หลังจากออกวิ่งตะบึงอย่างบ้าคลั่งมาได้ครึ่งชั่วโมง ยอดเขาขาดก็ปรากฏอยู่ด้านหน้ารำไร สายตาของเยาขาข่าปรากฏแววโเี้วาบผ่าน ลักษณะภูมิประเทศแห่งนี้เขาเคยให้ความสนใจมาก่อน และยังเคยขึ้นไปสำรวจด้วยตนเองมาแล้ว เป็สถานที่ไว้หนีเอาชีวิตรอดที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่ง ทั้งสามด้านล้วนเป็หน้าผาสูงชันที่มิอาจปีนป่ายได้ เส้นทางเดียวที่จะขึ้นเขาได้ก็คับแคบเป็อย่างมาก เป็จุดยุทธศาสตร์ที่ใช้ในการปักหลักตั้งรับเพื่อรอคอยทัพเสริมได้อย่างดีเยี่ยม
ตอนไปหุบเขาัดำพวกเขาทั้งสองนำกองกำลังไปคนละสองพันกว่าคน ัดำพิโรธทำให้าเ็ล้มตายภายในหุบเขาัดำไปกว่าครึ่ง และถูกไล่ตามฆ่าภายนอกอีกนับไม่ถ้วน เืไหลเป็สายน้ำ สุดท้ายเพราะัดำถอยกลับไปอย่างแปลกประหลาดพวกเขาถึงได้รวบรวมผู้ที่เหลือรอดกลับมาไว้ด้วยกัน
เพียงแต่ หลังจากรวบรวมกำลังพลทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วกลับเหลือเพียงแค่จำนวนพันกว่าคนเท่านั้น แม้จะมีเพียงจำนวนพันกว่าคนแต่เยาขาข่าเชื่อมั่นว่าอาศัยจำนวนนักรบพันกว่าคนนี้ ทำการปักหลักตั้งรับทัพใหญ่ของเขตปกครองเทพาอยู่บนยอดเขาขาด อย่างน้อยก็สามารถตั้งรับได้ถึงสิบวันหรือครึ่งเดือน
สัญญาณเรียกรวมพลของเขาและหมันก้านได้ถูกส่งออกไปแล้ว เชื่อว่าอีกไม่กี่วันนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนทั้งหมดที่อยู่บนเกาะแห่งความมืดมิดจะต้องมารวมตัวกันที่ยอดเขาขาดแห่งนี้แน่นอน ถึงเวลานั้นทั้งหน้าหลังโจมตีขนาบเข้าหากันก็จะสามารถโจมตีทัพใหญ่ของเขตปกครองเทพาให้แตกพ่ายหนีกระเจิงไปได้ จากนั้นถือโอกาสที่ยังได้เปรียบบุกโจมตีเข้าไปยังค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวของเขตปกครองเทพา สร้างโอกาสเพื่อยึดกุมชัยชนะให้เกิดขึ้นอย่างมั่นคง
แรกเริ่มหัวโล้นหมันก้านรู้สึกเป็กังวลอย่างมาก แต่หลังจากที่ขึ้นมาบนยอดเขาขาดแล้วความกังวลเ่าั้ก็หมดไป หลังจากที่ตรวจสอบภูมิประเทศอย่างละเอียดถี่ถ้วนและพบว่าบนยอดเขามีค่ายกลเคลื่อนย้ายกระจัดกระจายอยู่หลายแห่งจึงแสดงความพอใจออกมา จากนั้นออกคำสั่งให้ปักหลักตั้งรับรอกำลังเสริมอยู่ข้างบนนี้ในทันที รอกำลังเสริมมาถึงแล้วค่อยลงมือโจมตีทัพใหญ่ของเขตปกครองเทพาให้แตกพ่ายไป
.................................
