หญิงชราอุทานอย่างตกตะลึงแกมยินดี "ใช่เลย ข้าเจ็บเหมือนขาใกล้จะขาด ต้องทรมานแสนสาหัสทุกวัน ท่านหมอ ท่านคือเทวดามาโปรดโดยแท้ แค่จับชีพจรก็หยั่งรู้ว่าข้าปวดตรงไหน"
ถังชิงหรูหัวเราะออกมาเบาๆ รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจทำให้ผู้คนััได้ถึงความสูงส่งล้ำลึกอย่างมิอาจคาดคะเน พวกชาวบ้านที่เมื่อครู่คลางแคลงว่าถังชิงหรูคือนักต้มตุ๋น เริ่มสังเกตการรักษาของนางอย่างจดจ่อ หากสตรีผู้นี้เป็หมอเทวดาจริงดังว่า ก็เป็บุญของชาวบ้านตาดำๆ อย่างพวกเขาแล้ว
ถังชิงหรูฝังเข็มทองลงบนตำแหน่งฝังเข็มสิบกว่าจุด หญิงชราเห็นเข็มเล่มยาวเรียงกันเป็ตับเ่าั้ก็แทบหน้ามืด เพื่อเบนความสนใจของอีกฝ่าย ถังชิงหรูจึงชวนนางสนทนาไปด้วย ค่อยๆ ผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ถังชิงก็ถอนเข็มทองออก
หญิงชราลองลุกขึ้นมา ขาขวาที่เมื่อครู่ยังเหมือนเป็ง่อยกลับสามารถขยับได้แล้ว ดวงตาขุ่นมัวพลันฉายแววตื่นเต้นยินดี ยิ้มกล่าว "หายแล้วจริงๆ"
ถังชิงหรูเห็นอีกฝ่ายลุกขึ้นมาะโโลดเต้น ก็ชี้แจงให้ฟังอย่างนุ่มนวล "นี่แค่ดีขึ้นชั่วคราว อาการของท่านค่อนข้างหนัก รักษาครั้งเดียวไม่หายขาดหรอก ต้องฝังเข็มอีกสองสามครั้งเป็อย่างน้อย"
"พรุ่งนี้ท่านจะมาอีกไหม" หญิงชราขอทานมองถังชิงหรูอย่างคาดหวัง
"ข้าต้องดูสถานการณ์ก่อน หากมีเวลาว่าง ข้าจะมาปรากฏตัวที่นี่ ถึงเวลาท่านก็มาหาข้าได้เลย" ถังชิงหรูเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
"ไม่เก็บเงินเหมือนเดิมใช่หรือไม่ ข้าเป็ขอทาน..." หญิงชรานึกกังวลว่าถังชิงหรูจะเรียกเก็บค่ารักษา
"วางใจเถิด ข้าบอกแล้ว จะไม่เก็บค่ารักษาจากพวกท่าน เพียงแต่หากต้องใช้หยูกยา พวกท่านคงต้องจัดการกันเอง ตอนนี้ข้าไม่มีเงิน คงจัดหาสมุนไพรมาให้มิได้" ถังชิงหรูบอกกล่าว
"ไม่ต้องๆ แค่ท่านหมอมาฝังเข็มให้ข้าอีกสักสองสามครั้งก็พอแล้ว ได้โปรดรับคำขอบคุณจากข้าด้วย ท่านช่างเป็พระโพธิสัตว์มาโปรดคนทุกข์ยากโดยแท้" หญิงชราคุกเข่าคำนับ
"ท่านหมอเทวดา ช่วยตรวจให้ข้าด้วย ข้ามีโรคเก่าเป็มานานแล้ว รักษาไม่หายเสียที" หญิงชาวบ้านคนหนึ่งเห็นแม่เฒ่าขอทานลุกขึ้นมาเดินเหินได้ะโได้ ก็ปรี่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากถังชิงหรูทันที
"ท่านหมอเทวดา ร่างกายของข้าก็แย่แล้วเหมือนกัน"
