“อารอง เดิมทีฉันเองก็ไม่อยากเล่า แต่ในเมื่ออาเจอกับเสี่ยวหลานแล้วฉันคงต้องบอกเื่นี้กับอา หนึ่งปีที่คุณอาไม่อยู่ เกิดเื่มากมาย ที่บ้าน ข่าวดีแรกคือเสี่ยวหลานสอบติดมหาวิทยาลัยหัวชิง แถมตอนนี้ยังมีคู่ครองที่ครอบครัวไม่ธรรมดา เธอกับอาสะใภ้รองมีชีวิตที่ดีมาก ส่วนเื่ที่สอง มือของพ่อฉัน มือของเขา...”
เซี่ยจื่ออวี้สะอึกสะอื้นออกมาทันทีเมื่อพูดถึงมือของเซี่ยฉางเจิง
สถานการณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นเซี่ยต้าจวินรู้มาไม่น้อย แต่พอเห็นเซี่ยจื่ออวี้ร้องไห้ออกมาเช่นนี้ เซี่ยต้าจวินก็รู้สึกร้อนใจขึ้น “มือของพ่อหลานเป็อะไร”
“เพื่อหาเงิน เขากับแม่ฉันจึงไปเปิดแผงขายอาหารว่างริมทางในเมืองมณฑล ทว่าตกกลางคืนเขากลับถูกคนดักทำร้ายในซอย พอนำตัวไปส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่ามือซ้ายของเขากระดูกหัก แต่มือขวาได้รับาเ็สาหัสจนต้องตัดทิ้ง”
เซี่ยต้าจวินสูดหายใจเฮือก
ตัดทิ้งรึ?
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พี่ใหญ่ของเขาก็กลายเป็คนพิการแล้วน่ะสิ!
ตอนนั้นวินาทีที่เซี่ยต้าจวินรู้ว่าตนอาจจะลุกขึ้นยืนไม่ได้อีก เขารู้สึกราวกับท้องฟ้ามืดไปหมด ต่อให้ตู้เ้าฮุยจะให้เงินเดือนเหมือนปกติ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อยากกลายเป็คนพิการ
มือขวาเป็มือข้างที่ถนัด ใช้กินข้าวและทำงานหาเลี้ยงชีพ เมื่อไม่มีมือขวาแล้วจะใช้ชีวิตอย่างไร?
“หาตัวคนร้ายเจอหรือยัง”
เซี่ยต้าจวินถามเสียงเครียด เขาคิดว่าเป็เพราะตนออกจากบ้านเซี่ยมาอย่างกะทันหัน ทำให้ที่บ้านไม่มีเงินส่งเสียหลานสาวให้เข้าเรียน เซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยจึงต้องออกไปเปิดร้านขายอาหารว่างในเมืองมณฑล
“จับตัวไม่ได้เลยค่ะ มันมืดเกินไป พ่อฉันมองไม่เห็นว่าใครเป็คนทำ”
เห็นเซี่ยจื่ออวี้มีท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ เซี่ยต้าจวินย่อมถามต่อ เซี่ยจื่ออวี้ถูกเค้นถามจนต้องเล่าสิ่งที่หวังเจี้ยนหัวกล่าวไว้ เซี่ยจื่ออวี้สงสัยว่าคนที่ทำร้ายเซี่ยฉางเจิงจะเป็เซี่ยเสี่ยวหลาน เนื่องจากตอนนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานได้รับาเ็ที่มือพอดี ดังนั้นเธอย่อมอยากคิดบัญชีกับเซี่ยฉางเจิงอย่างแน่นอน
“พ่อฉันจะหาคนไปทำร้ายเธอได้อย่างไรกัน!”
