจึงไม่ได้ฆ่ามันให้ตาย สุดท้ายจึงถูกมันวกมาแว้งกัด แย่งทั้งตำแหน่งผู้นำตระกูลที่ควรเป็ของเขา
แย่งไฮยาซินท์ที่ควรเป็แค่ของเขาคนเดียว
การนั่งคิดว่าจะทรมานทรกรรมอย่างไรทำให้จิตใจสงบขึ้น เขานั่งรอเฉกเช่นนั้นทั้งคืน จวบจนดวงตะวันโผล่พ้นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ จวบจนจันทราสับเปลี่ยนพื้นที่กับดวงตะวันอีกครา จวบจนคนรับใช้ที่ถูกฮิโนกิหลอกให้ออกไปกลับมาที่คฤหาสน์
“คุณชาย”
หัวหน้าคนรับใช้ผู้หนึ่งที่เพิ่งมาถึงคฤหาสน์พบกับเซฟิรอส คนร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟากว้างใหญ่อย่างโดดเดี่ยว ทรงผมยุ่งเหยิง กลิ่นกายเหม็นอับ ยามที่เงยหน้าขึ้นมาสบตา ได้เห็นหน้าบุตรชายคนโตของลูเซียโน่ผู้สูงส่งก็เป็อันผงะถอย ความรู้สึกทั้งหวาดกลัวและรังเกียจ ราวกับมีมารร้ายสิงสู่อีกฝ่ายอยู่
ฮิโนกิหนีหายไป
พวกโอเมก้าเนี่ยนะ…
โอเมก้าอ่อนแอที่มาอ้าขายั่วยวน เมื่อปอกลอกจนเขามอบใจ ให้ความรักและเงินทองมันก็ตีจากไป
ในที่สุดเซฟิรอสก็รู้ตัวแล้วถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
คืนนั้นเขาสั่งเฆี่ยนตีเหล่าคนรับใช้ภายในบ้านที่เลือกทำตามคำสั่งเดรัจฉานโดยไม่ขอความเห็นจากตน โทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนฝูงอันน้อยนิดที่ยังเหลืออยู่ ตนจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลากมันกลับมาที่นี่ให้ได้ ทำให้มันต้องอยู่ไม่สู้ตาย ทำให้มันต้องแปดเปื้อนจนไม่กล้าแม้แต่แหงนหน้ามองฟ้า
ได้ยินข่าวหรือเปล่า คู่สามีภรรยากับคุณชายคนโตลูเซียโน่เพิ่งออกคุกมาใช้ชีวิตไม่ทันไร ภรรยาก็หายตัวไปเสียแล้ว ดิฉันว่าเขาคงออกไปจากเมืองหลวงไม่คิดหวนกลับมา
หายตัวไปอีกแล้วหรือ ภรรยาคนแรก่เลิกราก็หายตัวเงียบไปสักพักใหญ่ นี่ยังภรรยาคนที่สองอีก บางทีอาจจะเป็คำสาปหรือสันดานส่วนตัวก็ได้ถึงไม่มีภรรยาคนใดทนอยู่ได้สักคน
ไม่ใช่แค่เพียงภรรยาของคุณชายลูเซียโน่ พวกโอเมก้าสมัยนี้ก็เหลวแหลกกันไปหมด ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว แสร้งทำยืนหยัดด้วยตัวเอง สักวันที่ภัยอันตรายมาถึง ไม่มีอัลฟ่าคอยปกป้องคุ้มครอง คอยดูเถอะวันนั้นจะมาวิ่งโร่ฟ้องร้อง คนเขาจะสมเพชแทนสงสาร
โอเมก้าไม่ใช่วัวไม่ใช่ควาย จะได้ต้องมาเป็ที่รองมือรองเท้าของพวกอัลฟ่า พูดมาได้อัลฟ่าจะคอยปกป้องโอเมก้า ปกป้องจากอะไรล่ะ? อย่างนี้แล้วพวกมันยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าตัวปัญหามาจากเพศใด แทนที่จะมาสั่งสอนโอเมก้าว่าควรประพฤติอย่างไร เหตุใดไม่สั่งสอนเพศตัวเองให้ไม่ทำตัวประหนึ่งหมาติดสัด คอยตามคุกคามโอเมก้า
