น่าเสียดายที่ความพยายามของพวกพันเทาทั้งสี่คน ดูคล้ายจะช่วยเหลือเนี่ยเทียนไม่ได้มากนัก
เส้นเืมากมายหลายเส้น แน่นขนัดถี่ยิบ ดุจดั่งวัชพืชที่ฝืนเติบโต เหนียวทนทานอย่างถึงที่สุด ต่อให้เพิ่มพวกเจิ้งปินเข้ามาก็ยังยากที่จะตวัดฟันเส้นเืเ่าั้ให้ขาดได้ทั้งหมด
แล้วนับประสาอะไรกับที่พวกเจิ้งปินจากไปอย่างไม่เหลียวหลังเมื่อเห็นว่าเนี่ยเทียนหมดหวังที่จะมีชีวิตรอด
เนี่ยเทียนที่ถูกตาข่ายเืรัดพัน เรือนกายยิ่งผอมลงไปเรื่อยๆ แม้แต่ดวงตา... ก็ยังค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็กลวงโบ๋ไร้แสง
กลับกันคือเส้นเืที่ทิ่มแทงเข้าไปในร่างเนี่ยเทียนที่พอดูดเอาเืสดในร่างเขาไปแล้ว แต่ละเส้นก็ยิ่งเปลี่ยนมาเป็หนาใหญ่ แสงสีเืก็ยิ่งเปล่งระยิบระยับ
“ช่วยเขา! รีบช่วยเขาเร็วเข้าสิ!”
เจียงเหมียวโบกกระบี่แหลมคม พยายามโจมตีเส้นเืสุดชีวิต น้ำเสียงสะอึกสะอื้น
เนี่ยเสียนที่มาจากตระกูลเนี่ยเช่นเดียวกันเงียบกริบ สีหน้าดำคล้ำมืดมน เอาแต่เคลื่อนไหวท่าเดิมซ้ำไปซ้ำมาราวกับหุ่นยนต์
คล้ายว่าในใจของเขาเองก็คิดว่าเนี่ยเทียนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ทุกสิ่งที่เขาทำตอนนี้ก็เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึกผิดในวันหน้าเท่านั้น
บนใบหน้าของเจียงหลิงจูจากสำนักหลิงอวิ๋นก็เต็มไปด้วยความเสียดาย รู้สึกว่าเนี่ยเทียนที่โดดเด่นเกินใคร หากต้องมาตายในโลกมายามรกตก็ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก
นางพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยอมรับชะตาฟ้ากำหนด ในใจจึงไม่มีความหวังมากมายนัก
เพราะนางรู้ความน่ากลัวของเวทหลอมเืแห่งสำนักโลหิตดี
“โม่ซี!”
“เ้ากล้าออกมาเชียวรึ!”
“ฆ่าโม่ซีก่อน!”
และเวลานี้เอง เสียงตวาดของพวกอันอิ่ง เจิ้งปินก็ดังลอยมาจากที่ไม่ไกล ตอนที่พวกเขาบุกเข้าหานางมารอวี๋ถง บังเอิญเจอกับโม่ซีที่พุ่งออกมาด้วยความโกรธแค้นพอดี
ทั้งสองฝ่ายจึงเปิดศึกโรมรันกันทันที
ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดจากอีกฝั่ง เจียงหลิงจูขมวดคิ้วน้อยๆ มองเนี่ยเทียนอย่างละเอียด แล้วพลันถอนหายใจกล่าวว่า “เขาไม่รอดแล้วจริงๆ”
เวลานี้ เนี่ยเทียนราวกับถูกดูดเอาเืและน้ำในร่างกายไปจนหมด ผอมซูบลงอย่างน่ากลัว
ดวงตาของเนี่ยเทียนก็ไม่รู้ว่าปิดลงั้แ่เมื่อไหร่ บนร่างของเขานอกจากเสียงเต้นของหัวใจที่ดังแ่แล้ว แม้แต่ลมหายใจก็ยังหยุดชะงักลง
กลับกันคือเส้นเืที่ทิ่มแทงเข้าไปในร่างของเขาที่ยิ่งเปลี่ยนมาเป็หนาใหญ่ ปลดปล่อยแสงสีแดงน่าตะลึง
“พันเทา ไม่ต้องช่วยต่อแล้ว แม้ว่าข้าก็อยากช่วยเขา แต่เขา...” เจียงหลิงจูส่ายหน้า สีหน้าหดหู่ “เขาใกล้จะตายแล้วจริงๆ ด้วยกำลังของพวกเรา มิอาจหยุดยั้งการร่ายเวทหลอมเืของอวี๋ถงได้ หากอยากช่วยเขาจริงๆ มีเพียงฆ่าอวี๋ถงผู้เป็คนร่ายเวทให้ตายเท่านั้น”
“หากฆ่าอวี๋ถงให้ได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด บางที... เขาอาจจะยังพอมีความหวังที่จะรอดชีวิต”
“อวี๋ถง?” พันเทาตาแดงก่ำ ลังเลเล็กน้อยก็กัดฟันกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ไปฆ่านาง!”
