“แกหายดีแล้วหรอไลลา” เฌอรีนถามพร้อมกับดึงฉันเข้าไปกอดทำให้ฉันต้องปล่อยมือจากมิโน่
“อืม...ไม่เป็ไรแล้วล่ะ” ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้เฌอรีน
“เข้าเรียนกันเถอะ” เสียงมิโน่บอก ฉันหันไปมองหน้ามิโน่เขาก็ยิ้มอบอุ่นส่งมาให้ ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่ควรคิดอะไรมากมายอีกต่อไป เพราะในสายตาของมิโน่มีแค่ฉัน
สามเดือนต่อมา....
ฉันกับมิโน่ก็ยังคบกันอยู่แต่ก็ยังไม่มีใครรู้เหมือนเดิม ฉันอยากจะเรียนให้จบก่อนแล้วค่อยบอกพ่อว่าฉันคบกับมิโน่ อีกไม่กี่วันก็ถึงวันรับปริญญาแล้ว อยากให้ถึงเร็วๆ จัง คิดดังนั้นฉันก็นั่งยิ้มให้กับตัวเองอยู่หน้ากระจกในห้องนอน
ติ่ง
เสียงแอพพลิแคชั่นไลน์ดังขึ้น ฉันหันไปมองที่หน้าจอโทรศัพท์ “มิโน่” ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
มิโน่ : นอนยัง
ไลลา : กำลังจะนอน มีไรหรอ
มิโน่ : ฉันปวดหัวอ่ะ ยาแก้ปวดก็หมดด้วย
อ้าวเขาไม่สบายหรอเนี้ย
ไลลา : แล้วเป็ไรมากเปล่า
ฉันรีบพิมพ์กลับไปถามด้วยความเป็ห่วง
มิโน่ : ถ้าได้กินยาก็คงดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลยจะไปซื้อยาเองก็ไปไม่ไหว
ไลลา : งั้นเดี่ยวไลลาเอายาไปให้นะรอแป๊บ
ฉันค่อยๆ ย่องออกจากบ้านกลัวพ่อกับน้าภาตื่น ดีนะที่พ่อเข้านอนแล้ว ฉันเข้าไปในครัวเพื่อหายาแก้ปวด ฉันเดินออกมาจากบ้านพยายามไม่ให้เกิดเสียงใดๆ ฉันยืนอยู่หน้าบ้านของมิโน่
ไลลา : ฉันอยู่หน้าบ้านแล้ว
ฉันพิมพ์ข้อความส่งไปบอกมิโน่
มิโน่ : .... (อ่านแล้ว) ....
มิโน่ไม่ตอบข้อความกลับยิ่งทำให้ฉันร้อนใจ กลัวว่าเขาจะเป็อะไรไป ฉันลองเอื้อมมือไปเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านดู ไม่ได้ล็อก ทันทีที่ประตูเหล็กเปิดออกฉันรีบเดินเข้าไปในบ้านของมิโน่ทันที ฉันใช้สายตากวาดมองหาตัวเขาแต่ก็ไม่เจอ
ตุบ