มิใช่ว่าคุณชายลูเซียโน่ฆ่าไปแล้วแสร้งทำตัวเป็บ้าหรือ อยู่ในคุกนานจนทำให้สติสตังเลอะเลือน ทุกวันนี้ราวกับอสุรกาย ดีที่เ้าตระกูลลูเซียโน่ขับพี่ชายตัวเองให้พ้นหูพ้นตาไปแต่เนิ่น ๆ ไม่อยากจะคิดว่าหากคนผู้นั้นยังอยู่เมืองหลวง ดิฉันคงไม่กล้าให้บุตรสาวโอเมก้าออกจากบ้านหรอกค่ะ
จะว่าไปคุณชายลูเซียโน่ออกจากคุกมาอยู่กินกับภรรยาคนใหม่มาก็นานนับปี แต่กลับไร้ข่าวทายาท สมัยที่ตบแต่งกับไฮยาซินท์ ตอนนั้นสังคมคลางแคลงว่าเป็ทางฝ่ายโอเมก้าเองที่บกพร่อง แต่ตอนนี้ไฮยาซินท์ตั้งครรภ์บุตรคนที่สองแล้วด้วยซ้ำ ดูท่าจะได้ตบหน้าพวกขี้ซุบซิบเสียแล้ว ผู้บกพร่องไร้น้ำยา แท้จริงแล้วก็เป็อัลฟ่าได้หรือนี่
เซฟิรอส ลูเซียโน่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าตอนนี้จะกลับกลายเป็ตัวน่ารังเกียจในหมู่ชนชั้นสูง จะอัลฟ่า เบต้าหรือโอเมก้าก็ไม่มีใครอยากยุ่งกับเขา
แหมใครจะกล้าไปยุ่งล่ะ คงมีแต่พวกคนในบ่อนเท่านั้นที่ยังเห็นทางได้ปอกลอกถึงได้แกล้งตีตัวเข้าไปสนิท
แต่ขนาดเป็ที่รังเกียจ คุณเขายังเสนอหน้ามาตามงานเลี้ยงไม่หยุด วันก่อนก็งานวันเกิดคุณหนูลอเรนซ์ คงได้ยินว่าคุณนายลูเซียโน่จะมางานด้วย ทำเอาบรรยากาศกร่อยกันเสียหมด คุณนายลูเซียโน่ต้องมาตามคอยขอโทษขอโพยแขกที่ทำให้บรรยากาศเสีย
แล้วจริงหรือเปล่าในงานเลี้ยงครั้งก่อนที่มีคนแกล้งทำเค้กหกเลอะเทอะใส่บุตรชายคนโตลูเซียโน่ จากนั้นเ้าตระกูลก็สั่งให้พี่ชายของตนลงไปก้มทำความสะอาดเอง อ้างว่าไม่ควรให้บริกรที่ไร้ความผิดต้องเป็คนกระทำ
งานเลี้ยงครั้งใด มีเื่แบบนั้นด้วยหรือ! เหตุการณ์นี้คุ้น ๆ ว่าเคยเกิดขึ้นแต่เป็คุณนายลูเซียโน่ สมัยยังเป็ภรรยาของคนโตที่ถูกสั่งให้ลงไปเช็ดไวน์ ดูท่าเ้าตระกูลลูเซียโน่คงรักใคร่ภรรยาผู้นี้จากใจจริง จึงชำระแค้นให้อย่างสาสม
คิกคิกยังมีอีกข่าวลือหนึ่งนะ ผู้ใดที่กลั่นแกล้งเซฟิรอสได้สาแก่ใจเ้าตระกูล ว่ากันว่าจะได้รับความดีความชอบชิ้นใหญ่เลยละ จำซาตานาที่เพิ่งได้สัมปทานที่ดินฝั่งตะวันตกของโนแมนแลนด์หรือเปล่า ว่ากันว่าเ้าตระกูลเป็คนออกหน้า ใช้เส้นสายช่วยให้ได้มาเพราะกลั่นแกล้งเซฟิรอสจนสาแก่ใจ
ฮิโนกิหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เสมือนว่าไม่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ชนชั้นสูงของโนแมนแลนด์ต่างซุบซิบว่าหากอีกฝ่ายไม่ตายก็คงไปจับอัลฟ่าจากตระกูลอื่นเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ต้องยอมรับว่าฮิโนกิเป็หนึ่งในบุปผางามที่เคยสามารถยืนเคียงข้างไฮยาซินท์ได้โดยไม่โดนกลบ ความสวยแม้นไม่ได้ผุดผาดฉูดฉาด แต่ก็เป็เอกลักษณ์ชนิดไม่อาจหาใครเทียบได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกหากจะมีอัลฟ่าอื่นมาต้องตาต้องใจ มองข้ามเื่ที่เคยผูกพันธะ
ทว่าเซฟิรอสรู้ดี ในเวลานี้พันธะที่ยึดโยงตนเข้ากับภรรยามันได้หายไปแล้ว ในคราแรกตนนึกมั่นใจว่านี่เป็ฝีมือของน้องชายต่างมารดา คนระยำอย่างมันคงอยากแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตเขา เซฟิรอสโพนทะนา ประจานความไร้ยางอายของมันที่เอาแต่หมกมุ่นอยากจะเดินตามรอยเท้าเขาไม่หยุดหย่อน
เห็นหรือเปล่ายาเซีย สุดท้ายพวกอัลฟ่าก็ล้วนมีสันดานไม่ต่างกัน การที่นึกโกรธเคืองเขาแค่เื่นอกใจ ตบแต่งภรรยาคนที่สองนั้นช่างไม่ยุติธรรมกับเขาเสียเลย
เกิดข่าวลือดังกล่าวไปทั่วทั้งโนแมนแลนด์อยู่พักใหญ่ แต่จนแล้วจนรอดเพราะไม่มีใครสามารถหาหลักฐานการมีอยู่ของฮิโนกิได้ ผ่านมาหลายปีดีเลียนยังคงยกไฮยาซินท์เป็ภรรยาเพียงผู้เดียว ไร้ข่าวคราวเกี่ยวกับโอเมก้าอื่น ไม่นานข่าวลือนั้นก็สลายหายไปกับอากาศราวไม่เคยมีอยู่
แต่เซฟิรอสไม่เชื่อ สายเืมารดาของมัน ชู้ชั้นต่ำที่ปีนเตียงเ้านายเพื่อหวังยกระดับฐานะจนครอบครัวเขาแตกแยก ดีเลียนที่เป็ก้อนเืเนื้อชั้นต่ำก็ย่อมได้รับอุปนิสัยนั้นจากมารดา
เซฟิรอสเฝ้ารอคอย กลายเป็ความหมกมุ่นในชีวิตรักของไฮยาซินท์และดีเลียน เขาคาดหวังจะได้เห็นมันพังพินาศ คาดหวังจะได้เห็นไฮยาซินท์ที่ต้องเสียใจ และใน่เวลานั้นเขาจะได้ก้าวเข้าไป แสดงให้เห็นว่าตนยังเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุดของไฮยาซินท์เสมอ
ยามราตรีที่ผู้คนต่างพักผ่อน แต่ก็ยังมีมุมหนึ่งของโนแมนแลนด์คึกคัก สว่างไสวจากแสงไฟ เสียงดนตรีดังเคล้าคลอสร้างบรรยากาศสนุกสนานให้ย่านแห่งนั้น
ชายอัลฟ่าหนึ่งร่างอ้วนและหนึ่งร่างผอมลากประคองคนผู้หนึ่งพาออกไปยังตรอกหลังร้าน จัดการโยนร่างปวกเปียกของชายผู้นั้นทิ้งลงไปกับพื้นซึ่งสกปรกและเปียกแฉะ
“ให้วางไว้แบบนี้จะไม่เป็ไรจริง ๆ หรือครับ” ชายร่างผอมจ้องมองคนผู้นั้น
แม้จะอยู่ในสภาพเมามายไม่น่ามอง เส้นผมสีบลอนด์ทองยุ่งเหยิง ดวงตาปรือปรอย จุดที่เคยเป็ั์ตาสีฟ้าใสกระจ่างสวยงามเวลานี้กลับหมองหม่นไม่น่ามอง บนใบหน้าปรากฏตอหนวดครึ้มเขียวจนดูทรุดโทรมไปมาก ทว่าเสื้อผ้าที่ผ่านการตัดเย็บอย่างดีบนร่างสูงโปร่งก็สามารถบ่งบอกสถานะของชายผู้นี้ได้อย่างดี
