มันเป็คลื่นบุกรุกทางจิติญญา ทักษะดวงเนตรของหนิงเทียนถูกทำลายลงทันทีพร้อมพลังอันน่าสะพรึงกลัวและชั่วร้ายที่ฝังแน่นลงในใจ ทำให้ภาพลวงตาที่อยู่ต่อหน้าถือกำเนิดขึ้นใหม่ ก่อนกลายเป็เงาปีศาจมากมาย
ร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากพื้นดินราวกับผีบนูเาที่เปลือยเปล่า พร้อมเปล่งคำสาปและปล่อยความอาฆาตพยาบาทออกมา
ิญญาเหล่านี้ล้วนคาดเดาไม่ได้ ส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตเปลี่ยนผ่านและ์ พวกมันต่างจ้องมองหนิงเทียนและอยากจะฉีกเขาให้เป็ผุยผง
จิตใจของหนิงเทียนสั่นคลอน จิตสำนึกว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่ง เขาถูกรุกรานโดยความคิดแปลกๆ ที่ปล่อยออกมาจากดวงตานั้น
ต่อมาเส้นลมปราณทั้งเก้าในร่างกายของหนิงเทียนก็เริ่มสั่นะเื ประตูสู่์เปล่งประกายเหนือแผนที่จิติญญาเก้ามิติ ก่อนปล่อยพลังลึกลับที่ระงับความเป็นิรันดร์และทำลายความคิดบุกรุกด้วยเสียงที่ดังก้อง
หนิงเทียนได้สติอีกครั้ง ภาพลวงตาในดวงตาหายไป แต่กระดูกอันเงียบงันเ่าั้กลับมีชีวิตขึ้นมา
กรงเล็บเหี่ยวเฉาโผล่ออกมาจากพื้นดิน กระดูกมืองอและเคลื่อนไหว จากนั้นแขนก็โผล่ออกมาจากดินราวกับิญญาชั่วร้ายใต้ดินกำลังจะปรากฏตัว
พลังประหลาดปกคลุมสถานที่แห่งนี้โดยกำเนิดจากลูกตานั้น ซึ่งควบคุมกระดูกคนตายเหล่านี้ และเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็โครงกระดูกเดินได้
หนิงเทียนใกลัว ดอกไม้ ต้นไม้ ต้นหญ้า และเถาวัลย์รอบตัวต่างเตือนเขาให้รีบหนีไปทันที มันร้องเตือนว่าเหตุร้ายกำลังจะเกิดขึ้นที่นี่
หนิงเทียนมองหญิงสาวที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน มองกริชบนหน้าอกของนาง และััได้ว่าพลังชั่วร้ายออกมาจากตรงนั้น ทั้งยังแผ่กระจายไปทั่วูเา ก่อนจะควบคุมเหล่าโครงกระดูก
“ถอย!” จิตใจหนิงเทียนไม่อาจรักษาความสงบไว้ได้อีก ขณะที่การเปลี่ยนแปลงในูเายังคงดำเนินต่อไป ต้นหญ้าและดอกไม้เคลื่อนตัวอยู่ใต้เท้าเพื่อพาเขาออกไปด้วยความเร็วสูง
เ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียวกำลังต่อสู้กับศัตรูกลางอากาศ ฟ้าร้องและฟ้าผ่าที่รุนแรงผสมกับพลังของปราณกระบี่ทำให้ใบไผ่ฉีกเป็เสี่ยงๆ และบดขยี้ห้วงมิติลงทีละส่วน
ใบไผ่สีเขียวคำรามและสั่นะเืภายในม่านหมอก สะท้อนปราณกระบี่สายฟ้า ก่อนจะทะลุผ่านชั้นของการปิดล้อมและพุ่งเข้าหากองทัพโครงกระดูกที่อยู่บนพื้น
กระดูกที่โผล่ออกมาจากพื้นดินพุ่งขึ้นมา ก่อนจะเริ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเมื่อการโจมตีต่างๆ มากันก็ก่อตัวเป็เสาแสงสีเทาดำ
ใบไผ่สั่นะเื พลังอันแหลมคมช่างยิ่งใหญ่ ด้วยพลังแห่งความโกลาหล มันแยกเสาแสงสีเทาดำซึ่งเหมือนแสงแห่งความตาย ก่อนจะหมุนวนทำลายกระดูกหลายร้อยชิ้นในทันที
ท่ามกลางลมแรง กระดูกกลายเป็ขี้เถ้าและพัดลอยไปกับสายลม แบกรับความขุ่นเคืองอันไร้ขอบเขตก่อนจะสลายไปอย่างไร้ร่องรอย
หนิงเทียนบังเอิญเห็นฉากนี้จากระยะไกล และเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
สตรีใต้ดินคือใคร? ทำไมร่างกายถึงไม่เน่าเปื่อย?
