“หวังว่าข้าจะเป็คนโชคดีคนนั้น ที่สามารถเข้าตานาง”
……
พวกเขาเดินเข้าไปในเขตกระโจมที่จัดตกแต่งอย่างดีท่ามกลางเสียงพูดคุย แม้จะเป็เขตกระโจมแต่เฉินเนี้ยนหรานก็เริ่มงานก่อสร้างอาคารอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ แม้จะไม่มีก้อนอิฐในตอนนี้แต่ใช้เงินทุนไปกับการใช้หินมาสร้าง
โจวอ้าวเสวียนมองกระโจมใหม่เอี่ยมตรงหน้าแล้วขมวดคิ้ว
“เฮ้อ ที่นี่ล้วนแต่เป็กระโจม แม้จะรูปแบบแตกต่าง แต่หากพูดถึงเื่ในระยะยาวย่อมไม่ใช่ผลดีต่อการพัฒนา”
“แน่นอน หลังจากข้ามาที่นี่ ก็บอกว่าแม้กระโจมนี่จะดูแล้วไม่เลว แต่กลับใช้อาศัยได้แค่ในระยะสั้นเท่านั้นหากสามารถคุยกับเ้าเมืองได้คงจะดี และพูดเื่การพัฒนาระยะยาวกับเขาข้าสามารถแก้ไขปัญหาเื่ก้อนอิฐได้ ส่วนพวกไม้ ข้าเชื่อว่าขอเพียงใต้เท้าเ้าเมืองยอมออกแรงเื่นี้ย่อมสามารถทำได้”
โจวอ้าวเสวียนหันไปมองนาง “เื่จัดการกับใต้เท้าเ้าเมืองเื่นี้ข้าสามารถทำได้ เ้าแค่ต้องคิดหาวิธีทำก้อนอิฐขึ้นมาก็พอ หากเป็ไปได้ก็ขายในราคาที่ได้กำไรเพียงสิบส่วน”
แม้จะบอกว่าการทำการค้าจะต้องได้เงิน แต่มีบางกิจการ ไม่ใช่ว่าต้องเอากำไรมาก
โจวอ้าวเสวียนกำหนดกำไรไว้ที่สิบส่วนเช่นนี้ สามารถมองออกได้เลยว่า เขา้าพัฒนาที่นี่จากใจจริง
“ได้สิ เื่อิฐข้าคิดไว้แล้ว ความจริงแล้ว พวกเราไม่จำเป็ต้องเผาก้อนอิฐเสมอไปหรอกยังสามารถใช้พวกปูนของโจ๊กเหนียวและพวกนมมาเผาให้เป็ก้อนอิฐได้แล้วรอให้พวกมันเย็นลง ตากให้แห้งพอประมาณก็สามารถใช้งานได้แล้ว แน่นอนที่ดีที่สุดเป็ก้อนอิฐ เอาเถิด พวกเราใช้ก้อนอิฐมาสร้างอาคารดีกว่า”
จะทำเื่ใหญ่ทั้งทีบนใบหน้าของเฉินเนี้ยนหรานแดงระเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทางของนางทำให้โจวอ้าวเสวียนที่มองอยู่ใจเต้น
เขาบีบมือของนาง “คืนนี้...เ้าจะต้องปรนนิบัติข้า...”
คำพูดร้อนแรง พร้อมกับมือที่ทัดผมของนางไปไว้ที่ข้างหู มันช่างจั๊กจี้คล้ายกับจะซึมเข้ากระดูกไป
ตัวของเฉินเนี้ยนหรานอ่อนยวบเพราะคำพูดประโยคนี้ของเขาั์ตาสุกใสปรายไปมองเขาด้วยความโมโหเล็กน้อย ทว่าเต็มไปด้วยความแง่งอนเช่นสตรีเต็มขั้น
ในตอนนั้น ทำให้บุรุษมองค้างไป เขามองนางนิ่งเหม่อจนลืมก้าวเดินเฉินเนี้ยนหรานที่เดินไปหลายก้าวหันกลับมามองเขาที่ยืนบื้อไปแล้วก่อนจะหัวเราะออกมา
“เดินสิคนบื้อ เื่ของคืนนี้...ค่อยพูดตอนกลางคืน...”
