เรือนหลังบ้านตระกูลจั๋ว เงียบสงบ อากาศปลอดโปร่ง มีเสียงนกร้องไพเราะ และกลิ่นดอกไม้หอมจางๆ
ขณะที่จั๋วอวี้หวั่นกำลังช่วยดูแลสมุนไพริญญาในสวน ลุงเยี่ยนก็เดินเข้ามา
“คุณหนูใหญ่...”
“ลุงเยี่ยน เป็อย่างไรบ้าง?”
“คุณหนูใหญ่ ฮูหยินน้อยไปหานายน้อย แต่เพียงไม่นานก็จากไป แล้วก็ออกไปนอกเมือง...เพื่อไม่ให้ฮูหยินน้อยจับได้ พวกเราจึงไม่ได้ส่งคนตามไปนอกเมือง”
เมื่อได้ยินรายงานของลุงเยี่ยน จั๋วอวี้หวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย นางวางเื่ที่กำลังทำอยู่ลงและเดินไปที่ศาลา
“แม่นางน้อยอย่างนางไปทำอะไรที่นอกเมือง?”
“อาจจะอยากออกไปสูดอากาศกระมัง ถึงอย่างไรการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ คงปรับตัวได้ยาก”
ลุงเยี่ยนอธิบายเล็กน้อย จั๋วอวี้หวั่นกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ถึงอย่างไรรั่วเมิ่งก็คือฮูหยินน้อยของตระกูลจั๋ว เพิ่งมาสถานที่ใหม่ คงจะยังไม่คุ้นชิน...ต่อไปถ้าฮูหยินน้อยออกจากจวน รบกวนลุงเยี่ยนส่งองครักษ์ติดตามไปด้วยเถอะ”
“ได้...ตกลง!”
ลุงเยี่ยนยิ้มแห้ง ตอบรับอย่างปฏิเสธไม่ได้
ขอเพียงเป็เื่ที่เกี่ยวข้องกับจั๋วอวิ๋นเซียน จั๋วอวี้หวั่นจะระมัดระวังเป็พิเศษ นางไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนมาทำให้น้องชายของนางได้รับาเ็แม้แต่ปลายผม
ซีโหลวรั่วเมิ่งเป็ผู้บำเพ็ญเซียนระดับผสานจิต มีพลังไม่ธรรมดา อีกทั้งบริเวณเมืองตงหลิงเงียบสงบมาตลอด จึงไม่จำเป็ต้องมีคนคุ้มกัน จั๋วอวี้หวั่นเตรียมการเช่นนี้ ชัดเจนว่าอยากรู้การเคลื่อนไหวของซีโหลวรั่วเมิ่งตลอดเวลา เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวอย่างผิดแปลก
แต่จั๋วอวี้หวั่นกล่าวเช่นนี้ ลุงเยี่ยนก็เข้าใจความตั้งใจของคุณหนูใหญ่ จึงไปเตรียมการทุกอย่างเอาไว้
……
ผ่านไปครู่หนึ่ง จั๋วอวี้หวั่นถามอีกครั้ง “ลุงเยี่ยนเื่ที่ข้าไหว้วานท่านคราวก่อน เป็อย่างไรบ้าง?”
“อืม”
ลุงเยี่ยนพยักหน้าอย่างจริงจังพลางกล่าวว่า “สิ่งที่นายน้อยกล่าวมาล้วนเป็ความจริง เมื่อสองเดือนก่อนสีเฟยเยียนเคยปรากฏตัวที่เมืองตงหลิงจริงๆ อีกทั้งเคยลงมือกับนายน้อยด้วย แต่นางรู้หนักรู้เบา น่าจะเตือนนายน้อยเท่านั้น...จากนั้นข้าจึงลองตรวจสอบดู สีเฟยเยียนกับฮูหยินน้อยรู้จักกันที่สำนักเซียนเทียนหลัว พวกนางสนิทชิดเชื้อกันมาก อาจจะเป็เพราะสีเฟยเยียนรู้ว่าสหายกำลังจะแต่งงานกับนายน้อย จึงรู้สึกไม่ยุติธรรม ดังนั้นก็เลย...”