“มันก็แค่ขยะที่ลูเซียโน่ไม่ต้องการ ตลอดมาที่นายแสร้งทำเป็โอบอ้อมอารีก็เป็เพราะมรดกของมัน ตอนนี้ธุรกิจของมันเจ๊งไม่เป็ท่า หนี้พนันก็ค้างบ่อนเรามาแรมเดือน ดูท่าทรัพย์สินคงร่อยหรอไปมาก” ชายร่างอ้วนยกเท้าสะกิดสีข้างคนที่นอนอยู่เบา ๆ “คงต้องหาถุงทองใหม่แล้ว”
“หมดไวปานนี้เชียว” ชายร่างผอมตกตะลึง ความยิ่งใหญ่และมั่งคั่งของลูเซียโน่ ผู้คนในโนแมนแลนด์ย่อมรู้ดี แม้บุตรชายคนโตผู้นี้จะพลาดตำแหน่งเ้าตระกูล แต่อย่างไรเงินมรดกที่ได้มาก็ย่อมมากมายล้นฟ้า
“ใช่มั้ยล่ะ” ชายร่างอ้วนยักคิ้ว แสดงสีหน้าภูมิอกภูมิใจ “ถ้าไม่ใช่นายเรา ใครจะทำได้ มรดกนั่นหากใช้ปกติ สองชาติก็คงยังไม่หมดเลยกระมัง”
“โง่หรือเปล่าเนี่ย”
“โง่น่ะสิ” ชายร่างอ้วนหัวเราะร่วน “หากไม่โง่คงไม่เสียทั้งตำแหน่งเ้าตระกูล ทั้งภรรยาที่งามที่สุดในโนแมนแลนด์หรอก”
ชายร่างอ้วนและร่างผอมยืนคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน ทิ้ง ‘ลูกค้าคนสำคัญ’ นอนอยู่ข้างขยะเน่าเหม็นเช่นนั้นอย่างไร้เยื่อใย
เซฟิรอสได้สติอีกครั้งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ท้องฟ้ายังคงมืดมิดบ่งบอกว่าเป็ยามราตรี คนร่างสูงพยายามลุกขึ้นยืน แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายไม่มั่นคง ต้องใช้กำแพงข้าง ๆ ยันตัวเองไว้ขณะพยายามก้าวเดินไปข้างหน้า ก่นด่าตนที่ไร้สติจนพาร่างมาเกลือกกลั้วเศษซากเน่าเหม็นที่นี่
เซฟิรอสไม่ได้นึกระแคะระคายใจว่าเป็คนของบ่อนที่โยนตนเองออกมาราวกับเป็ขยะ เซฟิรอสยังคงมั่นอกมั่นใจว่าเขายังเป็ลูเซียโน่
ลูเซียโน่ที่ไม่มีใครกล้าลบหลู่
เวรเอ๊ย…
หัวสมองหนักอึ้งจนต้องสะบัดศีรษะหลาย ๆ ครั้งเรียกสติ สองมือคลำตามผนังเพื่อตรงไปยังทิศทางที่คิดว่าคนขับรถกำลังรออยู่ ระยะทางเพียงไม่กี่ก้าวนั้นยาวนานเนื่องจากร่างกายที่ไม่สมบูรณ์นัก
ในที่สุดเขาก็ออกมาจนถึงถนนใหญ่ เซฟิรอสมาหยุดยืนข้างทาง ั์ตาสีฟ้าหม่นกวาดมองหารถยนต์ที่คิดว่าเป็ของตน แล้วตอนนั้นทางหางตาก็พลันเห็นรถยนต์คันหนึ่งแล่นตรงเข้ามาทิศทางที่เขายืนอยู่
เซฟิรอสหันไป รถยนต์สีดำสนิทคันหรู ธงรูปหัวสิงโตอันยิ่งใหญ่ปลิวไสว เพราะความไม่มีสติจึงคิดไปชั่วแวบหนึ่งว่านั่นเป็รถยนต์ที่มารับตัวเอง แต่ไม่นานเมื่อประมวลผลได้ตนก็ดวงตาเบิกกว้าง รีบพุ่งไปตัดหน้ารถยนต์คันดังกล่าวอย่างไม่กลัวตาย
ปรื้นนนนนน!!!
