ทั้งสองคนก็แยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว!
ตัวของเยี่ยหนานกระเด็นลอยถอยหลังไปยืนที่พื้น มองไปที่จ้าวหนีอิ่งที่ถอยหลังไปสิบกว่าหมี่เช่นกัน ดวงตาของนางฉายแววนับถือเป็ครั้งแรก แม้ว่าอีกฝ่ายจะกระเด็นถอยหลังไปมากกว่านางถึงสองหมี่ แต่ไม่ว่าจะเป็อายุหรือพลังยุทธ์ อีกฝ่ายก็ล้วนน้อยกว่านางทั้งคู่ อย่างน้อยๆ เยี่ยหนานก็เข้าใจดีว่า ในตอนที่นางยังมีอายุและพลังยุทธ์เท่านั้น ไม่มีทางที่จะมีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเท่านี้แน่นอน!
“ความสามารถของน้องสาวทำให้พี่สาวคนนี้ทึ่งจริงๆ แต่ชัยชนะในครั้งนี้ก็ยังคงเป็ของพวกเรา ตอนนี้ข้าจะให้น้องสาวได้เห็นพลังที่แท้จริงของข้า!”
หลังจากที่เยี่ยหนานพูดประโยคนี้ พลังิญญาอันทรงพลังก็ไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ตัวของนางแผ่พลังที่น่าทึ่งออกมา และดาบรวมอัคคีก็กลายเป็ัไฟ และพุ่งตรงไปยังอีกฝั่งทันที!
‘ัอัคคีขย้ำ’
คราวนี้เยี่ยหนานไม่ได้ยั้งมืออีกต่อไปแล้ว นางไม่เพียงแต่้าจะเอาชนะอย่างงดงามในศึกนี้เท่านั้น แต่ยัง้าทำให้ให้เหล่าศิษย์ของทั้งสองสำนักได้เห็นด้วยว่า ศิษย์อัจฉริยะของสำนักแม่มดเพลิงร้อนนั้นแข็งแกร่งเพียงใด!
ัไฟบนท้องฟ้าได้แผ่ความร้อนระอุไปทั่ว แต่ดวงตาที่งดงามของจ้าวหนีอิ่งกลับสว่างไสวขึ้นมา
ดาบยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งสามารถดึงเอาศักยภาพของตนเองออกมาได้ดียิ่งขึ้น และยิ่งสามารถบรรลุขึ้นชั้นต่อไปได้อย่างรวดเร็วขึ้นเพื่อเปิดขดพลังิญญาขดที่สามด้วย!
การที่ตนเองเลือกออกมาสู้นั้นเป็ตัวเลือกที่ถูกต้องแล้วจริงๆ ไม่เพียงแต่เพื่อบรรลุเท่านั้น แต่ยังเป็การเอาชนะการเดิมพันครั้งนี้อย่างสุดความสามารถด้วย
ดาบสายลมชำระวังจันทรากวัดแกว่งอีกครั้ง ลมสลาตันถูกปล่อยออกไป
ลมสลาตันไม่เพียงแต่เป็กระบวนท่าโจมตีที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังเป็กระบวนท่าป้องกันชั้นยอดด้วยเช่นกัน
“แกร๊งๆๆ...” เสียงดาบกระทบกันอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง!
ทั้งสองคนพุ่งเข้าหากันจนกลายเป็ลำแสงสีเขียวและสีแดง เปลวเพลิงะเิออก สายลมแตกกระจาย
พร้อมเสียงที่ดังสนั่นไปทั่ว!
พื้นน้ำแข็งโดยรอบของการต่อสู้อันดุเดือดของหญิงสาวทั้งสอง เกิดเป็รอยเฉือนที่มองไม่เห็นก้นหลุม เพิ่มขึ้นหลายรอยั้แ่หลายสิบไปจนถึงหลายร้อยรอย แผ่ขยายออกไปรอบๆ ราวกับใยแมงมุม
“แกร๊ง” พร้อมด้วยเสียงดังสนั่น
ร่างทั้งสองก็แยกออกจากกันอีกครั้ง!
