มือของนางกำลังจะยื่นลงไปในทะเลสาบ ซือคงเซิ่งเจี๋ยรีบตวาดห้ามทันที “ที่นี่ไม่ได้! เปลี่ยนสถานที่!”
เขายังไม่ลืมว่า เมื่อสักครู่นางเทหมูสามชั้นในน้ำซอสลงไปในทะเลสาบแห่งนี้
เฟิ่งเฉี่ยนอดทนอดกลั้นต่อเขา เดินไปล้างมือไกลอีกหน่อย ข้างหูได้ยินเสียงของเขากำชับขึ้นอีกว่า “ไม่ได้ ล้างอีกครั้งหนึ่ง! ...เพิ่งจะห้าครั้ง ล้างอีก! ...ยังมีครั้งสุดท้าย! ...ช้าก่อน เ้าล้างอีกสักครั้งก็แล้วกัน!”
เฟิ่งเฉี่ยนอับจนคำพูด ไม่เคยพบเห็นใครเป็เหมือนเขา นางล้างมือครั้งสุดท้ายพร้อมกับความอดทนที่หมดสิ้นลง นางสะบัดหยดน้ำในมือออกไปพร้อมกับเดินเข้ามาหาเขา นางพูดด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์อย่างคุณยายใจดีในคราบสุนัขจิ้งจอก “เตรียมพร้อมแล้วหรือไม่ ข้าจะััเ้าแล้วนะ!”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยตวัดสายตามองนาง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยความรู้สึกรังเกียจรังงอน “ครู่เดียวเท่านั้น! ห้ามได้คืบเอาศอกเด็ดขาด!”
นี่เป็ความอดทนขั้นสุดที่เขาจะรับได้ หากมิใช่เพราะหมูสามชั้นในน้ำซอสที่มีรสชาติอันโอชานั้นแล้วละก็ เขาไม่มีทางยินยอมให้ผู้อื่นััเส้นผมของเขาหรอก!
เฟิ่งเฉี่ยนถูกสายตาของเขาทำให้เบิกบานใจที่สุด ความเศร้าหมองในจิตใจหายไปกว่าครึ่ง นางกางนิ้วมือออกแล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ เขา
ซือคงเซิ่งเจี๋ยค่อยๆ ขยับถอยไปด้านหลังทีละน้อยๆ อวัยวะทุกส่วนบนร่างกายล้วนกำลังต่อต้าน โรครักสะอาดของเขามิได้อยู่ในระดับสาหัสธรรมดา
เฟิ่งเฉี่ยนฉวยโอกาสโจมตี จับเส้นผมของเขาปอยหนึ่งแล้วนำมาพิจารณาดูอย่างละเอียด เป็ขณะเดียวกันกับที่ร่างของซือคงเซิ่งเจี๋ยสั่นเทิ้ม ราวกับพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะอดทน
เส้นผมของเขาเป็สีเงินจนเกือบจะโปร่งแสงได้ มันโปร่งแสงใสราวกับคริสตัล และเหมือนหิมะด้วย ััที่มือได้รับนั้นเย็นเยียบ สะท้อนแสงและลื่นมือ นี่แทบจะเรียกได้ว่าเป็ประติมากรรมชิ้นเอกของโลกก็ว่าได้!
นางอดที่จะมองจนเหม่อลอยไม่ได้ เส้นผมไหลลงมาตามง่ามนิ้วของนาง นางทอดถอนใจ “งดงามจริงๆ! อิจฉาเ้าจริงๆ ที่มีเส้นผมสีขาวที่งดงามเช่นนี้!”
ทว่าน่าเสียดายที่เส้นผมยาวสลวยงดงามนี้กลับเป็เพราะต้องพิษ!
วินาทีที่เข้าใกล้ตัวเขา นางััได้ทันทีว่าในร่างกายของเขามีพิษชนิดรุนแรง!
ดังนั้น นางยืนกรานที่จะััเส้นผมของเขาให้ได้ เพราะนางไม่เคยพบพิษชนิดนี้มาก่อน
ร่างของซือคงเซิ่งเจี๋ยแข็งค้าง เขามองนางอย่างประหลาดใจ เห็นความจริงใจในแววตาของนาง ในใจของเขาเริ่มสั่นไหว ในหูพลันได้ยินคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเขาอย่างสาหัสในอดีต
“เส้นผมขาวั้แ่กำเนิด จะต้องเป็ปีศาจกลับชาติมาเกิดแน่นอน เด็กคนนี้เอาไว้ไม่ได้!”
“เด็กคนนี้เกิดมาก็ถูกคำสาป ทำร้ายผู้อื่นและทำร้ายตนเอง เก็บไว้ไม่ได้เด็ดขาด!”