เสียงแตรดังลั่น ก่อนจะตามด้วยเสียงยางรถยนต์เสียดสีกับถนนรุนแรงจากการเบรกกะทันหัน โชคดีที่มันสามารถหยุดได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่จะถึงตัวเซฟิรอสในอีกไม่กี่ก้าว
เซฟิรอสหอบหายใจ ดวงตาจ้องเขม็งมองธงประจำตระกูลลูเซียโน่ ภายในอกเต้นไม่เป็ส่ำ อันมาจากจินตนาการที่กำลังคาดเดาว่าผู้ใดอยู่ในรถยนต์
“ยาเซีย!”
เขารีบตะเกียกตะกายลุกขึ้น ตรงเข้าไปจะเปิดประตูรถยนต์ด้านหลัง แต่ก็ถูกแรงกระชากหนึ่งดึงออกมาจนไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะัักับตัวรถยนต์
“คุณครับ รู้หรือเปล่าว่านี่คือรถยนต์ลูเซียโน่!” อัลฟ่าชายตัวสูงใหญ่ในชุดสูทผู้หนึ่งที่เพิ่งผลุนผลันออกมาจากประตูข้างคนขับ กระชากตัวชายผู้เมามายออกมาไม่ให้เข้าไปทำอันตรายต่อผู้อยู่บนรถ
“เวรเอ๊ย! ฉันก็เป็ลูเซียโน่คนหนึ่ง รถยนต์คันนี้ฉันก็ขึ้นมาเป็ร้อย ๆ รอบ กล้าดีอย่างไรมาทำท่าเหมือนฉันเป็โจรลักขโมย!” เซฟิรอสพยายามสะบัดตัวให้หลุด ทว่าเรี่ยวแรงของคนรับใช้อัลฟ่าด้านหลังกลับมีมหาศาล มันราวกับคีบเหล็กที่บีบแน่นจนไม่อาจสลัดหลุด
“คนเมา?”