นางกดเสียงให้เบาลงจนได้ยินกันแค่สองคนด้วยอารมณ์ที่หลากหลายโดยเฉพาะโจวอ้าวเสวียน หลังจากได้ยินคำว่าคืนนี้ และมองเห็นสตรีที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนตรงหน้าฝีเท้าของเขารู้สึกคล้ายจะลอย
บุรุษที่ปกติมักจะนิ่งเฉย ในวินาทีนี้กลับหัวเราะออกมาอย่างคนโง่
“อา แม่นางอู๋ซวงยิ้มแล้วสวยเหลือเกิน ์ข้าได้เห็นนางยิ้มจากใจแล้ว”
“ดอก ดอกไม้ของข้า ถูกนางกอดเอาไว้ในอ้อมกอดทั้งยกจุมพิต อ๊ากกกข้าช่างโชคดีเหลือเกิน...”
โจวอ้าวเสวียนคิดไม่ถึงว่าตนเองจะดีใจมากกับคำพูดถึงคืนนี้ของเฉินเนี้ยนหรานจนทำเื่ง่ายๆ พวกนี้ออกมาจากนั้นพวกที่มาขอความรักต่างดีใจกันไปเป็แถบ
โดยเฉพาะคนที่นำดอกไม้มาให้คนนั้น ได้เข้าใจผิดคิดว่านางดีใจเช่นนี้เพราะดอกไม้ของเขา...
“หากรู้เช่นนี้เช้าตรู่วันนี้ข้าจะเอาดอกไม้มาให้ ดูสิเ้าเด็กนี่ดีใจตายเสียแล้ว”
“เฮ้อ นี่เรียกว่าโชคชะตา ไม่แน่นะ เ้าหมอนี่อาจเข้าตาแม่นางอู๋ซวงก็เป็ได้นะ”
พอดีกับในตอนนั้น โจวอ้าวเสวียนเงยหน้าขึ้นมองมาทางกลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อ๊ากกก แม่นางอู๋ซวงยิ้มให้ข้าแล้ว อั้ก ข้ามีความสุขเหลือเกิน...”
“บัดซบ เช่นนี้ก็ได้หรือ แค่ดอกไม้ช่อเดียวกลับสามารถมัดใจได้อยู่หมัด...อ๊ากกก...เหตุใดข้าถึงได้โง่เช่นนี้ถึงได้คิดจะส่งอัญมณีให้กันนะ...”
ในตอนนั้น เพราะการกระทำไม่ได้ตั้งใจของโจวอ้าวเสวียนทำให้คนที่อยู่ไม่ไกลออกมาคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกคร้ัง ส่วนเ้าตัวนั้นไม่ได้รู้เื่ราวอะไรเลย
พวกหนิงเซียงที่กลายเป็คนติดตาม มองกลุ่มคนที่ขอความรักผู้โง่เขลาเหล่านี้หนิงเซียงจึงร้องเหอะออกมาด้วยน้ำเสียงเ็ป
“เ้าพวกโง่” แม้แต่บุรุษหรือสตรีก็ยังแยกไม่ได้ ทั้งยังหลงใหลตามขอความรักตาบอดเสียจริง
ข้าหน้าตาน่าหลงใหลเพียงนี้ เหตุใดถึงได้ตาบอดยิ่งนัก พวกนี้ต่างเมินเฉยต่อการมีอยู่ของนางไปอ๊าก หรือข้าแก่แล้วอย่างนั้นหรือ!
