ทางฝั่งของอู๋ซูกับทหารห้าสิบนาย ที่มาถึงจวนตระกูลเหลียง ท่ามกลางสายตาของบ่าวไพร่จวนใกล้เคียง ที่เริ่มออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารให้เ้านาย ต่างขยับเท้าเข้าไปใกล้กำแพงจวนอย่างช้า ๆ เนื่องจากอยากรู้ว่าเกิดเื่อันใดขึ้นกับตระกูลนี้
อู๋ซูไม่รีรอที่จะใช้เท้าของตนถีบประตู แม้จะมีบ่าวไพร่ยืนเฝ้าอยู่ก็ตาม “ปัง! ทุกคนเข้าไปจับตัวผู้เป็นายของจวนนี้มาให้หมด ส่วนบ่าวไพร่และสาวใช้หากคนไหนขัดขวาง ให้จับตัวมาพร้อมผู้เป็นาย”
พ่อบ้านเหลียงที่รีบวิ่งออกมารับหน้า ถึงกับงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “พวกเ้าบุกเข้ามาในจวนผู้อื่นเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร ข้าไม่เคยเห็นหน้าเ้ามาก่อนเลยนะพ่อหนุ่ม”
“ใช่เ้าไม่เคยเห็นหน้าข้ามาก่อน เพราะข้ามิใช่คนของเจิ้งเฉาต๋า นักโทษฏของแคว้นเป่ยชาง และที่ข้านำทหารบุกเข้ามาในจวนเ้านายของเ้า นั่นเป็เพราะว่านายท่านเหลียงมีส่วนรู้เห็น เกี่ยวกับการนำผ้าไหมไปขายยังต่างแคว้นร่วมกับเหยียนโจวเฟิ่ง ข้าคิดว่าข้อนี้ตัวเ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจกระมัง” อู๋ซูมิได้พูดเปล่าเขาเดินเข้าหาพ่อบ้านเหลียง จนอีกฝ่ายถอยหลังและสะดุดล้มลงกับพื้น
“จะ จะ เ้ารู้เื่นี้ของนายท่านได้อย่างไร หระ หระ หรือว่ามีคนของเ้าอยู่ในจวนคอยส่งข่าวให้งั้นรึ”
อู๋ซูแทบอยากจะหัวเราะให้ฟันหัก กับความคิดของพ่อบ้านเหลียง “หึ ไม่มีความจำเป็ที่ข้าต้องทำเช่นนั้น คนที่ทำความชั่วหางมักจะโผล่ออกมาเองทั้งนั้น นั่งรอเ้านายอยู่ตรงนี้เงียบ ๆ ก็พออย่าได้คิดขัดขืนเป็อันขาด”
พ่อบ้านเหลียงจำต้องทำตามคำสั่งของอู๋ซู เพราะตนเองไม่มีวิชาต่อสู้เช่นคนสนิทของเ้านาย เสียงเอะอะโวยวายยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เมื่อนายท่านเหลียงถูกทหารปลุกออกมาจากเตียงนอน ตลอดทางเดินมาถึงห้องโถงด้านหน้า มีแต่คำด่าทอต่อว่าอย่างรุนแรงอยู่ตลอดเวลา
“ปล่อยได้แล้วพวกเ้าฟังที่ข้าพูดไม่เข้าใจงั้นรึ ว่าข้าเป็คนของเ้าเมืองเจิ้ง หากยังไม่ยอมปล่อยข้าพวกเ้าต้องโดนดีแน่”
“ท่านพี่ ๆ คนพวกนี้มาจากที่ใดกันเ้าคะ ทำไมถึงได้จับตัวพวกเรามาทั้งแบบนี้เล่า” ฮูหยินเอกของนายท่านเหลียง เอ่ยถามด้วยความสงสัยไหนสามีของนางบอกว่า มีท่านเ้าเมืองเจิ้งหนุนหลังจะทำอันใดก็ได้ไม่ใช่หรืออย่างไร
นายท่านเหลียงที่อยู่ในอารมณ์โกรธ ไม่มีทางจะตอบคำถามของฮูหยินตนเองเช่นปกติแน่ “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเกิดอันใดขึ้น ในเมื่อข้าก็อยู่กับเ้าที่เรือนมิใช่รึ!”