สุ้มเสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลหนึ่งดังขึ้น ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผู้หนึ่งปรากฏตัวออกมาจากที่นั่งเบาะหลังรถยนต์ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายประดับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ แต่ั์ตาสีอำพันซึ่งจับจ้องพิจารณาคนแปลกหน้ากลับราบเรียบเ็าจนเกือบไร้ความรู้สึก
เวลานั้นเซฟิรอสไม่ได้เห็นผู้ใดในสายตา เมื่อประตูด้านหลังรถยนต์ถูกเปิดออก เขาก็มองเห็นผู้ที่นั่งอยู่ในนั้น เพียวโอเมก้ารูปลักษณ์งดงามบอบบางกำลังผล็อยหลับ ศีรษะเอนพิงเข้ากับกรอบประตูอีกฝั่งบนรถยนต์ เส้นผมสีเงินยาวสลวยไหลปรกลงมาตามแรงโน้มถ่วง พาดผ่านใบหน้างาม ไหล่โค้งมนไปจรดอยู่ที่กลางหลัง
“ยาเซีย… อั่ก!” เซฟิรอสกำลังะโเรียกชื่อ แต่กลับถูกคนที่เพิ่งลงมาต่อยเข้าที่ช่องท้องอย่างแรง คำพูดที่เหลือถูกกลืนหายด้วยความเ็ปอย่างรุนแรง
“ชู่ว” ดีเลียนยกนิ้วชี้จรดริมฝีปาก “อย่าส่งเสียงดังสิครับ ภรรยาของผมกำลังพักผ่อนอยู่”
“จะทำอย่างไรกับคนผู้นี้ดีครับ” บอดีการ์ดของดีเลียนถาม
“แค่คนเมา ยังคิดวิธีจัดการไม่ได้?” ดีเลียนเอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ แต่กลับมีอานุภาพมากเพียงพอทำให้บอดีการ์ดผู้นั้นรีบร้อนหลุบสายตาด้วยความหวาดกลัว
“ขะ… ขอโทษครับ ผมแค่…”
“ทำอย่างไรก็ได้ อย่าให้มันมาปรากฏตัวต่อหน้ายาเซียอีก”
ดีเลียนเคลื่อนสายตามาสบกับั์ตาคนผู้นั้น ดวงตาสีทองวาววับ รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าครู่หนึ่งก่อนจะจางหายไปเมื่ออีกฝ่ายหมุนตัว เดินกลับขึ้นไปยังบนรถยนต์
เซฟิรอสอยากะโก่นด่า รวมทั้งร้องเรียกชื่อไฮยาซินท์แต่ตนก็ถูกบอดีการ์ดคนด้านหลังต่อยเข้าที่ท้องอย่างแรงอีกครั้ง ความเ็ปดูดกลืนเรี่ยวแรงจนแทบล้มทั้งยืน
บอดีการ์ดชายผู้นั้นกระชากร่างปวกเปียกของเซฟิรอสเดินไปอีกทาง ขณะที่เขาพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการดิ้นรน เวลานั้นตนก็พลันถูกผลักไปด้านหลังอย่างแรง
ตัวของเขาหงายลงไป ใบหน้าของคนตรงข้ามค่อย ๆ ห่างไกลเรื่อย ๆ ในขณะที่แผ่นหลังของตนกลับไม่กระทบพื้นเสียที
เซฟิรอสเบิกตากว้าง รู้แล้วว่าตนกำลังร่วงลงจากที่สูง และในตอนที่คิดได้เช่นนั้น ทั้งศีรษะทั้งแผ่นหลังก็กระแทกเข้ากับพื้นด้านหลังอย่างแรง
เพราะในบริเวณนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ยามร่างกระแทกเข้ากับพื้นด้านล่าง เสียงนั้นจึงดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณ ชัดเจนจนน่ากลัว
ใบหูได้ยินเสียงหวีดหวิวแหลมสูง ทั่วทั้งร่างชาดิก ในทัศนวิสัยมองเห็นร่างของบอดีการ์ดผู้นั้นที่สุดปลายสายตากำลังหมุนตัวเดินจากไป
เซฟิรอสถูกผลักตกลงมาจากบันไดหิน
เขาได้กลิ่นสนิมคาวเหล็ก หายใจแทบไม่ออกจนต้องพยายามอ้าปากเพื่อเก็บโกยอากาศ แต่ทุกครั้งที่แผ่นอกขยับขึ้นลง บริเวณหัวใจกลับคล้ายถูกมีดเสียดแทงลงมาจนเ็ปทุกข์ทรมาน
เซฟิรอสพยายามลุกแต่กลับพบว่าตนไร้เรี่ยวแรง สติมึนเบลอ อากาศหนาวเหน็บแทงทะลุเข้ามาจนถึงกระดูก วินาทีนั้นเขานึกหวาดกลัว ลมหายใจที่ขาดห้วงทำให้เริ่มนึกจินตนาการรูปลักษณ์ของความตาย
ความทรงจำของเซฟิรอสค่อย ๆ ไหลแล่นเข้ามา ม้วนฟิล์มถูกเล่นอีกครั้งและไปหยุดยังเหตุการณ์หนึ่งที่เคยเกิดขึ้น
เซฟิรอสกำลังยืนโต้เถียงกับไฮยาซินท์ ความกรุ่นโกรธเผาทำลายเส้นสติสัมปชัญญะจนขาดผึง ฝ่ามือของเขาพุ่งตรงไปหาไฮยาซินท์
อย่า…
อย่าทำเช่นนั้น…
เซฟิรอสกรีดร้องลั่น ทั้งที่เห็นแล้วว่าตนเองกำลังทำอะไรแต่เขากลับไม่สามารถควบคุมมันได้
ฝ่ามือของตนผลักไสร่างเล็ก ๆ นั้นร่วงหล่นจากที่สูง ตกลงสู่พื้นด้านล่าง
เสียงกระแทกของบางสิ่งบางอย่างที่ตกลงนั้นดังจนน่ากลัว ทว่าวินาทีนั้นเซฟิรอสกลับไม่ได้เห็น เพราะตัวเขาได้เดินจากออกไป โดยไม่คิดจะหันกลับไปมองคนที่ตนเพิ่งพลั้งมือทำร้าย
กลับไปสิ!