เซี่ยต้าจวินทุบกำปั้นลงบนที่วางแขน จื่ออวี้พูดถูก ตอนนี้เขาไม่กล้าเรียกเซี่ยเสี่ยวหลานว่าลูกสาวอีกแล้ว
ขนาดพ่อบังเกิดเกล้ายังไม่ยอมรับ ทำร้ายมือของลุงตัวเองจนพิการคงไม่ใช่เื่แปลกอะไร
“จื่ออวี้ เป็อาที่สอนเด็กคนนั้นไม่ดีพอ อาผิดต่อพ่อของหลานแล้วจริงๆ”
เซี่ยจื่ออวี้ทำได้เพียงยิ้มเจื่อน “อารอง เราเป็ครอบครัวเดียวกัน มีอะไรให้ต้องขอโทษกันล่ะคะ ถ้ามีใครที่ควรขอโทษก็คงจะเป็ฉัน หากรู้ว่าเสี่ยวหลานโมโหร้ายแบบนี้ ให้ตายฉันก็ไม่มีวันคบกับเจี้ยนหัวแน่นอน เป็ฉันที่ทำผิดต่อเธอก่อน ถ้าตอนนั้นฉันยกเจี้ยนหัวให้เสี่ยวหลาน ครอบครัวของเราก็คงยังรักกันดี!”
นั่นสินะ ทำไมเื่ราวถึงกลายมาเป็เฉกเช่นทุกวันนี้ได้กัน?
บางทีมือของพี่ใหญ่อาจจะเป็เซี่ยเสี่ยวหลานที่บงการคนอื่นให้ไปทำร้ายจริง คู่ครองของเซี่ยเสี่ยวหลานเองเช่นกัน ยังหนุ่มแท้ๆ แต่กลับไม่เคารพเขา ผู้าุโก็ข่มขู่เขา คนเ่าั้ไม่ใช่คนดีสักคน
แค่เื่มือของพี่ใหญ่ที่ต้องพิการ เขาก็ไม่อาจยอมรับว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็ลูกสาวของเขาได้อีกแล้ว
เขาคงไม่ดวงดีขนาดนั้น ไม่มีบุญถึงขั้นมีลูกสาวที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เซี่ยต้าจวินได้แต่คิดอย่างสิ้นหวัง
“อย่าพูดถึงเธออีกเลย มือของพ่อหลานไม่มีพยานรู้เห็นเช่นนั้น อย่างไรเธอก็ไม่มีวันยอมรับ ในอนาคตอาจะชดเชยให้พ่อของหลานเอง ตอนนี้อามีเงินเดือนแล้ว ต่อไปเื่เรียนหลานก็ไม่ต้องกังวลอีก! หากตระกูลหวังดูถูกหลาน หลานก็ไม่ต้องไปใช้เงินของพวกเขา คนแซ่เซี่ยอย่างพวกเราจำเป็ต้องเป็ชาวไร่ชาวนาไปตลอดชีวิตอย่างนั้นหรือ!”
เซี่ยจื่ออวี้จงใจชักนำ สุดท้ายสองอาหลานก็กอดคอพากันร้องไห้คร่ำครวญ
เซี่ยต้าจวินนั้นเชื่อใจเซี่ยจื่ออวี้มาก ดังนั้นเขาจึงเล่าสิ่งที่ตู้เ้าฮุยเพิ่งพบเจอมาให้เซี่ยจื้ออวี้ฟัง “คุณชายใหญ่อาจจะไม่ว่างมาเจอหลาน”
อย่างนี้นี่เอง
เซี่ยจื่ออวี้หยุดคิด “อารองคะ อาแค่ไปถามเขาก็พอแล้ว รับรองว่าเถ้าแก่ตู้ต้องอยากเจอฉันแน่นอน คนอื่นอาจไม่รู้เื่ครอบครัวคู่ครองของเสี่ยวหลาน แต่ฉันรู้ค่ะ”
ได้ใช้เื่ส่วนตัวของเซี่ยเสี่ยวหลานมาเป็ใบเบิกทาง เซี่ยจื่ออวี้รู้สึกย่ามใจเหลือเกิน
เธอจะต้องหยั่งเชิงดูว่าตู้เ้าฮุยคนนี้เป็คนแบบไหน จะให้เธอหงายไพ่ของตัวเองจนหมดได้อย่างไร ดังนั้นตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานจึงกลายเป็ข้ออ้างชั้นดีของเธอ
เมื่อครู่เธอหลอกถามเซี่ยต้าจวินมาแล้ว และได้ความว่าตอนนี้เซี่ยต้าจวินได้เงินเดือนสามพันกว่าดอลลาร์ฮ่องกง คนชนบทไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนั้น ถึงได้บอกว่าเซี่ยต้าจวินรวยแล้วน่ะสิ
นี่เรียกว่ารวยที่ไหนกัน?