เยี่ยหนานลงมายืนบนพื้นได้อย่างนุ่มนวล ในขณะที่จ้าวหนีอิ่งลงมายืนที่พื้นได้ก็ต้องเซถอยหลังไปอีกสองก้าว ชุดสีขาวบริสุทธิ์ของนางขาดวิ่น แขนเสื้อข้างซ้ายหายไปทั้งแขน ที่กระโปรงถูกฟันขาดไปหนึ่งส่วน แม้แต่ที่บริเวณหน้าอกก็ยังมีรอยขาดเล็กๆ จนมองเห็นเสื้อผ้าชั้นในที่แนบชิดติดเนื้อครึ่งวงกลมที่อวบอิ่มได้รางๆ
แน่นอนว่าจุดที่เด่นสะดุดตาที่สุดก็คือบริเวณแขนซ้ายที่มีาแเยาวประมาณหนึ่งชุ่น จุดสีแดงเล็กๆ บนแขนขาวราวหยกของนางนั้นช่างน่าตกตะลึงยิ่งนัก
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว สีหน้าของหม่าิฮุ่ย ถังเซียว และคนอื่นๆ ก็พากันเคร่งเครียดทันใด
เมื่อเทียบกับอีกฝ่ายแล้ว พลังยุทธ์ของศิษย์น้องนั้นยังคงด้อยกว่าอีกฝ่ายอยู่เล็กน้อย ไม่ว่าจะอัจฉริยะมากเพียงใด แต่ความแตกต่างของพลังยุทธ์นั้นก็ไม่ใช่อะไรที่สามารถชดเชยกันได้ง่ายๆ
ทางด้านเลี่ยวเคอ หลิ่วเฉิงิ่และคนอื่นๆ ต่างก็แสดงสีหน้ายินดีออกมา ราวกับว่ารอบแรกฝ่ายตนเป็ผู้ชนะแน่แล้ว!
จ้าวหนีอิ่งรู้สึกได้ถึงกำแพงที่เริ่มพังทลายลงในกายของนาง ซึ่งยังขาดอยู่อีกนิดหน่อยเท่านั้น! อีกแค่เพียงนิดเดียวก็จะสามารถบรรลุได้แล้ว! ในใจของนางจึงบังเกิดไฟต่อสู้ลุกโชนยิ่งขึ้นไปอีก มองไปทางเยี่ยหนานที่อยู่ตรงหน้าและกล่าว “พี่สาว มีความสามารถแค่เพียงเท่านี้เองหรือ แบบนี้ยังคงห่างไกลจากการที่จะล้มข้าได้นัก!”
“อย่างนั้นหรือ?” เยี่ยหนานพูดด้วยเสียงนุ่มนวล ในขณะเสียงที่เสียงของนางยังคงก้องอยู่ในอากาศ ตัวของนางก็พุ่งออกไปอีกครั้ง
เกิดควันสีแดงพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า น้ำแข็งกับหิมะก็เริ่มละลาย
กลายเป็กระบวนท่าัอัคคีขย้ำอีกครั้ง แต่คราวนี้ทรงพลังยิ่งกว่าครั้งก่อนนัก!
“ดี!” จ้าวหนีอิ่งะโเสียงดัง พลังิญญาในกายไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง ดาบวิเศษในมือปลดปล่อยคลื่นดาบซ้อนทับกันเป็ชั้นๆ ออกมาอีกครั้งเพื่อต้อนรับัไฟที่ถาโถมเข้ามา เข้าเผชิญหน้ากันตรงๆ โดยไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย
“ดี!” อีกเสียงดังขึ้นมาอีก แต่คราวนี้เป็เสียงของฉินหรูเยียนที่รักษาอาการาเ็จนหายดีแล้ว กำลังจับจ้องไปยังท่วงท่าอันน่าเกรงขามของจ้าวหนีอิ่ง ไม่ลังเลที่จะส่งเสียงร้องชื่นชมแก่เพื่อนสนิทของนาง
“เปรี้ยง!” คราวนี้ไม่มีเสียงของดาบกระทบกันแล้ว แต่เป็เสียงของพลังิญญาที่ปะทะกันอย่างหนักหน่วงแทน! เกิดกระแสพลังิญญารุนแรงพัดกระโชกออกมาราวกับพายุ!
เศษน้ำแข็งผสมกับก้อนน้ำแข็งขนาดเท่ากำปั้นกระเด็นไปทั่วทุกทิศทาง แล้วร่างทั้งคู่ก็แยกออกจากกันอีกครั้ง
เยี่ยหนานลงมายืนบนพื้น ถอยหลังไปถึงสามก้าวจึงจะทรงตัวได้ ในขณะที่จ้าวหนีอิ่ง ร่างกายของนางกระเด็นออกไปถึงยี่สิบหมี่ในทันที ก่อนที่ตัวของนางจะตีลังกากลับตัวกลางอากาศ ‘ตุบ!’ แล้วเท้าทั้งสองของก็จมลงไปในชั้นน้ำแข็งจนลึกถึงหัวเข่า ‘แกร๊กๆ!’ จากนั้นก็เกิดรอยแตกของน้ำแข็งรอบๆ เท้านาง
ชั่วขณะต่อมา ‘ป๊อก’ เสียงเบาๆ ดังขึ้นที่บริเวณท้องของจ้าวหนีอิ่ง แล้วร่างกายอันบอบบางของจ้าวหนีอิ่งก็สั่นสะท้าน และมีเสียงดังดังขึ้นอย่างถี่ๆ จ้าวหนีอิ่งที่ดูอ่อนล้าเมื่อก่อนหน้านี้ กลับฟื้นฟูลมหายใจของตัวเองด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง
ทางด้านพวกถังเซียวกับเฉียนหม่านควง...หรือแม้แต่พวกเลี่ยวเคอกับหลิ่วเฉิงิ่ต่างก็พากันตาเบิกกว้าง นี่มัน...การบรรลุ!