กว่าจะผ่านพวกคนที่ขอความรักมาจนถึงกระโจมได้ คิดไม่ถึงว่าที่นี่ยังมีกลุ่มคนมารออยู่ด้วยเพียงแต่ว่า คนกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็เหล่าสตรีชั้นสูงของเขตเปียนโม่
คนกลุ่มนี้ต่างรอคอยชุดใหม่ของแม่นางอู๋ซวงทุกวันด้วยใจจดจ่อ ครั้นได้ยินว่าร้านจะเปิดแล้วมีหรือจะไม่เดินทางมาแสดงความยินดี ทั้งยังได้ถือโอกาสนี้มาเลือกเสื้อผ้าสักชุด
เหล่าสตรีชั้นสูงที่ว่างงานมากกลุ่มนี้ ในมือไม่ขาดแคลนเงิน เพียงแค่กลัวว่าจุดเด่นนี้จะถูกคนอื่นแย่งไป
สำหรับภาพที่แสนครึกครื้นเช่นนี้ ทำให้เฉินเนี้ยนหรานยิ้มตาหยีออกมา นางจำกัดให้กลุ่มคนพวกนี้รออยู่ด้านนอกส่วนตนเองและสาวใช้สี ทั้งยังพนักงานที่จ้างมาจัดราวเสื้อผ้าด้านในจนเสร็จแล้ว จึงค่อยจุดพลุร้านนี้ก็ถือว่าได้เปิดร้านอย่างเป็ทางการแล้ว
“ว้าว ชุดนี้ ข้าเคยเห็นแม่นางอู๋ซวงใส่มาก่อน ข้า้าชุดนี้”
“ฮูหยิน ชุดเช่นนี้ล้วนแต่ต้องสั่งจองก่อน ส่วนราคาจะแพงอยู่สักหน่อยเพราะเสื้อผ้าของทางร้านเรา ทุกชุด ทุกแบบ จะทำเพียงแค่วางหน้าร้านเท่านั้น”
ในคราแรกทุกคนไม่เข้าใจ ต่อมาก็มีคนถามเื่ราคาค่าตัดชุด
“เหมือนชุดหนังตัวนี้ เ้าของร้านของพวกเราคิดไว้ดีแล้วเพราะแบบชุดนี้ใหม่มาก ทั้งยังทำขึ้นมาค่อนข้างใช้เวลาดังนั้นเ้าของร้านจึงตัดสินใจว่า ชุดนี้จะไม่ตั้งราคาแต่จะให้ทุกคนมาประมูลราคากัน หรือก็คือ ผู้ใดยอมจ่ายราคาสูงที่สุด จึงจะได้สิทธิ์ในการทำชุดตัวนี้ไปคนเสนอราคาย่อมอยู่ที่ฮูหยินทุกท่าน ไม่ใช่พวกเราที่เป็เ้าของร้าน”
มีคนเริ่มคำนวณในใจ ว่าตนเองควรไปปรึกษากับคนในวงสังคมของตนเองให้เอาราคาให้ต่ำลงมาดีหรือไม่?