“เื่นี้ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น น้องชายบอกว่าตอนนั้นคนของจวนเ้าเมืองก็อยู่ด้วย เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาปล่อยปละละเลย”
จั๋วอวี้หวั่นขมวดคิ้ว สายตาแฝงด้วยความกังวล เมื่อเกี่ยวพันถึงตระกูลเซียนที่มีรากฐานมั่นคงอย่างตระกูลสีแห่งต้าหนิง นางจำเป็ต้องระมัดระวังเป็พิเศษ
“หลายปีมานี้ตระกูลจั๋วพัฒนาขึ้นมาก จึงไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของคนไม่น้อย...เมื่อก่อนท่านพ่อมีพลังยังพอสามารถสยบความวุ่นวายได้ แต่ตอนนี้ท่านพ่อเสียแขนไปข้างหนึ่ง ศักยภาพแทบจะสูญสิ้น มีคนไม่น้อยที่เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว”
จั๋วอวี้หวั่นรู้สึกขมขื่น “เสียดายที่ตอนนี้ข้ามีพลังไม่พอ มิเช่นนั้นคงสามารถแบ่งเบาภาระของท่านพ่อได้”
“คุณหนูใหญ่ ที่จริงท่านก็เก่งมากแล้ว”
ลุงเยี่ยนไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจอย่างไร ทำได้เพียงยืนอยู่ด้านข้างเงียบๆ
……
อีกด้านหนึ่ง หลังจากซีโหลวรั่วเมิ่งจากไปแล้ว จั๋วอวิ๋นเซียนลังเลเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเอาสถานการณ์ของเขาบอกกับบิดาและพี่สาว เพราะความกดดันที่เขาได้รับมานาน เขาจึงอยากรีบบอกให้ครอบครัวดีใจ ไม่อยากล่าช้าแม้แต่ลมหายใจเดียว
สำหรับเื่อย่างการเก็บซ่อนพลัง แสดงความอ่อนแอ จากนั้นเปิดเผยความสามารถให้ผู้คนใ ก้าวเดียวทะยานฟ้า...นั่นเป็แค่เื่เล่าในนิทานเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็เพียงเด็กหนุ่มอายุสิบสองสิบสามปี ไม่ใช่จิ้งจอกเฒ่าเ้าเล่ห์
……
ห้องตำราตระกูลจั๋ว จั๋วฟู่ไห่ไม่ได้พักผ่อนมาหลายวันแล้ว เขาเรียกประชุมพ่อบ้านทั้งหมด เพื่อวางแผนการพัฒนาตระกูลจั๋วในอนาคตใหม่อีกครั้ง
อย่าคิดว่าตอนนี้ตระกูลจั๋วมีกิจการใหญ่โตเพราะทุกคนในตระกูล แต่ความจริงแล้วส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในมือของจั๋วฟู่ไห่เพียงคนเดียว ไม่ใช่เขาไม่เหนื่อย แต่เขาไม่กล้าพูดว่าเหนื่อย
ตลาดการค้าราวกับสนามรบ หากไม่ก้าวหน้าก็จะถดถอย ซึ่งอาจจะไร้หนทางให้ถอยแล้ว
……
หลังจากจัดการงานเสร็จ จั๋วฟู่ไห่พิงเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า พลางนวดศีรษะตัวเอง
“ท่านพ่อ!”
การมาหาของจั๋วอวิ๋นเซียนทำให้เขาประหลาดใจ เขารีบลุกขึ้นนั่ง พยายามทำให้ตัวเองดูสดชื่นที่สุด
“โอ้? หายากที่อวิ๋นเซียนจะเป็ฝ่ายมาหาพ่อ? เป็อะไรหรือ? พี่สาวรังแกเ้าหรือ? วางใจเถอะ พ่อต้องช่วยเ้าแน่!”
จั๋วฟู่ไห่ยกกาน้ำชาขึ้นพลางกล่าวหยอกล้อ ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย
จั๋วอวิ๋นเซียนตะลึง จากนั้นจึงส่ายศีรษะ
ถึงแม้จั๋วอวิ๋นเซียนจะไม่ค่อยถามไถ่เื่ตระกูล แต่ในใจของเขารู้ดีว่าบิดาต้องแบกความกดดันมากเพียงใด เพียงแต่ตอนอยู่กับบุตรอย่างพวกเขาสองคน บิดามักจะยิ้มอยู่เสมอ...เพราะไม่อยากให้ความกดดันของตัวเองกลายเป็ภาระของบุตร
นี่คือบิดาของเขา คนที่คู่ควรให้เขาเคารพ คู่ควรให้เขานับถือ
“ท่านพ่อ ข้าได้รับโชคมาจากมิติมายาสุญญตา ตอนนี้สามารถบำเพ็ญแบบคนปกติได้แล้ว”
เมื่อกล่าวจบจั๋วอวิ๋นเซียนควบแน่นพลังตราประทับไว้ที่หน้าผาก กระเรียนสีชาดราวกับเปลวเพลิงโบยบินออกมา...พลังความร้อนปกคลุมทั่วทั้งห้องทันที
“เพล๊ง...”
