คลื่นพลังที่โหมกระหน่ำออกมาจากร่างกายของหยวนจุน ทำให้กลุ่มคนสวมหน้ากากที่กำลังบังคับขืนใจสตรีที่อยู่ตรงหน้าได้รับผลกระทบ จนทำให้พวกเขาต้องถอยหลังออกไป
ผู้ที่ตั้งสติได้แสดงสีหน้าใออกมา
พวกเขานึกไม่ถึงว่าผู้เยาว์ที่ดูไม่มีอะไรเช่นนี้จะสามารถใช้พลังจิตได้
พลังนี้ทำให้พวกเขาทั้งแปดคนที่อยู่ในระดับวงแหวนเล็กขั้นเจ็ดถึงกับถอย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพลังจิตของหยวนจุนนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด!
“รีบไสหัวไปเสีย ก่อนที่ข้าจะลงมือ”
เมื่อเทียบกับพลังอันเยือกเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างกายของหยวนจุนแล้ว เสียงนี้กลับมีความเยือกเย็นมากกว่า เพราะสามารถทำให้ผู้ฟังรู้สึกเสียวสันหลังได้
สตรีผู้นั้นใช้โอกาสนี้รีบคว้าชุดกระโปรงยาวมาคลุมตัว จากนั้นจึงรีบย้ายไปอยู่ฝั่งหยวนจุนด้วยแววตาที่หวาดกลัว
“เ้าบอกให้เราไป เราก็ต้องไปอย่างนั้นหรือ? ที่นี่เป็เขตของเรา งูกระจอกต่างถิ่นจะมาปราบัที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร! คิดว่าเราทั้งแปดคนจะกลัวเ้าอย่างนั้นหรือ?”
หยวนจุนค่อยๆ ลืมตา ใบหน้าสงบนิ่งและเยือกเย็นราวกับแอ่งน้ำในฤดูใบไม้ร่วงตอบกลับไปว่า “เ้าพูดผิดแล้ว หากถูกงูปราบได้ เช่นนั้นก็ไม่สมควรเรียกว่าั!”
“คิดจะสู้ก็สู้ให้ถึงที่สุด มิใช่แค่โต้เถียงไปมา ทำเหมือนกับเป็เื่ตลก!”
เมื่อกล่าวจบหยวนจุนก็ผายมือออกมา เขาใช้นิ้วควบคุมลูกธนูพลังจิตที่พุ่งออกไปข้างหน้าให้ตรงไปยังศีรษะของนักยุทธ์คนแรก
“ผัวะ”
บุรุษที่มีหนวดเครากวัดแกว่งอาวุธระดับิญญาขั้นหนึ่ง เขาใช้พลังที่เหลือปัดลูกธนูพลังจิตให้ไปปะทะกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง
“มัวยืนนิ่งอยู่ทำไม? เขาลงมือแล้วนะ!”
เจ็ดคนที่เหลือพยักหน้าแล้วกลืนน้ำลาย จากนั้นจึงลงมือฟันไปที่หยวนจุนพร้อมกัน เมื่อหยวนจุนรวบรวมสมาธิ ปลายมีดของพวกเขาก็ลดต่ำลงในทันที
“กึก กึก”
อาวุธระดับิญญาขั้นหนึ่งของพวกเขาทั้งเจ็ดถูกพลังจิตของหยวนจุนควบคุมให้อยู่รอบๆ กาย มันไม่หล่นลงมา และพวกเขาก็ดึงกลับไปไม่ได้ด้วย
“หลอม!”
หยวนจุนถ่ายปราณดาราออกมาจากร่างกาย ทำให้อาวุธระดับิญญาทั้งเจ็ดชิ้นถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟทันที
เมื่อสตรีผู้นั้นเห็นเหตุการณ์นี้ก็ถึงกับอ้าปากค้าง นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงใว่า “พลังคู่จิตยุทธ์!”