“ท่านพ่อข้ากลัวเ้าค่ะ” บุตรสาวคนโตของนายท่านเหลียง วิ่งเข้ามากอดแขนบิดาพร้อมน้ำตาที่ไหลจากความกลัว
แต่เสียงของอู๋ซูกลับเรียกความสนใจของพวกเขาในทันที “พวกเ้าจะกรีดร้องไปเพื่ออันใดกัน ในเมื่อผู้เป็สามีและบิดาของพวกเ้า กระทำความผิดร้ายแรงต่อบ้านเมือง ข้าพูดเพียงเท่านี้นายท่านเหลียงเอง น่าจะรู้ตัวนะว่าทำการอันใดไปบ้าง”
สิ้นเสียงของอู๋ซูลง นายท่านเหลียงถึงกับพูดไม่ออก ถึงแม้จะมีสายตาจากคนในตระกูลตั้งคำถาม แต่พวกเขากลับไม่ได้คำตอบจากนายท่านเหลียงแม้ครึ่งคำ
อู๋ซูเห็นว่าคนในตระกูลนี้ถูกจับมาครบแล้ว จึงให้ทหารช่วยพาตัวไปรอหยางไท่ิที่ศาลาว่าการ “ทุกคนนำตัวนักโทษฏตระกูลเหลียง พร้อมทรัพย์สินทั้งหมดไปยังศาลาว่าการ”
ภายในเมืองผู่กังผู้ที่ให้ความร่วมมือกับเหยียนโจวเฟิ่ง ล้วนถูกจับกุมตัวเอาไว้เป็ที่เรียบร้อยแล้ว คงมีเพียง้าูเาผู่ถัว ซึ่งมีฟงเฉิงฮ่าวได้แยกไปช่วยเหลือช่างทอผ้าที่ถูกลักพาตัวมา เพื่อทำงานทอผ้าไหมให้เหยียนโจวเฟิ่งนำไปขายยังต่างแคว้น
ณ เชิงเขาผู่ถัว
ฟงเฉิงฮ่าวที่นำกำลังทหารจำนวนหนึ่งร้อยนาย เดินทางมาถึงเชิงเขาผู่ถัวได้เกือบหนึ่งเค่อแล้ว แต่ก่อนจะขึ้นเขาได้สั่งให้ทหารกระจายตัวออกไป อย่าจับกลุ่มเกินห้าคนเพื่อป้องกันสายตาเวรยาม ที่เหยียนโจวเฟิ่งสั่งให้ดูแลรอบ ๆ โรงทอผ้าเถื่อนแห่งนี้
ก่อนจะแยกย้ายกันเดินขึ้นูเา ฟงเฉิงฮ่าวไม่ลืมเตือนเหล่าทหารอีกครั้ง “จำไว้ให้ดีระวังตัวให้ดี อย่าได้ประมาทฝีมือของอีกฝ่ายเด็ดขาด หากจำเป็ก็สังหารพวกมันเสีย ส่วนใครยอมวางอาวุธก็จับกุมตัวกลับไป ที่สำคัญที่สุดชาวบ้านที่เป็ช่างทอผ้า จะต้องปลอดภัยทุกคนเข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
“อืม แยกย้ายได้”
ฟงเฉิงฮ่าวกับกำลังทหารบางส่วน จะบุกขึ้นทางด้านหน้าูเาส่วนที่เหลือแบ่งเป็ด้านซ้ายและขวา เพื่อป้องกันมิให้ลูกน้องของเหยียนโจวเฟิ่งหลบหนีไปได้ ทุกคนพยายามเคลื่อนไหวให้เงียบที่สุด เพราะไม่้าแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียก่อน
พื้นที่บริเวณด้านนอกถ้ำขนาดใหญ่ มีลูกน้องที่คอยสอดส่องคนแปลกหน้าอยู่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำยังมีจำนวนพอ ๆ กับทหารที่ฟงเฉิงฮ่าวพามาด้วยเช่นกัน แต่ฝีมือการต่อสู้ของคนเฝ้าถ้ำ กลับไม่สามารถต้านทานคุณชายรองจากจวนอิงกั๋วกง ผู้มีบิดาเป็ถึงแม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวง ซึ่งเ้าตัวนั้นถูกเคี่ยวเข็ญให้ฝึกวรยุทธ์ั้แ่อายุได้สี่หนาว
เมื่อขึ้นมาอยู่ในระยะที่คาดการณ์ไว้ เสียงคำสั่งจากฟงเฉิงฮ่าวก็ดังขึ้นทันที “พวกเราบุกได้!!”
ย้ากกก!! เคร้ง! ฉัวะ! อ้ากกก! ตุบตับ! ฉึก!