หลงไซ้หนานไม่รู้ว่าความจริงแล้วเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนเดิมทีนั้นไม่ได้ร่วมมือกัน เป็เพียงแค่แผนการของถูเชียนจวินที่สั่งการมาเท่านั้นพวกเขาถึงได้รวมตัวกันขึ้นชั่วคราว แต่ตอนนี้จากเดิมที่เป็เพียงการรวมตัวกันชั่วคราว ภายใต้แรงกดดันจากกองทัพใหญ่ของเขตปกครองเทพา พวกเขาจึงกลายมาเป็ร่วมมือกันจริงๆ ขึ้นมา ปักหลักตั้งรับรออยู่บนยอดเขาขาดที่มีลักษณะภูมิประเทศพิเศษเฉพาะ จัดขบวนรอรับการมาของทัพใหญ่เขตปกครองเทพาอย่างท้าทายและยิ่งใหญ่เกรียงไกร
มองดูลักษณะภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยอันตรายเบื้องหน้า มองเห็นทางเดินที่คับแคบและคดเคี้ยวไปมา มองดูทัพใหญ่ของนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่เบียดเสียดยัดเยียดกันอยู่บนยอดเขา คิ้วของหลงไซ้หนานขมวดขึ้นโดยอัตโนมัติ
“แย่แล้ว! มียอดเขาแบบนี้อยู่ด้วยรึ? แล้วจะบุกอย่างไรเล่าทีนี้?” เฟิงจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่พิจารณายอดเขาขาดอย่างละเอียดถี่ถ้วน พลันเอ่ยปากด่าทอออกมาทันที มองดูพวกนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่สามารถมองเห็นได้เลือนรางบนยอดเขา อารมณ์คุกรุ่นภายในใจยิ่งลุกโชนมากขึ้นทุกที
ฮวาเฉ่าถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่งอย่างอับจนปัญญา ภูมิประเทศที่อันตรายเช่นนี้ นักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่รวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นเช่นนี้ ต่อให้นักฆ่าระดับหัวกะทิทั้งหมดของตระกูลฮวาอำพรางกายเข้าไปก็คงทำอะไรได้ไม่มาก “งานหินแล้ว แม่นางหลงมีแผนการอะไรดีๆ พอจะกระทำได้บ้าง?”
“ถึงจะโจมตีได้ยากก็ต้องทำการโจมตี ไม่บดขยี้พวกมันให้เสียหายยับเยินเขตปกครองเทพาของพวกเราคราวนี้มีเพียงต้องยอมแพ้เพียงเท่านั้น! ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว!” หลงไซ้หนานยังไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เป็เยว่ชิงเฉิงที่พูดรับคำขึ้น มองดูนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่กำลังร้องคำรามท้าทายออกมาอย่างอวดดีอยู่บนยอดเขา คิดถึงเย่ชิงหานและเย่ชิงอู่ที่เป็ตายยังไม่รู้แน่ชัด ภายในใจเยว่ชิงเฉิงพลันบังเกิดความโกรธแค้นขึ้นมาอย่างแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
“พักผ่อนหนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยเปิดฉากโจมตี!”
หลงไซ้หนานไม่ได้พูดอะไรมาก ทำเพียงแค่พูดสั่งการออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบ แต่ภายในใจนั้นทอดถอนใจและสับสนยุ่งเหยิง นางรู้ดีว่าเยาขาข่าและหมันก้าน้าจะทำอะไร? และรู้ดีว่ายอดเขานั้นบุกโจมตีได้ยาก ถึงแม้ว่าจะโจมตีให้แตกได้จริงๆ ก็ต้องเสียสละไปอย่างมากเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า...สถานการณ์ตอนนี้เหมือนกับลูกธนูที่อยู่บนสาย จำเป็ที่จะต้องยิงออกไปโดยไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ ในสถานการณ์เช่นนี้เขตปกครองเทพามีเพียงต้องสู้เท่านั้น ไม่สามารถถอยได้ หาไม่แล้วหากขวัญกำลังใจในการสู้รบตกต่ำลง งานประลองาระหว่างเขตปกครองในครั้งนี้ นักรบของเขตปกครองเทพาทุกๆ คนคงจะต้องพบกับจุดจบที่ไม่อาจจะย้อนกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน
เื่แผนการอยู่ที่คน เื่ความสำเร็จอยู่ที่ฟ้า! ทำให้เต็มที่ ผลออกมาเป็อย่างไรก็ต้องยอมรับมัน หลงไซ้หนานถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหมุนตัวเดินจากไป
.................................