ผู้ใดกันที่ปักกริชแสนชั่วร้ายและแปลกประหลาดไว้บนร่างของนาง?
เหตุใดไผ่เขียวจึงโจมตีศพเหล่านี้? หรือนี่คือการปกป้องสถานที่แห่งนี้หรือ?
ปรมาจารย์ที่ควบคุมฟ้าร้องและฟ้าผ่ากระบี่อันสูงสุดมาจากที่ใด?
ทันใดนั้นพลังประหลาดก็มาถึงบนยอดเขา โครงกระดูกสีม่วงดำะเิพลังวิเศษออกมาและทำลายใบไผ่ด้วยหมัดเดียว
หนิงเทียนอุทานอย่างใ “โครงกระดูกระดับปรมาจารย์! นี่เขายังรักษาความแข็งแกร่งส่วนใหญ่เมื่อครั้งยังมีชีวิตเอาไว้ได้ด้วยหรือ?”
ดินบนพื้นเริ่มแตกร้าว โครงกระดูกโผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เรียงกันอย่างเรียบร้อยราวกับกองทัพโครงกระดูก ซึ่งน่าสะพรึงกลัวมาก
ไหมอากาศสีดำโผล่ออกมาจากพื้นดิน ก่อนกลายเป็หมอกทมิฬ ที่มีรูปร่างคล้ายเมฆดำปกคลุมยอดเขา
หนิงเทียนยังคงล่าถอย แต่ดวงตาของเขาจ้องมองไปตรงนั้นอย่างแน่วแน่
ในไม่ช้าร่างที่มีเืเนื้อก็ปรากฏขึ้น และหนิงเทียนก็ต้องตกตะลึง
ผู้หญิงนั่งขัดสมาธิใต้ดินโผล่ออกมาจากพื้นดิน เสื้อผ้าขาวเปื้อนฝุ่น ผมเปื้อนยามกับผ่านการย้อมสี ใบหน้าพร้อมคุณสมบัติอันบอบบางและดวงตาที่เ็าโเี้คู่หนึ่งบังคับให้หนิงเทียนต้องหลบให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็ไปได้
กริชยังปักแน่นบนหน้าอกของสตรีผู้นั้น เืสีดำแห้งเหือดไปนานแล้ว
กริชส่องประกายแสงสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง มีพลังชั่วร้ายที่อธิบายไม่ได้ในดวงตาราวกับสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในพริบตา
แม้สตรีผู้นี้จะถูกฝังใต้ดินมาเป็เวลานาน แต่นางยังคงมีความงามที่น่าทึ่ง หากนางล้างหน้าสักหน่อย นางคงมีความสง่างามที่ไม่มีใครเทียบได้เป็แน่ สิ่งนี้ทำให้หนิงเทียนนึกถึงคำพูดเ่าั้ ในอดีตก่อนที่เ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียวจะเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน เขาพบกับสตรีหยวนซิวผู้ทรงพลังซึ่งมีความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่อาจเป็นางใช่หรือไม่?
กองทัพโครงกระดูกเกือบพันตัวล้อมรอบหญิงสาวไว้ราวเกราะป้องกันที่แ่า
สตรีผู้นั้นเงยหน้าเล็กน้อยและมองไปในทิศทางที่หนิงเทียนกำลังถอยหนี นางกำลังมองหนิงเทียนหรือแค่มองมาในทิศทางนี้กันแน่?
เ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียวสังเกตเห็นลักษณะของหญิงสาวในชุดสีขาว จากนั้นร่างหนึ่งก็โผล่ออกมาจากหมอกที่วุ่นวาย รูปร่างหน้าตานั้นคล้ายคลึงกับผู้หญิงในชุดสีขาวถึงแปดเก้าส่วน แต่เสื้อผ้ากลับเปลี่ยนเป็สีฟ้า
“เป็นางจริงๆ!” หนิงเทียนบังเอิญเห็นฉากนี้และยืนยันที่มาของหญิงสาวในชุดขาวได้แล้ว ทว่าเขายังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมตามมา
เ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียวและผู้หญิงในชุดขาวเคยพบกันมาก่อน ความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไร?