“ต้องสังหารเขา! เก็บเขาไว้จะเป็โชคร้ายของแคว้นหนานเยียน!”
“มหันตภัยร้ายลงมาจาก์ ต้องเกิดขึ้นเพราะองค์ชายสามเป็ต้นเหตุ ต้องใช้ไฟเผาเขา บูชายัญเทพเ้าบนสรวง์!”
“เขาป่วย และเป็โรคติดต่อ ทุกคนอย่าเข้าใกล้เขา!”
“เขาเป็ปีศาจ ทุกคนอย่าไปเล่นกับเขา!”
“ตีเขา! ตีเขา!”
ดวงตาเจิดจ้าดั่งดวงดาราของซือคงเซิ่งเจี๋ยหม่นวูบ ที่เข้ามาแทนที่คือความเ็ปอันชัดเจน เขาแค่นหัวเราะเสียงเย็น “เหมือนปีศาจเช่นข้า เ้าไม่กลัวหรือ”
“เหตุใดต้องกลัวด้วย” เฟิ่งเฉี่ยนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ สายตาของนางตกลงบนเส้นผมของเขาอีก “เ้าเพียงแต่พิษในร่างกำเริบ เป็คนป่วยคนหนึ่ง จะเป็ปีศาจได้อย่างไร”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยสะท้านทั้งร่าง เขามองนางด้วยสายตาเหลือเชื่อ “เ้ารู้ได้อย่างไร”
เฟิ่งเฉี่ยนเล่นเส้นผมในมือ “พิษของเ้าน่าจะได้มาั้แ่อยู่ในครรภ์มารดา ข้ายังไม่เคยพบเห็นพิษร้ายแรงและประหลาดเช่นนี้มาก่อน ในตำราพิษของศิษย์พี่ของข้าไม่ได้บันทึกไว้เช่นกัน ทว่าข้าเชื่อว่าขอให้เป็พิษในใต้หล้าล้วนถอนพิษได้ทั้งสิ้น ปัญหาคือเื่ของเวลาเท่านั้น...”
“จริงหรือ? เ้ามีวิธีถอนพิษจริงหรือ” ั์ตาดำขลับของซือคงเซิ่งเจี๋ยเปล่งประกายแห่งความหวัง แต่กลับหม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว เขาหัวเราะเสียงขืน “เ้าถอนพิษไม่ได้หรอก! เพื่อข้าแล้วเสด็จพ่อเชิญหมอเทวดามานับไม่ถ้วน ล้วนไม่มีใครสักคนที่ถอนพิษได้ เ้าอายุน้อยเช่นนี้ทั้งยังมิใช่ท่านหมอ จะถอนพิษได้อย่างไร”
เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วหัวเราะอย่างปลงตก “ที่จริงเป็อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน! อย่างน้อยข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสามปี ฉวยโอกาสในสามปีนี้ก้าวขึ้นมาเป็นักเดินหมากล้อมที่ฝีมือเยี่ยมยอดที่สุด เอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคน สำหรับข้าถือว่าพอแล้ว เพียงพอแล้ว...”
แม้ปากของเขาจะพูดเช่นนี้ แต่เฟิ่งเฉี่ยนดูออกว่าในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวังอันไร้ขีดจำกัด ใต้หล้านี้จะมีใครยินยอมถอดใจกับการมีชีวิตได้อย่างง่ายดายกันเล่า
นางมองเขาอย่างจริงจังแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไม่พอ! สามปีไม่พอ! ขอเพียงมีความหวังเพียงริบหรี่ เ้าก็ไม่สมควรถอดใจ!”
แววตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยคมปลาบ ได้ยินนางพูดต่ออีกว่า “แม้ตอนนี้ข้าจะยังไม่มีวิธีถอนพิษ แต่ข้าเชื่อว่าจะหาวิธีถอนพิษได้แน่นอน อย่าลืมว่าเ้าและข้ายังมีนัดกันในอีกหนึ่งปีข้างหน้า! ข้าไม่มีทางปล่อยให้คู่ต่อสู้ของข้าตายง่ายๆ หรอก!”
พูดแล้วนางก็ก้มหน้าลงไปพิจารณาเส้นผมของเขาอีก
แววตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยไหววูบ เขาจ้องมองนางเงียบๆ ลืมไปว่าเขาอนุญาตให้นางััได้ครู่เดียวเท่านั้น ปล่อยให้นางจับเส้นผมของเขามาเล่นในมือเนิ่นนาน
ราวกับมีความอบอุ่นที่อธิบายสาเหตุไม่ได้ส่งผ่านปลายนิ้วของนางมาถึงเส้นผมของเขา ในใจของเขาเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้าง
เมื่อเซวียนหยวนเช่อและซือคงจวินเย่เดินเข้ามาใกล้นั้น ภาพที่เห็นก็คือภาพนี้...