วันรุ่งขึ้น ฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาง ยอดเขาขาดเริ่มเสียงดังอึกทึกครึกโครมขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายเริ่มหุงหาอาหารกินอิ่มท้องพร้อมสู้รบ บ้างก็ลับคมอาวุธ บ้างก็ตรวจตราชุดเกราะที่สวมใส่ บรรยากาศเริ่มที่จะเปลี่ยนเป็อึดอัด เริ่มที่จะเร่าร้อนขึ้น จิตใจกระหายการสู้รบของทั้งสองฝ่ายพุ่งสูงขึ้น ขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ป่านนี้ยอดเขาขาดทั้ง้าและด้านล่างคงเกลื่อนกลาดไปด้วยซากศพและเืไหลนองดั่งท้องทะเลไปนานแล้ว
ตึงๆๆ!
พระอาทิตย์ด้านทิศตะวันออกค่อยๆ ลอยเด่นขึ้นมา กลองรบถูกตีดังลั่น ดาบกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนล้วนถูกชักออกจากฝัก ภายใต้แสงแดดที่สาดส่องตกกระทบ ดาบกระบี่มากมายพลันสะท้อนแสงแปลบปลาบแสบตาออกมาอยู่ไม่ขาด ในตอนนี้คล้ายกับว่าลมได้หยุดการพัดลง อุณหภูมิความร้อนในอากาศเริ่มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ทั้งยอดเขาขาดเร่าร้อนจนจะเดือดพล่านขึ้นมา
“ฆ่า!”
หลงไซ้หนานมือถือกระบี่ัคำรามฟันออกไปข้างหน้าอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง เท้าเหยียบลงไปยังถนนทางเดินบนยอดเขา พลังปราณรบไหลวนโอบล้อมทั่วทั้งร่างดุจดั่งเทพนักรบาหญิง จากนั้นพุ่งทะยานขึ้นเขาไปเป็คนแรก ที่ติดตามนางไปด้านหลังติดๆ คือเหล่าผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบสิบกว่าคน ในตอนที่หลงไซ้หนานร้องะโสั่งให้บุกออกไป พวกเขาล้วนปลดล่อยสนามพลังสีสันต่างๆ ลานตาออกมาโอบล้อมอยู่ทั่วร่างกาย แผ่พุ่งกระแสพลังกดดันรุนแรงน่าเกรงขาม ถัดจากนั้นคือนักรบลูกหลานระดับหัวกะทิทั้งหมดของตระกูลเย่ ตระกูลเฟิงและตระกูลเยว่หลายร้อยคน ส่วนนักรบระดับหัวกะทิของเขตปกครองเทพาที่เหลือต่างรวมตัวกันอยู่ตีนเขารอรับคำสั่ง
เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศค่อนข้างจะพิเศษเฉพาะ มีเพียงถนนทางเดินเพียงแค่เส้นเดียวที่สามารถเดินเรียงหน้ากระดานกันได้เพียงสิบกว่าคนเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคืนวานหลงไซ้หนานจึงได้เรียกเหล่าผู้นำกองกำลังให้เข้าร่วมปรึกษาหารือกันว่า จะให้ผู้มีพลังฝีมือระดับสูงทั้งหลายเป็ทัพหน้าบุกทะลวงโจมตีเขตแนวป้องกันของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนก่อน หากบุกทะลวงโจมตีได้สำเร็จค่อยให้เหล่านักรบระดับหัวกะทิที่เหลือบุกตามขึ้นมา เพราะด้วยถนนทางเดินที่คับแคบและจุคนได้ไม่กี่คน หากจะให้พวกนักรบระดับหัวกะทิธรรมดาทั่วไปบุกขึ้นมาพร้อมกันแบบเอาชีวิตขึ้นมาทิ้งเสียเปล่า ยังไม่สู้ให้พวกนักรบที่มีพลังฝีมือระดับสูงทั้งหลายรวมกันบุกทะลวงโจมตีแนวป้องกันให้ได้ก่อน
ตูม! ตูม!
เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนมองเห็นนักรบเขตปกครองเทพาจัดขบวนทัพบุกโจมตีขึ้นมาเช่นนี้กลับไม่ได้โกลาหนวุ่นวายขึ้นมาแต่อย่างใด เยาขาข่าและหมันก้านสั่งการลงไปไม่กี่ครั้ง ขบวนแนวป้องกันของทั้งสองเผ่าเปลี่ยนแปลงไปในทันที นักรบเผ่าคนเถื่อนพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนจำนวนสิบกว่าคนก้าวเดินออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง พวกมันดูราวกับูเาใหญ่สิบลูกที่ตั้งตระหง่านปิดถนนทางเดินจนหมดสิ้น ส่วนสองฝากข้างทางมีนักรบเผ่าปีศาจพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจสิบกว่าคนยืนเรียงรายจับจ้องตาเป็มัน ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนของทั้งสองเผ่ารวมกันสามสิบกว่าคน ยืนเป็รูปขบวนรูปพัดดักทางและโอบล้อมผู้ที่ฝ่าเข้ามาไว้ทั้งหมด ส่วนด้านหลังถัดไปคือนักรบระดับหัวกะทิของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนจำนวนมากที่ทั่วร่างโอบล้อมไปด้วยพลังปีศาจและพลังคนเถื่อน เตรียมพร้อมทำการต่อสู้อยู่ทุกขณะ
มองดูนักรบระดับสูงของเผ่ามนุษย์จำนวนมากมายที่เฮโลเกรียวกราวกันขึ้นมา เยาขาข่าและหมันก่านยิ้มออกมาอย่างเ็า ที่แห่งนี้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากพวกเขาก่อนจะเลือกใช้เป็สถานที่ตั้งมั่นรักษาการณ์ ที่แห่งนี้ข้างหน้ามีเพียงรูทางเข้าที่เล็กและแคบ มากสุดสามารถผ่านเข้ามาได้พร้อมกันเพียงครั้งละสามสี่คน ดังนั้นนักรบระดับสูงของเขตปกครองเทพาสามสี่คนที่ผ่านเข้ามา จะถูกการโจมตีของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนจำนวนสิบคนที่โจมตีออกไปพร้อมกัน การโจมตีของผู้มีพลังฝีมือระดับนี้ทั้งสิบคนพร้อมๆ กัน ต่อให้เป็ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิยังไม่กล้าที่จะปะทะพลังด้วยโดยตรง!
แน่นอนว่าหลงไซ้หนานเห็นลักษณะภูมิประเทศที่เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนตั้งมั่นรักษาการณ์อยู่ และก็มองเห็นรูทางผ่านขนาดเล็กที่อยู่ด้านหน้าขบวนทัพของพวกมัน แม้จะรู้สึกยากลำบากอยู่ภายในใจ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่มีที่ว่างให้นางถอยกลับไปอีกแล้ว นางแผดร้องเสียงยาวออกมาครั้งหนึ่ง พลังปราณรบที่โอบล้อมอยู่ทั่วร่างหนาแน่นและเข้มข้นขึ้นมาอีกหลายส่วน พร้อมกับระดับความเร็วที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ตัวคนลอยอยู่กลางอากาศ คมกระบี่พลังปราณรบถูกฟันออกมาจากตัวกระบี่อย่างฉับพลันและรุนแรง มันพุ่งเข้าหานักรบเผ่าคนเถื่อนที่ยืนเรียงรายอยู่ด้านหน้าที่ดูราวกับเนินูเาขนาดย่อมเ่าั้ในทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้