“เอ่อ”
กงเช่ออุทานออกมาหนึ่งคำ จากนั้นจึงกระเด้งตัวขึ้นมานั่งทว่าการกระทำของเขาเด่นชัดเกินไป ทำให้กงอี่โม่ใสะดุ้งตื่นขึ้นมานางขยี้ตาลุกขึ้นนั่ง ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
เมื่อสักครู่เหมือนนางกัดอะไรบางอย่างนางกัดองค์รัชทายาทหรือ?!
ความคิดนี้ทำให้นางตาสว่างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นกงเช่อหน้าแดงก่ำพร้อมกุมหูข้างหนึ่ง นางจึงเอ่ยถามทันที “ข้ากัดท่านหรือ?!”
นางรู้สึกอึดอัดในใจอยู่ดีๆ ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้นางขนาดนั้นเพื่ออะไร?
กงเช่อรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นรัวทว่ามันแตกต่างจากความรู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งร่างขณะที่อาการป่วยของเขากำเริบตอนนี้เขารู้สึกราวกับถูกโยนเข้ากองไฟและกำลังถูกย่างโดยตรงส่วนปลายหูที่ถูกกัดรวมทั้งคอและบ่าล้วนเกิดอาการชาไปตามๆ กัน
เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าความรู้สึกคันยิบๆ คล้ายกับไฟฟ้าช็อตเมื่อสักครู่คืออะไรทว่าสิ่งที่น่าประหลาดก็คือเขาอยากลองใหม่อีกครั้ง
“ไม่ไม่มีอะไร”
เขากล่าวตะกุกตะกัก ั์ตาสะท้อนเป็ประกาย แต่เขาไม่กล้ามองนางกงอี่โม่รับคำอย่างงุนงง นางรู้สึกมึนอีกครั้งจึงล้มตัวลงนอน จากนั้นพลิกตัวนอนหลับต่อไป
เมื่อเห็นว่านางหลับอีกครั้งแล้ว กงเช่อจึงผ่อนลมหายใจในขณะเดียวกันความรู้สึกเสียใจกลับผุดขึ้นมาแม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงเสียใจ
เขาหยิบผ้าห่มคลุมร่างกงอี่โม่ คิดถึงคำพูดที่นางกล่าวก่อนหน้านี้ในใจรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างประหลาด
นางกล่าวว่านางไม่อยากแต่งงาน ถ้าเช่นนั้นไม่ต้องแต่งงานก็ดีแล้วเขาสามารถเลี้ยงดูนางตลอดไป
วันถัดมา กงอี่โม่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็ตอนกลางวัน นางขยี้ดวงตานางเห็นตนเองอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยแห่งหนึ่ง อีกทั้งเมื่อดูจากการตกแต่งแล้วยังเป็เรือนของบุรุษผู้หนึ่ง
“คุณหนู ท่านตื่นแล้วหรือ?” หลังจากเปิดม่านแล้ว ผู้ที่เข้ามาจึงแสดงอาการดีใจ นางวางอ่างล้างหน้าในมือลงจากนั้นเดินก้าวเข้ามาสองสามก้าว
เมื่อเห็นนางแล้ว กงอี่โม่จึงรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหนสตรีเบื้องหน้าเป็สาวใช้ข้างกายกงเช่อที่ได้รับความไว้วางใจมากนางหนึ่งดูเหมือนว่านางจะชื่อเลี่ยนเซียง?
“องค์รัชทายาทล่ะ?” กงอี่โม่กะพริบตา ตอนนี้สถานะต่างออกไป อีกทั้งยังอยู่ต่อหน้าคนนอกนางจึงไม่สามารถเรียกท่านพี่รัชทายาทซ้ำๆ ได้อีกแล้ว
“องค์รัชทายาทยังอยู่ในพระราชวัง ที่นี่คือเรือนอีกแห่งขององค์รัชทายาทคุณหนูพักได้อย่างสบายใจนะเ้าคะ” เลี่ยนเซียงคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“่นี้องค์รัชทายาทยุ่งไหม?” กงอี่โม่พยักหน้า นางพลันคิดถึงบางอย่างจึงเอ่ยถามหนึ่งประโยค