สหาย?
ศัตรู?
หรืออย่างอื่น?
ูเาไป่หลิงมีขนาดใหญ่มากและพื้นที่ส่วนกลางก็กว้างใหญ่ แต่การปรากฏตัวของหญิงสาวในชุดขาวและรัศมีแปลกๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของนางยังคงกระตุ้นการรับรู้เหนือธรรมชาติภายในูเา
วูบ! วูบ! วูบ!
ิญญาอสูรที่แปลงร่างจำนวนมากปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆ บ้างแปลงร่างเป็ชาย บ้างก็เป็หญิง และบางส่วนยังคงรูปแบบที่แท้จริง โดยเพ่งความสนใจมาที่ยอดเขาซึ่งมีหญิงชุดขาวอยู่ ทั้งยังมีเมฆดำที่ทั้งแปลกประหลาดและน่ากลัวปกคลุม้า
ทันใดนั้นแสงสีเขียวก็ยิงจากด้านนอกของูเาไป่หลิงทะลุชั้นเมฆหมอก ก่อนเผยให้เห็นต้นไม่ั์สูงหลายพันจั้ง
ต้นไม้ต้นนี้ปล่อยคลื่นอันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว มีดวงตาปรากฏบนใบไม้แต่ละใบและเพ่งมองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในูเา
“ยอดฝีมือจากสำนักั์พฤกษา?”
หากหนิงเทียนตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่นี่ได้กระตุ้นให้ผู้บำเพ็ญที่อยู่นอกูเาเริ่มระมัดระวัง
ไม่นานหลังจากนั้น ดวงดาวบนท้องฟ้าก็รวมตัวกันและกลายเป็กระจกดวงดาว
เป็ยอดฝีมือซิงซิวที่กำลังตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในูเาไป่หลิง
หลังจากนั้น เมฆสีแดงก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกด้าน มีเปลวเพลิงสามสีอยู่ภายใน เพลิงสะท้อนท้องฟ้าทำให้เป็ฉากของพื้นที่ที่เ้าแห่งจิติญญาไผ่เขียวเป็ที่รู้จักต่อสาธารณะ
นี่คือวิธีการสูงสุดของปรมาจารย์หยวนซิว ทำให้เขาสามารถมองเข้าไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของูเาไป่หลิงได้ มีเพียงพื้นที่หลักและพื้นที่ลับบางส่วนเท่านั้นที่ไม่สามารถมองเห็นผ่านวิธีนี้ได้
ร่างของผู้หญิงชุดขาวที่มีกริชปักอกล้อมรอบด้วยโครงกระดูก ภาพที่น่าในี้กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วดินแดนหยวนซิง ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรง
“ที่แท้ก็เป็นางในตอนนั้น?”
“ส่งยอดฝีมือเข้าไปเดี๋ยวนี้” ปรมาจารย์หยวนซิวหลายคนตื่นตระหนกและรีบไปยังูเาไป่หลิงทันที
ในเวลาเดียวกันยอดฝีมือซิงซิวและจื๋อซิวก็ระดมกำลังเช่นกัน แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบแห่งบนดินแดนหยวนซิงต่างมารวมตัวกันเป็ครั้งแรก
ดินแดนอันแปลกประหลาดเปิดออกในูเาไป่หลิง เ้าแห่งจิติญญาปรากฏตัวขึ้น และมนุษย์ถูกห้ามไม่ให้เข้าไป
นี่คือสถานที่ที่ิญญาอสูรมารวมตัวกันและมีอัจฉริยะชั้นยอดจำนวนนับไม่ถ้วนถูกฝังอยู่ในนั้น
ดอกเชียนหนิวขนาดใหญ่ทอดยาวหลายพันลี้เบ่งบานไปด้วยแสงสามสี ดอกสีม่วงฟ้าและม่วงแดงมีรูปร่างคล้ายแตร ประกาศคำเตือนที่เข้มงวด
“ปราจารย์มิอาจเข้าไปได้! ใครก็ตามที่คิดฝ่าฝืนต้องถูกสังหารอย่างไร้ปรานี!”