แต่หลังจากเห็นสายตาเปล่งประกายของคนข้างกาย ความคิดนั้นก็สลายหายไป
จะต้องรู้ว่า สตรีคนนี้รักความสวยความงามมาก
หากเ้าสามารถมีความคิดเช่นนี้ได้ คนอื่นย่อมมีความคิดเช่นนี้เหมือนกันมีสิทธิ์ใดที่จะต้องไปกดดันเ้าของร้านอื่นกันก็สิทธิ์ในการใช้ความแน่จริงมาประมูลราคา ผู้ใดได้ไป ย่อมหมายความว่าคนคนนั้นแน่มาก
ในวินาทีนั้นทุกคนล้วนพยักหน้า
“แน่นอนว่าเสื้อผ้าในร้านของพวกเรามีมาตรฐานราคาการทำโดยเฉพาะ เช่น เป้ยจื่อชุดนี้จะกำหนดราคาไปเลยโดยตรง อย่างเป้ยจื่อที่สวมไว้ด้านในเช่นนี้ ราคาอยู่ที่หนึ่งชุดยี่สิบตำลึงหาก้าสั่งทำชุด ที่ไม่เหมือนกับผู้อื่น ทั้งยังมีจำนวนน้อยราคาคือหนึ่งชุดสองร้อยก้วน หาก้าให้เหมือนกับผู้อื่นก็ไม่เป็ไรกี่ชุดก็ได้ ย่อมสามารถทำได้ในราคาหนึ่งชุดห้าสิบก้วนราคาพวกนี้ หลังจากฮูหยินทุกท่านคิดดูแล้ว ทางร้านของพวกเราจึงค่อยกำหนดราคาเ้าค่ะ”
คนที่มาดูชุดสำเร็จรูปพวกนี้ มีผู้ใดบ้างที่เรือนไม่มีเงินเมื่อเห็นทางร้านบอกเงื่อนไขออกมาอย่างชัดเจนแล้ว ในตอนนั้นจึงมีคนจำนวนไม่น้อยเริ่มคิดแล้ว
ข้ามาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ เพื่อมาหาความแปลกใหม่ และมีจำนวนน้อย
หากข้าสามารถทำชุดหนึ่งได้ ทุกคนต่าง้าทำตามข้า
หากคนรวยคนหนึ่งให้รางวัลกับทาสเป็เสื้อผ้าชุดนี้ไปให้กับทาสเช่นนั้นก็เท่ากับทำให้สถานะของข้าต่ำลงน่ะสิ?
ดังนั้น จึงมีคนมากมายสั่งทำชุดรูปแบบที่ตนเองถูกใจ อีกทั้งทุกคนต่างเลือกสั่งทำชุดที่มีจำนวนจำกัดอย่างไม่มีข้อยกเว้น
แม้ราคาจะแสนแพง แต่คนพวกนี้ต่างคิดว่าต่อไปตนเองจะสวมชุดที่มีสัญลักษณ์นี้ออกมาเท่านั้น อีกทั้งสั่งครั้งเดียวยังสั่งทำเสียหลายชุด สียิ่งไม่เหมือน ถึงครานั้นคนทั้งเขตย่อมไม่มีผู้ใดจะงดงามเท่ากับตนเองอีก
เมื่อมีคนเปิดสั่ง ทุกคนจึงเริ่มสั่งทำชุดบ้างทั้งยังเป็รูปแบบที่คนหนึ่งถูกใจแบบหนึ่ง ก็สั่งแค่แบบนั้น และทุกคนยังสั่งมาคนละหกชุด
ส่วนราคาที่ถูกลงมาสักหน่อย ย่อมสามารถทำออกมาแบบกระจายออกไปได้แต่เพราะมีคนประมูลราคาเสื้อไปแล้ว สั่งทำเสื้อก็สั่งไปแล้วดังนั้นทั้งหมดจึงฉีกทิฐิของตนเองทิ้ง แล้วเปลี่ยนมาสั่งทำกันทั้งสิ้น
คนธรรมดาจำนวนไม่น้อย เห็นภาพวุ่นวายเช่นนี้ล้วนได้แต่ส่ายหน้า
พวกเขาไม่มีเงินไปแข่งประมูลราคาเพื่อทำชุดสั่งทำโดยเฉพาะนี่
แน่นอน เฉินเนี้ยนหรานไม่ได้รังเกียจคนยากจน