นางสามารถบรรลุและไต่ขึ้นไปอีกระดับในขณะที่กำลังต่อสู้ได้จริงๆ หรือนี่ เด็กสาวคนนี้...
เยี่ยหนานก็มีความไม่เชื่อสายตาปรากฏขึ้นในดวงตาที่งดงามของนางด้วยเช่นกัน บ้าน่า เด็กสาวคนนี้สามารถบรรลุชั้นได้ในระหว่างการต่อสู้อย่างนั้นหรือ!
ชั่วขณะต่อมา ความมั่นใจอันแข็งแกร่งของนางก็เพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง บรรลุชั้นได้แล้วจะทำไม อย่างไรเสียนางก็ยังเอาชนะได้อยู่ดี!
พลังิญญาในกายไหลเวียนด้วยความเร็วที่ไม่เคยเป็มาก่อน!
“แกร๊ก!” ชั้นน้ำแข็งที่ใต้ฝ่าเท้าแตกเป็เสี่ยงๆ ร่างอันเพรียวบางพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ดาบรวมอัคคีในมือกวัดแกว่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ภายในชั่วพริบตา ปรากฏคลื่นดาบอันร้อนแรงถึงแปดสิบเอ็ดชั้น ก่อตัวเป็คลื่นดาบร้อนระอุขนาดั์ในอากาศที่มีความสูงถึงสิบจั้งและความกว้างถึงสามจั้ง โหมกระหน่ำใส่จ้าวหนีอิ่ง
‘เพลิงะเืกลืนกิน’
ท่าไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของเยี่ยหนานในเวลานี้
ภายในคลื่นดาบทั้งแปดสิบเอ็ดชั้นนั้น ไม่เพียงแต่จะเต็มไปด้วยพลังิญญาจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังปล่อยพลังธาตุไฟอันเป็เอกลักษณ์เฉพาะของอาวุธระดับิญญาขั้นกลางของดาบรวมอัคคีออกมาด้วย คลื่นดาบแต่ละชั้นจะมีพลังธาตุไฟที่ถูกจารึกและผนึกเอาไว้ในอาวุธวิเศษนี้!
“ฮ่าๆ ในที่สุดศิษย์พี่หญิงก็ใช้ท่าไม้ตายแล้ว บรรลุในระหว่างการต่อสู้แล้วอย่างไร พลังยุทธ์ซึ่งยังไม่เข้าที่เข้าทางจะสามารถปล่อยพลังออกมาได้สักแค่ไหนกันเชียว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเพลิงะเืกลืนกินของศิษย์พี่หญิงก็ยังต้องยอมสยบอยู่ดีนั่นแหละ!” ศิษย์คนหนึ่งของสำนักแม่มดเพลิงร้อนกล่าวด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเผชิญหน้ากับท่าไม้ตายของเยี่ยหนาน
จ้าวหนีอิ่งที่เพิ่งจะเปิดขดพลังิญญาขดที่สามได้สำเร็จกลับทำเหมือนกลับมองไม่เห็นมัน แถมยังหลับตาลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลานี้เยี่ยหนานรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติไปเล็กน้อย ราวกับว่าสายตาของอีกฝ่ายได้กลายเป็พลังดาบที่เฉียบคมสองสายพุ่งทะลวงผ่านอากาศมา
ชั่วขณะต่อมา
มีเสียงดังก้องออกมาจากปากของจ้าวหนีอิ่ง
“สลาย!”
ดาบสายลมชำระวังจันทราถูกฟันออกไปอย่างเงียบสงัด
เมื่อพลังดาบนี้พุ่งออกไป เหล่าศิษย์ของทั้งสองสำนักที่เฝ้าดูอยู่ต่างก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้แผ่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ จากนั้นพวกเขาก็ััได้ว่าอาวุธวิเศษในมือ ที่หลัง และที่เอวของตนต่างก็ส่งเสียงร้องหึ่งๆ ้าจะออกจากมือและจากฝัก พุ่งไปตามแสงดาบน่าสะพรึงกลัวที่ถูกฟาดฟันออกไป
เจตจำนงดาบ!
โอ้์ เจตจำนงดาบหรอกหรือ!
นี่มันเจตจำนงดาบของจริง!