นี่เป็การจำกัดผู้มีอำนาจในขอบเขตเหนือเมฆาไม่ให้เข้าสูู่เาไป่หลิง แต่อนุญาตให้ผู้บำเพ็ญในขอบเขตเปลี่ยนผ่านและขอบเขตผนึกดาราสามารถเข้าไปได้
ยอดฝีมือจากกลุ่มต่างๆ รวมตัวกันอย่างรวดเร็วในพื้นที่ด้านนอกของูเาไป่หลิง ปรมาจารย์จำนวนมากต่างปรากฏตัว และมายังที่เกิดเหตุเพื่อออกคำสั่งด้วยตนเอง
หนิงเทียนที่อยู่กลางูเาไป่หลิงมองดอกเชียนหนิวั์ก่อนจะรู้สึกถึงการกดขี่ที่รุนแรง
นั่นคือเ้าแห่งจิติญญาผู้บำเพ็ญมานับหมื่นปีเพื่อบรรลุความสำเร็จที่มันมีในปัจจุบัน
“ปรมาจารย์มิอาจเข้าไปได้ นี่ไม่ใช่กับดักหรอกหรือ?”
มีกระดูกระดับปรมาจารย์อยู่ในกองทัพโครงกระดูกของสตรีชุดขาว หากยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนผ่านธรรมดามาที่นี่ นั่นถือเป็การรนหาที่ตายไม่ใช่หรือ?
หนิงเทียนคิดว่านี่เป็กับดัก แต่น่าเสียดายที่กลุ่มต่างๆ ภายนอกยังไม่ทราบสถานการณ์ที่แน่ชัด
“ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีและไม่ควรจะอยู่เป็เวลานาน” หนิงเทียนหันหลังกลับและจากอย่างรวดเร็ว ดอกไม้และต้นไม้รวมตัวกันอยู่ใต้เท้า ทั้งร่างของเขาราวกับควันจางๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วผ่านูเาและป่าไม้
ทันใดนั้นลำธารเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า หนิงเทียนก็ข้ามไปโดยไม่คิดอะไร ทันใดนั้นลำธารเล็กก็กลายเป็แม่น้ำใหญ่โดยไม่คาดคิด
“เกิดอะไรขึ้น?” หนิงเทียนอุทาน แต่คำตอบจากหญ้าต้นน้อยก็ดังขึ้นในใจทันที
“เ้าหลุดเข้าไปในต่างภพโดยบังเอิญ นี่คือการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ซ้อนทับ ซึ่งในูเาไป่หลิงมีพื้นที่ซ้อนทับอยู่มากมาย และมันไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก ส่วนใหญ่มีอันตรายและคาดเดาไม่ได้”
“พื้นที่ซ้อนทับ มิติของนอกโลกหรือ?” หนิงเทียนสับสน นี่เป็ครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้พบกับเื่แปลกประหลาดเช่นนี้
แม่น้ำตรงหน้ากว้างประมาณพันจั้ง ใหญ่มากจนเกินจินตนาการ หนิงเทียนหยุดอยู่ริมฝั่ง ด้วยขนาดที่เล็กจนไม่อาจเทียบกับฝุ่นได้
หนิงเทียนไม่ชอบความรู้สึกนี้ แต่เขาถูกดึงดูดด้วยนิมิตบนแม่น้ำ
ใบไม้ขนาดใหญ่นั้นเปรียบเสมือนเรือสีเขียว บรรทุกโลงศพไปทีละโลงไหลไปตามแม่น้ำผ่านดวงตาของหนิงเทียนไป
หนิงเทียนทะยานขึ้นฟ้า เขาลอยเหินอยู่เหนือแม่น้ำและมองลงไปที่โลงศพสีดำสนิทที่ไหลไปตามแม่น้ำ โดยมียันต์กระดาษสีดำติดอยู่ซึ่งง่ายต่อการพลาด
โลงศพประหลาดประกอบด้วยสิ่งชั่วร้าย มีโลงศพสีดำทั้งหมดเก้าโลง พวกมันไหลลงมาตามแม่น้ำด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
หนิงเทียนติดตามไปอย่างสงสัย จากนั้นจึงเห็นว่ามีกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตามกระแสน้ำ ใบไม้เก้าใบมีโลงศพสีดำเห้าโลง ก่อตัวเป็วงกลมรอบกระแสน้ำวน จากนั้นยันต์กระดาษสีดำบนฝาโลงก็ส่องสว่างขึ้นในเวลาเดียวกัน โดยมีภาพมือซ้ายและขวา เท้าซ้ายและขวา ตา หู ปาก จมูก และหัวใจ ตามลำดับ
ยันต์กระดาษสีดำทั้งเห้าแสดงถึงส่วนทั้งเก้าของร่างกายมนุษย์ นี่หมายความว่าอย่างไร?