ตอนที่นางมาเขตเปียนโม่ จำเป็ต้องหาเงินทุนและเงินของคนมีเงินนั้นหาได้ง่ายมากที่สุด และเป็วิธีที่จะหาเงินทุนกลับมาได้โดยไวที่สุดเช่นกัน
ส่วนเสื้อผ้าของคนธรรมดา ค่อยว่ากันทีหลัง อย่างน้อยนางในตอนนี้รับรายการสั่งตัดมามากเกินไป ย่อมทำได้ไม่หมด
ในตอนนั้น การวัดตัวก็ทำไป จดบันทึกก็จดไปด้วย
ในขณะที่จดบันทึก เฉินเนี้ยนหรานได้ให้ตั๋วลูกค้าพิเศษไปด้วย
“หรูฮูหยิน รบกวนท่านเก็บตั๋วนี้เอาไว้ให้ดี นี่คือตั๋วที่ทำขึ้นมาในวันเปิดร้านเพื่อตอบแทนลูกค้าโดยเฉพาะด้วยตั๋วใบนี้ ต่อไปท่านมาเลือกเสื้อผ้าที่ร้านของพวกเรา จะมีสิทธิพิเศษให้อีกทั้ง หลังจากพวกเราเปิดร้านจนได้กำไรแล้วจะกำหนดวันเปิดห้องเรียนสอนเื่ความงามของสตรี และงานเลี้ยงของสตรีกำหนดออกไปเที่ยว งานเลี้ยงน้ำชา รายการทั้งหมดนี้ ต่อไปพวกเราจะส่งกำหนดการไปบอกกับท่านที่สำคัญที่สุด พวกเรามีชุดออกแบบใหม่ จะบอกก่อนล่วงหน้า ให้ท่านหนึ่งวันซึ่งหนึ่งวันต่อจากนั้นจึงจะให้ลูกค้าคนอื่นๆ ได้เข้ามาเลือก...”
ไม่ได้ออกกลยุทธ์สิทธิพิเศษออกมา เพราะคนพวกนี้ไม่จำเป็ต้องมีสิ่งที่พวกนาง้าคือสิ่งแปลกใหม่ และรูปแบบ
เป็อย่างที่คิด เมื่อหรูฮูหยินได้ยินสิทธิพิเศษก่อนผู้ใด พลันยิ้มรับแล้วเก็บตั๋วไป
เพราะเหตุนี้ จึงมีคนมาล้อมรอบเฉินเนี้ยนหรานแล้วเริ่มสอบถามปัญหาจำพวกจะเปิดสอนเกี่ยวกับสตรีอย่างไร
สำหรับปัญหาพวกนี้ เฉินเนี้ยนหรานตอบกลับไปอย่างมีน้ำอดน้ำทน
“ห้องเรียนของสตรี พวกเราไม่เพียงจะพูดเกี่ยวกับการแต่งตัว อาหารยังพูดถึงปัญหาทางด้านความรู้สึกด้วย เช่น จะอยู่กับสามีอย่างไรจะเข้ากับลูกสาวอย่างไร จะปฏิบัติต่อลูกสะใภ้เช่นไร รอถึงตอนที่ร้านของพวกเรารุ่งเรืองแล้วคราวนั้นทุกอาทิตย์พวกเราจะนำปัญหาออกมาถกกันเ้าค่ะแล้วให้ทุกคนได้เสนอความคิดเห็นของตนเองออกมา เมื่อคนเยอะ ทุกคนย่อมต้องปรึกษากันให้ดีเป้าหมายของพวกเราคือให้เหล่าสตรีทั้งเมืองมารวมตัวกัน ไม่ให้พวกท่านรู้สึกโดดเดี่ยวพวกท่านเจอปัญหา มีเื่ไม่สบายใจไม่สมเหตุสมผล ต่างมีคนคอยอยู่กับท่านชี้แนะท่าน พวกท่าน ก็มีคนที่คอยห่วงใย...พวกเราเหล่าสตรีได้คลอดลูกเพื่อสามีเลี้ยงลูกๆ ให้กับพวกเขา ความจริงแล้วพวกเราล้วนลำบากมากในระหว่างที่พวกเรากำลังลำบากยังต้องดูแลตัวเองให้ดี นี่คือเป้าหมายการจัดการของร้านเพื่อสตรี...”