เกิดเสียงของตกแตกดังขึ้น จั๋วฟู่ไห่ตกตะลึงไปชั่วขณะ แม้แต่กาน้ำชาตกลงพื้นก็ยังไม่รู้สึกตัว
เขากำลังดูอะไรอยู่? ตราประทับ! บุตรชายของเขาควบรวมตราประทับแล้วหรือ? มันเกิดเื่อะไรขึ้น? หรือว่าเขาพักผ่อนไม่เพียงพอจนเห็นภาพลวงตา! ไม่น่าใช่! ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็ยอดฝีมือระดับกำเนิดปราณ จะเห็นภาพลวงตาเช่นนี้ได้อย่างไร!
นี่คือบุตรชายของเขามิผิดแน่!
หากไม่ใช่กลิ่นอายของจั๋วอวิ๋นเซียนที่คุ้นเคย เกรงว่าจั๋วฟู่ไห่คงคิดว่าบุตรชายของเขาถูกผีสิงร่างแล้ว!
……
“ท่านพ่อ? ท่านพ่อ? ตื่นได้แล้ว!”
จั๋วอวิ๋นเซียนเขย่าตัวบิดาด้วยความรู้สึกอึดอัด
กล่าวตามตรง เขาเข้าใจความรู้สึกของบิดาตอนนี้ดี เื่เช่นนี้หากไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง คาดว่าจั๋วอวิ๋นเซียนเองก็ยากจะเชื่อ
“อวิ๋นเซียน ลูก...ควบรวมตราประทับได้ั้แ่เมื่อใด?”
จั๋วฟู่ไห่ลุกขึ้นมองรูปลักษณ์ตราประทับกระเรียนสีชาด “เอ๊ะ! นี่มิใช่กระเรียนเมฆา! ทั้งจำนวนดาราบนท้องฟ้า สีแดงชาดราวกับเปลวเพลิง ทั้งความยิ่งใหญ่เกรียงไกร จนเกิดิญญาของตัวมันเอง...นี่คือตราประทับระดับสูงสุดในตำนาน! เ้าถึงกับควบรวมตราประทับระดับสูงสุดได้! อีกทั้งยังหลอมิญญาไปแล้วสามรอบ!”
มิแปลกที่จั๋วฟู่ไห่จะแสดงท่าทีเช่นนี้ เขาบำเพ็ญเซียนมาหลายสิบปี แต่เพิ่งเคยเห็นตราประทับระดับสูงสุดเป็ครั้งแรก เขาเคยคิดว่าตราประทับระดับสูงสุดเป็เพียงตำนาน คิดไม่ถึงเลยว่า...
ทั้งใ! ยินดี! และตื่นเต้น!
ความรู้สึกของจั๋วฟู่ไห่ตอนนี้บรรยายได้เพียงคำเดียว ‘ซับซ้อน’ การที่จั๋วอวิ๋นเซียนมีิญญาไม่สมบูรณ์เป็ปมในใจของเขาเช่นกัน เพียงแต่เขาไม่อยากเผยความรู้สึกที่ไม่ดีต่อหน้าบุตรชายของตน ตอนนี้ความโชคดีมาเยือนกะทันหัน เขากลับตั้งตัวไม่ทัน รู้สึกว่าเื่นี้ราวกับความฝัน
“ลูกข้าควบรวมตราประทับได้แล้ว ลูกข้าก้าวสู่เส้นทางเซียนได้แล้ว...ฮ่าฮ่าฮ่า!”
จั๋วฟู่ไห่กอดจั๋วอวิ๋นเซียนพลางหัวเราะไม่หยุด ราวกับได้ปลดปล่อยความกดดันที่มีตลอดหลายปี
หลังจากสงบใจลง จั๋วฟู่ไห่เริ่มผนึกห้องตำราปิดกั้นจากโลกภายนอกทันที
จากนั้นจั๋วอวิ๋นเซียนจึงเริ่มเล่าเื่ราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวเขาใน่หลายวันมานี้ให้บิดาฟัง รวมทั้งเื่ป้ายพิเศษของสำนักเซียนเทียนซู การเปลี่ยนแปลงของมิติมายาสุญญตา ยังมีเื่ของผู้าุโเฉียนโม่และรางวัลที่ไม่คาดคิด
สำหรับคนในครอบครัว จั๋วอวิ๋นเซียนมีความเชื่ออย่างหมดใจ