เส้นผมของซือคงเซิ่งเจี๋ยไหลลงมาตามง่ามนิ้วของเฟิ่งเฉี่ยน เฟิ่งเฉี่ยนพุ่งสมาธิอยู่กับการพิจารณาเส้นผมของเขา ส่วนซือคงเซิ่งเจี๋ยใจจดใจจ่อจ้องมองนาง ในชั้นบรรยากาศมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปอย่างไร้ซุ่มเสียง!
เห็นภาพนี้เข้า ม่านตาของเซวียนหยวนเช่อพลันหดแคบลง คิ้วเข้มนั้นขมวดมุ่น
ซือคงจวินเย่ตกตะลึงจนดวงตาเบิกกว้าง ไม่อยากเชื่อว่าน้องชายที่รักความสะอาดเป็บ้าเป็หลัง ไม่เคยยินยอมให้ใครััเส้นผมของเขามาก่อน มีเพียงเขาคนเดียวที่เป็ข้อยกเว้น แต่ยามนี้เขาไม่ใช่ข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวอีกแล้ว!
ที่ทำให้เขายากจะยอมรับยิ่งกว่าคือ คนๆ นี้มิใช่ใครอื่น แต่เป็--เฟิ่งเฉี่ยนที่เอาชนะน้องชายเมื่อวานนี้ ทำลายสถิติไม่เคยพ่ายแพ้แก่ใครของน้องชาย!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ที่ทำให้เขาประหลาดมากขึ้นคือสายตาที่น้องชายมองอีกฝ่าย เป็สายตามุ่งมั่นอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ยังมีความรู้สึกสับสนที่อธิบายไม่ชัดเจนอีกชนิดหนึ่งด้วย
เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว เขาต้องขัดจังหวะโดยด่วน!
“อาเซิ่ง พวกเ้ากำลังทำอะไรกันอยู่?”
เฟิ่งเฉี่ยนได้สติหันกลับมา เห็นเซวียนหยวนเช่อยืนอยู่เบื้องหน้า เขามองนางด้วยสายตาเ็าแฝงคำถามและความสงสัย นางพลันมีความรู้สึกเหมือนเห็นภาพหลอน!
ทั้งๆ ที่เมื่อคืนยังเป็คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันแท้ๆ วันนี้กลับเป็เช่นคนแปลกหน้า ทำให้นางมองไม่ออก
นางในใจเขา อยู่ในฐานะอะไรกันแน่?
เหตุใดเขาต้องพูดว่าเขาใส่ใจและชมชอบนาง ทว่าเพียงกลับหลังหัน ก็ไปแต่งตั้งหญิงอื่นขึ้นเป็พระชายา
เขาเอานางไปไว้ที่ไหน?
หรือตลอดมาล้วนเป็นางที่ละโมบเกินไป คาดหวังในสิ่งที่ไม่ควร
เห็นเขาที่ยืนสง่าผ่าเผยอยู่ตรงหน้า นางกลับรู้สึกว่าเขายิ่งห่างไกลออกไป
คนอยู่ตรงหน้า แต่ใจอยู่ห่างกัน!
ในใจของนางเริ่มเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง นางเบี่ยงหน้าหลบสายตาของเขา
สายตาของเซวียนหยวนเช่อระแวดระวังทันที เขาพลันรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี
ซือคงเซิ่งเจี๋ยลุกขึ้น เขามองเซวียนหยวนเช่อด้วยสายตาเย่อหยิ่งจองหอง “เ้าก็คือฮ่องเต้ของแคว้นเป่ยเยียนหรือ”
เซวียนหยวนเช่อไม่พูดไม่จา สายตาตกอยู่บนร่างของเฟิ่งเฉี่ยน
ซือคงเซิ่งเจี๋ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจพลันรู้สึกคุ้นเคยอย่างหาสาเหตุไม่ได้ “พวกเราเคยพบกันมาก่อนหรือไม่?”
เซวียนหยวนเช่อขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อยๆ ในที่สุดก็ละเลื่อนสายตามาบนร่างของซือคงเซิ่งเจี๋ยแล้วพูดเสียงหนัก “ไม่เคยพบกันมาก่อน!”
“ใช่หรือ?” ซือคงเซิ่งเจี๋ยมีสีหน้าสงสัย เขามองประเมินเซวียนหยวนเช่ออย่างละเอียดอีกครั้ง “แต่เหตุใดข้าจึงรู้สึกเหมือนกับพวกเรารู้จักกัน อีกทั้งยังคุ้นเคยกันมากด้วย”
เซวียนหยวนเช่อพูดเสียงเย็น “นั่นเป็เพราะเ้าคิดไปเอง!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้