"ท่านหมอเทวดาผู้ใจบุญสุนทาน บุตรชายของข้าตัวร้อนจี๋มาหนึ่งวันแล้ว ท่านช่วยเขาได้หรือไม่ เมื่อครู่ข้าพาไปหาหมอ แต่บ้านข้ายากจน ไม่มีเงินซื้อยา ได้แต่เฝ้ามองเขาทุกข์ทรมาน" หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอุ้มบุตรชายวัยสี่ห้าขวบพลางร้องไห้คร่ำครวญ
ถังชิงหรูเห็นคนไข้มากมายขนาดนี้ อารมณ์ก็ดีขึ้นทันตา ถึงแม้ว่าแต้มความตื้นตันของคนเหล่านี้จะไม่สูงนัก แต่เมื่อมารวมกันจากน้อยก็กลายเป็เยอะได้ เชื่อว่าอีกไม่ช้าระบบก็จะไม่ขาดพลังงานแล้ว
ทว่าอารมณ์ดีๆ ของนางกลับอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเห็นความทุกข์ทรมานของคนไข้ คิดว่าพวกเขาคงถูกโรคภัยรุมเร้าจนเหมือนตายทั้งเป็ เดิมจากที่คิดว่าแค่ทำไปตามหน้าที่ ก็กลายเป็การปฏิบัติต่อคนไข้ด้วยความจริงใจ
"สี่สิบองศา" ถังชิงหรูใช้ปรอทวัดไข้ เด็กน้อยในอ้อมแขนของหญิงคนนั้นไข้มีไข้สูงมาก ตัวร้อนเป็ไฟ พอเห็นมารดาของเด็กกอดบุตรชายไว้แน่น ก็เอ่ยปากด้วยความจนใจ "พี่สะใภ้ท่านนี้ บุตรของท่านไข้สูงมาก หากปล่อยให้ตัวร้อนเช่นนี้ต่อไป เขาอาจพร่ำเพ้อละเมอกลายเป็คนเสียสติ ท่านรีบถอดเสื้อผ้าของเขาออก จะช่วยระบายความร้อน"
"ได้สิๆ" หญิงคนนั้นรีบถอดชุดนวมตัวหนาเตอะของเด็กออก "ข้าได้ยินคนเฒ่าคนแก่ในบ้านบอกว่าทำเช่นนี้จะช่วยขับเหงื่อ แต่หนึ่งวันผ่านไปแล้ว ตัวของเขาก็ยังร้อนอยู่ ข้ามีบุตรชายแค่คนเดียว หากเขามีอันเป็ไป ข้าจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร ท่านหมอเทวดา ได้โปรดช่วยบุตรชายของข้าด้วยนะเ้าคะ"
"ท่านอย่าเพิ่งพูด" ถังชิงหรูใช้แอลกอฮอล์เจือจางเช็ดตัวให้เด็ก "ต่อไปหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ท่านต้องช่วยลดความร้อนให้กับเขาก่อน มิเช่นนั้นหากปล่อยให้ตัวร้อนนานเกินไป เขาจะกลายเป็คนเสียสติไปจริงๆ ที่บ้านมีสุราหรือไม่ เอามาผสมน้ำให้เจือจางใช้เช็ดตัวให้เขาได้"
"ข้าจะจำไว้เ้าค่ะ ขอบคุณท่านหมอมาก" หญิงผู้นั้นรีบเอ่ยปาก
"ให้เขาดื่มน้ำเปล่ามากหน่อย โดยเฉพาะน้ำอุ่น" หลังจากช่วยเช็ดตัวลดอุณหภูมิร่างกายให้เด็กแล้ว ถังชิงหรูก็วัดไข้ให้เขาอีกครั้ง เห็นปรอทวัดไข้แสดงค่าสามสิบเก้าองศาเซลเซียส ก็ครุ่นคิดก่อนออกคำสั่งในใจ 'ยาลดไข้'
เสียงของเสี่ยวอีดังขึ้นข้างหูนาง "ยาลดไข้จำเป็ต้องใช้พลังงานมากเกินไป ตอนนี้นายหญิงยังไม่สามารถใช้ได้ครับ
"แอลกอฮอล์ลดไข้" ถังชิงหรูลองหยิบของออกมาจากกระเป๋าอีกครั้ง