“ไป!” เนี่ยเสียนะโ
เจียงหลิงจูพยักหน้า ในที่สุดก็ไม่เสียเวลาอีก นำพาพันเทาและเนี่ยเสียนไปรวมตัวกับเจิ้งปิน
ทว่าแท้จริงแล้วในใจของเจียงหลิงจูได้ตัดสินโทษปะาให้กับเนี่ยเทียนไปเรียบร้อยแล้ว
นางรู้ว่าบางทีผ่านไปอีกแค่ครึ่งนาที เนี่ยเทียนก็จะสิ้นใจตายอย่างสมบูรณ์แบบ
ส่วนพวกนาง ย่อมไม่มีทางสังหารอวี๋ถงแห่งสำนักโลหิตในระยะเวลาที่สั้นมากขนาดนั้นได้แน่นอน
หลังจากที่พันเทา เนี่ยเสียนและเจียงหลิงจูสามคนจากมา ข้างกายเนี่ยเทียนจึงเหลือแค่เพียงเจียงเหมียว
และเจียงเหมียวก็หยุดการฟาดฟันเส้นเืมากมายเ่าั้ไปแล้ว นางยืนอยู่ไม่ห่างจากเนี่ยเทียนมากนัก มองเขาด้วยน้ำตานองหน้า
นางรู้ว่าความสามารถของตัวเองมีจำกัด ต่อให้จากไปพร้อมกับพวกพันเทา เกรงว่าก็คงช่วยอะไรได้ไม่มากนัก
ด้วยเหตุนี้หากจะทำเช่นนั้น ก็สู้อยู่ข้างกายเนี่ยเทียน มองเขาอยู่เงียบๆ ดีกว่า
“อ๊ะ!” อยู่ๆ เจียงเหมียวก็เอามืออุดปากอุทานเสียงเบา
หลังจากที่ทุกคนทยอยกันจากไป ดวงตาทั้งคู่ที่ปิดแน่นของเนี่ยเทียนพลันเบิกโพลง ั์ดวงตาของเขาพลันสาดประกายความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ออกมาอย่างดุเดือด!
“ตุบๆ!”
เสียงหัวใจที่เดิมทีเบาบางอย่างถึงที่สุดของเนี่ยเทียนพลันเปลี่ยนมาเป็ดังกังวานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ส่วนความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ในดวงตาของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็ความพลุ่งพล่านและความไม่ยินยอม!
เขาไม่ยอมที่จะตายอยู่ที่นี่!
“ตุบๆ! ตุบๆ!”
หลังจากเสียงหัวใจที่ดังกระหน่ำ เจียงเหมียวก็พลันเห็นว่าเนี่ยเทียนอ้าปากคล้ายกำลังคำรามไร้เสียง
บนใบหน้าของเนี่ยเทียนเผยความบ้าคลั่งอย่างเห็นได้ชัด ราวกับพยายามกระตุ้นอะไรบางอย่าง
“สวบๆ!”