หนิงเทียนมองด้วยความประหลาดใจก่อนจะเห็นเก้าส่วนบนยันต์กระดาษสีดำลอยออกมาพร้อมกัน มือ เท้า และหัวใจประกอบขึ้นเป็ร่างกายมนุษย์ ขณะที่ตา หู ปาก และจมูกประกอบกันเป็หัว
ร่างของมนุษย์ที่สมบูรณ์ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในกระแสน้ำวน จากนั้นโลงศพสีดำก็ะเิออก ความโกลาหลกระจายไปในอากาศ คลื่นพลังน่าสะพรึงกลัวถูกปล่อยออกมา ซึ่งทั้งหมดแทรกซึมเข้าไปในร่างกายมนุษย์โดยสมบูรณ์
“ฮ่าๆ!” เสียงหัวเราะเ้าเล่ห์ที่ดังขึ้นทำให้หนิงเทียนรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย คนในวังวนลืมตาขึ้น ทั้งยังลอบส่งยิ้มเ้าเล่ห์ให้หนิงเทียนก่อนจะถูกวังวนกลืนหายไป
โลงศพสีดำะเิเป็เสี่ยงๆ ใบไม้จมลงก่อนกระแสน้ำวนจะหายไปในพริบตา ยามนี้ทุกอย่างดูเหมือนภาพฝัน
หนิงเทียนยืนนิ่งอยู่กลางอากาศ เขานิ่งเงียบอยู่นาน ขณะที่กำลังจะข้ามแม่น้ำ ใบไม้และโลงศพสีดำก็ไหลไปตามแม่น้ำอีกครั้ง มันคือใบไม้เก้าใบและโลงศพเก้าโลง แต่มันกำลังมุ่งหน้าไปยังวังวนอื่น
หนิงเทียนทั้งใและประหลาดใจ เขายังคงให้ความสนใจ และพบว่าฉากก่อนหน้านี้เริ่มเกิดขึ้นซ้ำๆ โลงศพสีดำเก้าโลงก่อตัวเป็วงกลมรอบวังวน ยันต์กระดาษบนฝาโลงส่องสว่างขึ้นในเวลาเดียวกัน
รูปร่างของร่างกายมนุษย์ รอยยิ้มที่เ็า และการจ้องมองด้วยดวงตาที่เปิดกว้างทำให้หนิงเทียนหวาดกลัว
ใบไม้ โลงศพสีดำ ร่างกายมนุษย์ และวังวนสายน้ำประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เหมือนกับการถวายเครื่องบูชาแบบโบราณ แต่ยังมีข้อแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
หนิงเทียนอยู่บนแม่น้ำเป็เวลานาน มีโลงศพสีดำโลงเก้าโลงต่อหนึ่งกลุ่ม ซึ่งสอดคล้องกับวังวนต่างๆ นี่มันเหมือนกับถนนสู่ความตายโดยไม่รู้ว่ามันนำไปสู่ที่ใด
กระบวนการนี้เหมือนกับการขนส่งประเภทหนึ่ง แต่หนิงเทียนไม่สามารถรู้ได้ว่าโลงศพสีดำมาจากไหน และกระแสน้ำวนจะนำไปสู่ที่ใด
เสียงคำรามดังลั่นทำให้ห้วงอากาศสั่นะเื จากนั้นก็มีอสูรโผล่ออกมาจากแม่น้ำ หนวดสีดำของมันปล่อยสายฟ้าซึ่งมีพลังทำลายล้างที่ทำให้หนิงเทียนใกลัวและวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
หลังจากข้ามแม่น้ำ หนิงเทียนก็หันกลับมาและเห็นอสูรร้ายกำลังจมหายไปในน้ำ ก่อนจะเผยให้เห็นแผ่นหินที่ด้านหลังมีอักษรสลักไว้ว่า “แม่น้ำิ[1]!”
---------------------------------------
[1] แม่น้ำิ (冥河) คือ แม่น้ำสติกซ์ สถานที่จากตำนานเทพเ้ากรีกโบราณในยมโลก ซึ่งคนตายจะมารวมตัวกันเพื่อรอไปเกิดใหม่