ไอ้สารเลว แกควรกลับไปดูเขา!
กลับไปดูภรรยาและลูกที่ถูกแกทำร้ายข้างล่าง!
แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามบังคับเท่าไร ภาพที่เห็นในสายตาก็คือตนที่เดินก้าวจากออกมาไกลแล้ว
เซฟิรอสนอนหอบหายใจ สติหลุดลอย ในขณะที่ร่างกายกลับเบาหวิว ไม่อาจััได้ถึงมันอีกแล้ว
การตกลงมาจากบันไดสูงนั้นแสนน่ากลัว ทั้งเ็ปและหนาวเหน็บ
คนผู้นั้นตัวเล็กนิดเดียว ร่างกายบอบบางแต่กลับต้องมารับความเ็ปที่มากมายมหาศาลเช่นนี้
ไฮยาซินท์ทนได้อย่างไร เหตุใดจึงไม่บอกเขาว่ามันเ็ปถึงเพียงนี้
คืนนี้เป็คืนพระจันทร์เต็มดวง บนท้องฟ้าไร้ซึ่งแสงดาว มีเพียงดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางผืนนภาอันแสนกว้างใหญ่
เสียงระฆังดังแว่วมาจากที่ใดสักแห่ง ในครรลองสายตากลายเป็แสงสว่างจ้าสาดส่องเข้ามาจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใด
แต่หูเขากลับยังได้ยิน จมูกยังได้กลิ่น
และหัวใจยังััได้ถึงความรักที่ครั้งหนึ่งมันเคยผลิบานขึ้นอย่างสวยงาม
เซฟิรอส ลูเซียโน่ คุณจะรับไฮยาซินท์ ลอเรนโซ่เป็ภรรยาหรือไม่ คุณจะดูแล รักใคร่และทะนุถนอมเขา ไม่ว่าจะยามป่วย ยามไข้และยามสบาย ซื่อสัตย์ตราบไปจนสิ้นลมหายใจหรือไม่
รับครับ
ผมเซฟิรอส ลูเซียโน่จะดูแล รักใคร่ ทะนุถนอมไม่ว่าจะยามป่วย ยามไข้ ยามสบาย และซื่อสัตย์กับไฮยาซินท์ ลอเรนโซ่แต่เพียงผู้เดียว
เงาหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง ท่ามกลางแสงสว่างอันเจิดจ้า อีกฝ่ายราวกับเป็หนึ่งเดียวของโลกที่มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา
คล้ายกับว่าวินาทีนั้นตนจะได้เห็นรอยยิ้มหนึ่งส่งมอบมาให้
ภาพที่สวยงามที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะเคยเห็น
รับครับ
และเสียงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะได้ฟัง
ไฮยาซินท์ ลอเรนโซ่จะดูแล รักใคร่ ทะนุถนอมไม่ว่าจะยามป่วย ยามไข้ ยามสบาย และซื่อสัตย์กับเซฟิรอสแต่เพียงผู้เดียว