ต่อให้เซี่ยต้าจวินยกเงินเดือนให้เซี่ยจื่ออวี้ทั้งหมด เธอก็ยังรู้สึกว่ามันน้อยเกินไป
ถึงจะไม่กินไม่ใช้ ปีหนึ่งก็ได้เงินแค่สี่หมื่นหยวน และหาก้าซื้อเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่ง เซี่ยต้าจวินต้องเก็บเงินถึงสองปี!
แน่นอนว่าเงินเดือนของเซี่ยต้าจวินอาจจะไม่มากพอสำหรับการซื้อบ้าน แต่อย่างไรก็สามารถใช้ทำอย่างอื่นได้ เซี่ยจื่ออวี้ตั้งใจพูดเื่เซี่ยฉางเจิงมือพิการ เพราะอยากทำให้เซี่ยต้าจวินรู้สึกผิด อีกหน่อยเธอจะได้ใช้เงินของเซี่ยต้าจวินได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจนั่นเอง
เมื่อจัดการกับเซี่ยต้าจวินได้อยู่หมัด เซี่ยจื่ออวี้ก็อยากเจอกับตู้เ้าฮุย เธอมีลางสังหรณ์ว่าความลำบากของตนจะถูกแก้ไขได้ด้วยการพึ่งพาตู้เ้าฮุยคนนี้
เ้านายจะอยากเจอจื่ออวี้จริงหรือ?
เซี่ยต้าจวินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าเขารู้ตัวดีว่าตนฉลาดสู้หลานสาวไม่ได้ อีกทั้งตอนนี้เขาทั้งซาบซึ้งและรู้สึกผิดต่อเซี่ยจื้ออวี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็เื่ไหน เขาย่อมเชื่อฟังเซี่ยจื่ออวี้อย่างสุดหัวใจ
เช่นนั้นก็ลองถามดู อย่างมากคงแค่ถูกด่า ถึงอย่างไรเขาก็ถูกตู้เ้าฮุยด่าจนชินแล้วน่ะสิ
—--------------------------------------------------
“หลานสาวแกอยากเจอฉัน?”
ตู้เ้าฮุยมีสีหน้าบูดบึ้ง เซี่ยจื้ออวี้คนนั้นนึกว่าตัวเองเป็ใครกัน ผู้หญิงจากไหนก็สามารถเจอเขาได้อย่างนั้นหรือ แน่นอนว่าตอนนี้ตู้เ้าฮุยไม่สนใจสาวงามที่ไหนทั้งนั้น
“คุณชายใหญ่ หลานสาวผมเองก็เรียนมหาลัยอยู่ปักกิ่ง เธอบอกว่าเธอรู้เื่ครอบครัวของคู่ครองเสี่ยวหลานครับ”
พอได้ยินเซี่ยต้าจวินพูดเช่นนี้ ตู้เ้าฮุยก็นึกขึ้นได้ทันที ตอนเขาไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานที่หัวชิง เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าไม่อยากไปฮ่องกงและให้เขาไปหาหลานสาวของเซี่ยต้าจวิน เพราะอีกฝ่ายคงดีใจแน่นอน
เรียนอยู่ปักกิ่งเหมือนกัน แถมยังเป็ลูกพี่ลูกน้อง ย่อมรู้ข่าวคราวของเซี่ยเสี่ยวหลานได้ไม่ยาก
ตู้เ้าฮุยยินดีเสียเวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อทำความเข้าใจเื่ราว ที่นี่คือแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่ถิ่นของเขา ประวัติคังเหลียนินั้นสืบได้ไม่ยากเพราะเขาเป็คนใหญ่คนโต แต่ถ้าอยากสืบเื่ของโจวเฉิงคงไม่ได้รายละเอียดในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน
เซี่ยจื่ออวี้มาโรงพยาบาลอย่างลับๆ ล่อๆ เพราะเธอไม่้าเจอเซี่ยเสี่ยวหลานโดยบังเอิญ
หลังเธอเข้ามาในห้องของตู้เ้าฮุย ตู้เ้าฮุยก็รู้สึกว่าต้องเป็แบบนี้สิถึงจะถูกต้อง เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีตรงไหนที่เหมือนลูกสาวของเซี่ยต้าจวินแม้แต่น้อย ทว่าผู้หญิงที่เดินเข้าห้องมาคนนี้ช่างสมกับที่เป็หลานสาวของเซี่ยต้าจวินเหลือเกิน
แม้เซี่ยจื่ออวี้จะไม่อัปลักษณ์ แต่ก็ไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจตู้เ้าฮุยสักนิด รสนิยมของเขาถูกดาราสาวของฮ่องกงบ่มเพาะ ดังนั้นในสายตาของเขา เซี่ยจื่ออวี้นั้นช่างดูเชยะเิ ไหนจะยังรอยแผลเป็จางๆ ที่แก้มนั่นอีก
ตู้เ้าฮุยพูดเสียงเนือย “สวัสดีครับคุณเซี่ย ได้ยินว่าคุณมีเื่อยากคุยกับผมหรือ”
ไม่ยอมให้เซี่ยต้าจวินเอาข้อมูลมาบอก ตู้เ้าฮุยจึงนึกว่าเซี่ยจื่ออวี้้ายั่วยวนเขา แต่ดูจากสภาพของเธอแล้ว คุณชายใหญ่ตู้ก็ล้มเลิกความคิดนั้นทันที คนเราควรรู้จักเจียมตัว เซี่ยจื่ออวี้เองก็อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องอึดอัดใจเด็ดขาด
“เถ้าแก่ตู้ ที่ฉันมาหาคุณไม่ใช่เพราะมีจุดประสงค์อย่างที่คุณคิด ตอนนี้พวกเราต่างก็ไม่ชอบคนคนเดียวกัน เช่นนั้นเราคงสามารถร่วมมือกันได้ คุณคิดว่าอย่างไรคะ”
โอ้ สองสาวตระกูลเซี่ยช่างน่าสนใจยิ่งนัก
ตู้เ้าฮุยกำลังรู้สึกหงุดหงิดใจ แต่คำพูดของเซี่ยจื่ออวี้เกือบทำเขาหลุดหัวเราะออกมา คนหนึ่งเขาอยากร่วมมือด้วยแต่ดันปฏิเสธ ส่วนอีกคนมาหาถึงที่เพื่อขอให้เขาร่วมมือด้วย มนุษย์เรามักชื่นชอบเื่ท้าทาย การที่เซี่ยเสี่ยวหลานปฏิเสธตู้เ้าฮุยเช่นนั้น ถึงแม้จะทำให้ตู้เ้าฮุยรู้สึกไม่ชอบใจ ทว่านั่นยิ่งทำให้เขาให้ความสำคัญกับเซี่ยเสี่ยวหลานมากว่าเดิม
ส่วนคนที่มาเสนอตัวถึงที่เช่นนี้ ตู้เ้าฮุยไม่คิดจะให้คุณค่าแม้แต่น้อย
“ลองว่ามาสิครับ พวกเราจะร่วมมือกันอย่างไร คุณเซี่ย ผมคิดว่าตอนนี้คุณยังไม่มีสิ่งที่ผม้า ถ้าอยากร่วมมือกับผมจริงก็ต้องแสดงคุณค่าของคุณออกมาให้ผมเห็นก่อนนะครับ”
เล่าเื่ตลกก็นับว่าเป็ความสามารถอย่างหนึ่ง ตู้เ้าฮุยเตรียมตัวฟังสิ่งที่เซี่ยจื่ออวี้กำลังจะพูด