“่นี้องค์รัชทายาทยุ่งมากเ้าค่ะ” นางไม่ควรเอ่ยถามประโยคนี้ทว่าเลี่ยนเซียงกลับตอบโดยไม่ได้คิดแปลกใจ
“ดูเหมือนว่าจะมีเื่อยู่ในใจ คิ้วขององค์รัชทายาทไม่ได้คลายออกมาหลายวันแล้ว” เมื่อกล่าวจบนางจึงขมวดคิ้วสายตาสะท้อนประกายเห็นใจ
กงอี่โม่จึงมั่นใจมากยิ่งขึ้น ครั้งที่แล้วถึงคนเ่าั้เล่นงานไม่สำเร็จแต่ก็ถือว่าเปิดเผยโฉมหน้าออกมาแล้วพวกเขาต้องกลัวว่าต่อไปหากฮองเฮาตั้งตัวได้แล้วอาจกลับมาเอาคืน ดังนั้น่นี้จึงต้องโจมตีกันโดยตรงต้องวางกลยุทธ์ไม่จบไม่สิ้น
เป็ไปตามคาด เมื่อถึงตอนพลบค่ำกงอี่โม่ยังคงไม่เห็นเงาของกงเช่อ
“คุณหนูไม่จำเป็ต้องกังวลนะเ้าคะ บางทีวันนี้อาจมีราชกิจมากมายองค์รัชทายาทจึงพักในตำหนักบูรพาแล้วก็ได้เ้าค่ะ” เลี่ยนเซียงเห็นนางมองไปทางด้านนอกอยู่บ่อยๆอีกฝ่ายจึงกล่าวปลอบใจ
“ข้าไม่ได้กังวลเื่นี้ ตระกูลหลิวเป็ตระกูลใหญ่ที่ดินในต้าอวี้อยู่แห่งใดหรือ?” กงอี่โม่มองไปนอกหน้าต่าง
“ที่ดินตระกูลหลิวอยู่บริเวณอวี้โหลวทางทักษิณ บรรพบุรุษตระกูลหลิวตั้งรกรากอยู่อวี้โหลวเ้าค่ะ” นางถามเช่นนี้ทำให้เลี่ยนเซียงรู้สึกประหลาดใจนางครุ่นคิดชั่วครู่
กงอี่โม่พยักหน้าแสดงว่าเข้าใจแล้ว
ชาติที่แล้ว ตอนที่นางเจอกงเช่อนั้นเขาไม่เหลืออะไรเลยตอนนี้เขายังมีตระกูลทางมารดา จึงสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ให้มากที่สุด
เดิมทีกงอี่โม่คิดรอกงเช่อกลับมาแล้วทานอาหารพร้อมกันทว่ารอมานานแล้วเขาก็ยังไม่กลับมา นางจึงเตรียมตัวทานก่อนทันใดนั้นเลี่ยนเซียงเดินเข้ามาอย่ารีบร้อน “คุณหนู แย่แล้วฮองเฮาเหนียงเหนียงเคยวางกลอุบายทำลายพระโอรส ตอนนี้มีหลักฐานชัดเจนกำลังรอฟังบทลงโทษ ส่วนองค์รัชทายาทกำลังขอร้องอยู่ที่ตำหนักจาวหยางเ้าค่ะ”
“เสด็จพ่อ”
กงเช่อคุกเข่าอยู่ที่ตำหนักจาวหยาง หลายวันมานี้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นต่อเนื่องเริ่มแรกท่านตาเกิดเื่ ตอนนี้คือเสด็จแม่ของเขา
“เ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือ?” ฮ่องเต้นั่งอยู่บนเก้าอี้ประทับในตำแหน่งสูง เขายิ้มอย่างเ็า
“เสด็จพ่อกระหม่อมรู้ว่าเมื่อก่อนเสด็จแม่ลงมือทำร้ายพระสนมชายาที่กำลังมีครรภ์เป็สิ่งไม่ถูกต้องทว่าวังหลังแห่งนี้จะมีสักกี่คนที่มือสะอาดอย่างแท้จริง? เสด็จพ่อ เสด็จแม่แต่งงานกับท่านมาหลายปีขนาดนี้ถึงไม่มีความดีความชอบแต่ก็ลำบากไม่น้อย ขอให้เสด็จพ่อได้โปรดให้อภัยอย่าได้ปลดเสด็จแม่ออกจากการเป็ฮองเฮาด้วยพ่ะย่ะค่ะ” กงเช่อโขกศีรษะอย่างแรงพร้อมเอ่ยขึ้น
กงเซิ่งสวมมงกุฎบนศีรษะ เขาก้มหน้ามองอีกฝ่ายอย่างเ็าจากนั้นจึงโยนหลักฐานที่คนอื่นส่งมาใส่เบื้องหน้าของอีกฝ่าย
“ทำไมข้าต้องฟังเ้า? ทำร้ายโอรส ลงมือกับสตรีมีครรภ์ ฮองเฮาประพฤติไม่ดี มีจิตใจอำมหิตไม่ควรเป็มารดาแห่งแผ่นดิน เ้ายังมีข้อโต้แย้งอีกไหม?”
กงเช่อเข้าใจเป็อย่างดี เมื่ออีกฝ่ายร่วมมือกันเล่นงานเสด็จแม่อีกทั้งเสด็จแม่ก็เคยทำผิดจริงๆ นางจึงไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้แล้วทว่าเขาในฐานะบุตรของนางจะวางตัวนิ่งเฉยได้อย่างไร?