ทั้งเจ็ดคนรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของพลังจิตที่รุนแรง มีดที่กำลังถูกเปลวไฟแผดเผาร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนลวกมือ ทำให้พวกเขาต้องยอมปล่อยแล้วถอยออกไป
เมื่อได้กลิ่นเนื้อไหม้โชยออกมา พวกเขาจึงได้สติแล้วแบมือออก ก่อนจะเห็นว่ามีดร้อนนั้นได้แผดเผาฝ่ามือจนแสบร้อนเป็วงกว้างแล้ว
แม้ทักษะการกลั่นอาวุธของหยวนจุนในตอนนี้จะสามารถทำได้แค่อาวุธระดับิญญาขั้นหนึ่ง แต่เขาก็สามารถหลอมรวมอาวุธเ่าั้ให้กลายเป็เหล็กเหลวได้ภายในพริบตา
“คุณพระช่วย! นึกไม่ถึงว่าเ้านั่นจะเป็นักสร้างด้วย! พี่ใหญ่ คราวนี้เราแย่แล้ว!”
นักยุทธ์รูปร่างเตี้ยที่ยืนอยู่ข้างบุรุษที่มีหนวดเครากล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว
ไม่ว่าจะเป็พลังของนักสร้างคนไหนก็ทำให้ใได้ทั้งนั้น เพราะเพียงแค่เขาลงมือ ทุกคนก็สามารถถูกสังหารได้ทุกเมื่อ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักสร้าง บุรุษที่มีหนวดเคราจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าตนเองกำลังประสบปัญหาใหญ่!
ในเมื่อเื่มาไกลถึงเพียงนี้และเขาก็ไม่มีทางหนีแล้ว หากไม่ฆ่านักสร้างผู้นี้ วันหน้าพวกเขาคงต้องอยู่ยากอย่างแน่นอน!
“เหล่าพี่น้อง แม้คนผู้นี้จะเป็นักสร้าง แต่ดูจากพลังจิตแล้วน่าจะเพิ่งบรรลุนักสร้างธรรมดาขั้นยอดได้ไม่นาน พวกเราร่วมมือกันส่งเขาไปลงนรกกันเถอะ!”
“ออกมาครั้งนี้มิใช่แค่ไม่ได้กำไร แต่เรายังเสียอาวุธระดับิญญาขั้นหนึ่งไปอีกด้วย อยากกลับไปแล้วโดนตราหน้าว่าไม่เอาไหนหรืออย่างไร?”
“ในเมื่อเขาเป็นักสร้าง เขาย่อมมีสมบัติที่ล้ำค่าติดตัวมาแน่นอน ฆ่าเขาเสีย ของดีๆ ทั้งหมดจะได้เป็ของเรา!”
บุรุษที่มีหนวดเคราพยายามปลุกปั่นคนทั้งเจ็ดที่อยู่รอบตัว แววตาแสดงความดุดันออกมามากกว่าเดิม
นักยุทธ์ทั้งเจ็ดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นด้วยกับคำพูดที่มีเหตุผลเ่าั้ ในเมื่อพวกเขากำลังมีปัญหากับนักสร้าง เหตุใดจึงไม่ฆ่าเขาเสียก่อนจะได้ไม่เกิดปัญหาในอนาคต
ในเมื่อเขาเป็นักสร้าง เขาต้องมีวัตถุแร่ผลึกกับอาวุธระดับิญญาติดตัวมาอย่างแน่นอน! หากได้สิ่งเหล่านี้กลับไปการมาครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าแล้ว!
“เอาล่ะ เช่นนั้นก็ลงมือตามที่พี่ใหญ่บอก เราจะฆ่าคน แล้วชิงของมา!”
เมื่อบุรุษที่มีหนวดเคราโบกมือเรียก ทั้งเจ็ดคนที่กำลังล้อมหยวนจุนและสตรีที่เปลือยกายจึงพร้อมตั้งท่าโจมตีอีกครั้ง
ทั้งเจ็ดคนแสดงวิชายุทธ์ที่แข็งแกร่งออกมา ก่อนจะแผ่ปราณดาราออกมาตรงหน้าแล้วพุ่งไปทางที่ทั้งสองคนยืนอยู่
“ดื้อดึงยิ่งนัก เช่นนั้นพวกเ้าก็ตายเสียเถอะ!”