ด้านนอกถ้ำเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด ฟงเฉิงฮ่าวใช้ดาบอันคมกริบของตน สังหารลูกน้องของเหยียนโจวเฟิ่ง ที่คอยขัดขวางมิให้เขาเข้าไปในถ้ำ ซึ่งช่างทอผ้าที่ได้ยินเสียงของอาวุธที่กระทบกัน ต่างหามุมเพื่อหลบซ่อนตัวกันให้จ้าละหวั่น
ลูกน้องของเหยียนโจวเฟิ่งมิได้มีฝีมือเหนือกว่าทหาร จึงกลายเป็ศพนอนตายเกลื่อนกราด ฟงเฉิงฮ่าวเข้ามาด้านในถ้ำได้ในที่สุด และส่งเสียงบอกกับช่างทอผ้าที่หลบซ่อนอยู่ ว่าตนเองคือคนจากทางการมาเพื่อช่วยเหลือทุกคน
“ทุกท่านออกมาจากที่ซ่อนเถิด ข้าคือคนจากราชสำนักได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ มาช่วยพวกท่านจากคนร้าย ยามนี้สถานการณ์ด้านนอกจบสิ้นแล้ว ข้าจะพาพวกท่านกลับเข้าเมืองผู่กัง เพื่อรับค่าชดเชยก่อนจะเดินทางกลับไปหาครอบครัว” ฟงเฉิงฮ่าวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ถ้ำ ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการทอผ้าอยู่เต็มไปหมด
ช่างทอผ้าคนหนึ่งกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ก็โผล่หน้าออกมาถามกับฟงเฉิงฮ่าว “คุณชายท่านนี้พูดจริงหรือที่บอกว่า พวกข้าจะได้กลับไปหาครอบครัว ไม่ต้องถูกกักขังทำงานอยู่ในถ้ำแห่งนี้อีก”
ฟงเฉิงฮ่าวตอบกลับด้วยสีหน้าที่จริงจัง มิใช่บุรุษอารมณ์ขี้เล่นเช่นก่อนหน้านี้ “ถูกต้อง นอกจากจะกลับไปหาครอบครัวแล้ว ข้ากับสหายที่จัดการจับคนร้ายอยู่ในเมือง ยังจะมอบค่าชดเชยให้พวกท่านทุกคน”
หลังจากได้รับคำยืนยันอันหนักแน่น ช่างทอผ้านับร้อยชีวิตต่างเดินออกจากที่ซ่อน พวกเขาคุกเข่าคำนับกล่าวขอบคุณฟงเฉิงฮ่าว กับความช่วยเหลือให้พวกเขายังมีชีวิตกลับไปหาครอบครัว
เมื่อเดินออกมาด้านนอกทุกคนต้องค่อย ๆ ลืมตา เพื่อทำความคุ้นชินกับแสงสว่างเสียก่อน เนื่องจากอยู่ในถ้ำเป็เวลานาน หากไม่ระวังแสงสว่างที่จ้ามากเกินไปอาจเป็อันตรายต่อดวงตาได้ ส่วนทหารที่ติดตามฟงเฉิงฮ่าวมาทำภารกิจ มีอาการาเ็เล็กน้อยเสียส่วนใหญ่ แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนตายจากการต่อสู้อันดุเดือด
ฟงเฉิงฮ่าวจึงให้คนที่ยังแข็งแรงดี ช่วยกันนำศพของทหารลงเขาไปพร้อมกัน ช่างทอผ้าที่เห็นว่ามีทหารเสียสละชีวิตในการช่วยเหลือครั้งนี้ จึงเข้าไปช่วยทหารแบกศพลงจากเขาอีกแรง
ก่อนจะจากสถานที่ที่ถูกนำมาใช้กักขังช่างทอผ้า ฟงเฉิงฮ่าวหันกลับไปมองด้านในถ้ำ พร้อมหยิบคบเพลิงอันหนึ่งขึ้นมา จากนั้นถือคบเพลิงกลับเข้าไปจุดไฟเผาทำลายเครื่องมือทุกชิ้น เพื่อมิให้ผู้ใดสามารถนำไปหาประโยชน์ส่วนตัวได้อีก
“หึ ขอบใจเ้ามากนะเหยียนโจวเฟิ่ง ที่ทำให้ข้ากับอาิเดินทางมาจัดการกับเ้าจนได้พบสตรีในฝัน ไว้ข้าจะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ เผื่อเ้าอยากเอาไปซื้อความสุขในนรกก็แล้วกัน”