เส้นเืมากมายที่ทิ่มแทงเข้าไปในร่างของเนี่ยเทียน ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ ถึงได้เกิดบิดเบี้ยว
เส้นเืแต่ละเส้นที่หนาใหญ่เพราะได้ดูดเอาเืสดของเนี่ยเทียนไป บัดนี้เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามันกลับเปลี่ยนมาเป็เล็กเรียว!
เรือนกายผ่ายผอมราวซากแห้งของเนี่ยเทียนกลับคล้ายถูกเติมลม มันพลันพองขยายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
“โฮก!”
เสียงคำรามเดือดดาลดุร้ายเสียงหนึ่ง ดังออกมาจากปากของเนี่ยเทียน เขาแหงนหน้าขึ้นสูง อ้าปากสูดเอาอากาศเข้าไปคำใหญ่ ราวกับว่า้ากลืนกินฟ้าดินทั้งหมดเข้าไปในท้อง
“เปรียะๆ!”
ตาข่ายเืที่ครอบคลุมตัวของเนี่ยเทียนะเิออก เส้นเืจำนวนนับไม่ถ้วนที่แทงเข้ามาในร่างของเขาคล้ายััได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงพยายามจะถอนตัวออกมาจากร่างของเนี่ยเทียน
“นี่...”
เจียงเหมียวที่มองเนี่ยเทียนด้วยความอึ้งงันก็ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงรู้สึกว่าเส้นเืพวกนั้นคล้ายกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
เส้นเืจำนวนมากมายที่ทิ่มทะลุร่างของเนี่ยเทียน เนื่องจากดูดเอาเืสดของเนี่ยเทียนไปเป็อาหารจึงขยายใหญ่หนาเท่านิ้วก้อย ตอนนี้กลับคืนสภาพเดิม เปลี่ยนมาเป็เล็กเรียวดุจเส้นผม
“สวบ!”
เส้นเืหนึ่งที่อยู่บนลำคอของเนี่ยเทียนคล้ายถูกดึงรั้งจากพลังระลอกหนึ่งจึงหายวับเข้าไปในลำคอของเขา
เจียงเหมียวสีหน้าพรั่นพรึง
“สวบๆ! สวบๆ!”
หลังจากนั้นแค่พริบตาเดียว เส้นเืมากมายกว่าเดิมก็แทงเข้าไปในร่างของเนี่ยเทียนแล้วหายวับไปท่ามกลางเืเนื้อของเขา
ราวกับว่าในร่างของเนี่ยเทียนมีมือประหลาดที่มองไม่เห็นจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังฉุดดึงเส้นเืเ่าั้ เพื่อยัดมันเข้าไปในร่างของเนี่ยเทียนทั้งหมด
เจียงเหมียวเพียงคนเดียวที่อยู่ต่อ มองเหตุการณ์นี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้างปากอ้าค้าง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนร่างของเนี่ยเทียนกันแน่
“อู้ๆ!”
เส้นเืแดงสดปริมาณมากกว่าเดิมที่ไม่ได้แทงทะลุเข้าไปในร่างของเนี่ยเทียนกำลังบิดเบือนอย่างบ้าคลั่ง ส่งเสียงร้องประหลาด ประหนึ่งพยายามสลัดตัวให้พ้นจากเนี่ยเทียนอย่างสุดกำลัง
เส้นเืที่ก่อนหน้านี้ดุดันน่าหวาดกลัว มาบัดนี้คล้ายมองเห็นผีตอนกลางวัน คิดแค่จะหนีออกไปให้ไกลห่างจากเนี่ยเทียนเท่านั้น
ทว่าเนี่ยเทียนกลับคำรามเสียงแหบกร้าว ดูดลมเข้าอย่างต่อเนื่อง
จากการสูดลมของเขา เส้นเืเ่าั้ที่พยายามหนีให้พ้นเสมือนถูกหินแม่เหล็กขนาดใหญ่ั์ดูดรั้งเอาไว้ให้แนบติดกับร่างของเขา