หยวนจุนผิวปาก เขาใช้มือควบคุมเหล็กหลอมให้แยกออกเป็เจ็ดส่วนเท่าๆ กัน ก่อนจะได้ยินเสียงะเิทั้งเจ็ดทิศดังสนั่นในอากาศ
วิชายุทธ์ที่ทั้งเจ็ดแสดงออกมานั้นถูกทำลายด้วยเหล็กหลอมที่กลายเป็พลังโจมตี ซึ่งพลังที่เหลือนั้นทำให้พวกเขากระเด็นออกไป
“ฟ้าว”
การที่หยวนจุนนั่งขัดสมาธิโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น ทำให้กระสวยเสวียนหลงพุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเขา ก่อนจะกลายเป็พลังโจมตีที่รวดเร็วราวกับงูกำลังโจมตีเหยื่อ
ทันทีที่กระสวยไร้รูปร่างที่เคลื่อนไหวราวกับงูทะลุผ่านหน้าอกของนักยุทธ์คนที่หนึ่งไปจนถึงแผ่นหลังของนักยุทธ์คนที่เจ็ด เืของพวกเขาก็พุ่งออกมาเป็สาย ครั้นหมดหน้าที่ กระสวยจึงกลับมารวมกันเป็หอกยาวที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วกลับเข้าไปข้างในแขนเสื้อของหยวนจุน
ชั่วพริบตา เขาได้คร่าชีวิตของนักยุทธ์ระดับดาราขั้นเจ็ดถึงเจ็ดคน ซึ่งความสำเร็จนี้ทำให้สตรีที่ยืนใอยู่ด้านหลังเลิกคิ้วขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ
“เ้า้าจะส่งพวกเขาหรือไม่?”
หยวนจุนหันไปหาสตรีผู้นั้นแล้วถามเบาๆ ก่อนจะเหลือบมองนักยุทธ์ระดับวงแหวนเล็กขั้นเจ็ดที่กำลังก้าวเท้าไม่ออก
สตรีผู้นั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างเงียบๆ
เห็นได้ชัดว่าบุรุษที่มีหนวดเคราที่เหลือเพียงคนเดียวนั้นมีพลังแข็งแกร่งกว่าเจ็ดคนแรกเป็อย่างมาก แต่ด้วยพลังจิตของหยวนจุนจึงทำให้เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้!
นางชักกระบี่ยาวออกมา ก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปหาบุรุษผู้นั้นด้วยอาการสั่นกลัวเล็กน้อย นางพยายามควบคุมอารมณ์แล้วถามออกไปว่า “ความลับของข้า ผู้ใดเป็คนบอกพวกเ้า?”
“เหอะเหอะ พวกข้าเพียงแค่ได้รับคำสั่งมาเท่านั้น ในเมื่องานไม่สำเร็จ เ้าก็อย่าหวังว่าจะได้รู้สิ่งใดจากปากข้าเลย!”
นางแสดงสีหน้าเ็าออกมา จากนั้นจึงเหวี่ยงกระบี่ไปที่เป้ากางเกงของเขา ทำให้เืพุ่งกระฉูดใส่ใบหน้างามของนางทันที
บุรุษผู้นั้นกัดฟันด้วยความเ็ป ยังไม่ทันที่เขาจะได้ส่งเสียงออกมา เขาก็ถูกกระบี่ที่สองปาดไปที่คอ ก่อนจะนอนจมกองเืด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ถึงเ้าไม่บอกข้า ข้าก็รู้ว่าผู้ใดที่ทำเื่ชั่วช้าเช่นนี้! หลังจากกลับไปข้าจะให้ท่านพ่อจัดการฝังศพพวกเ้าทั้งหมด!”
นางเช็ดเืสกปรกบนใบหน้าด้วยแขนอันบอบบาง ดวงตาหมองหม่นเล็กน้อยราวกับกำลังคิดสิ่งใดอยู่
“ข้าชื่อหานโหรว ขอบคุณที่เมื่อครู่นี้เ้ายอมช่วยข้า บุญคุณครั้งนี้ข้าไม่มีวันลืม หากวันหน้ามีโอกาส ข้าจะตอบแทนเ้าอย่างแน่นอน!”
หยวนจุนพยักหน้าเบาๆ จากนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไป มิได้ใส่ใจเื่ที่หานโหรวบอกว่าจะตอบแทนแม้แต่น้อย
การที่เขายอมช่วยนาง เขาแค่ไม่อยากรู้สึกผิดกับมโนธรรมของตนเองก็เท่านั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้