เขายืดตัวตรง เผชิญหน้าต่อหน้าพระพักตร์โดยตรง
“เสด็จพ่อหากว่ากันตามจริงแล้วที่เสด็จแม่ทำเช่นนี้ก็เพื่อรักษาตำแหน่งองค์รัชทายาทของกระหม่อม”
เมื่อกล่าวจบ เขาจึงยิ้มเย้ยหยันตนเอง จากนั้นทำความเคารพอีกครั้ง“ก็เหมือนเมื่อไม่นานนี้ ราชสำนักมีเหตุการณ์มากมาย ตอนนี้แม้กระทั่งเหตุการณ์เก่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนยังปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสิ่งเหล่านี้ก็เพราะตำแหน่งองค์รัชทายาทของกระหม่อม เช่นนั้นเสด็จพ่อโปรดแต่งตั้งตำแหน่งนี้ใหม่เถิดขอเพียงครั้งนี้เสด็จพ่อโปรดให้อภัยเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อกงเซิ่งได้ฟังคำพูดของเขาแล้วจึงหัวเราะเสียงดังอย่างฉับพลัน
กงเช่อกล่าวถูกต้อง สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะตำแหน่งองค์รัชทายาท่นี้เขารู้สึกรำคาญกับเื่เหล่านี้มากพอแล้ว
คนที่วันๆ เอาแต่วางกลอุบายหากใช้ความพยายามเหล่านี้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนต้าอวี้ก็น่าจะเจริญรุ่งเรืองต่อไปใช่ไหม?
“ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ฮองเฮาประพฤติผิด ห้ามออกจากตำหนักเฟิ่งชี ให้รอฟังบทลงโทษส่วนเ้า” กงเซิ่งตีหน้าขรึม เขาตัดสินใจแล้ว
กงเซิ่งลูบปลายคางเขาพลันหัวเราะ
“เป็องค์รัชทายาทแล้วอย่างไร? เป็องค์รัชทายาทแล้วจะต้องสืบทอดตำแหน่งของข้าอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อเขากล่าวประโยคนี้ ผู้ที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างไม่มีใครกล้ากล่าวต่อทุกคนต่างเกร็งไปทั้งร่าง
“แผ่นดินที่ข้าปกครองนี้หากมีใครสักคนที่สามารถพาต้าอวี้ของข้าขึ้นสู่จุดสูงสุดก็คือผู้สืบทอดไม่จำเป็ต้องเป็องค์รัชทายาทอะไรเลย” เขาหัวเราะพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้ง
คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของกงเช่อประเดี๋ยวขาวประเดี๋ยวแดงเขาััได้ถึงความอัปยศและความรู้สึกที่ถูกเล่นตลกมาตลอด ทำให้เขาแทบล้มลงหากตำแหน่งองค์รัชทายาทไม่มีค่าอะไร เช่นนั้นความลำบากของเสด็จแม่ในหลายปีมานี้ความพยายามของตระกูลหลิวในหลายปีมานี้ก็เป็เพียงเื่ตลกเท่านั้น
“ฝ่าา เช่นนี้ไม่ค่อยเหมาะสมกระมังการแต่งตั้งบุตรชายคนโตของชายาเอกถือเป็กฎเกณฑ์มาั้แ่สมัยโบราณฝ่าาตรัสเช่นนี้ หากตระกูลทั้งหลายเอาเป็แบบอย่างไม่มีการแบ่งชั้นผู้าุโผู้น้อย ไม่มีการแบ่งแยกชายาเองชายารองมันจะไม่วุ่นวายหรือพ่ะย่ะค่ะ?” เวลานี้ฉางสี่ถือเป็คนเดียวที่สามารถเอ่ยปากได้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
กงเซิ่งสบถเสียงเย็นหนึ่งคำ
“การแต่งตั้งบุตรชายคนโตของชายาเอก หากเป็ครอบครัวธรรมดาแม้เป็การแต่งตั้งผิดพลาด แต่ก็ส่งผลต่อครอบครัวเดียว ทว่าโอรส์หากผิดพลาดแล้วจะส่งผลต่อผู้คนในใต้หล้า”
ดูเหมือนว่ากงเซิ่งจะมีความคิดเช่นนี้มานานแล้วเพียงแต่เขาเพิ่งลงมือในเวลานี้ เขากล่าวเสียงต่ำพร้อมเลิกคิ้ว
“ข้า้าให้คนเ่าั้รู้ว่า การเล่นลูกไม้ต่อหน้าข้าการเข่นฆ่าซึ่งกันและกันไม่มีประโยชน์อันใด แต่ควรทำผลงานให้ผู้คนยอมรับข้าไม่ใช่คนมักง่าย ข้าจะเปิดโอกาสให้กับทุกคน หากบุตรชายของข้าเหนือกว่าข้าเวลานั้นจึงจะเป็สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของข้า”
“เ้าก็เช่นกัน ราชบัลลังก์นี้ ผู้มีความสามารถเท่านั้นที่จะเป็ผู้” เมื่อกล่าวจบเขาจึงมองใบหน้าซีดขาวของกงเช่อ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้