เส้นเืนั้นบีบรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังรัดจนทำให้ผิวเนื้อของเนี่ยเทียนปริแตกออกด้วย
แต่เจียงเหมียวกลับสังเกตเห็นว่าเส้นเืที่รัดแน่นอยู่บนร่างของเนี่ยเทียนก็ค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปใต้ิั คล้ายกลายเป็ส่วนหนึ่งของเืเนื้อเขา
เส้นเืเหลือคณานับที่ก่อนหน้านี้สำแดงอิทธิฤทธิ์ ทิ่มแทงเข้าโจมตีทุกคนอย่างบ้าคลั่ง บัดนี้ส่งเสียง “อู้ๆ” พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสลัดให้หลุด
ทว่าเนื่องจากการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ของเนี่ยเทียน เส้นเืเ่าั้จึงถูกดูดเข้าไปอย่างไร้ความปราณี ถูกเรือนกายของเนี่ยเทียนดูดซับเข้าไปในร่างทีละเส้นอย่างเผด็จการ
ไม่นานร่างกายที่ผ่ายผอมแห้งตอบของเนี่ยเทียน ไม่เพียงแต่กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังปลดปล่อยแสงสีเืเป็ประกายระยิบระยับ และยิ่งใหญ่โตบึกบึนมากกว่าเดิม
ปราณเืเข้มข้นระลอกหนึ่งแผ่ออกมาจากร่างของเนี่ยเทียนโดยที่เขาไม่รู้ตัว ทำให้เจียงเหมียวที่อยู่ด้านข้างอกสั่นขวัญหาย
“เ้า เ้าเป็อะไรไป?” เจียงเหมียวเอ่ยถามอย่างขลาดกลัว
ดวงตาทั้งคู่ของเนี่ยเทียนปลดปล่อยเส้นเืแดงสดออกมา แสงสีเืนั้นก่อตัวขึ้นเป็สสาร คล้ายกระบี่เืแหลมคมสองเล่มที่แทงทะลุออกมาจากในดวงตาของเขา
เขามองเจียงเหมียวหนึ่งครั้ง พลันเอ่ยว่า “ช่วยเป็ผู้พิทักษ์ให้แก่ข้า เื่ที่เกิดขึ้นบนร่างข้าห้ามเอาไปบอกใครทั้งนั้น”
“อ้อ” เจียงเหมียวรีบพยักหน้า
“เฮือก!” เนี่ยเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกอีกหนึ่งครั้ง
เส้นเืมากมายที่เหลืออยู่ข้างกายเขาพยายามบิดส่ายคล้าย้าหนีไปให้ไกล แต่กลับถูกดูดดึงเอาไว้ และค่อยๆ ถูกดึงเข้าไปในร่างเขาทีละเส้น
เส้นเืแดงสดทั้งหมดที่ก่อตัวขึ้นมาจากเืของสัตว์วิเศษซึ่งผ่านการหลอมจากนางมารอวี๋ถง บัดนี้ล้วนถูกดูดซับเข้าไปในเืเนื้อของเขาทั้งสิ้น
“พรวด!”
และเวลานี้เอง อวี๋ถงที่มีลูกศิษย์ของสำนักภูตผีและสำนักโลหิตปกป้องไว้พลันกระอักเืสดออกมาหนึ่งคำแล้วสลบไปทันที
“ศิษย์พี่หญิง!”
“อวี๋ถงถูกเวทต้องห้ามตาข่ายปฐีโจมตีกลับแล้ว!”
“แย่แล้ว! นับแต่นี้ไป นางไม่เพียงแต่ช่วยพวกเราไม่ได้ ทั้งยังจะกลายมาเป็ภาระของพวกเราด้วย!”
“ภารกิจของโลกมายามรกต มาถึงตอนนี้ก็น่าจะสิ้นสุดลงแล้ว”
“แจ้งโม่ซีให้ถอยห่างจากโลกมายามรกตทันที มิฉะนั้นพวกเราจะต้องถูกฆ่าตายที่นี่ทั้งหมด!”
ลูกศิษย์ของสำนักภูตผีและสำนักโลหิต พอเห็นอวี๋ถงหมดสติก็พากันหน้าถอดสี รีบล้มเลิกความคิดที่จะอยู่ในโลกมายามรกตต่อทันที
-----