ยารักษาโรคสารพัดชนิดถูกเก็บไว้ในนั้น นอกจากนี้ยังมีของกินและของใช้อีกด้วย แต่ไม่อาจหยิบของออกมาได้ตอนนี้ ถังชิงหรูนึกว่าตนเองจะได้รับพลังงานมาบ้างจากการช่วยรักษาหญิงขอทานเมื่อครู่นี้ แต่พอทดสอบดู ผลลัพธ์ยังคงออกมาเป็ 'ไม่ได้' คะแนนจิตพิสัยจรรยาแพทย์ส่วนนั้นเป็เหมือนน้ำแก้วเดียวกับรถขนฟืนที่ไฟไหม้[1] ต้องขยันสะสมถึงจะเอามาใช้ได้
"พลังงานต่ำเกินไป ถึงไม่สามารถหยิบยาออกมาจากกระเป๋า แต่นายหญิงเพิ่งได้คะแนนจิตพิสัยมาส่วนหนึ่ง สามารถซื้อแผ่นแปะลดไข้จากร้านค้าในระบบได้ครับ" เสี่ยวอีเตือนสติ
เสี่ยวอีเป็จิติญญาของระบบแพทย์อัจฉริยะ ตอนที่เซ็ตระบบเสี่ยวอีก็มีตัวตนอยู่แล้ว ตนเองทำวิจัยเื่นี้มานาน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่าระบบเกิดขึ้นมาได้อย่างไร มันไม่มีรูปลักษณ์ แต่มีอยู่จริง แค่มีพลังงานเพียงพอ ก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนเป็ยารักษาโรคกับร้านค้า ยาบางชนิดยังไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ
"แผ่นแปะลดไข้" ถังชิงหรูท่องในใจ แสร้งสอดมือเข้าไปในอาภรณ์ล้วงของออกมา แต่แท้จริงแล้วเป็แค่การอำพรางสายตาที่จู่ๆ สิ่งของก็มาปรากฏในมือ ขณะดึงมือขวาออกมาจากอกเสื้อ ในมือก็มีแผ่นแปะลดไข้เย็นเฉียบเพิ่มขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
นางแปะแผ่นลดไข้ที่หน้าผากของเด็กชายตัวน้อย แล้วกล่าวกับผู้เป็มารดา "นี่คือสูตรเฉพาะของอาจารย์ข้า ช่วยลดไข้ได้ดีเยี่ยม เมื่อไรที่บุตรของท่านหายตัวร้อนค่อยเอาออก ยิ่งไปกว่านั้นของชิ้นนี้สามารถเก็บได้นาน พวกท่านหาที่วางให้ดี หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ก็เทน้ำใส่ลงไปนิดหน่อยมันจะเย็นขึ้นเอง
คนสมัยเดียวกันกับนางร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยมีใครเป็ไข้เป็หวัด ของสิ่งนี้นางค้นเจอในระบบ่ที่กำลังนึกเบื่อหน่าย หลังจากนั้นก็เอามาวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเป็ของไร้ประโยชน์ จึงไม่เคยเห็น 'สวะ' ชิ้นนี้อยู่ในสายตา แต่สำหรับคนยุคนี้กล่าวได้ว่านี่คือ 'ของจากแดนเซียน' เลยทีเดียว
โลกนี้เดิมทีก็ไม่มีสิ่งใดที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง เมื่อมีอยู่ ก็ย่อมมีราคาและคุณค่า
"ขอบคุณท่านหมอ ขอบคุณท่านหมอ..." หญิงผู้นั้นคุกเข่าโขกศีรษะไม่หยุด
เด็กคนนั้นเมื่อครู่ตัวยังแดงแจ๋ สีหน้าทรมานมาก แต่ยามนี้สีหน้าของเขาดูผ่อนคลาย ความร้อนในร่างกายลดลงแล้ว คนที่มามุงดูเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างมองของที่อยู่บนหน้าผากของเด็กขายด้วยความริษยา ภูมิต้านทานของเด็กเล็กมักไม่ค่อยดี เป็หวัดตัวร้อนคือเื่ปรกติ หากบ้านพวกเขามีของสิ่งนี้บ้างก็คงจะดี
"ให้เขากินสาลี่กับส้มให้มากหน่อย บนเขาคงจะมีสองอย่างนี้อยู่กระมัง มีส่วนช่วยให้เขาฟื้นฟูร่างกาย นอกจากนี้ สมุนไพรในเทียบยาของข้าล้วนพบเห็นได้ทั่วไปบนูเา เ้าขึ้นไปเก็บเอาเองก็แล้วกัน" ถังชิงหรูกล่าวจบก็โบกมือ
"เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว คนต่อไป"
"ขอบคุณเ้าค่ะ" หญิงชาวบ้านอุ้มบุตรชายกล่าวขอบคุณอีกสามครั้ง หลังจากนั้นก็หยิบไข่ไก่สองฟองจากตะกร้าที่คล้องอยู่บนข้อมือส่งให้ พลางกล่าวด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ "ท่านหมอ บ้านข้ายากจน ต้องนำไข่เหล่านี้ไปขายหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ดังนั้น... หวังว่าท่านจะไม่รังเกียจไข่ไก่สองฟองนี้"
ถังชิงหรูถอนใจเบาๆ ในยุคของนาง ไข่ไก่นับเป็อาหารพื้นๆ ที่หาได้ง่าย แต่ยามนี้นางก็้า 'อาหารพื้นๆ' แบบนี้เป็ที่สุด ทว่าหญิงชาวบ้านคนนี้ก็ลำบาก แม้จะอยากกินแค่ไหน ยามนี้ก็ไม่อาจรับของไว้ได้
"ไม่ต้องหรอก ข้าบอกแล้วว่าไม่รับค่าตอบแทนก็คือไม่รับ บุตรชายของท่านร่างกายอ่อนแอ เอาไข่สองฟองนี้ไปบำรุงร่างกายให้เขาเถิด"
"พระคุณยิ่งใหญ่ของท่านหมอ ข้าผู้นี้จะไม่มีวันลืมเลือน" กล่าวจบก็ขอบคุณอีกสามครั้ง แล้วอุ้มเด็กน้อยไปจากที่นั่น
การกระทำดุจพระโพธิสัตว์ของถังชิงหรูทำให้คนอื่นๆ พากันซาบซึ้ง ต่างมองนางด้วยสายตาเทิดทูนบูชา ประหนึ่งชื่นชมรูปปั้นเทพยดาในวิหารเซียน
"เสี่ยวอี ตอนนี้คะแนนจิตพิสัยมีเท่าไรแล้ว" ถังชิงหรูเอ่ยถามในใจขณะตรวจคนไข้ไปด้วย
"สามสิบแต้มครับ" เสี่ยวอีตอบ
"รักษาคนไข้หนึ่งคนได้กี่แต้ม" ถังชิงหรูนึกถึงยาของร้านค้าในระบบ ขนาดเลือกราคาถูกที่สุดออกมาชิ้นหนึ่งยังต้องใช้หนึ่งร้อยคะแนน
แผ่นแปะลดไข้เมื่อครู่ใช้ไปหนึ่งร้อยแต้มก็หมายความว่า... เข้าเนื้อน่ะสิ! ไอ้หยา... นี่นางออกมาหาคะแนนจิตพิสัยมิใช่หรือ ทำไมถึงขาดทุนได้ล่ะ?
แต่ว่าอย่างน้อยก็ได้ช่วยเด็กคนนั้นให้คลายทุกข์ทรมาน เข้าเนื้อก็เข้าเนื้อสิ ใครใช้ให้นางเป็หมอหญิงผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาจิตกันเล่า!
"มันก็ขึ้นอยู่กับระดับของความซาบซึ้งที่พวกเขามีต่อนายหญิงมาคำนวณ หากซาบซึ้งมากแต้มก็ยิ่งสูง แต่พวกเขาเป็เพียงชาวบ้านธรรมดา ต่อให้ซาบซึ้งถึงขั้นสูงสุดก็ขึ้นไปได้เพียงห้าสิบแต้ม ถ้านายหญิง้าได้คะแนนจิตพิสัยเยอะกว่านี้ ก็ต้องหาวิธีรักษาให้คนชั้นสูงครับ" เสี่ยวอีตอบ
"ฉันอุตส่าห์รักษาให้พวกเขาด้วยความยากลำบาก แต้มที่ได้ยังไม่พอกับที่จ่ายไปด้วยซ้ำ" ถังชิงหรูขบกรามกรอด "นายหลอกฉันใช่ไหม"
เสี่ยวอีไม่คุยด้วยอีกแล้ว ทุกครั้งก็เป็แบบนี้ แค่ถังชิงหรูบันดาลโทสะเข้าหน่อย เสี่ยวอีก็จะแกล้งตายตลอด นางรู้สึกว่ามันต้องผ่านการขัดเกลามาอย่างดีเยี่ยม ไม่ใช่แค่โปรแกรมกะโหลกกะลาอย่างแน่นอน
ถังชิงหรูกับเสี่ยวอีสื่อสารกันผ่านโทรจิต ผู้อื่นล้วนไม่ได้ยินเสียง ในสายตาเหล่าคนไข้ เห็นนางตรวจชีพจรวิเคราะห์โรคให้พวกเขาอย่างเคร่งขรึมจริงจัง แลดูศักดิ์สิทธิ์เป็อย่างยิ่ง
ชื่อเสียงของถังชิงหรูขจรขจายไปทั่วเมืองชิ่งตามจำนวนคนไข้ที่เข้ามาให้นางรักษา คนที่ได้ยินข่าวต่างก็แห่กันมามากขึ้น ไม่ว่าจะคนป่วยหรือไม่ป่วย ล้วนอยากให้นางช่วยตรวจสุขภาพของตนเองว่าแข็งแรงดีหรือไม่ ถังชิงหรูเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แต่จำต้องทนต่อไป เพราะอย่างน้อยการตรวจสุขภาพให้พวกเขาก็เพิ่มคะแนนจิตพิสัยให้นางได้หนึ่งถึงสองแต้ม
"พี่น้องทุกท่าน วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถิด ข้าเองก็เหนื่อยแล้ว หากฝืนต่อไปคงต้องให้พวกท่านมาตรวจให้ข้าแล้วล่ะ" ถังชิงหรูลุกขึ้นบอกกล่าวทุกคน
"ท่านหมอเทวดา พรุ่งนี้ท่านจะมาอีกหรือไม่" พวกชาวบ้านมองตาละห้อย
ถังชิงหรูมองผักผลไม้นานาชนิดที่วางอยู่ด้านข้าง พลางเอ่ยปากอย่างสุขุม "มาสิ มาแน่นอน"
นางไม่อยากกินแต่ของป่ารสชาติแย่เ่าั้อีกแล้ว ทั้งเอือมระอาปลาย่างที่ไร้รสชาติเต็มทน มาตรวจโรคให้พวกเขานอกจากจะได้คะแนนจิตพิสัย ยังได้ผลหมากรากไม้ที่พวกเขามอบให้อีกด้วย เพื่อปากท้องของตนเอง ต่อให้ต้องคลานมาก็จะคลาน ราชินีจอมอหังการเช่นนาง ตอนนี้ก็ผยองไม่ขึ้นแล้ว เฮ่อ... ทุกอย่างล้วนเพื่อการดำรงชีวิตหรอกนะ
ถังชิงหรูไม่เก็บค่ารักษา พวกคนไข้ต่างพากันซาบซึ้งน้ำใจนาง แต่ไม่คิดจะให้นางต้องเหนื่อยเปล่า ครั้นแล้วข้างแผงลอยของนางจึงเต็มไปด้วยผักผลไม้กองใหญ่และข้าวของเครื่องใช้นานาชนิด
"พรุ่งนี้ท่านหมอเทวดายังมาอีก ทุกคนกลับไปกันก่อนเถอะ อย่าให้ท่านต้องเหน็ดเหนื่อยไปกว่านี้เลย" หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งร้องะโเสียงดัง
--------------------------------------------------------------------------------
[1] น้ำแก้วเดียวกับรถขนฟืนที่ไฟไหม้ (杯水车薪) ใช้เป็ความเปรียบว่าสิ่งที่มีกำลังน้อยกว่าย่อมแพ้พ่ายให้กับสิ่งที่มีกำลังมากกว่า เหมือนเอาน้ำแก้วเดียวไปดับไฟให้รถขนฟืนที่ถูกไฟไหม้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้